ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,755 รายการ

เลขทะเบียน : นพ.บ.126/4กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  34 หน้า ; 4.5 x 50.5 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา  ชื่อชุด : มัดที่ 73 (257-266) ผูก 1 (2564)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขันธ์ (8 หมื่น)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม



สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.16/1-3 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง : รู้ไว้ ชื่อผู้แต่ง : เสฐียรโกเศศ ปีที่พิมพ์ : 2509 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์คลังวิทยา จำนวนหน้า : 336 หน้า สาระสังเขป : หนังสือของท่านเสฐียรโกเศศ ไม่ว่าเรื่องอะไรที่ท่านเขียนไว้ ทุกเรื่องมีประโยชน์มากหลาย สมกับที่จะเป็นเครื่องประดับปัญญาของคนทุกคน มีบางคนมาปรารภให้ฟังว่า ท่านสามารถแทรกสำนวนขบขัน และแทรกภาษิตอันคมคายเข้าไว้ในเรื่องได้สนิทสนม หนังสือเรื่อง “รู้ไว้” อันเป็นชื่อสั้นๆ นี้ก็เหมือนกัน ได้เก็บจากที่ต่างๆ มารวมไว้ในเล่มเดียวกัน ทุกเรื่องมีประโยชน์ และเมื่อมีโอกาสภายหลังจะได้จัดเข้าเรื่องได้สะดวก


ชื่อผู้แต่ง          สมพงษ์  เกรียงไกรเพชร ชื่อเรื่อง           ๑๗ สมเด็จพระสังฆราชไทย  ตอนที่ ๑ ครั้งที่พิมพ์        - สถานที่พิมพ์      กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์        แพร่พิทยา ปีที่พิมพ์          ๒๕๑๕ จำนวนหน้า      ๔๓๖  หน้า               หนังสือ ๑๗ สมเด็จพระสังฆราชไทย ประกอบด้วย พระประวัติ  งานพระอนุสรณ์และบันทึกเหตุการณ์ของสมเด็จพระสังฆราชแต่ละพระองค์  ตั้งแต่สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑ ถึงองค์ที่ ๑๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ งานพระราชอนุสรณ์ในด้านต่างๆ ได้แก่ งานพระนิพนธ์ พระโอวาท คำอวยพร ตลอดจนคำสั่งสอนต่างๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นคติเตือนใจ สำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ได้แก่ การที่สมเด็จพระสังฆราช ทรงแนะนำ เผยแพร่คุณงามความดีของพุทธศาสนาให้แก่ชาวต่างประเทศจนเป็นที่ศรัทธาและเลื่อมใสหันมานับถือศาสนาพุทธ เป็นตัน พร้อมภาพประกอบ  


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก จัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เส้นสาย ลายเครื่องถ้วย” เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับลวดลายที่ประดับบนเครื่องถ้วยสุโขทัยที่นิยมในอดีต จัดแสดงระหว่างเดือนมกราคม – สิงหาคม ๒๕๖๔           นิทรรศการนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับที่มา รูปแบบและลวดลายต่างๆ ที่ปรากฏบนเครื่องถ้วยสังคโลกสุโขทัย อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติให้แก่นักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และประชาชนทั่วไป รวมทั้งยังเป็นการสร้างสำนึกรักและหวงแหนในการร่วมกันดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมในท้องถิ่น นอกจากจะได้รับความรู้จากนิทรรศการแล้ว ผู้เข้าชมยังสามารถชมลวดลายบนเครื่องสังคโลกที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายกได้อีกด้วย           ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการ “เส้นสาย ลายเครื่องถ้วย” ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรควรนายก จังหวัดสุโขทัย ได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ เปิดทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ ปิดวันจันทร์ - วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๕๕๖๔ ๑๕๗๑



