ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ
ชื่อเรื่อง : คำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ว่าด้วยบุคคล
หัวเรื่อง : กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ -- บุคคล
คำค้น : กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
รายละเอียด : -
ผู้แต่ง : อนุมัติ ใจสมุทร
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : -
ปีที่พิมพ์ : 2515
วันที่เผยแพร่ : 7 กุมภาพันธ์ 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : -
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสือหายาก
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : หนังสือรวมคำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 ลักษณะ 2 บุคคล มาตรา 15 ถึง มาตรา 97 แบ่งออกเป็น 3 ภาค ได้แก่ ภาค 1 บุคคลธรรมดา ภาค 2 นิติบุคคล และภาค 3 บทบัญญัติเบ็ดเตล็ดเกี่ยวกับบุคคล
เลขทะเบียน : น.32 บ. 4953 จบ.
เลขหมู่ : 346
อ195 ค
วัดอินทาราม ตั้งอยู่ ณ ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ฝั่งทิศใต้ของคลองบางกอกใหญ่ (คลองบางหลวง) เป็นวัดโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดบางยี่เรือนอก, วัดบางยี่เรือไทย หรือวัดสวนพลู สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปฏิสังขรณ์ทั้งพระอาราม และเสด็จมาทรงศีลบำเพ็ญพระกรรมฐาน อีกทั้งยังเป็นพระอารามที่ประดิษฐานพระบรมศพ ถวายพระเพลิงและบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระอารามแห่งนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ โดยพระยาศรีสหเทพ (เพ็ง ศรีเพ็ญ) ปลัดบาญชี กรมมหาดไทย และได้รับพระราชทานนามพระอารามว่า วัดอินทาราม
โบราณวัตถุสถานสำคัญ
ภายในวัดอินทาราม มีการจัดแบ่งพื้นที่ในเขตพุทธาวาส เป็น ๒ กลุ่ม ได้แก่
๑. กลุ่มพระอุโบสถเดิม พระอุโบสถเดิม เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน แผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาทรงกระเท่เซร ไม่มีไขราหน้าจั่ว มีพะไลหน้าและหลังรองรับด้วยเสาสี่เหลี่ยม เครื่องบนสันหลังคาและเชิงชายประดับด้วยเครื่องถ้วยเคลือบ หน้าบันประดับด้วยเครื่องถ้วยลายก้านแย่งแบบพระราชนิยมสมัยรัชกาลที่ ๓ แต่เดิมไม่มีหน้าต่าง อดีตเจ้าอาวาส พระทักษิณคณิสร (สาย) ได้ขอพระบรมราชานุญาตบูรณะโดยการลดเสา-เจาะผนังทำช่องหน้าต่าง ภายในอาคารประดิษฐานพระพุทธรูปฉลองพระองค์สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา ซึ่งบรรจุพระบรมราชสรีรังคารสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีไว้ใต้ฐานพระ บนฐานชุกชียังประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ สมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ ซึ่งอดีตเจ้าอาวาสได้รวบรวมมาจากที่ต่างๆ และใต้ฐานชุกชีบรรจุอัฐิของสกุลอินทรโยธิน และพิชเยนทรโยธิน ซึ่งเป็นสายสกุลผู้สืบเชื้อสายจากสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
รูปพระอุโบสถเดิม
เบื้องหน้าพระอุโบสถเดิม มีพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง ๒ องค์ องค์ทางด้านทิศตะวันออกบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เรือนธาตุรองรับด้วยฐานบัวปากระฆังทรงบัวกลุ่มและฐานสิงห์ ปล้องไฉนทรงและบัวกลุ่ม ส่วนองค์ทางด้านทิศตะวันตกบรรจุพระอัฐิสมเด็จพระอัครมเหสี
พระวิหารน้อย หรือพระวิหารสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของพระอุโบสถเดิม มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส หลังคาทรงกระเท่เซร ไม่มีไขราหน้าจั่ว มีพะไลรอบรองรับด้วยเสาสี่เหลี่ยม หน้าบันปูนปั้นประดับเครื่องถ้วยและกระเบื้องเคลือบลายก้านต่อดอก ภายในอาคารตรงกลางประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ท้ายวิหารทางทิศตะวันตกประดิษฐานพระแท่นบรรทม ส่วนทางทิศตะวันออกประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ด้านหน้าพระวิหารประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี
นอกเขตกำแพงแก้วด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีหอระฆังย่อมุมไม้สิบสอง ซุ้มทรงบันแถลง ยอดทรงมณฑปและบัวกลุ่ม
๒. กลุ่มพระอุโบสถใหม่
สถาปัตยกรรมกลุ่มนี้ ตั้งอยู่ภายในเขตกำแพงแก้ว ประกอบด้วยพระอุโบสถ พระวิหารทิศ ๒ หลัง ตั้งอยู่เบื้องหน้าพระอุโบสถ มณฑปแปดเหลี่ยมยอดพระปรางค์ มีพะไลรอบ ๒ หลัง ตั้งอยู่ท้ายพระอุโบสถด้านทิศตะวันออกและตะวันตก พระอุโบสถ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีพะไลรอบ หลังคา ๒ ซ้อน ๒ ตับ เครื่องลำยองประกอบด้วยช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ หน้าบันแกะสลักไม้ลงรักปิดทองประดับกระจกลายดอกพุดตานก้านแย่ง หน้าบันชั้นลดทำเป็นช่องหน้าต่าง ๒ บาน บานหน้าต่างลายพุ่มข้าวบิณฑ์ พื้นหน้าบันชั้นลดลายดอกลอยก้านแย่ง ซุ้มประตูหน้าต่างทรงบันแถลง ซุ้มเสมาทรงบันแถลงย่อมุมไม้สิบสอง ยอดทรงมณฑป มาลัยเถาทรงบัวกลุ่ม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย พระนามว่า พระพุทธชินวร
