ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,754 รายการ


          สืบเนื่องจากองค์ความรู้ชุด “วิหารธรรมศาลา : พระวิหารสมัยอยุธยา วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช” ซึ่งได้กล่าวถึงจารึกหน้าบันวิหารธรรมศาลา ๓ แผ่น และข้อสันนิษฐานว่าจารึกแผ่นที่ ๓ อาจสลักขึ้นใหม่ เนื่องจากข้อความในจารึกไม่สอดคล้องกับหลักฐานเอกสาร คือบันทึกของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ซึ่งได้คัดลอกข้อความในจารึกหน้าบันวิหารธรรมศาลาไว้เมื่อครั้งตรวจราชการเมืองนครศรีธรรมราชใน ร.ศ.๑๒๑ (พุทธศักราช ๒๔๔๕) นั้น           จากข้อสันนิษฐานดังกล่าว นำมาสู่การค้นพบข้อมูลสำคัญอีกประการหนึ่งว่า แท้จริงแล้ว จารึกทั้ง ๓ แผ่น น่าจะถูกถอดลงเมื่อครั้งบูรณะวิหารธรรมศาลาในปีพุทธศักราช ๒๕๑๑ แล้วคัดลอกใหม่ทั้งหมดเพื่อแทนที่ของเดิมที่มีสภาพผุพัง เนื่องจากได้พบ “จารึกหน้าบันวิหารธรรมศาลา” แผ่นที่ ๑ ซึ่งเป็นจารึกแผ่นเดิมที่สลักขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๒๔๓๗ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)           จารึกหน้าบันวิหารธรรมศาลา ที่กล่าวถึงนี้ เป็นจารึกแผ่นที่ ๑ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของหน้าบัน มีขนาดใหญ่ที่สุดในจำนวนจารึกทั้ง ๓ แผ่น เป็นจารึกอักษรไทย ภาษาไทย ข้อความในจารึกมีจำนวน ๑ ด้าน ๔ บรรทัด ขนาดความสูงของตัวอักษรประมาณ ๕ - ๖ เซนติเมตร สลักบนแผ่นไม้รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง ๕๒ เซนติเมตร ยาว ๑๓๔ เซนติเมตร หนา ๒.๕ เซนติเมตร มีเนื้อหากล่าวถึงการบูรณะวิหารธรรมศาลาในพุทธศักราช ๒๔๓๗ สันนิษฐานว่าผู้สร้างจารึกหลักนี้คือ พระครูเทพมุนีศรีสุวรรณถูปาภิบาล (ปาน) ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการบูรณะวิหารธรรมศาลาในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงบันทึกไว้ว่าในครั้งนั้นท่านปานได้ทำการบูรณะหลังคาวิหารธรรมศาลาขึ้นใหม่ แล้วเสร็จจึงสั่งให้สลักจารึกนี้ขึ้นประดับบนหน้าบันแต่นั้นมา คำจารึก ๑. ศุกมัสดุพุทธศกราชล่วงแล้ว ๒. ได้สองพันสี่ร้อยสามสิบเจ็ด ๓. ณ วันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้นสิบเอ็ดค่ำ ๔. ปีมเมีย ฉศก ได้ยกวิหารนี้ คำอ่าน ๑. ศุภมัสดุพุทธศักราชล่วงแล้ว ๒. ได้สองพันสี่ร้อยสามสิบเจ็ด ๓. ณ วันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้นสิบเอ็ดค่ำ ๔. ปีมะเมีย ฉศก ได้ยกวิหารนี้           จารึกแผ่นนี้ปัจจุบันถูกเก็บรักษาอยู่ในคลังโบราณวัตถุ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการวางแผนเพื่อนำส่งไปอนุรักษ์ที่กลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔           จากหลักฐานที่พบ จึงสามารถสันนิษฐานได้ว่าจารึกหน้าบันวิหารธรรมศาลาทั้ง ๓ แผ่นที่ปรากฏในปัจจุบัน น่าจะเป็นจารึกที่คัดลอกใหม่เพื่อแทนของเดิมที่ผุพังเสียหาย โดยอาจทำขึ้นในปีพุทธศักราช ๒๕๑๑ ตามศักราชที่ปรากฏในจารึกแผ่นที่ ๓ สำหรับจารึกแผ่นที่ ๑ และแผ่นที่ ๒ นั้น เป็นการคัดลอกข้อความที่ปรากฏบนจารึกเดิม เพียงแต่มีรายละเอียดของรูปอักษรบางตัวและลายเส้นที่ต่างกัน ส่วนจารึกแผ่นที่ ๓ นั้น พบว่าถูกสลักขึ้นใหม่โดยมีข้อความต่างไปจากจารึกแผ่นเดิม คือกล่าวถึงการบูรณะวิหารธรรมศาลาในพุทธศักราช ๒๕๑๑ ซึ่งเป็นปีที่บูรณะแล้วเสร็จในขณะนั้น ----------------------------------------------เรียบเรียง/กราฟิก: นภัคมน ทองเฝือ นักโบราณคดีชำนาญการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช ----------------------------------------------อ้างอิง: นริศรานุวัดติวงศ์, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยา. จดหมายระยะทางไปตรวจราชการ แหลมมลายู ร.ศ.๑๒๑ .กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๐. //หมายเหตุ: สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับจารึกหน้าบันวิหารธรรมศาลาเพิ่มเติมได้จากองค์ความรู้เรื่อง "วิหารธรรมศาลา : พระวิหารสมัยอยุธยา วัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหารนครศรีธรรมราช" https://www.facebook.com/nakonsrifad14/posts/660893617843556?__tn__=K-R