     ๑๒ มิถุนายน ๒๓๖๓ วันเกิดหม่อมราโชทัย ล่ามหลวงผู้ไปเมืองอังกฤษในสมัยรัชกาลที่ ๔      หม่อมราโชทัย หรือหม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน ๒๓๖๓ เป็นบุตรของพระวงศ์เธอ กรมหมื่นเทวานุรักษ์ (หม่อมเจ้าชอุ่ม อิศรางกูร) เป็นนัดดาของสมเด็จพระสัมพันธวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมขุนอิศรานุรักษ์ และสมเด็จพระศรีสุริเยนทราบรมราชินีในรัชกาลที่ ๒ เป็นปนัดดาของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากรมพระศรีสุดารักษ์ ซึ่งเป็นพระพี่นางในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช      หม่อมราชวงศ์กระต่าย อิศรางกูร เกิดตอนปลายสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อเจริญวัย บิดาได้นำไปถวายตัวอยู่กับพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งขณะนั้นยังดำรงพระอิสริยยศเป็นเจ้าฟ้ามงกุฎ สมมุติเทวาวงศ์ พงศาอิศวรกระษัตริย์ ขัตติยราชกุมาร เมื่อเจ้าฟ้ามงกุฎผนวช หม่อมราชวงศ์กระต่ายก็ได้ตามเสด็จไปรับใช้ ต่อมาเมื่อเจ้าฟ้ามงกุฎทรงสนพระราชหฤทัยในภาษาอังกฤษ หม่อมราชวงศ์กระต่ายก็ได้ศึกษาตามพระราชนิยม โดยมีมิชชันนารีที่เข้ามาสอนศาสนาเป็นผู้สอน จนได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความรู้ภาษาอังกฤษดี จนเจ้าฟ้ามงกุฎทรงใช้ให้เป็นตัวแทนเชิญกระแสรับสั่งไปพูดจากับชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี      ครั้นเมื่อเจ้าฟ้ามงกุฎเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติขึ้นเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หม่อมราชวงศ์กระต่ายก็ติดตามสมัครเข้ารับราชการ ความสามารถของหม่อมราชวงศ์กระต่ายที่ช่วยราชกิจได้ดี จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หม่อมราโชทัย"      ด้วยความรู้ในภาษาอังกฤษดี ในพุทธศักราช ๒๔๐๐ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราโชทัยเป็นล่ามหลวงไปกับคณะราชทูตไทยที่เชิญพระราชสาสน์และเครื่องมงคลราชบรรณาการ เดินทางไปถวายสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย การเดินทางไปในครั้งนั้นเป็นที่มาของหนังสือนิราศเมืองลอนดอน ซึ่งแต่งหลังจากเดินทางกลับได้ ๒ ปี       ต่อมาผลของสัญญาการเจริญทางพระราชไมตรีกับนานาประเทศในยุโรป ทำให้ไทยต้องจัดตั้งศาลต่างประเทศขึ้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หม่อมราโชทัยขึ้นเป็นอธิบดีพิพากษาศาลต่างประเทศเป็นคนแรกของไทย   หม่อมราโชทัยถึงแก่อนิจกรรมในรัชกาลที่ ๔ เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๔๑๐ สิริอายุได้ ๔๗ ปี


          นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ กรมศิลปากรได้อนุมัติ งบประมาณดำเนินโครงการบูรณะเจดีย์วัดโคกทราย (เจดีย์ท่านแก่) ตำบลจะโหนง อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา กำหนดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕           เจดีย์วัดโคกทรายตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเจดีย์บรรจุอัฐิเจ้าเมืองจะนะ ภายในวัดโคกทราย บริเวณพื้นที่ซึ่งเรียกว่า "ในเมรุ" ซึ่งเป็นสถานที่ฌาปนกิจศพบุคคลสำคัญอันเป็นที่เคารพนับถือมาแต่ครั้งโบราณ กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา จะดำเนินการปรับดีดเจดีย์ด้วยระบบรอกโซ่ เพื่อให้เจดีย์ที่อยู่ใน สภาพทรุดเอียงกลับมาตั้งตรง พร้อมทั้งยกระดับเจดีย์ให้พ้นจากระดับน้ำหลากซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี และดำเนินการบูรณะองค์เจดีย์และลวดลายปูนปั้นตามรูปแบบเดิม พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายยักษ์ทวารบาลปูนปั้นของเดิม ที่ชำรุดเสียหายไปทำการอนุรักษ์และประดิษฐานในสถานที่ที่เหมาะสม แล้วจะทำการปั้นจำลองยักษ์ปูนปั้นขึ้นใหม่ เป็นการทดแทน นอกจากนี้ ยังดำเนินการปรับภูมิทัศน์โดยรอบ ด้วยการปูพื้นลานด้วยกระเบื้องดินเผา และจัดทำระบบระบายน้ำโดยรอบ ทั้งนี้ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๑ สงขลา พร้อมด้วยบุคลากรในสังกัด รักษาการ เจ้าอาวาสวัดโคกทราย ปลัดอาวุโสอำเภอจะนะ ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลจะโหนง และประชาชนในพื้นที่ ได้ร่วมกันจัดพิธีบวงสรวงโครงการบูรณะเจดีย์วัดโคกทราย (เจดีย์ท่านแก่) เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคมที่ผ่านมา           สำหรับเจดีย์องค์นี้ เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนชาวจะนะมาช้านาน สันนิษฐานว่าอาจ เป็นเจดีย์บรรจุอัฐิพระอธิการจันทร์ เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดโคกทราย หรืออาจเป็นเจดีย์บรรจุอัฐิพระมหานุภาพปราบสงคราม (บัวแก้ว) อดีตเจ้าเมืองจะนะในสมัยรัชกาลที่ ๓ - ๕ ซึ่งอาจเป็นบิดาของพระมหานุภาพปราบสงคราม (ปลอด ถิ่นจะนะ) เจ้าเมืองจะนะคนสุดท้าย ซึ่งมีเจดีย์บรรจุอัฐิตั้งอยู่เคียงคู่กันและได้รับการบูรณะแล้วในปี งบประมาณ ๒๕๖๓


ชื่อเรื่อง                               จนฺทฆาตชาตก(จันทฆาต) สพ.บ.                                  402/5ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           54 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 55 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           ชาดก                                           เทศน์มหาชาติ                                           คาถาพัน บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ รองอำมาตย์โท ขุนสันทัดวุฒิดิถี (สวน สันทัดวุฒิ)  ณ ฌาปนสถาน สันทัดวุฒิ วัดมหาพฤฒารา,  วันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๙๘


          พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังทรงเป็นมกุฎราชกุมารหรือเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธทรงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับและทรงศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ กฎหมายและการปกครองอยู่ที่ ไครสต์เซิร์ช (Christ Church) มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford University) ประเทศอังกฤษ ระหว่างปีพุทธศักราช ๒๔๔๒ – ๒๔๔๔ ภายหลังทรงสำเร็จการศึกษาและเสด็จนิวัติพระนครแล้ว ได้ทรงจัดตั้ง ทวีปัญญาสโมสรขึ้น ณ พระราชวังสราญรมย์ และด้วยทรงสนพระทัยในด้านประพันธ์และการพิมพ์หนังสือ จึงได้ทรงออกหนังสือพิมพ์ประจำทวีปัญญาสโมสรขึ้นฉบับหนึ่ง ทรงพระราชทานชื่อว่า ทวีปัญญา          หนังสือพิมพ์ทวีปัญญานั้น เกิดขึ้นจากการประชุมกรรมการสภาทวีปัญญาสโมสร ครั้งที่ ๘ โดยกรรมการสภาได้มีข้อตกลงร่วมกันให้มีหนังสือพิมพ์ประจำสโมสรขึ้น โดยตีพิมพ์ออกเผยแพร่แก่สมาชิกและบุคคลทั่วไปเดือนละครั้ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะสภานายกและเลขานุการของทวีปัญญาสโมสร ทรงชักชวนข้าราชบริพารที่มีความรู้ ความสามารถ ทดลองเขียนบทความและ เรื่องต่าง ๆ อันเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ทั้งร้อยแก้ว โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ไปลงพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ทวีปัญญา ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนหน้าพิมพ์ละ ๔ อัฐ ถ้าระบุไว้ว่าต้องการ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงตรวจบทความต่าง ๆ ด้วยพระองค์เองทุกครั้งในฐานะทรงเป็นบรรณาธิการก่อนที่จะจัดพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ทวีปัญญา สำหรับบทความและเรื่องต่าง ๆ ที่ออกเผยแพร่นั้นมีทั้งเรื่องจริงและนิยาย พร้อมทั้งรายงานต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับทวีปัญญาสโมสร สำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่พระองค์ทรง พระราชนิพนธ์นั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวที่สะท้อนแนวพระราชดำริเกี่ยวกับเสรีภาพและการปกครอง ตลอดจนการเรียกร้องให้รักษาเอกลักษณ์ของชาติไทย          หนังสือพิมพ์ทวีปัญญา เริ่มออกเผยแพร่ในเดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๔๔๗ จำหน่ายแก่สมาชิกราคาฉบับละ ๓๒ อัฐ และบุคคลทั่วไปราคาฉบับละ ๑ บาท ส่วนการลงโฆษณาและแจ้งความอื่น ๆ นั้น ถ้าแต่งคำโฆษณามาแล้วคิดราคาบรรทัดละ ๑ เฟื้อง ถ้าให้ทางกรรมการสภาแต่งคำโฆษณาให้ด้วย จะคิดเพิ่มเป็นบรรทัดละ ๑ เฟื้อง ๒ ไพ ในฉบับแรก สำหรับในฉบับต่อ ๆ ไป คิดบรรทัดละ ๑ เฟื้อง หากลงเต็มหน้านับเป็น ๑๖ บรรทัด คิดราคา ๑ บาท ๒ สลึง ส่วนรูปภาพราคารูปละ ๑ บาท ถึงแม้จะจำหน่ายหนังสือพิมพ์ทวีปัญญาเพียงฉบับละ ๓๒ อัฐ และ ๑ บาท ดังที่กล่าวในข้างต้นแล้วนั้นก็ยังขาดทุน พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชวิจารณ์ว่า เป็นเพราะไม่มีโฆษณาเหมือนหนังสือพิมพ์ฝรั่ง และทรงมุ่งหวังที่จะให้ผู้อ่านส่งจดหมายแนะนำ ติชมเพื่อปรับปรุงทวีปัญญาให้ดีขึ้น สำหรับเนื้อหาภายในเล่มของหนังสือพิมพ์ทวีปัญญา ประจำเดือนเมษายน ร.ศ. ๑๒๓ ซึ่งเป็นฉบับพิมพ์ครั้งแรกนั้น ประกอบด้วยเรื่องราวของคำนำ สาเหตุของการสงครามในระหว่างยี่ปุ่นกับรัสเซีย นิทาน ทุภาสิต อาษาเจ้าจนตัวตาย อาษานายจนพอแรง นิราศเมืองเหนือ นากพระโขนงที่สอง เบ็ตเล็ต และรายงานประจำเดือน          ต่อมาด้วยพระราชภาระที่มากขึ้นของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กิจการของทวีปัญญาสโมสรยุติลงในปีพุทธศักราช ๒๔๕๐ รวมถึงหนังสือพิมพ์ทวีปัญญาจึงสิ้นสุดลงโดยปริยายด้วยเช่นกัน-----------------------------------------------------------------เรียบเรียงข้อมูล : นางสาวรวิวรรณ พุฒซ้อน บรรณารักษ์ชำนาญการ กลุ่มบริการทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุดแห่งชาติ -----------------------------------------------------------------บรรณานุกรม ทวีปัญญาสโมสร. ทวีปัญญา เล่ม ๑. พระนคร: ทวีปัญญาสโมสร, ร.ศ. ๑๒๓. มหามกุฎราชวิทยาลัย, มูลนิธิ. ทวีปัญญาเล่ม ๑. พระนคร: โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย, ๒๕๒๒. สมาคมนิตยสารแห่งประเทศไทย. ประวัตินิตยสารไทย Now & Then. กรุงทพฯ: สมาคมนิตยสารแห่งประเทศไทย, ๒๕๕๐. สารานุกรมพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เล่ม ๑ (ก-ม). กรุงเทพฯ: เจริญวิทย์การพิมพ์, ๒๕๒๓. สุนทรพิพิธ, พระยา. พระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว. พระนคร: โรงพิมพ์ส่วนท้องถิ่น, ๒๕๑๔. สุกัญญา ตีระวนิช. รายงานผลการวิจัยเรื่อง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว กับการหนังสือพิมพ์. กรุงเทพฯ: มูลนิธิพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพรมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว, ๒๕๓๒.




