ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรี นำเสนอองค์ความรู้เรื่อง เครื่องถ้วยเชลียง ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี .... เครื่องถ้วยไทยที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดที่พบในระบบการค้าทางทะเล คือ เครื่องถ้วยเชลียง เป็นเครื่องถ้วยต้นแบบของเครื่องถ้วยสังคโลก ในแหล่งโบราณคดีใต้น้ำพบในเรือรางเกวียนโดยพบร่วมกับเครื่องถ้วยเวียดนาม และเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน .... เครื่องถ้วยเชลียงเป็นผลิตภัณฑ์จากแหล่งเตาบ้านเกาะน้อย บ้านหนองอ้อ ทางเหนือเมืองศรีสัชนาลัยลักษณะเป็นภาชนะดินเผาแบบหยาบๆ เนื้อดินเหนียวสีคล้ำ และสีเทานวล เคลือบสีเขียวแกมเหลือง และสีเขียวแกมเทา สีน้ำตาล ภาชนะประเภทชามเคลือบสีเฉพาะด้านใน เครื่องเคลือบกลุ่มนี้ผลิตมาตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 17-19 โดยใช้เตาเผาแบบเตาขุดในดินผนังโบกยาดินเหนียว ถือได้ว่าเครื่องถ้วยเชลียงเป็นเครื่องถ้วยต้นแบบก่อนที่จะค่อยๆ พัฒนามาเป็นสังคโลกแบบสีเขียวไข่กา และชามลายปลา ลายพฤกษบุปผาในพุทธศตวรรษที่ 20-21 ที่เป็นสินค้าออกที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เครื่องถ้วยเชลียงที่พบในแหล่งโบราณคดีใต้น้ำ พบในแหล่งเรือจมรางเกวียนเพียงแห่งเดียว ประกอบด้วย ชาม 2 ใบ และ กระปุกจำนวน 11 ใบ .... อ้างอิง 1. สายันต์ ไพรชาญจิตร์,โบราณคดีสีคราม 2 : เครื่องถ้วยจากทะเล (กรุงเทพ : โครงการโบราณคดีใต้น้ำ กองโบราณคดี กรมศิลปากร,2532) 2. ปริวรรต ธรรมปรีชากร,สว่าง เลิศฤทธิ์ และกฤษฎา พิณศรี,ศิลปะเครื่องถ้วยในประเทศไทย (กรุงเทพ : โอสถสภา,2539) 3.กรมศิลปากร.ประวัติศาสตร์การพาณิชย์นาวีไทย.สำนักพิมพ์สมาพันธ์ จำกัด,2544


ประยูร พิศนาคะ.  พระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช.  พระนคร: เกษมบรรณกิจ, 2513.           รวบรวมพระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระมหากษัตริย์ของชาติไทยอย่างละเอียด ผู้ซึ่งเป็นวีรบุรุษแห่งชาติไทยในยุคกรุงศรีอยุธยา


ชื่อเรื่อง                    สพ.ส.24 ตำรายาแผนโบราณประเภทวัสดุ/มีเดีย      สมุดไทยขาวISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  เวชศาสตร์ลักษณะวัสดุ              9; หน้า : มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    เวชศาสตร์           ภาษา                      ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัติวัดสามทอง ต.ตลิ่งชัน  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 9 ส.ค.2538 



#วันนี้ในอดีตเมื่อวันที่ ๖ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๒๒พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ไปพระราชทานปริญญากิตติมศักดิ์ และพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา(รหัสภาพ ฉ/ร/๑๐๔๗)ผู้สนใจสามารถสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุเพิ่มเติมได้ที่ https://archives.nat.go.th/th-th/หรือสนใจสั่งซื้อหนังสือออนไลน์ https://shorturl.asia/9S6Uo


