ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,831 รายการ
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The MET) สหรัฐอเมริกา แจ้งความประสงค์ส่งคืนโบราณวัตถุประติมากรรมสำริด 2 รายการ ซึ่งมีหลักฐานว่าถูกนำออกจากประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ที่รู้จักกันในนามโกลเด้นบอย (Golden Boy) และประติมากรรมรูปสตรี จึงมอบหมายให้กรมศิลปากรประสานรายละเอียดขั้นตอนการรับมอบโบราณวัตถุ 2 รายการดังกล่าว ขณะนี้พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The MET) ได้แจ้งให้ประเทศไทยส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมตรวจสอบโบราณวัตถุที่จะส่งคืน โดยได้มอบหมายให้ นางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร เดินทางไปร่วมตรวจสอบ ในวันที่ 25 เมษายน 2567 เวลา 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งในการนี้จะได้มีการหารือถึงรายละเอียดและกำหนดเวลาในการส่งคืน นอกจากนี้ ยังจะมีการลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างกรมศิลปากร และ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The MET) เพื่อความร่วมมือทางวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ โดยมีนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร และนายแมกซ์ ฮอลเลน ผู้อำนวยการและประธานกรรมการบริหารพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทโพลิทัน เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจ และมีนางสาวสมใจ ตะเภาพงษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นสักขีพยาน
นายเสริมศักดิ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ยังได้เปิดเผยต่อไปว่า การส่งคืนโบราณวัตถุในครั้งนี้ พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The MET) จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งคืน และคาดว่าจะมาถึงประเทศไทยราวเดือนพฤษภาคม ซึ่งถือเป็นข่าวดีของชาวไทยทั้งประเทศ ที่จะได้รับโบราณวัตถุล้ำค่ากลับคืนสู่ประเทศไทย โดยรายละเอียดความคืบหน้าจะได้แจ้งให้ทราบเป็นระยะต่อไป
ภาพ : เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา
1. นายจอห์น กาย ภัณฑารักษ์อาวุโสสาขาศิลปะเอเซียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แผนกศิลปะเอเซีย พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน
2. นางสาวนิตยา กนกมงคล ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร
3. นายแมกซ์เวลล์ เค.เฮิร์น ประธานมูลนิธิดักลาส ดิลเลียน หัวหน้าแผนกศิลปะเอเซีย พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน
4. นางสาวสมใจ ตะเภาพงษ์ กงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
กรมศิลปากรชวนร่วมฉลองศรีเทพมรดกโลก ชมโขน และการแสดงมหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพ Si Thep World Heritage Illumination 2024
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญร่วมกิจกรรมภายใต้โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวยามค่ำคืน อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ยลโขนมรดกโลกสัญจร ตระการตากับการแสดงมหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพ Si Thep World Heritage Illumination 2024 ภาพ เสียง และสีสันสุดอลังการ เฉลิมฉลองเมืองโบราณศรีเทพได้รับการประกาศเป็นแหล่งมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า ตามที่เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานในสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง เข้าสู่บัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรมได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2566 นับเป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของไทย เกิดกระแสมีผู้เข้าเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพมากขึ้นกว่า 10 เท่า และนับจากวันที่ได้รับมรดกโลกจนถึงขณะนี้มีนักท่องเที่ยวครบ 1 ล้านคนแล้ว กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จึงจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสดังกล่าว ณ โบราณสถานเขาคลังนอก อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ระหว่างวันที่ 3 – 5 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 18.00 – 21.00 น. เพื่อให้ประชาชนได้สัมผัสบรรยากาศการท่องเที่ยวโบราณสถานสำคัญที่สวยงามในช่วงค่ำคืน โดยมีกิจกรรม ประกอบด้วย
