ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 41,418 รายการ

เรื่อง “พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร จากวัดท่าปลา เหนือเขื่อนสิริกิติ์”--- พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรองค์นี้ ได้จากโบสถ์วัดท่าปลา อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ ในรายงานการสำรวจและขุดค้นโบราณวัตถุสถานเหนือเขื่อนสิริกิติ์ กล่าวว่า “ภายในโบสถ์มีพระประธานหน้าตักกว้าง ๑.๘๐ เมตร เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นพระหัตถ์ถือตาลปัตร ด้านขวาของพระประธานเป็นพระพุทธรูปยืนอุ้มบาตร....”--- สืบเนื่องจากในปีพุทธศักราช ๒๕๑๓ กรมศิลปากรได้รับแจ้งว่า พระอุโบสถและวิหารวัดจริม วัดท่าปลา และวัดนาโฮ่ง อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์จะถูกน้ำท่วมเมื่อเปิดใช้งานเขื่อนสิริกิติ์ ตามกำหนดที่จะทำการปิดกั้นกระแสน้ำ ในประมาณกลางปีพุทธศักราช ๒๕๑๔ จึงขอให้จัดส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจตรวจค้นโบราณวัตถุที่อาจถูกฝังอยู่ใต้พระอุโบสถและพระวิหาร  ในพื้นที่ดังกล่าว  ในระยะแรกหน่วยศิลปากรที่ ๓ สุโขทัย (ในขณะนั้น) ได้เริ่มสำรวจและขุดค้น วัดทั้งสามแห่งดังกล่าวมา ตั้งแต่วันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๑๓ - ๑๑ มกราคม ๒๕๑๔  ต่อมาพบว่ามีวัดที่ควรดำเนินการขุดค้นอีก ๓ แห่ง ได้แก่ วัดท่าแฝก วัดหาดลั้ง และวัดห้วยอ้อย จึงดำเนินการขุดค้นในระยะที่ ๒ ตั้งแต่วันที่ ๑๙  - ๓๑ มกราคม ๒๕๖๔  และหลังจากการขุดค้น จึงได้มีการสำรวจถ่ายภาพและทำแผนผังวัดอื่นๆ ในเขตพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มเติมอีก ๑๒ แห่ง ตั้งแต่วันที่ ๑ - ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๔  ครอบคลุมพื้นที่ ๔ ตำบล ได้แก่ ตำบลท่าปลา ตำบลจริม ตำบลหาดหล้า และตำบลท่าแฝก--- วัดท่าปลาในอดีตตั้งอยู่บนฝั่งขวาของแม่น้ำน่าน มีสิ่งก่อสร้างสำคัญ คือ อุโบสถ ๑ หลัง ลักษณะเป็นอาคารทรงเตี้ย เสา ๘ ต้น ๓ ห้อง หลังคาชั้นเดียว มุงด้วยสังกะสี มีลดหลังคายื่นตรงส่วนหน้าของตัวโบสถ์  มีประตูทางเข้าด้านทิศตะวันออก ขนาดกว้าง ๑.๘๕ เมตร สูง ๑.