วันที่ ๑๙ กันยายน “วันพิพิธภัณฑ์ไทย”มติคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้กำหนดวันที่ ๑๙ กันยายนของทุกปี เป็นวันพิพิธภัณฑ์ไทย ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ 16/05/2538. ประมาณ พ.ศ.๒๓๙๖ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระที่นั่งราชฤดี สำหรับเก็บและรวบรวมวัตถุสิ่งของต่างๆ ที่ทรงได้มาก่อนขึ้นครองราชย์สมบัติ รวมทั้งบรรดาของขวัญ เครื่องราชบรรณาการจากต่างประเทศ ต่อมาไปตั้งแสดงในท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคม และพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ (พระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทในปัจจุบัน) และทรงเรียกว่า Royal Museum. ในวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๔๑๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานอาคารหอคองคอเดีย (Concordia Hall) หรือศาลาสหทัยสมาคมในปัจจุบัน อันเป็นอาคารสถาปัตยกรรมตะวันตก บริเวณทางเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สำหรับเป็นสโมสรทหารมหาดเล็ก จัดเป็น “มิวเซียม” พิพิธภัณฑสถานโดยย้ายวัตถุที่จัดแสดงในพระที่นั่งสมมติเทวราชอุปปัติ ซึ่งเดิมจัดแสดงในพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ใกล้ท้องพระโรงพระที่นั่งอนันตสมาคมในหมู่พระอภิเนาว์มาจัดแสดงในหอคองคอเดีย โดยแสดงสิ่งของต่างๆ ให้มหาชนนับแต่ในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ ๒๑ พรรษา วันที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ.๒๔๑๗ วัตถุจัดแสดงประกอบด้วยสิ่งของที่เป็นสิ่งผลิตโดยชาวสยาม และของจากห้างร้านของชาวต่างประเทศ และเปิดให้เข้าชมเมื่อถึงคราวงานเฉลิมพระชนมพรรษาในแต่ละปี. เมื่อกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญทิวงคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ย้ายพิพิธภัณฑสถานมาตั้งในพระที่นั่งพระราชวังบวรสถานมงคล หรือวังหน้า เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๐ โดยใช้พื้นที่จัดแสดงในพระที่นั่ง ๓ องค์ ได้แก่ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ และพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย เรียกว่ามิวเซียมหลวงที่วังหน้าหรือ The Royal Museum at Wang Na. พ.ศ.๒๔๔๕ ได้มีการจัดตั้ง “อยุธยาพิพิธภัณฑสถาน” ภายในพระราชวังจันทรเกษม นับเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งแรกที่มีการจัดตั้งขึ้นในหัวเมือง ซึ่งส่งผลให้เกิดพิพิธภัณฑสถานอีกหลายแห่งในจังหวัดต่างๆ ในเวลาต่อมา พิพิธภัณฑ์วังหน้าเปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๔๖๙ และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสำหรับพระนครเมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๖๙. ภายหลังเกิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในจังหวัดต่างๆ ขึ้น จนกระทั่งมีพระราชบัญญัติที่เกี่ยวเนื่องด้วยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ คือ พระราชบัญญัติว่าด้วยโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เมื่อ พ.ศ.๒๔๗๗ ทำให้พิพิธภัณฑสถานสำหรับพระนครเปลี่ยนชื่อเป็น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รวมไปถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอื่นๆ ในภูมิภาคมีฐานะเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติดังกล่าวด้วย. พ.ศ.๒๕๔๕ กรมศิลปากรซึ่งสังกัดกระทรวงศึกษาธิการเปลี่ยนมาสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม โดยแยกงานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ออกจากงานโบราณคดี จัดตั้งเป็นสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มีหน้าที่ดูแลกิจการพิพิธภัณฑสถานจัดตั้งโดยกรมศิลปากร สถาบันอื่นๆ และเอกชนด้วย.เอกสารอ้างอิงกรมศิลปากร. สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ. สมเด็จพระปิยมหาราช พระผู้พระราชทานกำเนิดพิพิธภัณฑสถานเพื่อประชา. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๗. เข้าถึงได้โดย https://dl.parliament.go.th/handle/lirt/447980





           เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดกิจกรรม “ส่งสุขวิถีใหม่ สืบสานวิถีไทย ปลอดภัยสร้างสรรค์” เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน ซึ่งกรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ถือฤกษ์ดีเปิดให้เข้าชมการจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารเครื่องทองอยุธยา ซึ่งเป็นส่วนจัดแสดงใหม่ ตั้งแต่วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป  


ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           47/1ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              82 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 150/7 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมสงฺคห) ชบ.บ 179/1งเอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)


          พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ขอเชิญชมนิทรรศการ "วาดศิลป์แผ่นดินชุมพรครั้งที่ ๑" จัดแสดงผลงานของศิลปินสีน้ำระดับประเทศและระดับนานาชาติกว่า ๑๐๐ ชิ้น แต่ละชิ้นก็มีเอกลักษณ์อันงดงามแตกต่างกัน ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๖ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ซึ่งอยู่ติดกับศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร เปิดทำการวันพุธ - วันอาทิตย์  เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ปิดทุกวันจันทร์ - วันอังคารตัวอย่างผลงาน


ชื่อผู้แต่ง          ปราโมทย์  ทัศนาสุวรรณ ชื่อเรื่อง           เที่ยวภาคใต้ ครั้งที่พิมพ์        พิมพ์ครั้งที่ ๒ สถานที่พิมพ์      กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์        มิตรภาพ ปีที่พิมพ์           ๒๕๒๐ จำนวนหน้า       ๑๘๒ หน้า รายละเอียด      เที่ยวภาคใต้เป็นสารคดีการท่องเที่ยว ๑๔ จังหวัดภาคใต้จากนักเขียนสารคดีท่องเที่ยวของภาคใต้จากประสบการณ์การท่องเที่ยวหลายครั้งแล้วนำเสนอข้อมูลแต่ละจังหวัดที่น่าสนใจ


black ribbon.