ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,784 รายการ

วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ โรงบ้านเถกิง ตำบลตาคง อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๔๕ คน อาจาย์ ๑๓ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนางศรีสุดา สีสด พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ และนายพงศธร ฟักหวาน นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓-๖ โรงเรียนบ้านมะขาม ตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน ๘๑ คน คุณครู ๑๓ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนายธนากร วงศ์สิริพัฒนะ นักวิชาการวัฒนธรรม ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านสามโค ตำบลปราสาททอง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๕๙ คน คุณครู ๑๐ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนางศรีสุดา สีสด พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านกระเบื้อง ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๙๓ คน คุณครู ๑๒ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านโพนทา ตำบลท่าตูม อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๕๕ คน คุณครู ๑๐ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนางสาวอภิญญา สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านหนองจูบ ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๕๗ คน คุณครู ๑๖ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนางถนอม หลวงกลาง พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านผักไหม อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๑๓๓ คน คุณครู ๑๕ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนางสาวอภิญญา สุขใหญ่ นางศรีสุดา สีสด พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔-๖ โรงเรียนบ้านทมอ(เดื่อราษฎร์บำรุง) อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๔๘ คน คุณครู ๔ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนายธนากร วงศ์สิริพัฒนะ นักวิชาการวัฒนธรรม ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันศุกร์ที่ ๑๔ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๐๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านกระเบื้อง ตำบลนาหนองไผ่ อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๙๓ คน คุณครู ๑๒ คน เข้าเยี่ยมชมโบราณสถานปราสาทศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม


วันที่ 15 มีนาคม 2568 นายพีรยุทธ กษิติบดินทร์ชัย บรรณารักษ์ปฏิบัติการ ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา ให้เข้าร่วมพิธีเปิดนิทรรศการแสดงผลงานสีน้ำ กิจกรรมเทศกาลสีน้ำ "สร้างสรรค์งานศิลป์" โครงการขับเคลื่อน Soft Power โคราชเมืองศิลปะ ครั้งที่ 5 โดยมีนายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช จังหวัดนครราชสีมา ทั้งนี้ ขอเชิญผู้สนใจร่วมชมนิทรรศการผลงานสีน้ำ กว่า 108 ผลงาน ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 19 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 - 20.30 น. ณ อาคารใหม่ ชั้น 1 (ทางออกลานจอดรถจักรยานยนต์) เดอะมอลล์โคราช หรือชมผลงานผ่านสูจิบัตรออนไลน์ได้ที่ https://anyflip.com/nyzfa/oalz/ ขอขอบคุณภาพจากเดอะมอลล์โคราช


ในปัจจุบันทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ สายสวรรคโลก–อุโมงค์ มีแนวเส้นทางเริ่มจากอำเภอสวรรคโลก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่าซาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดเมืองลำพูน และอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ถนนในช่วงจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ คือ มีการปลูกต้นยางนาในพื้นที่เส้นทางจังหวัดเชียงใหม่ และมีต้นขี้เหล็กในพื้นที่เส้นทางจังหวัดลำพูน ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทาง ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกถนนเส้นทางนี้ว่า “ถนนต้นยางนา-ต้นขี้เหล็ก” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๒ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ประเทศสยามได้มีการจัดการปกครองส่วนภูมิภาคจากเมืองประเทศราช มาเป็นรูปแบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล โดยยกเลิกอำนาจการปกครองของเจ้าหลวง และให้ทางส่วนกลางขึ้นมาปกครองเมืองเชียงใหม่ แต่ยังคงดำรงตำแหน่ง “เจ้าหลวง” เอาไว้เป็นประมุขของเมืองเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๕  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลพิษณุโลก ขึ้นมารับราชการตำแหน่ง ข้าหลวงเทศาภิบาลคนแรกของมณฑลพายัพ หรือข้าหลวงใหญ่  ซึ่งเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ได้ทำการปฏิรูปการปกครอง การศึกษา การแพทย์ และการคมนาคม จนทำให้มณฑลพายัพเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นอย่างมาก เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) โดยคำนึงถึงหลัก “น้ำต้อง กองต๋ำ” ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา หมายถึง การนำนโยบายในการพัฒนาคูคลองร่องน้ำต่างๆ รวมถึงการตัดถนน การปรับปรุงถนน เพื่อให้ความเกิดความร่มรื่นแก่ชาวบ้านผู้ใช้เส้นทางสัญจร ประกอบกับการได้รับสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ที่ทรงได้แนวพระราชดำริจากสภาพภูมิทัศน์ของถนนในต่างประเทศที่มีความร่มรื่นจากพรรณไม้ชนิดต่างๆ ทั้งนี้ได้มีการกำหนดให้เส้นทางแต่ละสายปลูกต้นไม้ชนิดแตกต่างกันดังนี้ ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ทดลองปลูกต้นไม้เมืองหนาว ถนนรอบคูเมือง ให้ปลูกต้นสัก และต้นสน ถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ให้ปลูกต้นประดู่ ถนนสายเชียงใหม่-หางดง-สันป่าตอง ให้ปลูกต้นขี้เหล็ก ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ให้ปลูกต้นยาง และเมื่อเข้าเขตลำพูน ให้ปลูกต้นขี้เหล็ก สำหรับอนุสาวรีย์เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ตั้งอยู่ในตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เรือนทำมาจากไม้สักทองทรงปั้นหยา ตัวอาคารเป็นบ้านไม้ทรงตึกยกพื้นสูง สถาปัตยกรรมโคโลเนียลประยุกต์กับพื้นเมืองอายุกว่าร้อยปี ภายในบริเวณบ้านมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ เอกสารสำคัญที่บันทึกเรื่องราวการบริหารราชการแผ่นดิน เหรียญตราประดับยศของท่านเจ้าคุณเชย เฟอร์นิเจอร์ ประติมากรรม ข้าวของเครื่องใช้ และภาพถ่ายในยุคสมัยโบราณ เป็นต้น หลังจากนั้นได้มีการแบ่งเขตแดนและทำการปลูกต้นไม้เรียงรายตามสองฝั่งถนน ระหว่างเขตแดนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ปลูกต้นยางนา ส่วนเขตแดนจังหวัดลำพูน ได้ปลูกต้นขี้เหล็ก ถ้าหากผู้สัญจรใช้เส้นทางนี้เข้าเขตอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จะได้พบกับต้นยานาขนาดใหญ่ ขนาดวงรอบโดยเฉลี่ย ๕ เมตร และสูงกว่า ๔๐ เมตร ยืนเรียงรายตลอดแนวทั้งสองแนวของฝากฝั่งถนน ต่อมามีการกำหนดกฎระเบียบในการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด เช่น ถ้าต้นไม้ตรงกับหน้าบ้านใด ก็ให้เจ้าของบ้านผู้นั้นเอาใจใส่ทำรั้วล้อมรอบ และให้ชาวบ้านรับผิดชอบดูแลรดน้ำ พรวนดินดายหญ้า ใส่ปุ๋ยให้กับต้นยาง และห้ามเลี้ยงสัตว์บนเขตถนน รวมถึงที่ทำการของราชการ เพื่อกันวัวควายเข้ามาเหยียบย่ำ หากสัตว์เลี้ยงของผู้ใดเข้ามาเหยียบย่ำต้นไม้ที่ปลูกไว้เสียหายจะต้องเสียค่าปรับ หรือถ้าหากต้นยางนาที่ไม่ตรงกับหน้าบ้านผู้ใดจะมอบหมายให้หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงรับผิดชอบ โดยให้หัวหน้าหมู่บ้านนำลูกบ้านมาช่วยกันดูแลรักษาทำให้ต้นยางนาเจริญเติบโตและสวยงามนอกจากนี้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้มีการเกณฑ์ชาวบ้านที่มีความยากจนหรือไม่มีเงินเสียภาษีให้ทางรัฐหรือชาวบ้านที่ไม่ต้องการเป็นทหารให้มาปลูกต้นยางนา ตั้งแต่บ้านหนองหอยจนถึงหลักแดนเมืองเชียงใหม่ - ลำพูน