ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,757 รายการ
ชื่อผู้แต่ง : สมพร อยู่โพธิ์ชื่อเรื่อง : พระพุทธรูปปางต่าง ๆครั้งที่พิมพ์ : พิมพ์ครั้งที่สามสถานที่พิมพ์ : พระนครสำนักพิมพ์ : วัชรินทร์การพิมพ์ปีที่พิมพ์ : ๒๕๑๔จำนวนหน้า : ๑๗๖ หน้าหมายเหตุ : พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายบุญรอด รัตนอุไร ณ ฌาปนสถานคุรุสภา วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๔ หนังสือพระพุทธรูปปางต่าง ๆนี้ นอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับพระพุทธรูปปางต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น ๕๖ ปาง ซึ่งสร้างขึ้นตามคติความเชื่อที่เชื่อกันอยู่ในประเทศไทยแล้วยังให้ความรู้เรื่องพระพุทธประวัติ เพราะพระพุทธรูปทุกปางสร้างขึ้นตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ในพระพุทธประวัติ ซึ่งบางตอน ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีผู้ทราบแพร่หลายทั่วไป
ชื่อเรื่อง : คำปราศรัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรี กล่าวในวันครบรอบปีแห่งการปฏิวัติ 20 ตุลาคม 2502
ชื่อผู้แต่ง : สฤษดิ์ ธนะรัชต์, จอมพล
ปีที่พิมพ์ : 2502
สถานที่พิมพ์ : พระนคร
สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี
จำนวนหน้า : 60 หน้า
สาระสังเขป : คำปราศรัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ นายกรัฐมนตรีกล่าวในวันครบรอบปี แห่งการปฏิวัติ 10 ตุลาคม 2502 กล่าวว่า การยึดอำนาจทำการปฏิวัตินั้นไม่ใช่เพื่อให้ได้มาซึ่งตำแหน่งฐานะส่วนตัว แต่ต้องทำเพื่อให้เกิดอำนาจปฏิวัติตามหลักรัฐศาสตร์และกฎหมาย เพื่อป้องกันภยันตรายของประเทศชาติและกวาดล้างสิ่งไม่ดีทั้งหลายในบ้านเมืองได้โดยฉับพลันทันที ได้แสดงความชื่นชมยกย่องเกียรติคุณแก่ผู้รับผิดชอบงานด้านต่างๆ และกล่าวว่าการปฏิวัติตั้งอยู่บนรากฐานแห่งหลัก 3 ประการคือ ความก้าวหน้า ความขยันขันแข็ง และการมีระเบียบวินัย
นิตยสารรายสองเดือน กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
วัตถุประสงค์ : เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมในสาระสำคัญต่าง ๆ และ
เพื่ออนุรักษ์สืบทอดมรดกวัฒนธรรมของชาติ
เรื่องที่ 348 พระคัมภีร์ใบลานนี้ ได้มาจากวัดบุญญวาสวิหาร ต.ท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2532 เป็นคัมภีร์อักษรขอมทั้งผูก ชื่อเรื่องแปลเป็นภาษาบาลี-ไทย ตัวอักษรหนังสือเป็นเส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา มีทั้งหมด 14 ผูก หอสมุดแห่งชาติฯมีผูก 2-5 ,7-11,13-17 เนื้อหาเกี่ยวกับหลักธรรม เรื่องโพธิปักขิยธรรม หรือ โพธิปักขิยธรรม 37 เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้ เกื้อหนุนแก่อริยมรรค มี 37 ประการคือ 1.สติปัฏฐาน4 2.สัมมัปทาน4 3.อิทธิบาท4 4.อินทรีย์5 5.พละ5 6.โพชฌงค์7 และ7.มรรคมีองค์ 8 เลขทะเบียน จบ.บ.348/2-5,7-11,13-17
ชื่อเรื่อง : วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ผู้แต่ง : คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ปีที่พิมพ์ : 2542