๘๕ เมตร ผนังโบสถ์ก่ออิฐ ถือปูน มีหน้าต่างและลูกกรงไม้ จำนวน ๔ ช่อง มีเสมารอบโบสถ์ทั้ง ๘ ทิศ  จากการขุดค้นภายในโบสถ์ที่ใต้แท่นฐานพระประธาน พบเงินตรา เช่น เงินพดด้วง เงินเหรียญต่างๆ และขุดพบลูกนิมิต ๔ ลูก วางซ้อนกันอยู่กลางพระอุโบสถ--- พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ศิลปะอยุธยา กำหนดอายุราวครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ ๒๑ ทำจากไม้ ลงรักปิดทอง ขนาดกว้าง ๔๖ เซนติเมตร สูง ๑๖๘ เซนติเมตร  องค์พระพุทธรูปประทับยืน ยื่นพระหัตถ์ทั้งสองประคองบาตรไว้ทางด้านหน้า พระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่งเป็นสัน พระเนตรเหลือบลงต่ำ พระนาสิกโด่ง ขมวดพระเกศาเป็นเม็ดเล็ก พระรัศมีเป็นเปลวสูง พระอังสาผาย บั้นพระองค์เล็ก ครองจีวรห่มคลุม  แลเห็นแนวเส้นรัดประคดและชายพับขอบสบงขนาดใหญ่ทางด้านหน้า--- ปางอุ้มบาตร เป็นชื่อเรียกลักษณะของพระพุทธรูป ในท่ายืน และพระหัตถ์ทั้งสองประคองถือบาตร และพระพุทธรูปปางอุ้มบาตรยังเป็น ๑ ในพระพุทธรูปประจำวันเกิด วันพุธ (กลางวัน) อีกด้วย   --- ความเป็นมาตามพุทธประวัติของพระพุทธรูปปางนี้ คือ เมื่อพระพุทธเจ้าได้สำแดงอิทธิปาฏิหาริย์  เหาะขึ้นไปในอากาศต่อหน้าพระประยูรญาติทั้งหลาย เพื่อให้พระญาติผู้ใหญ่ได้เห็น และละทิฐิถวายบังคมแล้วจึงได้ตรัสเทศนาเรื่องพระมหาเวสสันดรชาดก ครั้นแล้วพระญาติทั้งหลายก็แยกย้ายกันกลับโดยไม่มีใครทูลอาราธนาฉันพระกระยาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น ด้วยเข้าใจผิดคิดว่า พระองค์เป็นราชโอรสและพระสงฆ์ก็เป็นศิษย์ คงต้องฉันภัตตาหารที่จัดเตรียมไว้ในพระราชนิเวศน์เอง แต่พระพุทธองค์กลับพาพระภิกษุสงฆ์สาวกเสด็จจาริกไป ตามถนนหลวงในเมืองเพื่อโปรดเวไนยสัตว์ (ผู้ที่พึงสั่งสอนได้) อันเป็นกิจของสงฆ์ และนับเป็นครั้งแรกที่ชาวเมืองกบิลพัสดุ์ได้มีโอกาสชมพระพุทธจริยาวัตรขณะทรงอุ้มบาตรโปรดสัตว์ ประชาชนจึงต่างแซ่ซ้องอภิวาทอย่างสุดซึ้ง แต่พระเจ้าสุทโธทนะ พุทธบิดาทรงทราบเข้า ก็เข้าใจผิดและโกรธพระพุทธองค์หาว่าออกไปขอทานชาวบ้าน ไม่ฉันภัตตาหารที่เตรียมไว้ พระพุทธเจ้าจึงต้องทรงอธิบายว่าการออกบิณฑบาตเป็นการไปโปรดสัตว์  มิใช่การขอทาน จึงเป็นที่เข้าใจกันในที่สุด --- ปัจจุบัน พระพุทธรูปปางอุ้มบาตร จากวัดท่าปลา เหนือเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์องค์นี้ ได้จัดแสดง ณ ห้องนิทรรศการชั้นบนของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน อ้างอิง- กรมศิลปากร. พระพุทธรูปปางต่างๆ. นครปฐม: รุ่งศิลป์การพิมพ์, ๒๕๕๘.- พัชรินทร์ ศุขประมูล และคณะ. นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านและจังหวัดน่าน. กรมศิลปากร, ๒๕๔๗. - สมพร อยู่โพธิ์. พระพุทธรูปปางต่างๆ. กรมศิลปากร, ๒๕๓๕.- หน่วยศิลปากรที่ ๓ สุโขทัย. รายงานการสำรวจและขุดค้นโบราณวัตถุสถานเหนือเขื่อนสิริกิติ์.เอกสารอัดสำเนา, ๒๕๑๔.