1. นิทรรศการ 120 ปี แห่งการค้นพบเมืองโบราณศรีเทพ นำเสนอข้อมูลนับตั้งแต่การค้นพบเมืองโบราณร้างในเขตมณฑลเพชรบูรณ์ ในปี พ.ศ. 2447 สู่เมืองโบราณศรีเทพ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าโดดเด่น จนได้รับการยอมรับว่าเป็น “เมืองมรดกโลก” ในปัจจุบัน
2. กิจกรรมส่งเสริมการสร้างงานศิลปกรรมแก่ชุมชน ชมการสาธิตการทอผ้า การจักสาน และผลิตภัณฑ์จากชุมชนเมืองโบราณศรีเทพ ที่ออกแบบโดยสำนักช่างสิบหมู่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงานศิลปกรรม ที่พบ ณ เมืองโบราณศรีเทพ
3. การแสดง Light & Sound “มหัศจรรย์แสงแห่งศรีเทพ Si Thep World Heritage Illumination 2024” ด้วยเทคนิคการฉาย Projection Mapping บนโบราณสถานเขาคลังนอก ชมการเติมเต็ม ต่อยอดมหาสถูปเขาคลังนอกเป็นครั้งแรกผ่านการฉายแสงเลเซอร์ และอุโมงค์แสง 4. ยลโขนมรดกโลกสัญจร เยือนนครประวัติศาสตร์ศรีเทพ พิเศษในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เวลา 20.00 – 21.30 น. พบกับการแสดงโขน ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากยูเนสโก โดยสำนักการสังคีต นำการแสดง โขน ตอนลักนางสีดา ยกรบ ไปจัดแสดงท่ามกลางความงดงามของโบราณสถานยามค่ำคืน พร้อมการแสดงระบำศรีเทพที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ด้วยแนวคิดการประดิษฐ์ท่ารำจากลักษณะทางสถาปัตยกรรม โบราณวัตถุ รวมทั้งประติมากรรมปูนปั้นที่ฐานของโบราณสถาน
นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษการถ่ายภาพลงตราไปรษณียากร “Personalized Stamp” และการแสดงดนตรีและนาฏศิลป์พื้นบ้าน โดยนักเรียนและชาวบ้านในชุมชนโดยรอบเมืองโบราณศรีเทพ อีกด้วยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.sithep.org
วันศุกร์ที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๗ นางสาวปุณณภา สุขสาคร ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ เข้าร่วมประชุมผู้บริหารกรมศิลปากร ครั้งที่ ๗/งป.๒๕๖๗ ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meetimg
วันที่ 23-26 เมษายน 2567 กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 8 ขอนแก่น เข้าดำเนินการสำรวจรังวัดทำผังโบราณสถานและเขียนแบบ ออกแบบ สภาพปัจจุบันและแบบบูรณะ ณ หอแจก วัดสุคนธราราม ตำบลดงบัง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ
ขอเชิญชมนิทรรศการเนื่องในวันข้าราชการพลเรือน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ หัวข้อ "ข้าราชการยุคใหม่ พัฒนาประเทศไทย ใส่ใจประชาชน" ได้ที่นี่ https://www.thaicivilserviceday.com/ministry/Ministry_of_Culture
วันที่ 24 เมษายน 2567 เวลา 10.30 น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวส่งมอบผลงานการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม จำนวน 894 รายการ (ผูก) พร้อมหนังสือบัญชีทะเบียนคัมภีร์ใบลาน และมอบเกียรติบัตรแก่อาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร โดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ ดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามกับกรมศิลปากร เพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม ถึงวันที่ 21 มีนาคม 2567 ระยะเวลา 2 เดือน ทำการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลาน จำนวน 894 รายการ (ผูก) โดยบูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร คณะสงฆ์ และประชาชน สร้างการรับรู้อย่างเป็นรูปธรรม เกิดเครือข่ายอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) เพิ่มขึ้น จำนวน 7 รูป/คน ความสำเร็จของการดำเนินงานครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่สร้างความมั่นใจในการเป็นผู้นำการอนุรักษ์ให้กับประชาชน และสร้างการรับรู้แบบตรงไปตรงมาแก่ชุมชนท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดเอกสารโบราณ โดยมีวัดเป็นแหล่งเอกสารโบราณและคณะสงฆ์เป็นผู้เก็บรักษาสมบัติล้ำค่าเหล่านี้ไว้ สรุปผลความสำเร็จของการดำเนินงานได้ ดังนี้
