ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,793 รายการ


วันศุกร์ที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๔ พิพิธภัณสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ได้รับมอบโบราณวัตถุจากสถานีตำรวจภูธร อำเภอเมืองจันทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน ๑ รายการ คือ ภาชนะดินเผาเนื้อกระเบื้องทรงชามเคลือบสีเขียวประกบติดกับภาชนะดินเผาเนื้อแกร่งทรงไหเคลือบสีน้ำตาล ศิลปะลาว(ล้านช้าง) ราวพุทธศตวรรษที่ ๒๒ - ๒๔ ซึ่งชาวบ้านขุดพบเมื่อ ๔ - ๕ ปีมาแล้ว และได้นำมามอบให้ สภ.อ.เมืองจันทร์เก็บรักษา ต่อมาจึงได้มอบให้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา เก็บรักษาเพื่ออนุรักษ์และจัดทำทะเบียน ตามระเบียบ พ.ร.บ. โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ต่อไป


          ว่ากันว่าเมื่อชาวจีนไปอาศัยอยู่ที่ใด ก็มักจะสร้างศาสนสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมและบูชาเทพเจ้าของตนเสมอ เป็นผลทําให้เกิด การสร้างศาลเจ้าจีนกระจายท่ัวไป ดังนั้นเมืองจันทบุรีจะมี"ศาลเจ้า"ที่ตั้งขึ้นโดยคนจีนอยู่กี่แห่ง? วันนี้ผู้เขียนมีคำตอบให้ค่ะ           เอกสารจดหมายเหตุได้มีบันทึกระบุว่า พ.ศ.2466 มีศาลเจ้าของคนจีนที่มาขอรับการจดทะเบียน จำนวน 34 ศาลเจ้า แยกตามอำเภอได้ดังนี้ 1.อำเภอเมืองจันทบุรี จำนวน 12 ศาลเจ้า ได้แก่ -ศาลจ้าวฮุ้ดโจ้ ตำบลตลาดจันทบุรี -ศาลจ้าวโจ๊ซือกง ตำบลตลาดจันทบุรี -ศาลจ้าวปากน้ำ ตำบลตลาดจันทบุรี -ศาลจ้าวสระบาป ตำบลท่าเรือจ้าง -ศาลจ้าวโป่งแรต ตำบลโป่งแรต -ศาลจ้าวคมบาง ตำบลคมบาง -ศาลจ้าวเจ้าที่ ตำบลตลาดจันทบุรี -ศาลจ้าวอาม้า ตำบลบางกะจะ -ศาลจ้าวเฮี่ยนเทียน ตำบลบางกะจะ -ศาลจ้าวอาเนี้ย ตำบลบางกะจะ(หลังนี้มีพื้นที่ 368 ตารางวา ทิศตะวันตกติดศาลจ้าวโจ้ซื่อกง) -ศาลจ้าวอาเนี้ย ตำบลบางกะจะ(หลังนี้มีพื้นที่ 48 ตารางวา ทิศตะวันตกติดถนน) -ศาลจ้าวโจ๊ซื่อกง ตำบลบางกะจะ2.อำเภอท่าใหม่ จำนวน 12 ศาลเจ้า ได้แก่ -ศาลจ้าวโจ๊ซื่อกง ตำบลท่าใหม่ -ศาลจ้าวโจ๊ซือก๋ง ตำบลท่าใหม่ -ศาลจ้าวโรงเจตั๋ว ตำบลท่าใหม่ -ศาลจ้าวท่าน้ำ ตำบลท่าใหม่ -ศาลจ้าวหนองจอก ตำบลยายร้า -ศาลจ้าวห้วยระกำ ตำบลพลอยแหวน -ศาลจ้าวชำฆ้อ ตำบลพลอยแหวน -ศาลจ้าวหนองปรือ ตำบลเขาวัว -ศาลจ้าวตั้วล้ง ตำบลเขาวัว -ศาลจ้าวอาเหนียว ตำบลเขาบายศรี -ศาลจ้าวท่าศาลา ตำบลท่าศาลา -ศาลจ้าวปากน้ำพังลาด ตำบลช้างข้าม3.อำเภอแหลมสิงห์ จำนวน 5 ศาลเจ้า ได้แก่ -ศาลจ้าวแหลมสิงห์ ตำบลบางกะไชย -ศาลจ้าวเกาะเปริด ตำบลเกาะเปริด -ศาลจ้าวพลิ้ว ตำบลพลิ้ว -ศาลจ้าวบางเทียน ตำบลคลองน้ำเค็ม -ศาลเจ้าหนองบัว ตำบลหนองบัว 4.อำเภอขลุง จำนวน 5 ศาลเจ้า ได้แก่ -ศาลจ้าวขลุง ตำบลขลุง -ศาลจ้าวตรอกนอง ตำบลตรอกนอง -ศาลจ้าวคานรูด ตำบลเกวียนหัก -ศาลจ้าวเกาะจิก ตำบลบางชัน -ศาลจ้าวบางชัน ตำบลบางชัน          ทะเบียนศาลเจ้าเล่มนี้ ภายในประกอบไปด้วยรายนามแต่ละศาลเจ้า ที่ดินระวาง เลขที่ดิน เลขโฉนด เนื้อที่เท่าไร อาณาเขตต์ติดกับใครบ้าง และใครเป็นผู้ปกครองหรือผู้ตรวจตราสอดส่องแต่ละศาลเจ้า ศาลเจ้าเหล่านี้อาจสร้างขึ้นมาก่อนหน้าแล้วก็ได้ และในเวลาต่อมาอาจให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง ยกตัวอย่างศาลเจ้าขลุงได้ระบุว่ามี นายเค็งเส็ง แส้เหลา เป็นผู้ปกครองศาลแห่งนี้มาตั้งแต่ พ.ศ.2465 และยังมีนายเลี่ยนจิ้น แส้เตี่ยว เป็นผู้ตรวจตราสอดส่อง ในพ.ศ.เดียวกัน เป็นต้น           เป็นที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือศาลเจ้าที่ได้ขึ้นทะเบียนในครั้งนี้ มีแค่ 4 อำเภอ ขาดอยู่ 1 อำเภอคืออำเภอมะขาม และ ณ ขณะนี้ผู้เขียนยังไม่มีหลักฐานอื่นมายืนยันว่า เป็นเพราะเหตุว่าไม่มีศาลเจ้าในขณะนั้นที่อำเภอมะขาม หรือมีเหตุผลอื่นใดกันแน่ จึงขอฝากเพื่อนๆที่สนใจในเรื่องนี้ตามต่อด้วยนะคะ (หมายเหตุ คำเรียกบางคำยังคงตามคำเขียนเดิม)-----------------------------------------------------ผู้เขียน สุมลฑริกาญจณ์ มายะรังษี นักจดหมายเหตุชำนาญการ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี-----------------------------------------------------อ้างอิง หอจดหมายเหตุแห่งชาติจันทบุรี. (13)มท 7/3 เอกสารกระทรวงมหาดไทย ชุดมณฑลจันทบุรี เรื่องทะเบียนศาลเจ้า (พ.ศ.2466)


