ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,712 รายการ



พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรี นำเสนอโบราณวัตถุชิ้นสำคัญ "ตุ๊กตาสังคโลกรูปบุคคล จากแหล่งเรือจมกลางอ่าวไทย" แหล่งเรือจมกลางอ่าว เป็นแหล่งเรือจมที่พบโบราณวัตถุกว่าหมื่นชิ้น การค้นพบนั้นเริ่มจากกองทัพเรือได้ยึดโบราณวัตถุจากเรือลักลอบงมหาโบราณวัตถุชื่อเรือออสเตรเลียไทด์ โบราณวัตถุของกลางที่ได้จากการจับกุม ประกอบด้วย เครื่องสังคโลกจากเตาสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย จำนวนประมาณ 6,525 รายการ เครื่องปั้นดินเผาจากเตาแม่น้ำน้อย อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี จำนวนประมาณ 3,425 รายการ เครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตใน ประเทศเวียดนาม จำนวน 329 รายการ เครื่องถ้วยจีนจำนวน 5 รายการ ปืนใหญ่ขนาดเล็กที่ใช้มือถือ 3 รายการ ในกลุ่มเครื่องสังคโลกจากเตาสุโขทัย-ศรีสัชนาลัย มีประติมากรรมลอยตัวรูปบุคคล ทำจากดินเผาเนื้อแกร่งเคลือบผิว จำนวน 3 รายการ รายการที่ 1 เป็นประติมากรรมรูปบุคคลนั่งอยู่บนแท่น ขนาดสูง 28.00 เซนติเมตร ลักษณะแต่งกายแบบเซียนของจีน สองมืออุ้มนกหรือไก่ประคองไว้ที่หน้าอก ประติมากรรมรูปนี้ภายในกลวง และที่บนศีรษะเปิดออกเป็นช่อง อีก 2 รายการเป็นตุ๊กตาสังคโลกรูปสตรีเปลือยอก ขนาดสูงประมาณ 20 เซนติเมตร ลักษณะปั้นแบบลอยตัวนั่งพับเพียบ มือซ้ายวางไว้ที่หน้าตัก มือขวาประคองก้นภาชนะที่แบกไว้บนไหล่ขวา ประติมากรรมรูปบุคคลทั้ง 3 รายการ ที่พบในแหล่งเรือจมกลางอ่าวไทยนั้น ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์และประโยชน์ใช้สอย สันนิษฐานว่าเป็นรูปเคารพและวัตถุที่เกี่ยวเนื่องทางความเชื่อ อ้างอิง 1. ปริวรรต ธรรมปรีชากร,สว่าง เลิศฤทธิ์ และกฤษฎา พิณศรี,ศิลปะเครื่องถ้วยในประเทศไทย (กรุงเทพ : โอสถสภา,2539) 2.กรมศิลปากร.ประวัติศาสตร์การพาณิชย์นาวีไทย.ผู้เขียนและเรียบเรียง นายเอิบเปรม วัชรางกูร : สำนักพิมพ์สมาพันธ์ จำกัด,2544


โมทยากร. พระราชประวัติพระราชวงศ์และ 131 เจ้าฟ้าไทย.  กรุงเทพฯ: พิทยาคาร, 2514.           รวบรวมพระราชประวัติบุคคลในพระราชวงศ์ไทย รายพระนามพระราชวงศ์ไทย เจ้าจอมมารดาและเจ้าฟ้า เสนาบดี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ พร้อมภาพประกอบครบครัน


