Search
Thai
English
กรมศิลปากร
The Fine Arts Department
หน้าหลัก
กรมศิลปากร
ประวัติและบทบาทหน้าที่
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
ผู้บริหารกรมศิลปากร
ผู้บริหารระดับสูง
ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ
ผู้อำนวยการสำนักส่วนกลาง
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากร
CIO
โครงสร้างองค์กร
บุคลากรดีเด่น
ยุทธศาสตร์/แผนปฏิบัติราชการ
แผนงาน/โครงการ/งบประมาณ
หน่วยงานในสังกัด
บริการประชาชน
พิพิธภัณฑ์เสมือนจริง
อุทยานเสมือนจริง
GIS (ระบบภูมิสารสนเทศแหล่งมรดกศิลปวัฒนธรรม)
NSW (ขอนำเข้า/ส่งออก โบราณวัตถุศิลปวัตถุ)
e-service (จดแจ้งการพิมพ์, ขอเลข ISSN, ISBN, CIP)
คลังข้อมูลดิจิทัล
จำหน่ายบัตรการแสดงออนไลน์
จำหน่ายหนังสือกรมศิลปากร
ศูนย์ข้อมูลงานศิลปกรรม
ระบบสืบค้นเอกสารจดหมายเหตุ
ศูนย์ข้อมูลข่าวสารฯ
อื่นๆ
คู่มือและมาตรฐานกรมศิลปากร
เอกสารดาวน์โหลด
แบบสำรวจความพึงพอใจของผู้เข้าใช้บริการ Virtual Museum / Virtual Historical Park
แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าใช้บริการ-เข้าชม (สำหรับครู-นักเรียน)
แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมศิลปากร
แจ้งและร้องเรียน
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
แบบสำรวจความพึงพอใจ
แหล่งเรียนรู้
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
อุทยานประวัติศาสตร์
หอสมุดแห่งชาติ
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ
ข่าวและกิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์
ข่าวกิจกรรม
ปฏิทินกิจกรรม
ข่าวรับสมัครงาน
จัดซื้อจัดจ้าง
ข่าว Feed
นิทรรศการ
นิทรรศการตู้พระธรรม
คลังวิชาการ
องค์ความรู้
ด้านดนตรีและนาฏศิลป์
ด้านภาษาและหนังสือ
ด้านเอกสารจดหมายเหตุ
ด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์
ด้านสถาปัตยกรรมและช่างศิลป์
ความรู้ทั่วไป
ความรู้ด้านดนตรีและนาฏศิลป์
ความรู้ด้านภาษา หนังสือ และเอกสาร
ความรู้ด้านโบราณคดีและพิพิธภัณฑ์
ความรู้สถาปัตยกรรมและช่างศิลป์
วีดิทัศน์
หนังสืออิเล็กทรอนิกส์.
คลังภาพทรงคุณค่า
กฏระเบียบ
กฎหมายและระเบียบ
ITA
ช่องทางแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตและประพฤติมิชอบ
องค์กรคุณธรรม
กระดานถาม-ตอบ
ติดต่อ
ITA.
หน้าแรก
คลังวิชาการ
ความรู้ทั่วไป
งาพลายชมภู
งาพลายชมภู
สมัยรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ ๒๕
เป็นของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร มาแต่เดิม
ปัจจุบันจัดอยู่ที่พระที่นั่งวสันตพิมาน (ชั้นบน) หมู่พระวิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
งาช้างยาวประมาณ ๒ เมตร รองรับด้วยฐานไม้กลมปิดทองล่องชาด และอีกกิ่งรองรับด้วยฐานไม้กลมจำหลักลายพรรณพฤกษา
พลายชมภู เป็นชื่อช้างที่ขึ้นระวางสังกัดโรงช้างวังหน้า โดยอยู่ในทำเนียบช้างพลายวิเศษ สำหรับงาพลายชมภูคู่นี้ เป็นงาของพลายชมภูที่ขึ้นระวางในรัชกาลที่ ๔-๕ โดยเป็นช้างพลายที่ชาวกรุงเทพฯ รู้จักคุ้นเคย เหตุเพราะในฤดูหนาวช่วงเดือนธันวาคม-เดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาที่ช้างพลายมีอาการตกมัน ช้างบางตัว จะดุร้ายชอบไล่แทงคน คนสมัยก่อนจึงมีกีฬาการละเล่น “ล่อช้างตกน้ำมัน” ในช่วงเวลานี้ของปี
ก่อนจะพาช้างตกน้ำมันลงอาบน้ำที่ท่าช้าง (วังหน้า) จะมีการตีฆ้องบอกสัญญาณมาตามทางก่อน เมื่อช้างตกน้ำมันออกจากโรง ผู้ที่มีใจกล้ามาเป็นผู้ผัด* กลุ่มหนึ่งเข้าล่อข้างหน้าช้างให้ไล่มาพักหนึ่ง จากนั้นพวกคนผัดกลุ่มที่อยู่ข้างหลัง ก็เข้าล่อให้ช้างกลับย้อนไปไล่ทางเดิม ช้างวิ่งไล่ไปทางไหน คนที่คอยดูอยู่โดยรอบก็จะพากันวิ่งหนี แม้เป็นที่ลุ้นระทึกและเสี่ยงอันตรายของผู้ผัดล่อ แต่ก็เป็นความสนุกของผู้ที่ชอบความโลดโผนและความเสี่ยงภัย
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงพระนิพนธ์ถึง “พลายชมพู” ในการล่อช้างตกน้ำมันว่า
“...เวลาช้างเช่นนั้นตกน้ำมัน กรมช้างไม่เอาไปลงน้ำแต่เช้าตรู่เหมือนช้างอื่น รอไว้จนถึงเวลาเช้าราว ๘ นาฬิกา เมื่อคนจ่ายตลาดกันเสร็จแล้ว จึงเอาช้างตกน้ำมันตัวนั้นไปลงน้ำ และอนุญาตให้คนเข้าผัดล่อได้ ก็เกิดเป็นการสนุก ชอบใจคนทั้งหลายทั้งพวกอยากดูและพวกคะนองที่อยากเสี่ยงภัยล่อช้างเล่นให้สนุก คงมีช้างพลายบางตัวที่ตกน้ำมันทุกปี และชอบไล่คนจนขึ้นชื่อลือนามมาทุกรัชกาล ว่าตามที่ฉันเคยได้ยินชื่อ...ในรัชกาลที่ ๕ มีพลายศักดิ์ตัวหนึ่ง กับพลายชมพูอยู่ในโรงวังหน้าตัวหนึ่ง ฉันได้เคยแต่ดูสองตัวที่ออกชื่อข้างหลังเมื่อฉันยังเป็นนักเรียนนายร้อยทหารมหาดเล็ก**...”
*ความหมายหนึ่งของคำว่า “ผัด” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ หมายถึง “ย้ายไปย้ายมา หมุนไปมา ล่อให้ไล่”
**ประมาณ พ.ศ. ๒๔๒๐
อ้างอิง
มูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา. ทำเนียบนามภาค ๑-๔ และ ทำเนียบนามข้าราชการวังหลัง. กรุงเทพฯ: มติชน, ๒๕๖๓.
ดำรงราชานุภาพ, สมเด็จฯ กรมพระยา. นิทานโบราณคดี. พิมพ์ครั้งที่ ๑๕. กรุงเทพฯ: บรรณาคาร,๒๕๔๓.
ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๖.
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 กรมศิลปากร. กระทรวงวัฒนธรรม -
นโยบายเว็บไซต์
|
มาตรฐาน