ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,656 รายการ

พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นการเรียบเรียงประวัติการพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช, พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 19, พระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ และพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช


         “นาค”บนรอยพระพุทธบาทวัดเสด็จ          ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ ๒๐          ได้มาจากวัดเสด็จ อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร          ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องสุโขทัย อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร          รอยพระพุทธบาทสัมฤทธิ์ ตรงกลางฝ่าพระบาทมีลายมงคล ๑๐๘ ประการ โดยขอบนอกรอยพระพุทธบาทด้านบนมีภาพพระอดีตพุทธเจ้า และขอบด้านล่างมีภาพพระสาวก มีจารึกอักษรขอมสุโขทัย ภาษาไทย กำกับแต่ละองค์ ลายมงคลปรากฏที่กึ่งกลางฝ่าพระบาทโดยจัดเรียงอยู่ในวงกลมซ้อนกันสี่ชั้น ประกอบด้วย ชั้นในสุดชั้นที่ ๑ เป็นเขาพระสุเมรุ ล้อมรอบด้วยแนวเทือกเขาและมหาสมุทร ๗ ชั้น ปรากฏพระอาทิตย์และพระจันทร์โคจรล้อมรอบ วงกลมชั้นที่ ๒ เป็นลวดลายเกี่ยวกับสัตว์หิมพานต์และพันธุ์พฤกษา วงกลมชั้นที่ ๓ เป็นสัญลักษณ์เครื่องสูงและสมบัติของพระมหาจักรพรรดิ และวงกลมชั้นที่ ๔ เป็นชั้นวิมานพรหม หนึ่งในลายมงคลที่ปรากฏในชั้นที่สองนับจากศูนย์กลางของพระบาทคือรูป “พญานาควาสุกรี” เนื่องจากลวดลายมงคล ๑๐๘ ประการในวัฒนธรรมสุโขทัยนั้นมีหลักฐานลายลักษณ์อักษรที่พรรณาไว้ อาทิ จารึกป้านางคำเยีย พ.ศ. ๑๙๒๒ จารึกด้วยอักษรไทยสุโขทัย ภาษาไทย-บาลี กล่าวถึงลายมงคลต่าง ๆ บนรอยพระพุทธบาท ปรากฏชื่อ “วาสุกรี” ในกลุ่มสัตว์หิมพานต์*           โดยพญานาควาสุกรี หรือ วาสุกี* มีการกล่าวขยายความไว้อยูใน “คัมภีร์โลกบัญญัติ**” ในหมวดติรัจฉานกัณฑ์ที่ ๑๖ เนื้อความกล่าวถึงเหล่าสัตว์เดรฉานในโลกมนุษย์ แบ่งออกเป็น ๔ ประเภท ได้แก่ สัตว์ที่ไม่มีเท้า สัตว์ที่มี ๔ เท้า สัตว์ที่มีหลายเท้า และสัตว์ปีก บทพรรณนาสัตว์ไม่มีเท้าได้กล่าวถึงนาค (งู) และมัจฉา (ปลา) สำหรับนาคนั้นอธิบายว่ามี ๔ ตระกูล ได้แก่วิรูปักษา เอราบถ ฉัพยาบุตร และกัณหาโคตมกะ แต่ละตระกูลจะมีคุณลักษณะต่างกันออกไป ส่วนพญานาควาสุกรี ความว่า          “...ที่เรียกว่าตระกูลพญางูวิรูปักษ์ หมายถึงตระกูลพญางู ที่มีราชาพญางู ๒ ตัว ชื่อ วิรูปักษ์ ๑ วาสุกี ๑ ครองความเป็นราชา มีอิศราธิปัตย์ของพญางูที่มีพิษแก่ผู้ที่พบเห็น (เพียงจ้องตาดูก็ถูกพิษพญางูพวกนี้แล้ว)...”          นอกจากนี้ใน “คัมภีร์นารายณ์ ๒๐ ปาง” หมวดพงศ์ในเรื่องรามเกียรติ์ กล่าวว่าพญานาควาสุกรีเป็นนาคที่รักษาลูกศิลาบดยาแก้หอกเมฆพัท ดังข้อความว่า “...