ขอเชิญรับชม ตลาดเมืองสงขลา สีสันวันวาน https://youtu.be/f1zEZAFWOeA


พระสมรรถบริหาร (พ่วง พรหมบุตร). อุปกรณ์การทัศนา ปราสาทหินพิมาย พระพุทธรูป เทวรูป และอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี. พระนคร : โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย, 2502. ( 915.9332  ส275อ ) เป็นคู่มือแนะนำโบราณสถาน โบราณวัตถุ  ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีในจังหวัดนครราชสีมา โดยเน้นที่ความสำคัญของปราสาทหินพิมาย ซึ่งเป็นโบราณสถานเก่าแก่ มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมนอกจากปราสาทหินพิมายแล้ว ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับพระพุทธรูป เทวรูปต่างๆ ที่พบในจังหวัดนครราชสีมา รวมถึงอธิบายลักษณะของพระพุทธรูปในแต่ละยุคสมัย อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่กล่าวถึงในหนังสือ คืออนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) วีรสตรีผู้เป็นที่เคารพสักการะของชาวนครราชสีมา วัตถุประสงค์ของการจัดทำหนังสือเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจในด้านโบราณคดี และผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อชื่นชมความงดงามของโบราณสถาน โบราณวัตถุ ในจังหวัดนครราชสีมา    -  จัดพิมพ์เนื่องในการทำบุญอายุครบรอบ 6 รอบ พระสมรรถบริหาร  (พ่วง พรหมบุตร)    วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2502



วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๔๖๘ ส่งหีบเพลิงไปพระราชทานเพลิงศพแม่เจ้าศรีโสภา ณ น่าน ส่งหีบเพลิงไปพระราชทานเพลิงศพ วันที่ ๑๖ กันยายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๘  ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานจัดหีบเพลิง ส่งไปพระราชทานเพลิงศพ เจ้าศรีโสภา จ.จ. ภรรยาเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่าน ที่สุสานดอนไชย อำเภอเมือง จังหวัดน่าน พระราชทานเงิน ๑๐๐๐ สตางค์ ผ้าขาว ๒ พับ กับเครืองกัณฑ์เทศน์เปนพิเศษเครื่อง ๑(ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๔๒ หน้า ๑๙๓๘ วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๖๘).     แม่เจ้าศรีโสภา ณ น่าน ชายาองค์ที่ ๑ หรืออัครชายา ของเจ้ามหาพรหมสุรธาดา เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ ๖๔ มีบุตรธิดา คือ เจ้าสุริยวงศ์ (เจ้าน้อยยานนท์ ณ น่าน) เจ้าหญิงบัวเขียว ณ น่าน เจ้าบุรีรัตน์ (เจ้าน้อยขัตติยศ ณ น่าน) และเจ้าราชบุตร (เจ้าน้อยหมอกฟ้า ณ น่าน) ในหนังสือประวัติมหาอำมาตย์โทและนายพลตรีเจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน กล่าวว่าเจ้ามหาพรหมสุรธาดา มีโอรสธิดากับเจ้าหญิงศรีโสภา รวม ๘ คน คือ โอรส ๖ ธิดา ๒ แม่เจ้าศรีโสภา ณ น่าน เป็นธิดาพระยาวังขวา (คำเครื่อง) (เจ้าคำเครื่อง เป็นโอรสพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช กับแม่เจ้ายอดหล้า อัครราชเทวี) กับเจ้าหญิงอุษา (บางแห่งระบุเจ้านางภูคา ณ น่าน) ในปี พ.ศ. ๒๔๔๙ ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นจตุตถจุลจอมเกล้า (จ.จ.) (ฝ่ายใน)  วิสามัญสมาชิกาจตุตถจุลจอมเกล้า. แม่เจ้าศรีโสภา ณ น่าน ได้ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๗ (นับปีใหม่วันที่ ๑ เมษายน) ในบันทึกความทรงจำสำราญ จรุงจิตรประชารมย์ มหาดเล็กเจ้ามหาพรหมสุรธาดา กล่าวถึงงานศพแม่เจ้าศรีโสภา ว่า “ศพของแม่เจ้าศรีโสภา ปลงศพตั้งปราสาท ๓ ยอด สวยงามมาก บำเพ็ญกุศล ๓ วัน ๓ คืน ณ ท้องข่วง มี “การตี๋มวย (ชกมวย)” “ผุยมะนาว (โปรยทาน)” ในการปลงศพ การชกมวย ผุยมะนาวในงานศพจะทำได้เฉพาะงานพระศพของเจ้าผู้ครองนครและเจ้านายชั้นสูงเท่านั้น คนสามัญห้ามเด็ดขาด เป็นอาณาสิทธิของเจ้าผู้ครองนคร เว้นพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ให้ทำได้โดยอนุโลม” “ศพแม่เจ้าศรีโสภา ตั้งบำเพ็ญกุศล ๓ วัน ๓ คืนนั้น จึงพระราชทานเพลิง ในระหว่างตั้งปลงศพแม่เจ้าศรีโสภา บำเพ็ญกุศล ๓ วัน ๓ คืนนั้น นอกจากตีมวย (ชกมวย) และผุยมะนาวแล้ว มีการจุดพลุญี่ปุ่นและอุ่มงัน (สมโภช) ด้วยระนาดปาดก้อง (ฆ้อง) (ปี่พาทย์) วงใหญ่ การบรรเลงเป็นเพลงล้านนาไทยโบราณ เท่าที่ผมจำได้มีเพลงม้าย่อง เพลงม้าตึ๊บคอก (กระทืบ) เพลงปราสาทไหว เพลงกราวนอก เพลงแม่ม่ายก้อม (สั้น) เพลงน้ำตกตาด (เหว) เป็นต้น”.เอกสารอ้างอิงเจ้าน้อยสำราญ จรุงจิตรประชารมณ์ (ณ น่าน). ทำเนียบต้นวงศ์ตระกูล ณ น่าน. ๒๕๓๘.บันทึกความทรงจำสำราญ จรุงจิตรประชารมย์. หจก.อิงค์เบอรี่ : น่าน. ๒๕๕๘.ประวัติมหาอำมาตย์โทและนายพลตรีเจ้ามหาพรหมสุรธาดาฯ เจ้าผู้ครองนครน่าน. โรงพิมพ์ศรีหงส์. ๒๔๘๐.ราชกิจจานุเบกษา. พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์. เล่ม ๒๓ หน้า ๘๙๔ วันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๑๒๕. http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2449/035/893.PDFราชกิจจานุเบกษา. ส่งหีบเพลิงไปพระราชทานเพลิงศพ. เล่ม ๔๒ หน้า ๑๙๓๘ วันที่ ๒