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : กระทรวงมหาดไทย : กระทรวงศึกษาธิการ และกรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง: ตำนานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า
ผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ
ปีที่พิมพ์ : ๒๕๑๒
สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์พระจันทร์
หมายเหตุ : พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์ในงานพระราททานเพลิงศพ เจ้าจอมมารดาอ่อน ป.จ. ในรัชกาลที่ ๕ ณ เมรุหน้าพลับพลาอิสริยาภรณ์ วัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๒๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒
หนังสือเรื่องนี้ จะให้ประโยชน์แก่ผู้อ่าน ทราบเรื่องเกี่ยวกับประวัติ ความเป็นมาของเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สร้างขึ้น
***บรรณานุกรม***
ผดุงถิ่นยุคข่าวเศรษฐกิจ
ปีที่ 16(7)
ฉบับที่ 652(246)
วันที่ 16-30 เมษายน 2534
กรมศิลปากรได้รับมอบหมายจากกระทรวงวัฒนธรรมให้จัดพิมพ์หนังสือ “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ สุโขทัยเมืองมรดกโลก” เพื่อเป็นคู่มือในการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง เนื้อหาของหนังสือนี้ประกอบด้วย เรื่องความเป็นมา ตำนาน และคติความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง เรื่องงานประเพณี “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย” มรดกไทยสู่มรดกโลก และเรื่องประเพณี “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย” ในมิติเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
กรมศิลปากรหวังว่าหนังสือ “ลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ สุโขทัย เมืองมรดกโลก”จะเป็นสื่อในการสร้างความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับประเพณีลอยกระทง อันจะส่งเสริมให้คนไทยรักและหวงแหนในมรดกวัฒนธรรมของชาติโดยทั่วกัน
ผู้คนในกำแพงเพชร
เมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ ๑๘ – ๒๗ สิงหาคม ๒๔๔๙ พระองค์ทรงถ่ายรูปบุคคล วัดวาอาราม โบราณสถาน และสถานที่ต่างๆ ของเมืองกำแพงเพชร แล้วทรงมีพระราชนิพนธ์เล่าเรื่องเสด็จประพาสต้น ในตอนนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร จึงนำเสนอเรื่องราวของผู้คนในกำแพงเพชรบางส่วน ซึ่งได้เรียบเรียงข้อมูลและคัดลอกข้อความมาจากพระราชนิพนธ์เสด็จประพาสต้นในรัชกาลที่ ๕
คนผมแดง
เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๔๔๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทอดพระเนตรคนผมแดงที่เมืองขาณุวรลักษบุรี โดยทรงบรรยายในพระราชนิพนธ์เสด็จประพาสต้น ความว่า “...อันลักษณะผมแดงนั้นเป็นผมม้าแดงอย่างอ่อนหรือเหลืองอย่างแก่ ผมที่แดงมานี้ข้างพันธุ์พ่อ ถ้าผู้หญิงไปได้ผัวผมดำ ลูกออกมาก็ผมดำไปด้วย ผมแดงนั้นเปลี่ยน ๓ อย่าง แรกแดงครั้นอายุมากเข้าก็ดำหม่นลง แก่ก็เลยขาวทีเดียว บอกพืชพันธุ์ว่าทราบว่าตัวมาแต่เวียงจันทน์ แต่มาก่อนอนุเป็นขบถ จะได้ตั้งอยู่ช้านานเท่าไรไม่ทราบ พูดเป็นไทย ประพฤติอาการกิริยาก็เป็นไทย เฉพาะมีมากอยู่ที่เมืองขาณุ ที่กำแพงเพชรนี้มีแต่กระเส็นกระสาย...”
