ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ

งค์ความรู้ เรื่อง กล้องยาสูบดินเผา (Pipe/Clay Pipe) ตอนที่ ๒ การศึกษาเปรียบเทียบกล้องยาสูบดินเผาที่พบในวัฒนธรรมล้านช้างกับแหล่งโบราณคดีอื่น ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเรียบเรียงข้อมูลโดย นางสาวกุลวดี สมัครไทย นักโบราณคดีชำนาญการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๘ ขอนแก่น


. สวัสดีปี๋ใหม่เมืองเจ้า...   . กลับมาพบกันอีกครั้งกับสาระความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่อีกเช่นเคยค่ะ เพื่อให้เข้ากับบรรยายกาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ มีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆมามอบให้กับแฟนเพจทุกๆท่านค่ะ โดยวันนี้เราขอเสนอองค์ความรู้ เรื่อง “ป๋าเวณีปีใหม่เมือง : ประเพณีสงกรานต์ของชาวล้านนา” ค่ะ . ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมือง หรือ ประเพณีปีใหม่เมือง เป็นประเพณีที่สำคัญของชาวเหนือ หรือชาวล้านนา สืบเนื่องมาจากอดีตกาลที่จะยึดถือเป็นช่วงเปลี่ยนศักราชใหม่ โดยกำหนดจุดที่พระอาทิตย์ย้ายจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ซึ่งมักจะตรงกับวันที่ 13 เมษายน หรือ 14 เมษายนของแต่ละปี และจะกินเวลาประมาณ 4-7 วัน ยาวนานกว่าสงกรานต์ของภาคอื่น ๆ . ทำไมต้องปีใหม่เมือง?? . อย่างที่เรารู้กันค่ะว่า “วันขึ้นปีใหม่” ตามสากลคือ วันที่ 1 มกราคม ของทุกปี ส่วนคำว่า “ปีใหม่ไทย” มีที่มาจาก ในอดีตวันขึ้นปีใหม่ของไทยตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน รัฐบาลจึงกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็น วันขึ้นปีใหม่อยู่ค่ะ  . คนภาคเหนือตามภาษาถิ่นจะเรียกแทนตัวเองว่า “คนเมือง” ฉะนั้นในส่วนของคนเหนือหรือคนเมืองแล้ว จะไม่ได้พูดคำว่า “สงกรานต์” เลย แต่จะเรียกกันว่า “ปี๋ใหม่เมือง” มากกว่าค่ะ และเรียกวันขึ้นต้นปี 1 มกราคมว่า “ปี๋ใหม่ไทย” แทน . ช่วงปีใหม่เมืองนี้ ชาวเหนือจะมีพิธีกรรมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเกี่ยวกับศาสนาหรือชุมชน ในขณะที่ภูมิภาคอื่นๆได้ลดความสำคัญจากวันปีใหม่ไทย(ช่วงวันสงกรานต์) ให้เป็นเพียงเทศกาลสงกรานต์ มีการทำบุญตักบาตร รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามปกติทั่วไป แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่ากับคนภาคเหนือค่ะ . เนื่องด้วยสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ปีนี้รัฐบาลสั่งงดการเล่นน้ำและการจัดขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์และพระพุทธรูปสำคัญ ที่ทุกปีจะมีการอัญเชิญออกมาให้ประชาชนได้สรงน้ำ โดยเปลี่ยนรูปแบบเป็นการสมโภชพระพุทธสิหิงค์ โดยอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานด้านหน้าวิหารลายคำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำแทนค่ะ  . ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพและมีความสุขในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวนี้นะคะ ไว้พบกันใหม่ในองค์ความรู้รอบหน้าค่ะ  """""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""" พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่ เปิดให้บริการทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 น.  (หยุดทุกวันจันทร์ อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)  e-mail : cm_museum@hotmail.com สอบถามเพิ่มเติมกรุณาติดต่อผ่านกล่องข้อความ หรือ โทรศัพท์ : 053-221308 For more information, please leave your message via inbox or call : +66 5322 1308+