เลขทะเบียน : นพ.บ.180/5ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  34 หน้า ; 5 x 58 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา, มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 102 (86-90) ผูก 5 (2565)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันธ์ขันธ์ --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมตฺถส)  ชบ.บ.59/1-1  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง                                สลากริวิชาสุตฺต (สลากวิชาสูตร) สพ.บ.                                  319/13 ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลาน หมวดหมู่                               พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                           26 หน้า กว้าง 5 ซม. ยาว 54.7 ซม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                            บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


เลขทะเบียน : นพ.บ.278/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4.5 x 50 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 118  (240-247) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : นิปุณสงฺคห(บาลีนิปุณสังคหะ)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


องค์ความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง เรื่อง การเดินทางของขอมดำดิน







วัดสุริโย หรือ วัดสุริโยกำแมด หมู่ที่ ๑ บ้านกำแมด ตำบลกำแมด อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ตามประวัติระบุว่าตั้งขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๕๔ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๓ ภายในวัดมีโบราณสถานสำคัญ ได้แก่ อุโบสถ (สิม) หลังเก่า . อุโบสถ (สิม) หลังเก่า ตามประวัติระบุว่าสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๒ โดยพระปลัดสี ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในขณะนั้น พร้อมคณะศิษย์และชาวบ้าน ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมได้รับอิทธิพลญวน ดังจะเห็นได้จากเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ทำวงโค้งประดับระหว่างช่วงเสาและเหนือขอบหน้าต่าง ระหว่างช่วงเสาผนังด้านนอกทำปูนปั้นลายท่อนพวงมาลัยห้อยอุบะประดับ ทาสีน้ำเงิน สีเหลืองสีแดง ตกแต่งปูนปั้นเป็นหลัก . ตัวอาคารมีขนาด ๓ ห้อง ทำมุขด้านหน้าทางทิศตะวันออก มีบันไดทางขึ้นที่กึ่งกลางด้านผายออก หัวเสาประดับด้านหน้าทำเป็นบัวแวงทาสี ถัดขึ้นไปเป็นขอบหน้าบันมีข้อความเขียนด้วยสีน้ำเงินว่า “ต่อมา (อ.จ.ท พันธ์) ทำลาย พ.ศ. ๒๔๙๐ สิมานี้ (พระปลัดสี) พร้อมศิษย์และชาวบ้าน สร้าง พ.ศ. ๒๔๘๒” ถัดขึ้นไปเป็นหน้าบันประดับปูนปั้นรูปเทพเทวาผุดจากดอกบัว มือทั้งสองข้างถือเครื่องสูง และทำลายเครือเถาประดับทั้งสองข้าง หน้าบันด้านหลังทำเป็นปูนปั้นรูปหนุมาน ไม่มีลายอื่นใดประกอบ ในอดีตน่าจะมุงด้วยแป้นเกล็ดหรือกระเบื้องดินเผา ปัจจุบันมุงด้วยสังกะสี . กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานวัดสุริโย (วัดกำแมด) ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๑๐ ตอนที่ ๒๒๐ ฉบับพิเศษ หน้า ๑๗ วันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๓๖ พื้นที่โบราณสถานประมาณ ๒ ไร่ ๑ งาน ๒๐ ตารางวา ————————————————— +++อ้างอิงจาก+++ . กองพุทธศาสนสถาน, กรมการศาสนา. ประวัติวัดทั่วราชอาณาจักร เล่ม ๑๔. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา, ๒๕๓๘. หน้า ๔๕๒ ข้อมูล : กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี



สงบ  สุริยินทร์.  พระราชประวัติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.  พระนคร: สุริยินทร์, 2507.           รวบรวมพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ไทย รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี โดยละเอียด


ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.25 พระมาลัยคำกลอนประเภทวัสดุ/มีเดีย      สมุดไทยขาวISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  วรรณคดีลักษณะวัสดุ              19; หน้า : ไม่มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    วรรณคดี           ภาษา                      ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัติวัดสามทอง ต.ตลิ่งชัน  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 9 ส.ค.2538 


Messenger