ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ

๑.  ผู้เข้าร่วมประชุม           ชื่อ / นามสกุล             นางสุภาณี  สุขอาบใจ                                                           ตำแหน่งปัจจุบัน           บรรณารักษ์ ระดับชำนาญการพิเศษ                                  หน่วยงาน                  กลุ่มพัฒนาทรัพยากรสารสนเทศ สำนักหอสมุดแห่งชาติ   ๒.  หัวข้อการประชุม           “Adding value through international cooperation”   ๓.  วัตถุประสงค์การประชุม           ๓.๑  เพื่อแลกเปลี่ยนทรัพยากรสารสนเทศและส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย           ๓.๒  เพื่อสนับสนุนห้องสมุดของประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียที่มีการพัฒนาน้อย ผ่านความร่วมมือ ๓.๓  เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ความรู้ด้านห้องสมุดของประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย   ๔. ประโยชน์ที่ได้รับ           ๔.๑  เกิดความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนทรัพยากรสารสนเทศของห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียและ โอเชียเนีย            ๔.๒  มีความเข้าใจในศิลปะของการพัฒนาห้องสมุดของประเทศในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย   ๕.  ระยะเวลา    วันที่ ๘ - ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙   ๖.  สถานที่ประชุม           หอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์ เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์   ๗.  หน่วยงานผู้จัด           หอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์   ๘.  จำนวนผู้เข้าร่วมประชุม           ผู้เข้าประชุม จำนวน ๒๕ คน จาก ๑๗ ประเทศ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย จีน หมู่เกาะคุก ฟิจิ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ปาปัวนิวกินี ฟิลิปปินส์ ซามัว สิงคโปร์ หมู่เกาะโซโลมอน ไทย ติมอร์-เลสเต้ และ เวียดนาม (สำหรับประเทศสมาชิกที่มีการแจ้งเป็นทางการไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ คือ ประเทศบรูไนดารุสซาราม เมียนมาร์ เนปาล ศรีลังกา และตูวาลู) ๙.  กิจกรรม วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๗.๓๐-๑๘.๓๐ น. - งานเลี้ยงต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมประชุม ณ หอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์ วันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๘.๒๐ - ๘.๔๐ น.   - ลงทะเบียน เวลา ๘.๔๐ - ๑๐.๐๐ น. - พิธีเปิดการประชุม (Opening Session) กล่าวต้อนรับ (welcome  address) โดย Mr. Hon Peter Dunne, Minister of Internal Affairs                                     - กล่าวเปิดการประชุม (Opening address) โดย Mr. Bill Macnaught ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์ ประธานการประชุม เวลา ๑๐.๓๐ – ๑๒.๐๐ น. รายงานผลการดำเนินงานของ CDNLAO                                                  ๑. การรับรองรายงานการประชุม CDnLAO ครั้งที่ ๒๓ มติที่ประชุมรับรองรายงานการประชุม CDNLAO ครั้งที่ ๒๓ ที่ประเทศไทย           ๒. หอสมุดแห่งชาติญี่ปุ่นในฐานะผู้ดูแลเว็บไซต์แจ้งที่ประชุมว่าจะมีการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ หากประเทศสมาชิกใดมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล เช่น Web Facebook Twitter YouTube Instagram Blogs ขอให้แจ้งหอสมุดแห่งชาติญี่ปุ่นที่ Email: kokusai@ndl.go.jp ๓. การเป็นเจ้าภาพในการจัดประชุม CDNLAO ครั้งต่อไป มติที่ประชุมเห็นชอบให้หอสมุดแห่งชาติ จีน เป็นเจ้าภาพการประชุมผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติของประเทศแถบเอเชียและโอเชียเนีย (CDNLAO) ครั้งที่ ๒๔ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๐           เวลา ๑๓.