1. กรมศิลปากร อนุรักษ์จัดเก็บและจัดทำทะเบียนคัมภีร์ใบลาน ซึ่งเป็นการจัดระบบคัมภีร์ใบลานเพื่อให้บริการตามหลักวิชาการ ออกเลขทะเบียนบัญชีรายชื่อคัมภีร์ใบลานจำนวน 67 มัด มีเลขทะเบียน 144 เลขที่ รวมทั้งสิ้นจำนวน 894 ผูก ถือว่าเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้กลางกรุงที่สำคัญ
2. ความสำคัญของคัมภีร์ใบลานเทียบเท่าความสำคัญของวัดซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 4 เนื่องจากเป็นคัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกซึ่งประดิษฐานอยู่ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม ภายในพระบรมมหาราชวังมาแต่เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จึงถือว่าเป็นคัมภีร์ใบลานพระไตรปิฎกฉบับหลวงประจำรัชกาลที่ 4 ด้วยเช่นกัน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดให้อัญเชิญคัมภีร์พระไตรปิฎกชุดนี้ มาประดิษฐาน ณ วัดราชประดิษฐฯ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนมากขึ้น
3. จากการสำรวจ อนุรักษ์จัดเก็บ พบว่า มีคัมภีร์ใบลานฉบับทรงสร้างซ่อมเติมเต็มฉบับที่หายไปในรัชกาลก่อน ซึ่งในแหล่งเอกสารโบราณวัดราชประดิษฐฯ นี้ รัชกาลที่ 5 ทรงสร้างซ่อมคัมภีร์บางฉบับที่หายไปในรัชกาลที่ 4 เพื่อทำให้สมบูรณ์เต็มชุด จึงเรียกว่าคัมภีร์ใบลานฉบับหลวงทรงสร้างซ่อม หรือคนทั่วไปเรียกว่า คัมภีร์ใบลาน 2 รัชกาล เนื่องจากมีตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 4 อยู่ด้านซ้าย และตราพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 5 อยู่ด้านขวา ของปกคัมภีร์ใบลาน โดยสรุปมีคัมภีร์สำคัญ ได้แก่ วรด.1-3 (วัดราชประดิษฐฯ เลขที่ 1-3) เรื่อง อนาคตวังสะ สมัยรัชกาลที่ 4 อายุประมาณ 170 ปี, วรด.14,17,28-32,83,98 (วัดราชประดิษฐฯ เลขที่ 14,17,28-32,83,98) เรื่อง วังสมาลินี, อรรถกถาสังยุตตนิกาย, ฎีกามหาวงศ์, โยชนาอภิธัมมัตถสังคหะและปุคคลบัญญัติ ฉบับหลวงสร้างซ่อม รัชกาลที่ 5 อายุ 139 ปี
4. คัมภีร์ใบลานสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 ได้รับการอนุรักษ์จัดเก็บอย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ โดยใช้ไม้ประกับประกบด้านข้างของคัมภีร์เพื่อเป็นการรักษาทรงไม่ให้โค้งงอ ส่วนกล่องบรรจุคัมภีร์ที่มีมาแต่เดิม จำนวนทั้งสิ้น 87 กล่อง ถือเป็นโบราณวัตถุที่มีความสำคัญเพราะสร้างโดยประณีตศิลป์ เพื่อเก็บรักษาคัมภีร์ มีข้อความจารึกฝังที่สันกล่องระบุปี จ.ศ.1247 (พ.ศ.2428) กล่องประณีตศิลป์นี้จึงมีอายุอย่างน้อย 139 ปี จึงถ่ายโอนภารกิจนี้ให้กับสำนักช่างสิบหมู่ดำเนินการอนุรักษ์ซ่อมแซมต่อไป
5. ขยายเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์รักษาเอกสารโบราณเพิ่มเติมจากปีงบประมาณ 2566 ที่ผ่านมา โดยการอบรมจัดตั้งสมาชิก (อส.มศ.) ตามหลักสูตรอบรมจัดตั้งเป็นเวลา 2 วัน มีผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 7 รูป/คน จึงถือเป็นการร่วมมือระหว่างวัด กรมศิลปากร และภาคส่วนประชาชน เป็นอย่างดี ตามโครงการความร่วมมือระหว่างวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามกับกรมศิลปากรเพื่อเผยแพร่ผลงานการอนุรักษ์จัดเก็บคัมภีร์ใบลานวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม สร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมให้แก่คณะสงฆ์และประชาชนเพิ่มขึ้น
สยามินทร์ สยามใหม่ โทรคมนาคมใต้ร่มพระบารมี. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: เอส.ซี.พับลิเคชั่น, 2560.231 หน้า. ภาพประกอบ.
เนื้อหาในเล่มนี้นำเสนอเรื่องพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร กับการสื่อสารโทรคมนาคมไทย พระปรีชาสมารถด้านการสื่อสาร จากเทเล็กซ์ แฟกซ์ ถึงโทรศัพท์และโทรศัพท์เคลื่อนที่ พระบิดาแห่งเทคโนโลยี พระราชกรณียกิจด้านดาวเทียม พระมหากษัตริย์นักพัฒนา นักปราชญ์ไอซีที เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม
384
ค121ส
ฉ.01 ( ห้องศาสตร์พระราชา )
สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉบับเสริมการเรียนรู้ เล่ม 3. พิมพ์ครั้งที่ 12. กรุงเทพฯ: โครงการสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, 2555. 196 หน้า. ภาพประกอบ. 80 บาท.