วันพฤหัสบดีที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๓ นายชำนาญ กฤษณสุวรรณ นายช่างเทคนิคอาวุโส รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา พร้อมด้วยนางกันยา แต้เจริญวิริยะกุล บรรณารักษ์ชำนาญการพิเศษ นางสาวฑาริกา กรรมจันทร์ หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป และนายประพันธ์ เนื่องมัจฉา นายช่างสำรวจชำนาญงาน ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมปราสาทพนมวัน อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา


ผู้แต่ง : - ฉบับพิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่ 2 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2499 หมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พันเอก พระยารัตนพิมพาภิบาล (หม่อมราชวงศ์สวัสดิ์ อิศรางกูร) ณ ฌาปนสถานกองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2499                     เป็นโคลงภาพเขียนพระราชพงศาวดารไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ได้แบ่งเป็นตอน จำนวน 92 รูป โคลงที่แต่งมี จำนวน 376 บท แล้วเขียนบรรจุบานกระจกประดับในคราวงานพระเมรุสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าพาหุรัดมณีชัย สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าตรีเพชรุตม์ธำรง และพระอัครชายาเธอพระองค์เจ้าเสาวภาคนารีรัตน์ เมื่อ พ.ศ.243


พระเจดีย์หลวงเขาตังกวนและหน้าบันที่สาบสูญ                                                      สืบเนื่องจากเทศบาลนครสงขลา มีความประสงค์จะบูรณะพระเจดีย์หลวงและปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวบนยอดเขาตังกวน จึงได้ทำหนังสือขอความอนุเคราะห์มายังสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ให้พิจารณาแนวทางซ่อมแซมพร้อมทั้งจัดทำรูปแบบและประมาณราคา           ทั้งนี้ ทางสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา ได้ทำการศึกษารูปแบบและสืบค้นภาพถ่ายเก่า พบว่าหน้าบันคฤห์ของพระเจดีย์หลวงบนยอดเขาตังกวนมีลวดลายปูนปั้นปรากฏอยู่ แต่จากภาพถ่ายเก่าที่เห็นลวดลายที่ไม่ชัดเจน ทางสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา จึงได้ทำรูปแบบสันนิษฐานหน้าบันคฤห์ด้านทิศเหนือไว้ 3 แบบ และด้านทิศใต้ไว้ 3 แบบ จึงใคร่ขอข้อมูลภาพถ่ายรวมถึงคำบอกเล่าเพื่อใช้ในการออกแบบบูรณะเพื่อให้ย้อนคืนสู่สภาพเดิมในสมัย ร.4 ที่สมบูรณ์ตามหลักวิชาการอย่างถูกต้องต่อไป