เครื่องถ้วยจีน พบจากการขุดค้นทางโบราณคดี  ณ โบราณสถานวัดหลง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ----- จากการดำเนินการขุดค้นทางโบราณคดี โบราณสถานวัดหลง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อเดือนเมษายน ๒๕๖๔ ที่ผ่านมา มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญหลายประการ เช่น แนวอิฐ ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหินกึ่งมีค่า ชิ้นส่วนเครื่องแก้วสีเขียว อิฐบัว อิฐดินเผา ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาเนื้อดินมีลายกดประทับ ชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์สุ้ง (พุทธศตวรรษที่ ๑๗ – ๑๙) ชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน (พุทธศตวรรษที่ ๑๙ – ๒๐) เครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หมิง (พุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๒) ที่น่าสนใจคือพบว่าชิ้นส่วนเครื่องถ้วยจีนที่พบจากการขุดค้นทางโบราณคดีครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการใช้พื้นที่โบราณสถานที่ต่อเนื่องยาวนานหลายสมัย จากการขุดค้นพบเครื่องถ้วยจีนทั้งหมด ๑๐๖ ชิ้น สามารถกำหนดอายุได้ ๓ สมัย ได้แก่   ๑. สมัยราชวงศ์สุ้ง พุทธศตวรรษที่ ๑๗ – ๑๙ ส่วนใหญ่เป็นเศษภาชนะดินเผาเคลือบสีเขียว มีแหล่งผลิตจาก “เตาถงอัน มณฑลฝูเจี้ยน” และ “เตาหลงเฉวียน มณฑลเจ้อเจียง” โดยการส่งออกเครื่องปั้นดินเผาในระยะนี้มักพบบริเวณภาคใต้ ภาคตะวันออกและภาคกลางของประเทศไทย ๒.  สมัยราชวงศ์หยวน พุทธศตวรรษที่ ๑๙ – ๒๐ ส่วนใหญ่เป็นเศษภาชนะดินเผาเคลือบสีเขียว มีแหล่งผลิตจาก “เตาหลงเฉวียน มณฑลเจ้อเจียง” โดยการส่งออกเครื่องปั้นดินเผาในระยะนี้มักพบบริเวณภาคเหนือและภาคกลางของประเทศไทยมากกว่าภาคใต้ ซึ่งก็สอดคล้องกับจำนวนเครื่องถ้วยจีนที่พบในหลุมขุดค้นที่มีปริมาณน้อยสุดในบรรดาราชวงศ์ต่าง ๆ ที่กำหนดอายุได้ ๓. สมัยราชวงศ์หมิง พุทธศตวรรษที่ ๒๐ – ๒๒ ส่วนใหญ่เป็นเศษภาชนะดินเผาประเภทลายคราม โดยมีแหล่งผลิตจาก “เตาผิงเหอ มณฑลฝูเจี้ยน” และ “เตาจิ่งเติ๋อเจิ้น มณฑลเจียงซี” โดยการส่งออกเครื่องปั้นดินเผาในระยะนี้มักพบบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ของประเทศไทย   จากการขุดค้นพบเครื่องถ้วยจีนดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างโบราณสถานวัดหลง กับจีนสมัยราชวงศ์สุ้งถึงสมัยราชวงศ์หมิง รวมทั้งชุมชนโบราณร่วมสมัยแห่งอื่น ๆ ทั้งในอำเภอไชยา และในคาบสมุทรภาคใต้ของไทย เช่น โบราณสถานวัดเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ แหล่งโบราณคดีทุ่งตึก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา คลองท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช และเมืองสทิงพระ อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีการค้นพบเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์สุ้งและสมัยราชวงศ์หยวน นอกจากนี้ ด้วยลักษณะทำเลที่ตั้งของโบราณสถานวัดหลงซึ่งตั้งอยู่ริมเส้นทางน้ำ ยังเหมาะสมต่อการตั้งชุมชน (โดยพบว่าชุมชนสำคัญในไชยามักตั้งถิ่นฐานอยู่บนแนวสันทรายไชยา และแนวลำคลองไชยา เช่น วัดพระบรมธาตุไชยาฯ วัดแก้ว วัดเวียง และวัดศาลาทึง) และเอื้อต่อการติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนโบราณแห่งอื่น ๆ ทั้งในอำเภอไชยา และชุมชนภายนอกจากที่เข้ามาทางฝั่งทะเลตะวันออก โดยมีแหลมโพธิ์เป็นเมืองท่าการค้าสำคัญซึ่งสามารถติดต่อกับต่างชาติได้โดยตรง เนื่องจากอยู่ริมชายฝั่งทะเล และมีบริเวณที่เป็นอ่าวขนาดใหญ่ซึ่งเหมาะแก่การจอดเรือสินค้า ทำให้มีโอกาสรับวัฒนธรรมที่หลากหลายจากบ้านเมืองภายนอกเข้ามา ดังปรากฏจากหลักฐานโบราณสถาน และโบราณวัตถุทั้งที่สร้างขึ้นเนื่องในศาสนา และโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับการค้า เช่น สินค้าจากจีน (ดังมีการค้นพบเครื่องถ้วยจีนหลากหลายสมัยในวัดหลง และชุมชนโบราณแห่งอื่น ๆ ในอำเภอไชยา) อินเดีย และตะวันออกกลาง ด้วยความเหมาะสมด้านทำเลที่ตั้งและการเข้ามาของวัฒนธรรมจากต่างชาติดังกล่าว จึงส่งผลให้ชุมชนโบราณไชยามีพัฒนาการและเจริญรุ่งเรืองขึ้นจนกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและศาสนาที่สำคัญในสมัยศรีวิชัย และมีการใช้พื้นที่สืบมาจนถึงสมัยหลัง ----- เรียบเรียง/กราฟิก : นางสาวโสมสินี สุขเกษม นักวิชาการวัฒนธรรม กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช ----- อ้างอิง ๑. กรมศิลปากร. รายงานการปฏิบัติงานโครงการขุดแต่งและบูรณะวัดหลง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. กรุงเทพฯ : หน่วยศิลปากรที่ ๑๔ กองโบราณกรมศิลปากร, ๒๕๒๕ ๒. กรมศิลปากร. แหลมโพธิ์ แหล่งเศรษฐกิจของศรีวิชัย. กรุงเทพฯ : กองโบราณกรมศิลปากร, ๒๕๓๑ ๓. ทิพย์วรรณ วงศ์อัสสไพบูลย์. การศึกษาเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถังถึงสมัยราชวงศ์สุ้งที่พบในการขุดค้นแหล่งโบราณคดีเมืองขีดขิน ตำบลบ้านหมอ อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี. ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๕๐ ๔. บุณญฤทธิ์ ฉายสุวรรณ. ทุ่งตึกจุดเชื่อมโยงเส้นทางสายไหมทางทะเล. สงขลา : ทริโอ ครีเอชั่น, ๒๕๕๒ ๕. เพลงเมธา ขาวหนูนา. พัฒนาการทางวัฒนธรรมของชุมชนโบราณในอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดีสมัยประวัติศาสตร์ ภาควิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร), ๒๕๕๗ ๖. สำนักศิลปากรที่ ๑๔ นครศรีธรรมราช. โบราณสถานและแหล่งโบราณคดีในพื้นที่สำนักศิลปากรที่ ๑๔ นครศรีธรรมราช เล่ม ๒ : สุราษฎร์ธานี. นครศรีธรรมราช : สำนักศิลปากรที่ ๑๔ นครศรีธรรมราช, ๒๕๕๔