๓๐ – ๑๕.๓๐ น. การเยี่ยมชมหอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์             ชั้น ๑  เปิดบริการสำหรับผู้ใช้บริการทุกคนสามารถเข้าใช้ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียนแต่สามารถใช้ได้ผ่าน lifeline table ที่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าที่ผู้ใช้สามารถใช้บริการภาพถ่าย บทความในหนังสือพิมพ์ ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของคนนิวซีแลนด์ เคาน์เตอร์บริการตอบคำถามมีรูปร่างเหมือนเรือแคนูซึ่งแสดงให้เห็นถึงการออกเดินทางค้นหาข้อมูล นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับจัดนิทรรศการ มีการจัดแผนที่โลกขนาดใหญ่สำหรับผู้เข้าเยี่ยมชมจากทุกมุมโลกจะสามารถทำเครื่องหมายประเทศของตนได้ นอกจากนี้มีพื้นที่สาธารณะเรียกว่า มุม net.work สำหรับผู้ใช้สามารถเข้ามานั่งทำงาน พักผ่อน ติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องพิมพ์ไว้บริการแต่ผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่าย ตั้งอยู่บริเวณใกล้มุมกาแฟและของที่ระลึกอีกทั้งมีการนำเสนอภาพศิลปะขนาดใหญ่เพื่อแสดงตำนานการสร้างโลกของชาวเมารี เป็นตำนานเทพเจ้าแห่งป่าและนกนำแสงไปทั่วโลก ดังนั้นเพดานของอาคารหอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์เป็นสีดำและผนังเป็นสีขาวเฃเสมือนเป็นตัวแทนของความมืดและสว่าง คุณลักษณะของพื้นที่สาธารณะอีกประการหนึ่งคือห้องโถงกับบอร์ดขนาดใหญ่ที่จัดแสดงศิลปะตำนานการสร้างโลกของชาวเมารี ในตำนานเทพเจ้าแห่งป่าและนกนำแสงไปทั่วโลกโดยการแยกพ่อแม่ของพวกเทพเจ้าแห่งฟากฟ้าและแผ่นดิน ดังนั้นเพดานที่หอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์เป็นสีดำและผนังเป็นสีขาวจึงเป็นตัวแทนของความมืดและความสว่าง   ชั้น ๒  เป็นห้องบริการหนังสือสำหรับผู้ใช้โดย ประกอบด้วยห้องบริการหนังสือทั่วไปทุดหมวดหมู่วิชาและห้องหนังสือหายากที่มีคุณค่าทางมรดกวัฒนธรรมของชาติหนังสือที่เกี่ยวข้องกับชาวเมารี นอกจากนี้ยังจัดแบ่งหนังสือเป็นคอลเลกชันย่อย ได้แก่ คอลเลกชั่นโอเชียเนีย คอลเลกชั่นภาพ เป็นต้น          ห้องสมุดอเล็กซานเดอร์ (Alexander Turnbull Library) เป็นห้องสมุดย่อยที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น ๒ ของหอสมุดแห่งชาตินิวซีแลนด์ มีการรวบรวมทรัพยากรสารสนเทศที่มีคุณค่าเกี่ยวกับประเทศนิวซีแลนด์และแปซิฟิกหลายประเภท ได้แก่ หนังสือต้นฉบับ ภาพถ่าย ภาพวาด ภาพพิมพ์ ต้นฉบับเพลง หนังสือพิมพ์เก่า แผนที่ และเทปประวัติบุคคลสำคัญ เป็นต้น วันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๙ การบรรยายเรื่องที่เกี่ยวกับห้องสมุดของประเทศต่าง ๆ รวม ๕ ประเทศ ประกอบด้วย สาธารณรัฐเกาหลี สิงคโปร์ คุกไอส์แลนด์ ปาปัวนิวกินี และสาธารณรัฐฟิจิ   Dr. Wonsun Lim, ประธานบริหารหอสมุดแห่งชาติเกาหลี บรรยายเรื่อง “Sending Books to our libraries”           หอสมุดแห่งชาติเกาหลีมีการดำเนินการในเรื่องบริจาคหนังสือและสิทธิประโยชน์ที่ได้รับทางภาษีของผู้บริจาค เพื่อเป็นการส่งเสริมให้มีการบริจาคหนังสือภายในประเทศ มีการกำหนดใช้ใน พรบ.หอสมุดแห่งชาติเกาหลี มาตรา 9 ที่ว่าด้วยเรื่อง Donation of money, etc ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากการบริจาคหนังสือและหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ คือ การบริจาคหนังสือ 30 ล้านเล่ม หรือน้อยกว่าจะได้รับยกเว้นภาษี 15% หรือถ้าบริจาคหนังสือมากกว่า 30 ล้านเล่ม ได้รับการยกเว้นภาษี 25% มีการกระจายทรัพยากรสารสนเทศของประเทศอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ และเป็นการกระตุ้นให้บริจาคหนังสืออย่างแพร่หลาย Ms. Ai Cheng Tay รองประธานฝ่ายบริหารคณะกรรมการหอสมุดแห่งชาติสิงคโปร์ บรรยายเรื่อง “International collaboration in the region and how to contribute” สรุปประเด็นสำคัญดังนี้ สหพันธ์ระหว่างประเทศว่าด้วยสมาคมและสถาบันห้องสมุด (IFLA) เป็นองค์กรระหว่างประเทศทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการดูแลรักษาผลประโยชน์ด้านต่าง ๆ ของห้องสมุดทุกภูมิภาคทั่วโลก สำหรับห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียเป็นสมาชิกสหพันธ์ระหว่างประเทศฯ จำนวน ๑๘๒ แห่งใน ๓๔ ประเทศ และห้องสมุดในภูมิภาคโอเชียเนีย จำนวน ๘๒ แห่ง ใน ๕ ประเทศ มีการดำเนินกิจกรรมสนับสนุนงานห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ดังนี้ ๑)      Signatures for Lyon Declaration (Importance of Libraries in Developing Countries) เป็นการลงนามตามประกาศลียงเกี่ยวกับความสำคัญของห้องสมุดในประเทศกำลังพัฒนา ๒)  การเสนอข้อเปลี่ยนแปลงเรื่องลิขสิทธิ์เกี่ยวกับการบริการข้อมูลของห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียในพระราชบัญญัติทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) ๓)  การประชุมเครือข่ายห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ๔)  การอภิปรายเกี่ยวกับการเข้าถึงข้อมูลของตัวแทนห้องสมุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ๕)  การนำเข้าข้อมูลใน UN 2030 SDGs IFLA toolkit        ๖)  การบริจาคหนังสือให้ห้องสมุดในประเทศเมียนมาร์ จำนวน ๕๐,๐๐๐ จัดโดยสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศสิงคโปร์ หอสมุดแห่งชาติเมียนมาร์ และสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศเมียนมาร์ ๗. การประชุมใหญ่สามัญ ครั้งที่ ๑๙ ของสมาคมเอกสารโบราณว่าด้วยสื่อโสตทัศนวัสดุแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ๘. การให้ความช่วยเหลือเพื่อพัฒนาห้องสมุดในภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ ห้องสมุดเคลื่อนที่ มุมหนังสือเด็ก และ การจัดการอบรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษ ประเทศสาธารณรัฐฟิจิ (Ms. Merewalesi Vueti) ประเทศปาปัวนิวกินี (Mr. Kakaito Kasi) ประเทศคุกไอส์แลนด์ (Ms. Odile Urirau) บรรยาย เรื่อง “National Library Services in the South Pacific”   Ms. Merewalesi Vueti ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติฟิจิ บรรยายเรื่อง “School libraries destroyed” สรุปประเด็นสำคัญดังนี้           ห้องสมุดโรงเรียนที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ทิศเหนือ ทิศตะวันออก รวมทั้งห้องสมุดบางแห่งที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองหลวงของประเทศ ต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดจากอุทกภัย วาตภัย สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ตามสถิติรายงานพบว่า ห้องสมุดระดับก่อนประถมศึกษาเสียหาย จำนวน ๒๖ แห่ง ห้องสมุดโรงเรียนระดับประถมศึกษา จำนวน ๗๑ แห่ง