โดยชาวบ้านจะต้องรับผิดชอบดูแลรดน้ำต้นยางหรือถ้าหากพบว่าต้นยางนาที่ตนรับผิดชอบต้นไหนตายจะต้องนำต้นยางนามาปลูกใหม่ทดแทน ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของถนนเส้นทางนี้ที่มีต้นยางนาขนาดใหญ่ มีอายุกว่า ๑๐๐ ปี ปลูกเรียงรายตลอดทั้งสองข้างทางที่คดเคี้ยวไปมาที่มีความร่มรื่นและสวยงาม เป็นอย่างมากอีกเส้นทางหนึ่งของเมืองไทย สำหรับศาลหลักเมือง (ศาลเจ้าแดนเมือง) เชียงใหม่-ลำพูน ตั้งอยู่ระหว่างหมู่ ๕ บ้านปากกอง ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และหมู่ที่ ๑ บ้านอุโมงค์ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เดิมเป็นที่ตั้งของวัดร้าง ชื่อว่า วัดนางเหลียว นอกจากเสาหลักเมืองเชียงใหม่-ลำพูนแล้ว ในปัจจุบันหน่วยงานภาคราชการ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชน ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม ตกแต่งภูมิทัศน์ พร้อมมีการสร้างศาลาสามัคคี พร้อมอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐาน คือพระศรีสองเมือง เพื่อเป็นสถานที่สำคัญเป็นที่เคารพ สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อวันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ ชาวเชียงใหม่ได้มีโอกาสรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชดำเนินมาบนถนนต้นยางนา และทรงแวะพักที่บริเวณต้นยางนา หมายเลข ๑ ซึ่งเป็นต้นยางนาต้นแรกและเป็นสัญลักษณ์หรือหมุดหมายที่บอกจุดสิ้นสุดของจังหวัดลำพูน และจุดเริ่มต้นของจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันต้นยางนาประวัติศาสตร์ต้นนั้นยังคงอยู่บริเวณตรงข้ามศาลหลักเมือง (ศาลเจ้าแดนเมือง) เชียงใหม่-ลำพูน ถนนสายประวัติศาสตร์ “ถนนต้นยางนา-ต้นขี้เหล็ก” นอกจากมีภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว และยังเป็นหนึ่งในเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยี่ยมชม อีกทั้งยังเป็นแหล่งพันธุกรรมไม้ยางนาหรือใช้ในการขยายพันธุ์เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยอีกด้วย กลุ่มต้นยางนารักษ์สิ่งแวดล้อม เชียงใหม่ ยังได้รับการประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีคุณค่าและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า ๑๐๐ ปี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือ รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี ซึ่งภายในหนังสือได้รวบรวมข้อมูลต้นไม้ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากทั่วประเทศ จำนวน ๖๕ ต้น เรียบเรียงโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม แหล่งอ้างอิง : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย.  สมุดภาพกรมการปกครอง.  กรุงเทพฯ: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๖๔. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.  รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี.  กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๖๐. ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยา.  การเสด็จตรวจราชการหัวเมือง ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ.          กรุงเทพฯ: สถาบันดำรงราชานุภาพ, ๒๕๕๕. พิพิธภัณฑ์กรมทางหลวง.  ถนนสายประวัติศาสตร์ “ถนนต้นยางนา” ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘,          จาก: https://dohmuseum.wixsite.com/dohmuseum01/single-post/2020/04/09/ถนนสายประว-ต-ศาสตร-ถนนต-นยางนา-ทางหลวงแผ-นด-นหมายเลข-106 แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บ้านเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘,          จาก: https://www.facebook.com/p/แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บ้านเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์-100066931397986/ โอร์ต, ปิแอร์.  ล้านนาไทยในแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวง.  แปลโดย พิษณุ จันทร์วิทัน.  กรุงเทพฯ: การันต์, ๒๕๓๙.


ในปัจจุบันทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖ สายสวรรคโลก–อุโมงค์ มีแนวเส้นทางเริ่มจากอำเภอสวรรคโลก อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง อำเภอลี้ อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอป่าซาง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดเมืองลำพูน และอำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากนี้ถนนในช่วงจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน มีความโดดเด่น มีเอกลักษณ์เป็นพิเศษ คือ มีการปลูกต้นยางนาในพื้นที่เส้นทางจังหวัดเชียงใหม่ และมีต้นขี้เหล็กในพื้นที่เส้นทางจังหวัดลำพูน ปลูกเรียงรายตลอดสองข้างทาง ชาวบ้านส่วนใหญ่เรียกถนนเส้นทางนี้ว่า “ถนนต้นยางนา-ต้นขี้เหล็ก” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๒ สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ประเทศสยามได้มีการจัดการปกครองส่วนภูมิภาคจากเมืองประเทศราช มาเป็นรูปแบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล โดยยกเลิกอำนาจการปกครองของเจ้าหลวง และให้ทางส่วนกลางขึ้นมาปกครองเมืองเชียงใหม่ แต่ยังคงดำรงตำแหน่ง “เจ้าหลวง” เอาไว้เป็นประมุขของเมืองเชียงใหม่ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๔๕  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลพิษณุโลก ขึ้นมารับราชการตำแหน่ง ข้าหลวงเทศาภิบาลคนแรกของมณฑลพายัพ หรือข้าหลวงใหญ่  ซึ่งเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ได้ทำการปฏิรูปการปกครอง การศึกษา การแพทย์ และการคมนาคม จนทำให้มณฑลพายัพเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นอย่างมาก เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) โดยคำนึงถึงหลัก “น้ำต้อง กองต๋ำ” ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนา หมายถึง การนำนโยบายในการพัฒนาคูคลองร่องน้ำต่างๆ รวมถึงการตัดถนน การปรับปรุงถนน เพื่อให้ความเกิดความร่มรื่นแก่ชาวบ้านผู้ใช้เส้นทางสัญจร ประกอบกับการได้รับสนองพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ที่ทรงได้แนวพระราชดำริจากสภาพภูมิทัศน์ของถนนในต่างประเทศที่มีความร่มรื่นจากพรรณไม้ชนิดต่างๆ ทั้งนี้ได้มีการกำหนดให้เส้นทางแต่ละสายปลูกต้นไม้ชนิดแตกต่างกันดังนี้ ถนนในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ทดลองปลูกต้นไม้เมืองหนาว ถนนรอบคูเมือง ให้ปลูกต้นสัก และต้นสน ถนนสายเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด ให้ปลูกต้นประดู่ ถนนสายเชียงใหม่-หางดง-สันป่าตอง ให้ปลูกต้นขี้เหล็ก ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ ให้ปลูกต้นยาง และเมื่อเข้าเขตลำพูน ให้ปลูกต้นขี้เหล็ก สำหรับอนุสาวรีย์เจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ตั้งอยู่ในตำบลศรีพนมมาศ อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เรือนทำมาจากไม้สักทองทรงปั้นหยา ตัวอาคารเป็นบ้านไม้ทรงตึกยกพื้นสูง สถาปัตยกรรมโคโลเนียลประยุกต์กับพื้นเมืองอายุกว่าร้อยปี ภายในบริเวณบ้านมีสิ่งที่น่าสนใจ ได้แก่ เอกสารสำคัญที่บันทึกเรื่องราวการบริหารราชการแผ่นดิน เหรียญตราประดับยศของท่านเจ้าคุณเชย เฟอร์นิเจอร์ ประติมากรรม ข้าวของเครื่องใช้ และภาพถ่ายในยุคสมัยโบราณ เป็นต้น หลังจากนั้นได้มีการแบ่งเขตแดนและทำการปลูกต้นไม้เรียงรายตามสองฝั่งถนน ระหว่างเขตแดนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ปลูกต้นยางนา ส่วนเขตแดนจังหวัดลำพูน ได้ปลูกต้นขี้เหล็ก ถ้าหากผู้สัญจรใช้เส้นทางนี้เข้าเขตอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จะได้พบกับต้นยานาขนาดใหญ่ ขนาดวงรอบโดยเฉลี่ย ๕ เมตร และสูงกว่า ๔๐ เมตร ยืนเรียงรายตลอดแนวทั้งสองแนวของฝากฝั่งถนน ต่อมามีการกำหนดกฎระเบียบในการดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด เช่น ถ้าต้นไม้ตรงกับหน้าบ้านใด ก็ให้เจ้าของบ้านผู้นั้นเอาใจใส่ทำรั้วล้อมรอบ และให้ชาวบ้านรับผิดชอบดูแลรดน้ำ พรวนดินดายหญ้า ใส่ปุ๋ยให้กับต้นยาง และห้ามเลี้ยงสัตว์บนเขตถนน รวมถึงที่ทำการของราชการ เพื่อกันวัวควายเข้ามาเหยียบย่ำ หากสัตว์เลี้ยงของผู้ใดเข้ามาเหยียบย่ำต้นไม้ที่ปลูกไว้เสียหายจะต้องเสียค่าปรับ หรือถ้าหากต้นยางนาที่ไม่ตรงกับหน้าบ้านผู้ใดจะมอบหมายให้หมู่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงรับผิดชอบ โดยให้หัวหน้าหมู่บ้านนำลูกบ้านมาช่วยกันดูแลรักษาทำให้ต้นยางนาเจริญเติบโตและสวยงามนอกจากนี้ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ได้มีการเกณฑ์ชาวบ้านที่มีความยากจนหรือไม่มีเงินเสียภาษีให้ทางรัฐหรือชาวบ้านที่ไม่ต้องการเป็นทหารให้มาปลูกต้นยางนา ตั้งแต่บ้านหนองหอยจนถึงหลักแดนเมืองเชียงใหม่ - ลำพูน โดยชาวบ้านจะต้องรับผิดชอบดูแลรดน้ำต้นยางหรือถ้าหากพบว่าต้นยางนาที่ตนรับผิดชอบต้นไหนตายจะต้องนำต้นยางนามาปลูกใหม่ทดแทน ถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงเป็นเส้นทางประวัติศาสตร์และเป็นสัญลักษณ์ของถนนเส้นทางนี้ที่มีต้นยางนาขนาดใหญ่ มีอายุกว่า ๑๐๐ ปี ปลูกเรียงรายตลอดทั้งสองข้างทางที่คดเคี้ยวไปมาที่มีความร่มรื่นและสวยงาม เป็นอย่างมากอีกเส้นทางหนึ่งของเมืองไทย สำหรับศาลหลักเมือง (ศาลเจ้าแดนเมือง) เชียงใหม่-ลำพูน ตั้งอยู่ระหว่างหมู่ ๕ บ้านปากกอง ตำบลสารภี อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และหมู่ที่ ๑ บ้านอุโมงค์ ตำบลอุโมงค์ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน เดิมเป็นที่ตั้งของวัดร้าง ชื่อว่า วัดนางเหลียว นอกจากเสาหลักเมืองเชียงใหม่-ลำพูนแล้ว ในปัจจุบันหน่วยงานภาคราชการ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชน ได้ร่วมกันบูรณะ ซ่อมแซม ตกแต่งภูมิทัศน์ พร้อมมีการสร้างศาลาสามัคคี พร้อมอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐาน คือพระศรีสองเมือง เพื่อเป็นสถานที่สำคัญเป็นที่เคารพ สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อวันศุกร์ที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ ชาวเชียงใหม่ได้มีโอกาสรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเสด็จพระราชดำเนินมาบนถนนต้นยางนา และทรงแวะพักที่บริเวณต้นยางนา หมายเลข ๑ ซึ่งเป็นต้นยางนาต้นแรกและเป็นสัญลักษณ์หรือหมุดหมายที่บอกจุดสิ้นสุดของจังหวัดลำพูน และจุดเริ่มต้นของจังหวัดเชียงใหม่ ปัจจุบันต้นยางนาประวัติศาสตร์ต้นนั้นยังคงอยู่บริเวณตรงข้ามศาลหลักเมือง (ศาลเจ้าแดนเมือง) เชียงใหม่-ลำพูน ถนนสายประวัติศาสตร์ “ถนนต้นยางนา-ต้นขี้เหล็ก” นอกจากมีภูมิทัศน์ที่สวยงามแล้ว และยังเป็นหนึ่งในเส้นทางที่นักท่องเที่ยวต้องการมาเยี่ยมชม อีกทั้งยังเป็นแหล่งพันธุกรรมไม้ยางนาหรือใช้ในการขยายพันธุ์เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยอีกด้วย กลุ่มต้นยางนารักษ์สิ่งแวดล้อม เชียงใหม่ ยังได้รับการประกาศเป็นพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมเนื่องจากมีคุณค่าและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มายาวนานกว่า ๑๐๐ ปี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ซึ่งได้ตีพิมพ์ลงในหนังสือ รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี ซึ่งภายในหนังสือได้รวบรวมข้อมูลต้นไม้ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจากทั่วประเทศ จำนวน ๖๕ ต้น เรียบเรียงโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม แหล่งอ้างอิง : กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย.  สมุดภาพกรมการปกครอง.  กรุงเทพฯ: กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, ๒๕๖๔. กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม.  รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี.  กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ, ๒๕๖๐. ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยา.  การเสด็จตรวจราชการหัวเมือง ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ.            กรุงเทพฯ: สถาบันดำรงราชานุภาพ, ๒๕๕๕. พิพิธภัณฑ์กรมทางหลวง.  ถนนสายประวัติศาสตร์ “ถนนต้นยางนา” ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๖.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘,         จาก: https://dohmuseum.wixsite.com/dohmuseum01/single-post/2020/04/09/ถนนสายประว-ต-ศาสตร-ถนนต-นยางนา-ทางหลวงแผ-นด-นหมายเลข-106 แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บ้านเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๘,         จาก: https://www.facebook.com/p/แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์บ้านเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์-100066931397986/ โอร์ต, ปิแอร์.  ล้านนาไทยในแผ่นดินพระพุทธเจ้าหลวง.  แปลโดย พิษณุ จันทร์วิทัน.  กรุงเทพฯ: การันต์, ๒๕๓๙.


แนะนำE-book หนังสือหายาก เรื่อง ตามรอยพระบาทปราชญ์แห่งสยาม


บรรณานุกรม รายชื่อหนังสืออ้างอิงใหม่ ห้องค้นคว้า เดือน มีนาคม 2568   หมวด 200  ศาสนา   ส.พลายน้อย.  นามานุกรมพุทธประวัติฉบับประชาชน.  กรุงเทพฯ: สถาพรบุ๊คส์, 2565.  ( อ 294.3092 ส113น )    หมวด 300  สังคมศาสตร์   สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล.  สมุดภาพประวัติสลากกินแบ่งรัฐบาล ( พ.ศ. 2482 – 2559 ).  กรุงเทพฯ: สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, 2559.  ( อ 336.17060593 ส369ส )       หมวด 900  ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์   ต่อพงศ์ เศวตามร์.  วาดรูป...วาดชีวิต 2498 – 2543.  กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง, 2543.  ( อ 927.5 ฉ419ตว )       ##############



black ribbon.