สาระในเล่มคือเรื่องลำดับพระมหากษัตริย์ไทย สมัยรัฐโบราณบนแผ่นดินไทย สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี สมัยรัตนโกสินทร์ เรื่องสังคมและวัฒนธรรมไทยความหมายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ลักษณะสำคัญของสังคมและวัฒนธรรมไทยทั้งในสมัยสุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ สมัยการปฏิรูปประเทศ สมัยประชาธิปไตย เรื่องภูมิปัญญาชาวบ้านความหมาย องค์ประกอบ ภูมิปัญญาด้านการทำมาหากิน ด้านการรักษาสุขภาพอนามัย ด้านการอยู่ร่วมกันในสังคม ด้านงานประเพณีทางศาสนาและการเคารพบูชาสิ่งเหนือธรรมชาติ ด้านการสร้างสรรค์ทางศิลปะ ภูมิปัญญาชาวบ้านในสังคมไทยปัจจุบัน การอนุรักษ์ฟื้นฟูและพัฒนาหัตถกรรมพื้นบ้าน
039.95911
ส678
ล.3 (ห้องศาสตร์พระราชา)
กฤตภาคข่าวท้องถิ่น
เรื่อง สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเปิดตัวโครงการ "แก้วกล้า เพื่อเธอ"
ส่งเสริมการอ่านผ่าน Facebook กับหอสมุดแห่งชาติชลบุรี
เรื่อง อย่าสูญเสียกำลังใจ ลุกขึ้นให้ได้ทุกครั้งที่ล้มลง
เฌอมาณย์ รัตนพงศ์ตระกูล. อย่าสูญเสียกำลังใจ ลุกขึ้นให้ได้ทุกครั้งที่ล้มลง. กรุงเทพฯ: บิ๊ก ไอเดีย, 2562
ห้องหนังสือทั่วไป 1 เลขเรียกหนังสือ 152.42 ฌ999อ
ตราบใดที่โลกยังคงมีฤดูกาลที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปทุกชีวิตย่อมจะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง หลายคนไม่อาจทำใจยอมรับได้ในทันทีซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความกดดันหรือบีบคั้นใดๆ ก็ตาม จนเกิดเป็นความเหน็ดเหนื่อยท้อแท้ในชีวิต หรือบางคนก็จมอยู่กับความอ่อนแอและสิ้นหวัง จนปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปอย่างน่าเสียดาย
อย่าสูญเสียกำลังใจ ลุกขึ้นให้ได้ทุกครั้งที่ล้มลง เล่มนี้ ผู้เขียนพาเราไปพบกับ ข้อคิดสำหรับคนที่กำลังเหนื่อยและท้อกับชีวิต โดยการยืนหยัดด้วยหัวใจที่เข้มแข็งแม้ว่าต้องเจอกับอุปสรรคปัญหาใดๆ ก็ตาม เพราะนั่นคือสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญไม่มีใครปฏิเสธได้ แต่สามารถเลือกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ โดยการแบ่งชีวิตออกเป็น 2 ส่วน คือ ชีวิตด้านนอก หมายถึง การใช้ชีวิตตามปกติ และชีวิตด้านใน หมายถึง จิตใจ ที่ไม่ควรนำเอาเหตุการณ์สับสนวุ่นวายต่างๆ เข้ามารบกวน แต่จงสร้างความสงบนิ่งและความผ่อนคลายให้เกิดขึ้นภายในจิตใจ และปรับมุมมองต่อปัญหาที่เข้ามาในชีวิตว่าเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แม้ในบางครั้งอาจทำได้ยากก็ตาม แต่การปลุกใจตัวเองเช่นนั้นก็เท่ากับการเอาชนะปัญหาไปได้ครึ่งทางแล้ว อีกครึ่งทางที่เหลือคือการแก้ไขอย่างเต็มกำลังความสามารถ เพราะเมื่อใดก็ตามที่มองว่าปัญหานั้นใหญ่เกินแก้ เมื่อนั้นความเชื่อมั่นก็จะถูกทำลายลงไป และก่อให้เกิดความรู้สึกยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มต้น อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ช่วยปลุกพลังใจในการใช้ชีวิต คือ การให้กำลังใจตนเอง ไม่ควรรอกำลังใจจากคนอื่น เพราะทุกๆ การล้มลงจะไม่มีใครฉุดรั้งให้เราลุกขึ้นยืนได้ดีเท่ากับพลังใจในตัวเรา ซึ่งสอดคล้องกับคำสอนทางพุทธศาสนา ที่กล่าวไว้ว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ซึ่งหมายถึงการเรียนรู้ที่จะจัดการเรื่องราวในชีวิตด้วยความรับผิดชอบและความพยายามของตนเอง การพึ่งพาตนเองจะเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีครูคนใดสอนได้ ทุกๆ ประสบการณ์ไม่ว่าดีหรือร้ายจะทำให้เราเติบโตและแข็งแรงขึ้น อีกทั้งช่วยให้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิต ส่งผลให้ทุกการก้าวเดินเต็มไปด้วยความหนักแน่น มั่นคง และนำไปสู่จุดมุ่งหมายที่ดีที่สุดของชีวิต ผู้สนใจสามารถหาอ่านได้ที่หอสมุดแห่งชาติชลบุรี (วันอังคาร – วันเสาร์ เวลา 09.00 - 17.00 น.)
กฤตภาคข่าวท้องถิ่น
เรื่อง การคัดเลือกผู้ทำคุณประโยชน์ต่อกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปี 2567