และห้องสมุดโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา จำนวน ๑๗ แห่ง ซึ่งทุกแห่งมีความเสียหายประมาณ ๗๕ เปอร์เซ็นต์ Mr. Kakaito Kasi อธิบดีกรมหอสมุดแห่งชาติและเอกสารโบราณปาปัวนิวกินี บรรยายเรื่อง “PNG delivering quality library services to its people through international corporation” สรุปประเด็นสำคัญดังนี้ ประเทศปาปัวนิวกินีตั้งอยู่ในภูมิภาคแปซิฟิก ด้วยสภาพของประเทศจะเผชิญกับภัยธรรมชาติอยู่บ่อยครั้งทำให้ห้องสมุดของประเทศได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติมีความเสียหายของทรัพยากร อุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ห้องสมุดยังไม่ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัย รัฐบาลให้ความสำคัญในการจัดสรร งบประมาณห้องสมุดเป็นลำดับรอง เมื่อเทียบกับหน่วยงานทางการศึกษาอื่น ๆ ดังนั้นรัฐบาลได้มีการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการห้องสมุดในด้านต่าง ๆ ไว้ ได้แก่ นโยบายด้านทรัพยากรสารสนเทศและระบบเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย รวมทั้งการสร้างนวัตกรรมของห้องสมุดใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้น Ms. Odile Urirau รักษาการผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติคุกไอส์แลนด์ บรรยายเรื่อง National Library Collaboration with MoCD (MoCD : Ministry of Culture Development) สรุปประเด็นสำคัญดังนี้ หอสมุดแห่งชาติคุกไอส์แลนด์ สังกัด กระทรวงพัฒนาวัฒนธรรม จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๕ และเปิดบริการในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ในขณะนั้นมีหนังสือบริการประมาณ ๑๐,๐๐๐ เล่ม ประกอบด้วย หนังสือวิชาการทั่วไป หนังสืออ้างอิง หนังสือสำหรับเด็ก หนังสือเกี่ยวกับภูมิภาคแปซิฟิก รายงานประจำปี สิ่งพิมพ์รัฐบาล และหนังสือหายาก           หอสมุดแห่งชาติคุกไอส์แลนด์ได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อพัฒนาหอสมุดแห่งชาติไว้ ๒ เรื่อง คือ ๑.  หอสมุดแห่งชาติจะจัดเก็บ รวบรวม รักษาทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภทเพื่อให้ ประชาชนทุกหมู่เกาะสามารถเข้าถึงได้รวดเร็วในเวลาเดียวกัน ๒.  จัดทำบรรณานุกรมแห่งชาติที่รวบรวมรายชื่อทรัพยากรสารสนเทศไว้อย่างครบถ้วน ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปัญหาที่พบและความต้องการความช่วยเหลือจากห้องสมุดอื่น ๆ ๑.      สำนักพิมพ์ไม่ส่งสิ่งพิมพ์ตามกฎหมายให้หอสมุดสมุดแห่งชาติ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้สำนักพิมพ์ส่งสิ่งพิมพ์ไว้นานเกินไป ๒.      รัฐบาลไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องการปรับแก้กฎหมายการส่งสิ่งพิมพ์ ๓.      หอสมุดแห่งชาติประสบปัญหาเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้ ทรัพยากรสารสนเทศมีเชื้อราเป็นการเพิ่มภาระงานในการดูแลรักษารวมทั้งขาดงบประมาณในการแก้ปัญหาเหล่านี้ สิ่งที่ได้รับ/ข้อเสนอแนะ           ได้รับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวด้านการพัฒนาความก้าวหน้ารวมทั้งปัญหาของหอสมุดแห่งชาติในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนียด้านต่าง ๆ ได้แก่ การรับทรัพยากรสารสนเทศตามกฎหมาย เครือข่ายความร่วมมือด้านการบริจาค แลกเปลี่ยนทรัพยากรสารสนเทศ รวมทั้งปัญหาด้านการจัดเก็บทรัพยากรสารสนเทศให้คงสภาพ สามารถนำมาเป็นข้อคิดเพื่อเป็นแนวทางพัฒนางานต่อไป           หอสมุดแห่งชาติสามารถสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหอสมุดแห่งชาติ หอจดหมายเหตุแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ในด้านการจัดเก็บรวมรวมและอนุรักษ์หนังสือหายากและเอกสารต้นฉบับในกลุ่มประเทศเอเชียและโอเชียเนีย          