ชื่อเรื่อง                           มหานิปาตวณฺณนา (ทสชาติ) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (มหาชนก)สพ.บ.                                  180/2ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           56 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 58.4 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับทองทึบ ภาษาบาลี-ไทย ได้รับบริจาคมาจากวัดพยัคฆาราม ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี



ชื่อเรื่อง                                ธุดงควัตร (ธุดงควัตร)สพ.บ.                                  226/2ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           54 หน้า กว้าง 5 ซ.ม. ยาว 56 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           พระไตรปิฎก                                           พระวินัยปิฏก บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน เส้นจาร ฉบับล่องรัก ภาษาบาลี-ไทยอีสาน ได้รับบริจาคมาจากวัดทุ่งอุทุมพร ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี



ชื่อเรื่อง                                สตฺตปฺปกรณาภิธมฺมเทสนา (เทศนาสังคิณี-มหาปัฏฐาน)สพ.บ.                                  160/4ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           28 หน้า กว้าง 4 ซ.ม. ยาว 54 ซ.ม. หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           บทสวดมนต์                                           พระอภิธรรม บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจากวัดน้อยชมภู่ ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี


ตำรายาแผนโบราณ ชบ.ส. ๘๖ จ้าอาวาสวัดเทพประสาท ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มอบให้หอสมุด ๒๓ ก.ค. ๒๕๓๕ เอกสารโบราณ (สมุดไทย)


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สังคิณี-มหาปัฎฐาน) เลขที่ ชบ.บ.29/1-7 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


         แผนที่เมืองนครเชียงใหม่งานเขียนของ อาจารย์วรชาติ มีชูบท ที่ได้ทำการศึกษาเเผนที่ฉบับนี้ได้สรุปว่า ในการจัดทำเเผนที่ได้ถูกสำรวจเเละรังวัดที่ดิน ในราวปีพ.ศ. ๒๔๒๘  - ๒๔๒๙ เเล้วส่งข้อมูล เพื่อมาจัดทำเเละตีพิมพ์ในปีพ.ศ. ๒๔๓๐ เเละมีการเเก้ไขปรับปรุงในส่วนที่สำคัญอีกครั้ง ในปีพ.ศ. ๒๔๓๖ ในงานเขียนของอาจารย์วรชาติ จึงได้กำหนดชื่อของเเผนที่ฉบับนี้ว่า"เเผนที่เมืองนครเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๔๓๖" เเผนที่ฉบับนี้เก็บรักษาไว้ที่หอจดหมายเหตุเเห่งชาติ ต่อมามีการทำสำเนาออกมาเพื่อทำการศึกษาของเดิมเป็นเเต่เพียงภาพลายเส้น เเสดงรายละเอียดการถือครองที่ดิน สำเนาฉบับนี้ได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณราเชนทร์ อินทวงศ์ เเละลงสีเพิ่มเติมโดย Cm Craft Studio เพื่อให้เห็นขอบเขตของสิ่งที่ปรากฏในเเผนที่อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม การลงสี เพิ่มเติมลงไปนั้น  มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เกิดความสวยงาม ดังนั้นไม่ควรใช้เเผนที่ฉบับที่ทำการลงสีนี้ไปอ้างอิงในงานวิชาการใดๆ ผู้ที่สนใจ สามารถไปดาวน์โหลดได้ที่  https://drive.google.com/drive/folders/1GwJKIhev7ns5jmqLAJw1Q7mdhr-qfVCr?usp=sharing


black ribbon.