รูปพระอุโบสถ
ด้านหน้าพระอุโบสถประดิษฐานพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พร้อมด้วยแท่นบูชา ศิลาจารึกทรงใบเสมาขนาดใหญ่ และบ่อน้ำโบราณ
ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ มีกลุ่มสถาปัตยกรรมตั้งเรียงกันบนฐานไพที ประกอบด้วย พระเจดีย์ย่อมุมไม้ยี่สิบ ฐานยักษ์และลิงแบก บัวปากระฆังและปล้องไฉนเป็นบัวกลุ่ม จำนวน ๓ องค์ และพระวิหารราย จำนวน ๔ องค์ เป็นอาคารก่ออิฐถือปูนขนาดเล็ก มีประตู ๑ บาน ไม่มีหน้าต่าง เครื่องบนเป็นเครื่องลำยอง มีทวยรองรับชายคา เสาอิงมีบัวหัวเสา หน้าบันไม้แกะสลักลงรักปิดทองประดับกระจกลายก้านแย่ง ภายในอาคารเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นภาพเล่าเรื่อง, ลายดอกไม้ร่วง และเครื่องบูชา พระวิหารรายหลังที่ ๑ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ (ตะแคงขวา) พระวิหารรายหลังที่ ๒ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง ประกอบด้วยรูปประติมากรรมพระสาวก ๓ องค์ และภาพจิตรกรรมรูปพระสาวกบนผนังด้านทิศเหนือ พระวิหารรายหลังที่ ๓ ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทบนเขาสุมนกูฏ และพระวิหารรายหลังที่ ๔ ประดิษฐานพระพุทธรูปปางปรินิพพาน (ตะแคงซ้าย)
ภายในกำแพงแก้วพระอุโบสถ มีวิหารคดและศาลารายประดิษฐานพระพุทธรูปโดยรอบ ด้านนอกกำแพงแก้วทางด้านทิศเหนือ มีพระเจดีย์กลม ๒ องค์
กรมศิลปากร ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
๑.กำหนดบัญชีโบราณวัตถุสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๖๖ ตอนที่ ๖๔ วันที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๔๙๒ ๒.ขึ้นทะเบียนโบราณสถานและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถาน ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๙๔ ง วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๗
ชื่อผู้แต่ง กองวัฒนธรรม สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
ชื่อเรื่อง วารสารวัฒนธรรมไทย (ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๙)
พิมพ์ครั้งที่ -
สถานที่พิมพ์ พระนคร
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์สำนักทำเนียบนายกรัฐมนตรี
ปีที่พิมพ์ ๒๕๐๙
จำนวนหน้า ๗๓ หน้า
รายละเอียด
วารสารวัฒนธรรมไทย วารสารรายเดือน ของกองวัฒนธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับบนี้เป็นปีที่ ๖ ฉบับที่ ๙ เดือน พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๐๙ เรื่องที่น่าสนใจ เช่น มายาทไทยว่าด้วยการพูดและการใช้ถ้อยคำ ดอกไม้หอมในเมืองไทย การประดับกระจกสี วิธีรักษาครรภ์ของไทยยวน วัฒนธรรมกับโทรศัพท์ สุนทรีภาพในวรรณคดีไทย อิริยาบถลี่นางเลิ้ง สตรีตัวอย่างในพระพุทธศาสนา ประวัตินักดนตรีไทย ศิลปกรรมไทย เพลงในวรรณคดีไทย เรื่องขุนช้างขุนแผน ศูนย์ชุมนุมส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและตอบปัญหาวัฒนธรรม
ได้มาจากวัดห้วยสะพาน ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2533
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ. 136/4ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 40 หน้า กว้าง 5.3 ซม. ยาว 55.7 ซม.หัวเรื่อง พระอภิธรรมปิฎก พระปุคคลบัญญัติบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก วัดประดู่ทรงธรรม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
เลขทะเบียน : นพ.บ.662/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 4.5 x 47.5 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 213 (165-173) ผูก 2 (2568)หัวเรื่อง : แปดหมื่นสี่พันขัน--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.727/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 54 หน้า ; 4 x 55 ซ.ม. : ชาดทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 227 (317-325) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : ทุพภิกาขเวสวลีนคร-วาสีวตฺภู--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.789/1กห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 18 หน้า ; 5 x 60 ซ.ม. : ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 243 (477-487) ผูก 1ก (2568)หัวเรื่อง : สังฮอมธาตุ--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ขอเชิญชมนิทรรศการพิเศษเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย พุทธศักราช ๒๕๖๘ หัวข้อ “ประวัติศาสตร์ในถ้วยชา” บอกเล่าเรื่องราวของชาในบรรยากาศของร้านน้ำชา ที่มีการประดับตกแต่งด้วยภาพถ่ายเก่า และจัดแสดงชุดน้ำชา ไม่ว่าจะเป็นกาน้ำชา ปั้นชา และถ้วยชาอย่างสวยงามและหลากหลาย