หมวดหมู่                        พุทธศาสนาภาษา                            บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง                          ธรรมเทศนา                                    ชาดก                                    นิทานคติธรรมประเภทวัสดุ/มีเดีย            คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ                    40 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม. บทคัดย่อ                      เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม  ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534  


เลขทะเบียน : นพ.บ.33/ก/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ :  50 หน้า  ; 4 x 50.5 ซ.ม. : ล่องชาด ; ไม้ประกับธรรมดา ชื่อชุด : มัดที่ 19 (194-204) ผูก 2หัวเรื่อง : มหานิปาตวณฺณนา --เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อผู้แต่ง :       กรมศิลปกร ชื่อเรื่อง :        ประติมากรรมทางพระพุทธศาสนาของไทย   ปีที่พิมพ์ :       2544 สถานที่พิมพ์ :  กรุงเทพฯ โรงพิมพ์      :  รุ่งสิทธิ์ จำนวนหน้า    28 หน้า            หนังสือเล่มนี้จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากรได้จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้อ่านได้รู้เกี่ยวศิลปวัฒนธรรมในมุมมองที่ลึกซึ่ง โดยมีรูปภาพ ซึ่งแสดงถึง มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทย ให้ต่างชาติได้รับรู้และเป็นการเผยแพร่ส่งเสริมความเข้าทางศิลปะและวัฒนธรรมของชาติไทยสู่สาธารณะชน  


บริเวณนอกกำแพงเมืองด้านทิศใต้ติดกับแม่น้ำแควน้อย ขุดพบโครงกระดูกมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ จำนวน ๔ โครง แต่เห็นอยู่ในหลุมขุดค้นเพียง ๒ โครง เนื่องจากอีก ๒ โครงไม่สามารถกำหนดอายุและเพศได้ ทั้งถูกรบกวนจากสัตว์ในดิน จึงได้นำขึ้นจากหลุมและนำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โครงกระดูกที่หันศีรษะไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเพศหญิง อายุประมาณ ๓๐-๓๕ ปี และโครงที่หันศีรษะไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเพศหญิง อายุประมาณ ๒๐-๓๐ ปี ทั้งสองโครงถูกฝังรวมกับภาชนะสำริด ลูกปัดหินอาเกตและคาร์นีเลียน และลูกปัดแก้ว แหล่งโบราณคดีที่เป็นหลุมฝังศพในลักษณะนี้ พบหลายแห่งตามริมฝั่งแม่น้ำแควน้อย ในเขตอำเภอไทรโยค จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แสดงถึงกลุ่มคนในวัฒนธรรมดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งน้ำมาก่อนที่จะมีการสร้างปราสาทเมืองสิงห์ในพุทธศตวรรษที่ ๑๘ จากหลักฐานต่างๆ ที่พบแสดงให้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้เคยอยู่มาเมื่อประมาณ ๑,๘๐๐ ปีมาแล้ว และเคยมีการติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนอื่น เช่นที่แหล่งบ้านดอนตราเพชร อำเภอพนมทวน เพราะหลักฐานต่างๆ ที่พบคล้ายคลึงกันและมีอายุในช่วงปลายของยุคโลหะเช่นเดียวกัน              