หากกล่าวถึงสินค้าทีมาจากแหล่งเรือจมแล้ว ก้อนทองแดงนั้นถือว่าเป็นสินค้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง จากการขุดค้นแหล่งเรือจมบางกะไชย 2 ที่ผ่านมาของกองโบราณคดีใต้น้ำนั้นสามารถกล่าวได้ว่า ทองแดงนั้นเป็นหนึ่งในสินค้าหลักที่เรือบางกะไชย 2 นั้นบรรทุกมาในระว่างเรือ เป็นปริมาณ ไม่น้อยกว่า 600 ก้อน โดยจุดที่พบนั้นกระจายอยู่บริเวณกลางลำเรือใกล้ๆกับฐานเสาใบเรือเป็นหลัก ดังนั้นจากตำแหน่งที่พบนั้นอาจสรุปได้ว่ามีการเลือกพื้นที่ในการจัดเรียงทองแดงเหล่านี้ภายในเรือ อันเนื่องมาจากทองแดงนั้นมีน้ำหนักต่อก้อนค่อนข้างมาก จึงสันนิษฐานว่านอกจากทองแดงเหล่านี้จะเป็นสินค้าที่จะต้องถูกขนย้ายโดยเรือแล้ว ยังมีอีกหน้าที่หนึ่งที่สำคัญนั่นก็คือการเป็นอับเฉาเรือไปโดยปริยาย เอกลักษณ์สำคัญของทองแดงจากแหล่งเรือจมบางกะไชย 2 จากการศึกษาจัดจำแนกรูปแบบเบื้องต้นพบว่าหน้าตาทองแดงเหล่านี้มีด้วยกัน 4 แบบ ดังนี้ 1.แบบทรงชาม 2.แบบทรงชามที่มีการซ้อนชั้น (พบมากที่สุด) 3.แบบแผ่น 4.แบบทีไม่มีรูปทรงแน่นอน โดยในแต่ละรูปแบบมีการขึ้นรูปที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังมีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งจะมาเล่าให้ฟังโดยละเอียดในตอนต่อไปนะครับ นอกจากนี้ในบางก้อนยังมีตราประทับไว้ด้วย โดยจากการศึกษาร่องรอยการประทับตราด้วยวิธีการทดลองทางโบราณคดีและการใช้กล้องจุลทรรศในการวิเคราะห์ร่องรอย สามารถสรุปได้ว่าทองแดงเหล่านี้ถูกประทับตาด้วยเครื่องมือประเภทสิ่ว และมีการตอกด้วยฆ้อน ลักษณะของตราประทับเหล่านี้คล้ายกับภาษาจีน แต่เมื่อนำไปวิเคราะห์ด้านภาษาแล้วในบางชิ้นมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นภาษาจีนและมีลักษณะเป็นการบ่งบอกจำนวน แต่ส่วนมากจะเป็นลัญลักษณ์ที่ไม่มีความหมาย และจากการแปรความทางโบราณคดีนั้นสัญลักษณ์บนทองแดงเหล่านี้มีความเป็นไปได้มากมายที่ร่องรอยประทับเหล่านี้อาจจะเป็นได้ ดังนี้ 1.ตราสัญลักษณ์ หรือยี่ห้อ? 2.จำนวนนับ? 3.อาจจะบ่งบอกสถานที่ที่ทองแดงเหล่านี้จะถูกนำไปส่ง? 4.อาจจะบ่งบอกถึงสถานที่ผลิต?



black ribbon.