พญาอนันตนาคราชที่เป็นอาสน์พระนารายณ์ ๑ พระกาลนาคบิดานางอัคคี มเหสีทศกัณฐ์ ๑ พญาวิรุณนาคที่รับนางสีดาไว้เมื่อหนีพระรามไปบาดาล ๑ พญากัมพลนาคที่บอกที่ซ่อนเร้นให้ตรีเมฆ ๑ พญาธตรฐนาคที่รักษาแม่ศิลาสำหรับบดยาแก้หอกกบิลพัท ๑ พญาวาสุกรีที่รักษาลูกศิลาบดยาแก้หอกเมฆพัท ๑...”          ครั้นในสมัยหลังชื่อ พญานาควาสุกรี ก็ปนไปกับพญาอนันตนาคราชของพระวิษณุในศาสนาพราหมณ์ ดังปรากฏใน “พระเป็นเจ้าของพราหมณ์” พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ในหัวข้อพญาอนันตนาคราช กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า           “...พญาอนันตนาคราช หรือเศษนาค และวาสุกีก็เรียก เป็นอธิบดีแห่งนาคทั้งหลาย และเป็นใหญ่เหนือแคว้นบาดาล เป็นบัลลังก์ที่พระนารายน์บรรทมพักในระหว่างสร้างโลก มีศีรษะพัน ๑ ฯ บางตำหรับก็ว่าพญาเศษนาคเป็นผู้แบกโลกไว้ และบางแห่งก็ว่ารองบาดาลทั้ง ๗ ชั้น เมื่อหาวครั้งใดแผ่นดินก็ไหวครั้งนั้น ฯ เมื่อสิ้นกัลปก็พ่นพิษเป็นเปลวไฟไหม้โลกหมดสิ้น ฯ เมื่อครั้งเทวดากวนเกษียรสมุทรเพื่อหาน้ำอมฤตนั้น ได้ใช้พญาเศษนาคเป็นเชือกพันรอบมันทรคีรีและชักภูเขานั้นให้หมุนไป ฯ...”     *แนวคิดดังกล่าวนี้ยังคงสืบเนื่องมาจนถึงสมัยอยุธยา ดังปรากฏหลักฐานในคัมภีร์ “พุทธฺปาทลกฺขณ” ต้นฉบับคัมภีร์จารด้วยอักษรขอม ภาษาลาลี ระบุว่าจารขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๒ (ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ-ราชวงศ์บ้านพลูหลวง) ข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงมงคลข้อที่ ๕๓ วาสุกี อุรคราชา คือ พญานาควาสุกรี  **ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ระบุว่าเขียนได้สองแบบคือ “วาสุกรี,วาสุกี” หมายถึง ชื่อพญานาคร้ายตนหนึ่ง; พญานาค. [ดูใน ราชบัณฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ: ราชบัณฑิตยสถาน, ๒๕๕๖, ๑๑๓๖.] ***แต่งขึ้นโดยพระสัทธรรมโฆษเถระ มีเนื้อหาเกี่ยวกับภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ของโลกซึ่งจัดอยู่ในหมวดโลกศาสตร์ว่าด้วยจักรวาล เนื้อเรื่องแบ่งออกเป็น ๑๖ กัณฑ์ เช่น กัณฑ์ที่๑ เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้แผ่นดินไหว กัณฑ์ที่๒ ว่าด้วย ต้นไม้กับความหมายชมภูทวีป เป็นต้น     อ้างอิง รักชนก โคจรานนท์. การวิเคราะห์ลักษณะและความหมายรอยพระพุทธบาทในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร. กรุงเทพฯ: เฮงศักดิ์มั่นคง, ๒๕๕๙. มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. พระเป็นเจ้าของพราหมณ์. พระนคร: โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม. (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพนางสาวศุภา สิริกาญจน ณ สุสานหลวง วัดเทพศิรินทราวาส ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๓). วัฒนะ บุญจับ. คัมภีร์นารายณ์ ๒๐ ปาง. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๕๘. สัทธรรมโฆษเถระ, พระ. โลกบัญญัติ. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, ๒๕๒๘.