ชื่อเรื่อง : นิทานทองอิน ชื่อผู้แต่ง : มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ ปีที่พิมพ์ : 2510 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : องค์การค้าของคุรุสภา จำนวนหน้า : 312 หน้า สาระสังเขป : นิทานทองอิน ผู้แต่งใช้นามปากกาว่า “นายแก้ว นายขวัญ”ซึ่งเป็นพระนามแฝงของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เนื้อเรื่องมีลักษณะเป็นเรื่องสั้น ประเภทสืบสวนสอบสวน มีนายทองอินเป็นตัวละครเอก หรือที่เรียกว่า“พลตระเวนลับ” คอยสืบข่าวต่างๆ ให้ทางราชการ นิทานทองอิน มีทั้งหมด 2 ชุด 11 ตอน ตัวอย่างเช่น นากพระโขนงที่สอง  ความลับของแผ่นดิน ยายม้าบังกะโล ระเด่นลันได สร้อยคอร้อยชั่ง เป็นต้น


1. ตำรายาเกร็ด เช่น แก้สารพัดลมทั้งปวง, ยาคอ, ยาแก้คัน, แก้ลงท้อง, ยาอยู่ไฟไม่ได้, ยาแก้เจ็บท้อง, ยาต้มแก้ไข้ปัจจุบัน, แก้การจับหัวใจ, ยาหัสราสี, ยามะหาวิเสไส, กำเนิดริดสีดวงมหาการ 43 พวก, ยาทำลายพระสุเมนอย ฯลฯ 2. เวทย์มนต์คาถา เช่น บทไหว้ครูและมนต์พนสากพ้น


ชื่อเรื่อง : ประชุมกลอนสุภาษิตสุนทรภู่ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายกาญจน์ พันธ์ฤกษ์ ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2499 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : บริษัท ไทยหัตถการพิมพ์ จำนวนหน้า : 102 หน้า สาระสังเขป : ด้วยนายเหลื่อม พันธ์ฤกษ์ ได้มาติดต่อ ณ หอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร เพื่อขออนุญาตจัดพิมพ์ประชุมกลอนสุภาษิตสุนทรภู่ อันมีเรื่องสวัสดิรักษา เพลงยาวถวายโอวาท และสุภาษิตสอนตรี ตีพิมพ์อยู่รวม 3 เรื่อง ด้วยกัน เพื่อแจกเป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นายกาญจน์ พันธ์ฤกษ์ ผู้เป็นบิดา เรื่องทั้ง 3 นี้ มีอธิบายความเป็นมา ซึ่งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงนิพนธ์ ได้นำมาจัดพิมพ์ไว้ ณ เบื้องต้นของเรื่องด้วย






ชื่อเรื่อง : สาวิตรี ความเรียงและบทละครร้อง ผู้แต่ง : มงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ ปีที่พิมพ์ : 2528 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : ธนาคารออมสิน



          กลองมโหระทึก เป็นกลองชนิดหนึ่งที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางความเชื่อ ซึ่งมีอายุประมาณ 2,000 – 3,000 ปีมาแล้ว ทำด้วยโลหะผสมระหว่างทองแดงกับดีบุกเป็นส่วนใหญ่ ลักษณะรูปร่างคล้ายทรงกระบอก ส่วนหน้ากลองและฐานนั้นผายออก มีด้านหนึ่งเป็นแผ่นเรียบซึ่งเป็นส่วนของหน้ากลอง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นส่วนฐานเป็นรูปกรวยและกลวง กลองมโหระทึกนั้นมีกำเนิดในแถบเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศเวียดนาม จัดอยู่ในกลุ่มวัฒนธรรมดองซอน ต่อมาได้รับเอาวิธีการหลอมโลหะมาจากจีน ในส่วนของประเทศไทยนั้น มีหลักฐานปรากฏชัดว่า ได้มีการผลิตและใช้กลองมโหระทึกมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ในยุคโลหะเป็นต้นมา รูปแบบกลองมโหระทึก            แบ่งออกได้เป็น 4 แบบ คือ            - แบบที่ 1 เป็นกลองที่มีขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 3 ตอน คือ กลองทำเป็นรูปคล้ายกลองรำมะนา ส่วนที่อยู่เหนือหูมีลักษณะโค้งผายและปิดทึบ ถัดมาเป็นส่วนตรงกลางมีรูปเป็นทรงกระบอก ส่วนล่างสุดโค้งผายออกและกลวงคล้ายบาตรคว่ำ กลองแบบนี้เป็นกลองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด และทางใต้ของประเทศไทยนั้นส่วนใหญ่พบแบบที่ 1            - แบบที่ 2 เป็นกลองขนาดปานกลาง ส่วนของหน้ากลองมีลักษณะโค้งมากขึ้นจนดูคล้ายทรงกระบอก ส่วนหูจะมี 2 อัน คู่กัน กลองแบบนี้พวกมวงในประเทศเวียดนามยังคงใช้กันอยู่            - แบบที่ 3 เป็นกลองขนาดกลาง ส่วนตอนกลางและตอนล่างจะกลมกลืนกันจนแยกไม่ค่อยออก ส่วนหน้ากลองจะมีรูปกบประกอบเกาะแน่นอยู่หลายตัว กลองแบบนี้เรียกว่า