          ไหลาว ภาชนะรูปแบบเด่นที่พบในภูมิภาคอีสานใต้ ซึ่งแม้จะไม่ได้มีแหล่งผลิตในภูมิภาคอีสานใต้ แต่จากการขุดศึกษาโบราณสถานพระธาตุกุดจอด ตำบลบ้านยาง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งกำหนดอายุอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 22-24 และธาตุลาวอีกหลายแห่ง เราพบไหลาว ซึ่งมีรูปแบบภาชนะที่โดดเด่นด้วยเช่นกัน           ไหลาว เป็นภาชนะดินเผาเนื้อแกร่งในกลุ่มวัฒนธรรมล้านช้าง ที่มักจะสร้างความสับสนให้กับนักโบราณคดีมือใหม่ที่มักจะตีความว่าเป็นไหเขมร เนื่องจากมีลักษณะสีน้ำเคลือบที่ใกล้เคียงกันและมักพบในแหล่งโบราณคดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเช่นเดียวกัน           ภาชนะแบบนี้มีแหล่งผลิตอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำสงคราม ในพื้นที่จังหวัดสกลนครและจังหวัดนครพนม และกลุ่มเตาในกรุงเวียงจันทน์ สปป.ลาว เทคนิคการผลิตในแต่ละกลุ่มเตาค่อนข้างจะเหมือนกัน แตกต่างที่การทำสีเคลือบ ภาชนะแบบไหที่เป็นรูปแบบที่พบมากจากลุ่มเตาลุ่มแม่น้ำสงคราม ทำเป็นภาชนะขนาดใหญ่ทรงสูง ขอบปากสูง มีส่วนคอแคบ ส่วนลำตัวป่องออก แล้วเรียวลงสู่ฐานที่แคบและไม่มีเชิง มีทั้งรูปทรงที่ส่วนคอสั้น และส่วนคอจนถึงขอบปาก สูง รัศมีขอบปากมีทั้งที่แคบกว่าและใกล้เคียงเส้นผ่าศูนย์กลางลำตัวของภาชนะเคลือบน้ำเคลือบสีน้ำตาลที่อาจมีโทนสีต่างกันไปบ้างในแต่ละแห่งและแบบไม่เคลือบ เนื้อภาชนะมีสีเทา มีการตกแต่งบริเวณไหล่ ด้วยหูหลอก หรือที่เรียกว่า “จีบแปะ”, ลวดลายขด, ลวดลายต่าง ๆ ด้วยเทคนิคอื่น ๆ อีกหลายแบบ           สีของน้ำเคลือบภาชนะจากกลุ่มเตาลุ่มน้ำสงคราม พบเพียงสีเดียวคือ สีน้ำตาล ในแต่ละกุล่มเตามีลักษณะเฉพาะของสีน้ำเคลือบต่างกันไป เช่น สีน้ำตาลอ่อน, สีน้ำตาลเข้มหรือสีน้ำตาลไหม้, สีน้ำตาลอมแดง, สีน้ำตาลอมเขียว การทำเคลือบสีน้ำตาล น่าจะเป็นเพราะ การใช้สารประกอบออกไซด์ของเหล็กหรือตะกรันเหล็กหาได้ง่าย และเทคนิควิธีการเคลือบไม่ยุ่งยากซับซ้อน เหมาะที่จะใช้สำหรับภาชนะขนาดใหญ่ การเคลือบไห มักจะเคลือบเฉพาะด้านนอกจนถึงขอบปากด้านใน น้ำเคลือบไหลหยดเป็นทางและเกาะตัวกับผิวภาชนะได้ไม่ดี, ส่วนชามจะเคลือบเฉพาะด้านใน ซึ่งน่าจะมีความสัมพันธ์กับเครื่องถ้วยกลุ่มล้านนา-สุโขทัย มากกว่าเครื่องถ้วยเขมร           ผลิตภัณฑ์จากแม่น้ำสงคราม ส่วนใหญ่ ทำขึ้นเพื่อใช้ในพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย เป็นภาชนะที่มีค่า สำหรับใส่กระดูกแล้วฝัง ในชุมชนที่พบภาชนะใส่กระดูกลักษณะนี้ จึงเป็นชุมชนที่ร่วมสมัยกับระยะที่อาณาจักรลาวเข้มแข็ง ในพุทธศตวรรษที่ 20-21 ซึ่งสามารถดูการกระจายตัวของชุมชนในระยะนี้ได้จาก การกระจายตัวของวัฒนธรรมไหใส่กระดูก ที่เป็นผลิตภัณฑ์จากเตาลุ่มน้ำสงคราม และพบแพร่กระจายในกลุ่มชนที่รับวัฒนธรรมล้านช้าง ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้วย           การที่น้ำเคลือบเกาะผิวไม่ดีจึงมักหลุดล่อนได้ง่าย มีไม่สม่ำเสมอ และมีหยดน้ำเคลือบปรากฏให้เห็นอยู่เสมอก็พอทำให้สามารถแยกไหลาวออกจากไหเขมรได้ นอกจากนี้เนื้อดินของไหเขมรมักจะมีเม็ดกรวดเล็กๆปนอยู่เสมอแต่ไหลาวมักจะมีเนื้อดินเนียนละเอียดกว่า นอกจากไหแล้ว กลุ่มเตาในวัฒนธรรมล้านช้างยังผลิตภาชนะเคลือบสีเขียวขนาดเล็ก จำพวก ถ้วย-ชาม , กล้องยาสูบดินเผา, ตุ้มถ่วงแห ฯลฯ ชาม กระปุก อีกด้วย------------------------------------------------------------ข้อมูลโดย นายกิตติพงษ์ สนเล็ก นักโบราณคดีชำนาญการพิเศษ สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา------------------------------------------------------------แหล่งอ้างอิงข้อมูล สำนักงานศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา. รายงานการขุดแต่งโบราณสถานพระธาตุกุดจอก บ้านยางน้อย ตำบลบ้านยาง อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ. นครราชสีมา: สำนักงานศิลปากรที่ 12 นครราชสีมา. 2546. ปริวรรต ธรรมาปรีชากร และคณะ. ศิลปะเครื่องถ้วยในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: โอสถสภา. 2539. น.77-79.