ชื่อเรื่อง                     กจฺจายนมูล (ศัพท์สนธิ) สพ.บ.                       278/2ประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                   พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ               72 หน้า : กว้าง 4.2 ซ.ม. ยาว 56 ซ.ม.หัวเรื่อง                     พุทธศาสนา                              ศัพท์สนธิ                                   บทคัดย่อ/บันทึกเป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากวัดบ้านหมี่ ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


ชื่อเรื่อง                     มหานาคเสน (มหานาคเสน)สพ.บ.                      328/5ประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                   พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ               52 หน้า : กว้าง 5.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                     พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี




สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน)  ชบ.บ.44/1-6  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


มงฺคลตฺถทีปนี (มงฺคลตฺถทีปนี เผด็จมงคลสูตร)  ชบ.บ.88ก/1-9  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


เลขทะเบียน : นพ.บ.343/6ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 64 หน้า ; 5 x 57.5 ซ.ม. : ทองทึบ-ชาดทึบ-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 134  (370-377) ผูก 6 (2565)หัวเรื่อง : สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (พระยมกปกรณา)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


        ชื่อผลงาน: เสียงขลุ่ยทิพย์         ศิลปิน: เขียน ยิ้มศิริ (พ.ศ. 2465 - 2514)         เทคนิค: ประติมากรรมสำริด          ขนาด: สูง 58.5 ซม.         ปีที่สร้างสรรค์: พ.ศ. 2492         รางวัล/เกียรติยศ: เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เหรียญทอง ประเภทประติมากรรม จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1 พุทธศักราช 2492          รายละเอียดเพิ่มเติม: เขียน ยิ้มศิริ ศิลปินชั้นเยี่ยม สาขาประติมากรรม หนึ่งในศิลปินคนสำคัญในยุคบุกเบิกสร้างสรรค์งานศิลปะสมัยใหม่ ในประเทศไทย และหนึ่งในลูกศิษย์รุ่นแรก ๆ ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ผลงาน “เสียงขลุ่ยทิพย์” เป็นประติมากรรมชิ้นที่โดดเด่นที่สุดชิ้นหนึ่ง ในชีวิตการทำงานของศิลปิน งานของเขียน ยิ้มศิริ เป็นการผสมผสานระหว่างแรงบันดาลใจในความพริ้วไหวของรูปทรงและโครงร่างลายเส้นรอบนอกของงานศิลปะไทยประเพณี กับการแสดงออกแบบลดทอนรูปทรงในแนวทางงานศิลปะสมัยใหม่             Title: Musical Rythm         Artist: Khien Yimsiri (1922 - 1971)         Technique: bronze casting         Size: 58.5 cm. (H.)         Year: 1949         Award: Honorary gold medal award on sculpture, from the 1st National Exhibition of Art in 1949.         Detail: Khien Yimsiri, artist of distinction on sculpture and a pioneer sculptor of modern Thai art whom is considered as early pupil of Silpa Bhirasri. His well-known sculpture entitled “Musical Rythm” is regarded as one his best, Khien's sculptures likely take an inspiration especially on fluidity of forms and contour from traditional Thai art but at the same time being contorted as modern expression.


ชื่อผู้แต่ง            ศิลปากร , กรม ชื่อเรื่อง             คู่มือนำชม เมืองสุโขทัย เมืองศรีสัชชนาลัยและเมืองกำแพงเพชร ครั้งที่พิมพ์          - สถานที่พิมพ์       - สำนักพิมพ์         โรงพิมพ์การศาสนา ปีที่พิมพ์             ๒๕๒๐ จำนวนหน้า         ๑๙๐  หน้า หมายเหตุ           กรมศิลปากร จัดพิมพ์เนื่องในการจัดโบราณคดีสัญจร สู่เมืองพระร่วง วันที่ ๔ - ๖ มีนาคม ๒๕๒๐                          เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาลในด้านการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมแก่ประชาชนชาวไทย ให้ตระหนักและทราบซึ่งถึงคุณค่า ซึ่งก่อให้เกิดความรักหวงแหนและร่วมใจกันอนุรักษ์สมบัติทางด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นมรดกของอนุชนชาวไทยทุกท่าน กรมศิลปากรมีหน้าที่เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมจึงได้สนองนโยบาย โดยจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจ+สังคมแห่งชาติ กรมศิลปากรจึงได้กำหนดจัดโบราณคดีสัญจรสู่เมืองสุโขทัย เมืองศรีสัชชนาลัย เมืองกำแพงเพชร และนำชมเมืองพระร่วง ซึ่งเคยเป็นอาณาจักรสุโขทัยที่มีความเจริญรุ่งเรืองแล้ะวในอดีตเมื่อ ๗๐๐ ปีล่วงมา




ชื่อเรื่อง                     จักรทีปนี ตำราโหราศาสตร์ พระนิพนธ์ สมเด็จฯ กรมพระปรมานุชิตชิโนรสผู้แต่ง                       กรมศิลปากรประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   ปรัชญาเลขหมู่                     133.53 ป169จบสถานที่พิมพ์               ม.ป.ท.สำนักพิมพ์                 ม.ป.พ.ปีที่พิมพ์                    2508ลักษณะวัสดุ               44 หน้าหัวเรื่อง                     โหราศาสตร์ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก       จักรทีปนี ตำราโหราศาสตร์ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการพยากรณ์  




black ribbon.