แบบยางหรือแบบกระเหรี่ยง เพราะชาวกระเหรี่ยงยังคงใช้กันจนทุกวันนี้           แบบที่ 4 เป็นแบบที่คล้ายทรงกระบอกเตี้ยและมีขนาดเล็ก บางครั้งเรียกว่า แบบจีนและมีลวดลายตกแต่งเป็นลายจีน มีหูจับ 2 คู่ ปัจจุบันยังคงพบและมีการใช้กันตามวัดในประเทศจีน ลวดลายประดับ          1. ลายดวงดาวหรือดวงอาทิตย์ เป็นลายที่สำคัญที่สุด พบบนหน้ากลองมโหระทึกตั้งแต่รุ่นแรกๆ จนถึงรุ่นหลังสุด สัญนิษฐานว่ากลุ่มชนที่สร้างกลองมโหระทึกอาจนับถือหรือเคารพบูชาดวงอาทิตย์           2. ลายนกบิน เป็นลายรูปสัตว์ที่สำคัญลายหนึ่งที่พบบนหน้ากลองมโหระทึก ลายนกบินที่พบส่วนใหญ่จะมีหลายตัวตั้งแต่ 4 ตัวขึ้นไป สัญนิษฐานว่าลายนกบินนั้นอาจหมายถึงนกส่งวิญญาณตามความเชื่อของกลุ่มชน คือใช้ในการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย           3. ประติมากรรมลอยตัวรูปกบ ความสำคัญของกบบนขอบหน้ากลองสันนิษฐานว่าเนื่องจากกบเป็นสัตว์ที่คนในสังคมเกษตรคุ้นเคย เป็นสัตว์ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ คาดว่ากลองมโหระทึกแบบนี้น่าจะเกี่ยวกับการเกษตรกรรมวัตถุประสงค์ในการผลิตกลองมโหระทึก           มีผู้ศึกษาเกี่ยวกับกลองมโหระทึก โดยศึกษาจากชนเผ่าที่ยังใช้กลองมโหระทึกกันอยู่ในปัจจุบัน รวมถึงตีความจากลวดลายที่ปรากฏบนหน้ากลอง และจากหลักฐานทางโบราณคดี พบว่ากลองมโหระทึกนั้นผลิตขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันไป อาทิเช่น - ใช้เป็นสิ่งแสดงถึงฐานะและความมั่งมี พวกเหลียว (Liao) ในประเทศจีน ถือว่าผู้ใดมีกลองใบใหญ่จะได้รับการยกย่องให้เป็นทู-ลาว (Tu-lao) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องนับถือจากคนในชุมชน - ใช้เป็นสิ่งสำคัญในพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับความตาย พบว่าพวกกระเหรี่ยงในพม่าและภาคตะวันตกของไทยใช้กลองมโหระทึกในการตีเพื่อเรียกวิญญานของผู้ตาย โดยเชื่อว่าผู้ตายนั้นจะแปลงร่างเป็นนก และใช้กลองมโหระทึกเป็นแท่นวางเครื่องสังเวย นอกจากนี้ยังมีการตีความลายนกบินทวนเข็มนาฬิกาที่ปรากฏบนหน้ากลองว่า อาจเป็นกลองที่ใช้ในพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย และในทางตอนใต้ของจีน ที่สุสานสือไจ้ซาน มณฑลหยุนหนาน ได้มีการขุดพบกลองมโหระทึกในพื้นที่สุสานด้วย - ใช้ตีเป็นสัญญาณในคราวออกศึกสงคราม ที่ปาเซมะ(Pasemah) เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ได้มีการค้นพบประติมากรรมนักรบมีกลองมโหระทึกขนาดกลางแขวนอยู่ด้านหลัง - ใช้ตีในการประกอบพิธีกรรมขอฝน พบว่ากลองมโหระทึกบางใบมีการทำรูปสัตว์ต่าง เช่น กบ หอยทาก ช้าง จักจั่น ติดบนหน้ากลอง ซึ่งเชื่อว่าสัตว์เหล่านี้เกี่ยวข้องกับฝน ในทางตอนใต้ของจีนเชื่อว่า กบ และคางคกจะบอกเหตุล่วงหน้าว่าฝนจะตก - ใช้ในการประกอบพิธีกรรมอื่นๆ เช่น ในประเทศพม่าจะมีการตีกลองมโหระทึกในงานประเพณีของกลุ่มชนพื้นเมือง ส่วนในประเทศไทยพบว่ามีการตีกลองในงานมงคล และใช้ตีในงานพระราชพิธี อย่างเช่น พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ภาพ : มโหระทึกและฆ้องชัยในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ           กลองมโหระทึกที่พบจากชุมชนโบราณเขาสามแก้ว พบในบริเวณเขาสามแก้ว ตำบลนาชะอัง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร ภาพ : กลองมโหระทึก ขนาด (ฐาน) ศก.18.5 ซม. สูง 16.5 ซม. (หน้ากลอง) ศก.15.5 ซม. ชนิด สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 5-10 ลักษณะวัตถุ : หน้ากลองตกแต่งลายดวงอาทิตย์หรือดาว 8 แฉก ล้อมรอบด้วยลายนกกระสาบินทวนเข็มนาฬิกา ประวัติ : พบที่แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นำมาจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2540 ภาพ : กลองมโหระทึก ขนาด กว้าง 76 ซม. สูง 56 ซม. (หน้ากลอง) ศก.68.5 ซม. ชนิด สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 5-10 ลักษณะวัตถุ : หน้ากลองตกแต่งลายดวงอาทิตย์หรือดาว 12 แฉก คั่นด้วยลายหางนกยูงล้อมรอบด้วยลายนกกระสาบินทวนเข็มนาฬิกาและลายเรขาคณิต ด้านข้างกลองตอนบนมีหู 4 หู โดยรอบ ตัวกลองตกแต่งลายวงกลมมีจุดตรงกลางมีเส้นทแยงในแนวตั้ง ประวัติ : พบที่แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นำมาจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2540 ภาพ : กลองมโหระทึก ขนาด สูง 51 ซม. ศก.หน้ากลอง 69 ซม. ชนิด สำริด สมัยก่อนประวัติศาสตร์ พุทธศตวรรษที่ 5-10 ลักษณะวัตถุ : ทรงกลมสีเทาดำ หน้ากลองแบนราบ ตัวกลองป่องออกแล้วคอดเข้า ก่อนผายออกเป็นฐานมีหูสี่คู่ ภายในกรวง หน้ากลองตกแต่งลายดวงอาทิตย์สิบสี่แฉกล้อมรอบด้วยลายเส้น ลายจุด ลายนกยูงเหลียวหลังจำนวนหกตัว ลายปีกใบพัดจำนวนสิบสองตัว และลายนกกระสาสิบหกตัว บินทวนเข็มนาฬิกา ด้านข้างกลองตกแต่งลายเส้น ลายวงกลม ลายเส้นทแยง ในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าและลายวงกลมขนาดเล็ก ประวัติ : พบในคลองท่าตะเภา ตำบลบางลึก (เขาสามแก้ว) อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร นำมาจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2554 ภาพ : ลวดลายบนหน้ากลองมโหระทึก-----------------------------------------ข้อมูลโดย : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร -----------------------------------------เอกสารอ้างอิงภาพลายเส้นจาก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช เขมชาติ เทพไชย. "รายงานการสำรวจและศึกษากลองมโหระทึก ณ บ้านยวนเฒ่า ตำบลเทพราช อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช" ใน ศิลปากร ปีที่ ๒๙ ฉบับที่ ๔, หน้า ๘๒-๙๘. เมธินี จิระวัฒนา. กลองมโหระทึกในประเทศไทย. กรุงเทพฯ : สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๔๒. สารานุกรมวัฒนธรรมไทยภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๑. ระบบทะเบียนโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร


ชื่อผู้แต่ง          จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ ชื่อเรื่อง           อักษรอริยกะ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงคิดประดิษฐ์ ลายพระหัตถ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ครั้งที่พิมพ์        - สถานที่พิมพ์      พระนคร สำนักพิมพ์        โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย ปีที่พิมพ์          2501 จำนวนหน้า      27  หน้า รายละเอียด           จัดพิมพ์ขั้นเพื่ออุทิศส่วนกุศลถวายสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส ในสุรทินตรงกับวันสิ้นพระชนม์ ปีที่ 38  วันที่  2 สิงหาคม 2501  เนื้อหาภายในเล่มประกอบด้วย 2  เรื่องคือ อักษรอริยกะ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงประดิษฐ์ขึ้นใช้สำหรับเขียนภาษาบาลีและลายพระหัตถ์ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทูลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเรื่องเมืองกำแพงเพชร มีตัวอย่างอักษรอริยกะพร้อมเขียนแปลเป็นภาษาไทย นอกจากนี้ยังมีคำอธิบายของหัวหน้ากองจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากรและคำอธิบายเพิ่มเติม ประกอบท้ายเล่ม


black ribbon.