คนงามเมืองกำแพงเพชร
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อเสด็จไปถึงเมืองไหนมักหาคนงามในเมืองนั้นถ่ายรูป ผู้ใดได้รับเลือกทรงถ่ายรูป ต่อมามักมีผู้พอใจขอสู่ด้วยเหตุนั้น คนงามเมืองกำแพงเพชรที่ได้รับคัดเลือกให้ทรงถ่ายรูปนั้น ได้แก่ หวีด ลูกหลวงพิพิธอภัย อายุ ๑๖ ปี ประคอง ลูกหลวงพิพิธอภัย อายุ ๑๗ ปี ริ้ว ลูกพระพล อายุ ๑๗ ปี และพิง ลูกพระยารามณรงค์ อายุ ๑๖ ปี
พะโป้ พ่อค้าไม้ชาวกะเหรี่ยง
พะโป้เป็นชาวกะเหรี่ยงในบังคับอังกฤษ ภรรยาเป็นคนไทยชื่ออำแดงทองย้อย เป็นบุตรผู้ใหญ่บ้านวันและอำแดงไทย ประกอบกิจการค้าไม้แถวคลองสวนหมาก เป็นพ่อค้าไม้คนสำคัญของเมืองกำแพงเพชร พะโป้มีพี่ชายนามว่า แซงพอ หรือพญาตะก่า เป็นผู้ขอบูรณปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุนครชุม พ.ศ. ๒๔๑๔ เมื่อถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๘ การปฏิสังขรณ์ก็ชะงัก พะโป้จึงได้ปฏิสังขรณ์ต่อจนสำเร็จระหว่าง พ.ศ. ๒๔๔๗ – ๒๔๔๘
คนในตระกูลเมืองกำแพงเพชร
ในวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๔๔๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงถ่ายรูปคนในตระกูลเมืองกำแพงเพชร ในพระราชนิพนธ์เสด็จประพาสต้นมีความตอนหนึ่งกล่าวว่า “...แล้วถ่ายรูปพวกตระกูลเมืองกำแพงที่มาหา ตั้งต้นคือท่านผู้หญิงทรัพย์ภรรยาพระยากำแพง (เกิด) อายุ ๙๓ ปีจอ เห็นจะเป็นปีจอ ฉศก จุลศักราช ๑๑๗๖ ยังสบายแจ่มใส พูดจาไม่หลง เดินได้เป็นต้น กับลูกที่มา ๒ คน คือ ชื่อผึ้งเป็นภรรยาพระพล (เหลี่ยม) อายุ ๗๓ ปี ลูกคนสุดท้องชื่อ ภู่ เคยไปทำราชการในวังครั้งรัชกาลที่ ๔ แล้วมาเป็นภรรยาพระยารามรณรงค์ (หรุ่น) อายุ ๖๔ ปี หลานหญิงชื่อ หลาบ เป็นภรรยาหลวงแพ่ง อายุ ๖๔ ปี หลานหญิงชื่อ เพื่อน เป็นภรรยาพระพล อายุ ๔๖ ปี หลานหญิงชื่อพัน ภรรยาหลวงพิพิธอภัย อายุ ๔๔ ปี หลานชายหลวงพิพิธอภัย อายุ ๔๔ ปี เหลนที่มา ๖ คน คือ กระจ่าง ภรรยานายชิต อายุ ๒๔ ปี เปล่ง ภรรยานายคลอง อายุ ๒๑ ปี ริ้ว บุตรีพระพล อายุ ๑๗ ประคองอายุ ๑๗ หวีดอายุ ๑๖ บุตรหลวงพิพิธอภัย ละออง บุตรีนายจีนอายุ ๑๒ ปี โหลนได้ตัวมา ๒ คน แต่ถ่ายคนเดียว แต่ที่ชื่อละเอียดบุตรีโน้มอายุ ๑๓ ปี ได้ถ่ายรวมกันเป็น ๕ ชั่วคน ที่ถ่ายนี้กันออกเสียบ้าง ด้วยมาไม่ครบหมดด้วยกัน ลูก หลาน เหลน โหลน ซึ่งสืบมาแต่ท่านผู้หญิงทรัพย์ ซึ่งมีชีวิตด้วยกันเดี๋ยวนี้ ๑๑๑ คน”
บรรณานุกรม
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว. เสด็จประพาสต้นในรัชกาลที่ ๕. กรุงเทพฯ : ไทยร่มเกล้า, ๒๕๒๙.