พุทธเจดีย์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้าง ผู้แต่ง : พระกิตติวุฑโฒภิกขุ  ต้นฉบับอยู่ที่ : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี (ห้องกรมศิลปากร) โรงพิมพ์ : โรงพิมพ์มหามงกุฏ ราชวิทยาลัย ปีที่พิมพ์ : 2519 รูปแบบ : PDF ภาษา : ไทย เลขทะเบียน : น 30 ร. 6396   เลขหมู่ : 294.3135 พ829พท สาระสังเขป : ประวัติสังเขปของนายทองหล่อ ทองบุญรอด มีภาพขาวดำ ประกอบในเล่ม เรื่องพุทธเจดีย์ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้าง พระพุทธรูป เนื่องด้วยพระราชประวัติ พระพุทธรูป 33 ปาง เรื่อง เครื่องหมายของคนดี นิทานเรื่อง ผลแห่งความกตัญญู


           พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ขอเชิญร่วมกิจกรรมพิเศษ "แต่งใต้ไฉไล2024" ชวนมาแต่งตัวเที่ยวงานด้วยชุดพื้นถิ่นกลิ่นใต้ให้เฉี่ยวจนต้องเหลียวหลัง ไม่ว่าจะเป็นชุดกี่เพ้าลุคลูกสาวชาวจีนสุดแซ่บ จะนุ่งโจงห่มสไบในลุคสาวมณฑลนครศรีฯสุดหวาน หรือจะสะบัดปาเต๊ะแต่งลุคสาวมลายูสุดเฟี้ยว เราก็พร้อมเปิดรันเวย์ให้คุณได้เฉิดฉาย พร้อมลุ้นรับรางวัลสุดพิเศษจากสายการบิน Airasia และ Laguna Grand Hotel & Spa              กติกาการร่วมสนุก             1.แต่งกายด้วยชุดพื้นถิ่นใต้ในสไตล์ของตัวเองเที่ยวงาน Music and Night at the Museum             2.โพสต์ลง Facebook พร้อมตั้งค่าสาธารณะ / โพสต์ผ่าน Facebook พร้อมตั้งค่าสาธารณะ             3.ติด #แต่งใต้ไฉไล2024 #musicandnightatthemuseum             4.ตัดสินจากจำนวนการกดถูกใจ             5.นับคะแนนถึงวันที่ 5 มีนาคม 2567 เวลา 23.59 น.             6.ประกาศผลวันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 10.00 น. ทางเฟสบุ๊ก เพจ Songkhla National Museum พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา * ทั้งนี้ การตัดสินของผู้จัดงานถือเป็นการสิ้นสุด*             ชิงรางวัล             1.ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ เส้นทางหาดใหญ่-เชียงใหม่ จากสายการบิน Airasia จำนวน 1 รางวัล             2.ห้องพักพร้อมอาหารเช้า จาก Laguna Grand Hotel & Spa จำนวน 3 รางวัล             กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งในงาน Music and Night at the Museum จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 - 2 มีนาคม 2567 เวลา 17.00 - 21.00 น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ขอเชิญชวนทุกท่านไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์และร่วมกิจกรรมต่างๆ แล้วการมาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป สามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมอื่น ๆ ได้ทางเฟสบุ๊ก เพจ Songkhla National Museum : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา  - ขอบคุณรางวัลจากสายการบิน Airasia และโรงแรม Laguna Grand Hotel & Spa Songkhla - ขอขอบคุณภาพสวย ๆ จากแบรนด์  Banong บานง


เนินอรพิม   ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของปราสาทพนมวัน เป็นอาคารที่มีฐานบัวก่อด้วยศิลาแลงเป็นกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า อายุประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ ๑๕ - กลางพุทธศตวรรษที่ ๑๖ จากลักษณะการใช้งานของอาคารนี้อาจเป็นอาคารที่เรียกว่า "พลับพลา" ซึ่งเป็นที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์ก่อนที่จะเสด็จไปสักการะรูปเคารพที่อยู่ภายในปราสาทพนมวัน                           


วันฉัตรมงคลวันฉัตรมงคลตรงกับวันที่ ๔ พฤษภาคมเป็นวันที่รำลึกถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ ๑๐ แห่งราชวงศ์จักรี ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนั้นว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”


ปกิณกศิลปวัฒนธรรม เล่ม 19 จังหวัดตราด ผู้แต่ง : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ต้นฉบับอยู่ที่ : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี (ห้องหนังสือกรมศิลปากร) ผู้พิมพ์ : สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์ : 2556 รูปแบบ : PDF ภาษา : ไทย เลขทะเบียน : น. 56 บ. 69271 จบ. (ร) เลขหมู่ : 294.3135 ป119 ล. 19 สาระสังเขป : หนังสือจัดพิมพ์ในโอกาสกรมศิลปากรถวายผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดโยธานิมิต จังหวัดตราด เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เนื้อหาว่าด้วยเรื่องวัดโยธานิมิต รวบรวมประวัติความเป็นมาของจังหวัดตราด รวมถึงสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร แหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เทศกาลงานประเพณี วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวตราด ตลอดจนข้อมูลภารกิจของกรมศิลปากรในเขตพื้นที่จังหวัดตราด  



           พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ขอเชิญชมนิทรรศการ “Blending Souls : Indonesia – Thailand Painting Exhibition” นิทรรศการความร่วมมือประจำเดือนตุลาคม ระหว่างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป กรมศิลปากร และสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำประเทศไทย            นิทรรศการ “Blending Souls : Indonesia – Thailand Painting Exhibition” เป็นนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานจิตรกรรมของศิลปินที่มีชื่อเสียงของทั้งสองประเทศ โดยในปีนี้มีศิลปินชาวอินโดนีเซียจำนวน 12 คน นำภาพจิตรกรรมหลากหลายเทคนิคมาร่วมแสดงผลงานกับศิลปินไทยจำนวน 12 คน เช่น ภานุพงศ์ คงเย็น, ปานพรรณ ยอดมณี, สมโภชน์ สิงห์ทอง, สุชาติ วงษ์ทอง, สมศักดิ์ เชาวน์ธาดาพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2560 โดยในนิทรรศการครั้งนี้มีผลงานที่นำมาจัดแสดงกว่า 40 ชิ้น จัดแสดงระหว่างวันที่ 4 – 30 ตุลาคม 2567 ณ อาคารนิทรรศการ 6 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น. (หยุดวันจันทร์ วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท นักเรียน นักศึกษา ผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และนักบวชทุกศาสนา เข้าชมฟรี โดยจะมีพิธีเปิดนิทรรศการวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2567 เวลา 14.00 น.    “Blending Souls : Indonesia – Thailand Painting Exhibition”  Exhibition dates 4th - 30th October 2024 : 9 AM. - 4 PM. Closed on Monday - Tuesday and National holidays. At Building 6, The National Gallery of Thailand Opening Reception 14th October 2024 : 2 PM.              นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Painting Workshop with Indonesian Artists ประกอบนิทรรศการ “Blending Souls : Indonesia – Thailand Painting Exhibition” โดยได้รับเกียรติจากศิลปินชาวอินโดนีเซียจำนวน 10 ท่านมาร่วมสอนการทำกิจกรรม workshop อย่างใกล้ชิด งานนี้จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 – 12.00 น. ณ ห้องอเนกประสงค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป  *รับจำนวนจำกัดเพียง 50 ท่านเท่านั้น* ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมสามารถสแกนคิวอาร์โค้ดจากโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์หรือกด https://me-qr.com/ZlH1axSR สอบถามหรือติดตามข่าวสารกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทาง Facebook : The National Gallery of Thailand




ชื่อเรื่อง                     มหาวชิราวุธานุสรณ์ผู้แต่ง                       รัชกาลที่ 6ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   วรรณกรรม  วรรณคดีเลขหมู่                      808.882  ม113มสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัยปีที่พิมพ์                    2499ลักษณะวัสดุ               112  หน้าหัวเรื่อ                      หนังสืองานศพภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พิมพ์ชำร่วยในการบำเพ็ญกุศลคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 31 ปี ณ วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 25 พฤศจิกายน 2499


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       67/2กหมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               74 หน้า : กว้าง 5.1 ซม. ยาว 58 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด  ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อผู้เรียบเรียง     เพลินพิศ กำราญ. ชื่อเรื่อง             พระราชพิธีอภิเษกสมรส สมด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร. ครั้งที่พิมพ์          พิมพ์ครั้งที่ ๑ สถานที่พิมพ์        กรุงเทพฯ. สำนักพิมพ์          กรมศิลปากร ปีที่พิมพ์             ๒๕๒๑ จำนวนหน้า          ๔๗ หน้า : ภาพประกอบ. ISBN                  - เลขเรียกหนังสือ     ๓๙๔.๔ พ ๙๒๕ พ เลขทะเบียนหนังสือ ๐๑๒๑๙๐                                       พระราชพิธีอภิเษกสมรส สมด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารและพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีเมื่อวันที่๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ เป้นพระราชพิธีชาวไทยทุกคนมีความชื่นชมและสนใจเป็นอย่างยิ่ง  


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       79/7หมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               54 หน้า : กว้าง 4.7 ซม. ยาว 54 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก                    เป็นคัมภีร์ใบลานฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา 


ชื่อเรื่อง                     สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ.                       89/5หมวดหมู่                   พุทธศาสนาประเภทวัสดุ/มีเดีย       คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ               54 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 55 ซม.บทคัดย่อ/บันทึก                    เป็นคัมภีร์ใบลานฉ บับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา 


black ribbon.