          สำนักหอสมุดแห่งชาติ จัดนิทรรศการส่งความสุข “ศุภฤกษ์เบิกชัย สวัสดีปีใหม่” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทยผ่านทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่าง ๆ ของหอสมุดแห่งชาติ ระหว่างวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ - ๒๒ เมษายน ๒๕๖๖  ณ ห้องวชิรญาณ ๒ - ๓ อาคาร ๒ ชั้น ๑ สำนักหอสมุดแห่งชาติ            นิทรรศการนำเสนอความเป็นมาของวันขึ้นปีใหม่ในเมืองไทย พระราชพิธีขึ้นปีใหม่ในรัชสมัยต่าง ๆ พระราชดำรัสพระราชทานในโอกาสขึ้นปีใหม่ โคลงให้พรปีใหม่ของพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงจัดแสดงบัตรส่งความสุข บัตรอวยพร ส.ค.ส.พระราชทาน และเพลงพระราชนิพนธ์พรปีใหม่ นอกจากนี้ยังนำเสนอเรื่องราวของปฏิทิน สมุดบันทึก และกิจกรรมเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ด้วย            ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการส่งความสุข "ศุภฤกษ์เบิกชัย สวัสดีปีใหม่" ได้ทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๓๐ น. ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ ๒๒ เมษายน ๒๕๖๖ ณ ห้องวชิรณาณ ๒ – ๓ อาคาร ๒ ชั้น ๑ สำนักหอสมุดแห่งชาติ เขตดุสิต กรุงเทพฯ