เลขทะเบียน : กจ.บ.108/1:1ก.ชื่อเรื่อง : ตำรายาข้อมูลและลักษณะ : อักษรไทย ภาษาบาลี-ไทย เส้นจาร ฉบับลานดิบ ประวัติ : ได้มาจากวัดราษฎร์ประชุมชนาราม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2533 จำนวน 1คัมภีร์ 2 ผูกจำนวนหน้า : 198 หน้า




ชื่อเรื่อง                     วีรชนค่ายบางระจัน วีรกรรมชาวบางระจัน และลิลิตดั้นสดุดีบ้านบางระจันผู้แต่ง                       ภัทร ภู่งาม ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   ชีวประวัติ ประวัติศาสตร์เลขหมู่                      920.0593 ภ363วสถานที่พิมพ์               ลพบุรี  สำนักพิมพ์                 หัตถโกศลการพิมพ์ปีที่พิมพ์                    2510ลักษณะวัสดุ               70 หน้าหัวเรื่อง                     ไทย -- ชีวประวัติ                               ไทย -- ประวัติศาสตร์      ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกเนื้อหาภายในประกอบด้วยอธิบายเรื่องราวประวัติศาสตร์ สมัยกรุงศรีอยุธยาค่ายบางระจันและวีรกรรมของวีรชนชาวบ้านบางระจันที่ยอมเสียสละแม้แต่ชีวิตเป็นชาติพลี ต่อสู้ศัตรูเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทยไว้ให้ลูกหลาน เผยแพร่เกียรติคุณ ความกล้าหาญให้อนุชนรุ่นหลังได้ทราบ



เลขทะเบียน : นพ.บ.180/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  46 หน้า ; 5 x 58 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา, มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 102 (86-90) ผูก 4 (2565)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันธ์ขันธ์ --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


พุทฺธคุณ-สงฺฆคุณ (พุทธคุณ-สงฺฆคุณ)  ชบ.บ.58/1-1  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง                                สลากริวิชาสุตฺต (สลากวิชาสูตร) สพ.บ.                                  319/6 ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลาน หมวดหมู่                               พุทธศาสนา ลักษณะวัสดุ                           28 หน้า กว้าง 5.7 ซม. ยาว 57.7 ซม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                            บทคัดย่อ/บันทึก           เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี-ไทยอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


เลขทะเบียน : นพ.บ.277/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 34 หน้า ; 5 x 50.5 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องชาด ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 118  (240-247) ผูก 1 (2565)หัวเรื่อง : สวดมนต์(สับสวดมนต์)--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม




11 คำศัพท์ที่ผู้ใช้บริการควรรู้ เกี่ยวกับห้องสมุด  RU library's WebmasterNovember 11, 20210webpac, การค้นหาข้อมูล, ฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด, เทคนิคค้นหาข้อมูล, แนะนำฐานข้อมูล สำนักหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีบริการหลากหลายรูปแบบ และมีหลากหลายฐานข้อมูลออนไลน์สำหรับให้บริการ หนึ่งในนั้น คือ ภาพหน้าจอฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด (WebPAC) (เข้าใช้งานได้ที่ https://library.lib.ru.ac.th) ภายในฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด (WebPAC) ผู้ใช้บริการทั่วไป สามารถค้นหาข้อมูลของทรัพยากรสารสนเทศ ที่มีให้บริการภายในอาคารสำนักหอสมุดกลางมหาวิทยาลัยรามคำแหง เช่น หนังสือ ชื่อวารสาร วิทยานิพนธ์ สื่อต่างๆ รวมถึงค้นหาดรรชนีบทความวารสารและเอกสาร โดยมีความพิเศษในหน้าจอแสดงผลการค้นหา คือ ชมภาพปกและสารบัญของหนังสือได้ โดยคลิกที่ “Web Resource” หรือ “ปกและสารบัญ” ดาวน์โหลดวิทยานิพนธ์ ดุษฎีนิพนธ์ และงานวิจัยมหาวิทยาลัยรามคำแหง ฉบับเต็ม (Full Text) ได้ โดยคลิกที่ “RU eResearch” หรือ “ดุษฎีนิพนธ์ฉบับเต็ม (Full Text)” หรือ “วิทยานิพนธ์ฉบับเต็ม (Full Text)” ในหน้าจอสำหรับค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด (WebPAC) มี 11 คำศัพท์ที่ผู้ใช้บริการควรรู้ เกี่ยวกับห้องสมุด ดังนี้ ภาพคำศัพท์ที่ผู้ใช้บริการควรรู้ เกี่ยวกับห้องสมุด ที่พบในหน้าจอฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด (WebPAC) 1. Keyword (คำสำคัญ)เป็นการสืบค้นโดยการกำหนดคำสำคัญที่ใช้แทนเนื้อหาเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการ 2. Subject (หัวเรื่อง)เป็นการสืบค้นโดยใช้คำที่กำหนดขึ้นอย่างมีหลักเกณฑ์ เพื่อใช้แทนเนื้อหาของทรัพยากรสารสนเทศ 3. Title (ชื่อเรื่อง)เป็นการสืบค้นด้วยชื่อเรื่อง เช่น ชื่อหนังสือ ชื่อนวนิยาย ชื่อวิทยานิพนธ์ ชื่องานวิจัย เป็นต้น 4. LC Call No.เลขหมู่หนังสือระบบรัฐสภาอเมริกัน ที่สำนักหอสมุดกลางใช้ในการจัดหมวดหมู่ทรัพยากรสารสนเทศประเภทหนังสือทั่วไป เพื่อความสะดวกในการจัดเก็บและการค้นหา 5. ISBNคือ เลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือ (International Standard Book Number) เป็นเลขที่กำหนดขึ้นสำหรับสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือทั่วไปเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของหนังสือแต่ละชื่อเรื่อง 6. ISSNคือ เลขมาตรฐานสากลประจําวารสาร (International Standard Serial Number) เป็นเลขที่กำหนดขึ้นสำหรับสิ่งพิมพ์ประเภทวารสารแต่ละชื่อเรื่อง เพื่อใช้สำหรับการค้นข้อมูลวารสารการแลกเปลี่ยน และการติดต่อต่าง ๆ เกี่ยวกับวารสารให้ถูกต้อง สะดวก และรวดเร็ว 7. Author (ชื่อผู้แต่ง)เป็นการสืบค้นโดยใช้ชื่อบุคคลนามปากการ่วมถึงชื่อหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ 8. Advance Search (การค้นหาขั้นสูง)เป็นการกำหนดขอบเขตการค้นหาให้แคบลง เพื่อให้ได้ผลการสืบค้นที่ตรงตามความต้องการมากขึ้น 9. Locationตำแหน่งของทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรสารสนเทศนั้น ๆ ถูกจัดเก็บอยู่ที่ใด 10. Other Call No.เลขหมู่หนังสือระบบพิเศษที่สำนักหอสมุดกลาง ใช้สำหรับการจัดหมวดหมู่ทรัพยากรสารสนเทศลักษณะพิเศษ ได้แก่ ตำราเรียนมหาวิทยาลัยรามคำแหง นวนิยาย เรื่องสั้น สิ่งพิมพ์มหาวิทยาลัยรามคำแหง สิ่งพิมพ์รัฐบาล และสิ่งพิมพ์ลักษณะพิเศษอื่น ๆ 11. Statusสถานะของทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อแสดงรายละเอียดสถานะร่วมถึงความพร้อมที่จะใช้บริการของทรัพยากรสารสนเทศ ภาพคำศัพท์ที่ผู้ใช้บริการควรรู้ เกี่ยวกับห้องสมุด ที่พบในหน้าจอฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด (WebPAC) คำศัพท์น่าสนใจทั้ง 11 คำเหล่าที่แนะนำไว้ข้างต้น หากผู้ใช้บริการทราบความหมายแล้ว จะช่วยให้ค้นหาข้อมูลจากฐานข้อมูลทรัพยากรห้องสมุด (WebPAC) ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการดีมากยิ่งขึ้นแน่นอน คลิกดาวน์โหลด ภาพ Infographic เรื่อง 11 คำศัพท์ที่ผู้ใช้บริการควรรู้ เกี่ยวกับห้องสมุด ที่มาRamkhamhaeng University Library. (11 พฤศจิกายน 2564). CAT. STORY เรื่องนี้ที่อยากเล่า (11.11คำศัพท์ที่ผู้ใช้บริการควรรู้เกี่ยวกับห้องสมุด). ค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2564, จาก https://www.facebook.com/ramlibrary/posts/4993235314022767. ข้อมูลโดย ทีม CAT. Story จากหน่วยวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ ฝ่ายจัดการทรัพยากรสารสนเทศ


black ribbon.