นิทรรศการบอกเล่าการเดินทางของ “ชา”เครื่องดื่มยอดนิยมแห่งยุคสมัย เกี่ยวพันกับมวลมนุษยชาติมากว่า ๒,๐๐๐ ปี เป็นปัจจัยสร้างความมั่งคั่งให้จีนกลายเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์ถัง ตลอดจนช่วยเชื่อมสัมพันธ์ทางการค้าในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึง “เมืองสงขลา”
สงขลา ตั้งอยู่กึ่งกลางคาบสมุทรมลายู มีบทบาทเป็นเมืองท่าทางการค้าที่สำคัญ มีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติอย่างหลากหลายมาแต่โบราณ สงขลาตลอดจนพื้นที่อื่น ๆ ในภาคใต้ต่างก็รับวัฒนธรรมการดื่มชาอย่างเต็มที่ โดยมีร้านน้ำชาเป็นพื้นที่สนทนา พบปะสังสรรค์สำหรับทุกเพศทุกวัยมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการนี้ได้จนถึงวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๙ เปิดวันพุธ - วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา
๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. สอบถามเพิ่มเติม โทร. ๐ ๗๔๓๑ ๑๗๒๘ Facebook: Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา https://www.facebook.com/songkhlanationalmuseum
ชื่อเรื่อง วารสารสมาคมสุพรรณพระนคร พ.ศ.2503ผู้แต่ง -ประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ ประวัติศาสตร์ เลขหมู่ 900สถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์รามินทร์ปีที่พิมพ์ 2504ลักษณะวัสดุ 248 หน้าหัวเรื่อง พระกรณียกิจ วัดป่าเลไลย์ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึกวารสารเล่มนี้เป็นวารสารที่กล่าวถึงเรื่องราวในจังหวัดสุพรรณบุรี และเป็นความต้องการของผู้จัดทำที่อยากให้ใครที่มีเรื่องราวดีๆน่าสนใจได้นำมาลงในวารสาร
รัก : Rak (Love)
เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 47
เพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 47 ทรงพระราชนิพนธ์ในเดือนธันวาคม พุทธศักราช 2537 สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงสำหรับกลอนสุภาพ 3 บท ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อพระชนมายุ 12 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเพลงนี้ให้วงดนตรี อ.ส. วันศุกร์ บรรเลงทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม พุทธศักราช 2537 ต่อมาเมื่อทรงแก้ไขแล้ว ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ นำไปแยกและเรียบเรียงเสียงประสานเมื่อทรงดนตรีร่วมกับวงดนตรี อ.ส. วันศุกร์ ในงานพระราชทานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๓๘ ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แจกคำร้องเพลงพระราชนิพนธ์ “รัก” แก่แขกผู้ได้รับเชิญ ทุกโต๊ะไว้ล่วงหน้า ต่อมาก็เชิญแขกผู้ได้รับเชิญ อาทิ คณะองคมนตรี คณะรัฐมนตรี มีนายกรัฐมนตรีชวน หลีกภัยและนายทหารตำรวจชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปร้องเพลงพระราชนิพนธ์บนเวทีทีละโต๊ะจนทั่วถ้วน ถึงกับทรงบรรเลงดนตรี นำด้วยพระองค์เองต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำออกอากาศทางสถานีวิทยุ จ.ส. 100 เมื่อต้นปี 2538
Royal Composition Number 47
The forty-seventh royal musical composition was written in December 1994 at Her Majesty the Queen's request that a melody be made for a 3-verse poem written by Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn when she was 12. His Majesty gave the tune to the Aw Saw Wan Suk Band to be played every Friday and Sunday for the whole month of December 1994. Later after revising, he give it to Mr. Manrat Srikaranonda to be arranged for the performance when His Majesty joined the Aw Saw Wab Suk Band at the banquet on New Year's Eve of 1995 at Borom Phiman Mansion in the Grand Palace. His Majesty had the lyrics of the composition "Rak" distributed to guests at every table beforehand. The guests, privy councilors, cabinet, ministers, such as former prime minister Chuan Leekpai and senior police officers were then invited to sing on stage table by table, personally led by His Majesty on his saxophone. The composition was later broadcasted on Cho So 100 Radio in early 1995.