          วันที่ ๑๑ มกราคม ๒๕๖๖ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยผู้ช่วยศาสตราจารย์รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการด้านงานโบราณคดีและการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ ณ ห้องประชุมกรมศิลปากร เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร            นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรมศิลปากร และ อพวช. ได้ร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์และการดูแลรักษาวัตถุพิพิธภัณฑ์ จากทรัพยากรและความสามารถของทั้งสององค์กร ร่วมไปกับการพัฒนาและสนับสนุนบุคลากรของทั้งสองฝ่ายในด้านการศึกษาวิจัย ตลอดจนการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาการ และการดำเนินงานศึกษาวิจัยทั้งในด้านภูมิปัญญา ศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการส่งเสริมพัฒนากิจการพิพิธภัณฑ์และโบราณคดี อันเป็นภารกิจตามกฎหมายของทั้งสององค์กร     ผู้ช่วยศาสตราจารย์รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า “อพวช. มีภารกิจในการส่งเสริมสังคมไทยให้เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมปลูกฝังและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เยาวชน และประชาชนในสังคมให้มีทัศนคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยการจัดแสดงนิทรรศการ และกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ผ่านแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้สนุกกับการค้นพบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้วยความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์ การลงนามความร่วมมือระหว่าง อพวช. และ กรมศิลปากร ในครั้งนี้ หวังสร้างมาตรฐานและพัฒนาองค์ความรู้ในด้านการจัดการพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นการให้บริการแก่เยาวชนและประชาชนในการมาใช้ประโยชน์จากพิพิธภัณฑ์ให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้ง ร่วมดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกิจการพิพิธภัณฑ์ อาทิ การเก็บรักษาและจัดทำคลังวัตถุพิพิภัณฑ์ อันนำไปสู่ความร่วมมือด้านอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต”        อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรมศิลปากรมีความพร้อมที่จะดำเนินงานร่วมกับ อพวช. เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือที่กรมศิลปากรได้ลงนามร่วมกัน ซึ่งนอกเหนือจากกิจกรรมความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยแล้ว ทั้งสองฝ่ายยังให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากร และการศึกษาดูงานระหว่างองค์กร กรมศิลปากรมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เฉพาะด้านในการบริหารจัดการทรัพยากรมรดกทางศิลปวัฒนธรรม เช่น ฐานข้อมูลที่ได้จากการอนุรักษ์โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และฐานข้อมูลที่ได้จากการอนุรักษ์แหล่งโบราณคดีทั่วประเทศในความดูแลของกรมศิลปากร รวมถึงโครงการกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ของประเทศไทย อันเป็นรากฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านวิทยาศาสตร์ในอนาคต และเพื่อให้การปฏิบัติภารกิจด้านพิพิธภัณฑ์และโบราณคดีของทั้งกรมศิลปากรและ อพวช. เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชนชนผู้ใช้บริการต่อไป”  


          กรมศิลปากร ขอเชิญผู้สนใจร่วมงานการสัมมนา "วิจัย วิจักขณ์"  นำเสนอผลงานวิชาการของกรมศิลปากร ประจำปี ๒๕๖๕ วันที่ ๓๐ - ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖ ณ ห้องประชุมใหญ่และห้องดอกไม้สด หอสมุดแห่งชาติ เทเวศร์ กรุงเทพมหานคร           ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมฟังการเสวนา โดยสแกนคิวร์อาร์โค้ดในภาพ หรือกดลิ้ง https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSfrqrsF0rLazO16UmTXBiWcXBA4wGAKFTgEDiBcGfs8Fg9Jog/viewformโดยมีผลงานวิชาการของกรมศิลปากรที่น่าสนใจหลากหลายเรื่อง ดังนี้


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 150/6 เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมสงฺคห) ชบ.บ 179/1ค เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


black ribbon.