ประจักษ์พยานแห่งอารยธรรมบนผืนแผ่นดินไทย : การยืนยันความเป็นชาติผ่านมรดกปราสาทหินเขตชายแดน

บนผืนแผ่นดินไทยอันงดงาม ทอดตัวยาวตามแนว เทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เราจะพบเห็นร่องรอยของ อารยธรรมขอมโบราณ อันยิ่งใหญ่ นั่นคือ ปราสาทหิน โบราณสถานเหล่านี้ไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมที่วิจิตรตระการตา แต่ยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่บ่งบอกถึงการเข้ามาของอารยธรรมขอมบนผืนแผ่นดินที่เป็นประเทศไทยในปัจจุบัน และเป็นความภาคภูมิใจในฐานะ มรดกของชาติไทย ที่ได้รับการดูแลและขึ้นทะเบียนมาอย่างยาวนาน
 
รากฐานแห่งอารยธรรมบนแผ่นดินสยาม
ปราสาทหินที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของไทย เป็นเครื่องยืนยันถึงอิทธิพลของอาณาจักรขอมโบราณที่แผ่ขยายมายังดินแดนแห่งนี้ สถาปัตยกรรมที่โอ่อ่า การแกะสลักหินที่ประณีตงดงาม และความเชื่อทางศาสนาที่ฝังลึกอยู่ในตัวปราสาท ล้วนสะท้อนถึงความรุ่งเรืองทางศิลปะและวัฒนธรรมในอดีต อารยธรรมขอมได้หลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ชาติไทย ปราสาทเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่ "ของกัมพูชา" แต่เป็น มรดกร่วมทางอารยธรรม ที่นักโบราณคดีและผู้เชี่ยวชาญชาวไทยได้ศึกษา บำรุงรักษา และนำเสนอมาอย่างยาวนาน เป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ไทยกับความรุ่งเรืองของอารยธรรมในภูมิภาค
 
ปราสาทชายแดน : มรดกที่ท้าทายและเป็นข้อพิพาท
แม้ว่าปราสาทหินเหล่านี้จะเป็นมรดกอันล้ำค่า แต่หลายแห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชายังคงมีประเด็นข้อพิพาทหรือเคยเป็นพื้นที่อ่อนไหวระหว่างสองประเทศ
• ปราสาทเขาพระวิหาร: เป็นกรณีที่โด่งดังที่สุด ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ได้ตัดสินให้ตัวปราสาทอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชาในปี พ.ศ. 2505 และมีคำตัดสินเพิ่มเติมในปี พ.ศ. 2556 [1] อย่างไรก็ตาม พื้นที่โดยรอบปราสาทยังคงเป็นจุดที่มีความอ่อนไหวและมีการถกเถียงเรื่องเขตแดน
• กลุ่มปราสาทตาเมือน (ตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาเมือน) จังหวัดสุรินทร์: กรมศิลปากรของไทยได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 [1] และยืนยันว่าเป็นดินแดนของไทย 100% [3.1, 3.2] แต่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2568 กัมพูชาได้ประกาศว่าจะนำประเด็นเรื่องปราสาทตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาควาย และพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าสู่ศาลโลกอีกครั้ง [2.1, 2.3] ซึ่งสร้างความตึงเครียดตามแนวชายแดน
• ปราสาทตาควาย (จังหวัดสุรินทร์): เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มปราสาทตาเมือน และกำลังเป็นเป้าหมายที่กัมพูชาเตรียมนำเข้าสู่ศาลโลกเช่นกัน [2.1]
• ปราสาทโดนตวล (จังหวัดศรีสะเกษ): ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดน มีรายงานข่าวล่าสุดในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2568 เกี่ยวกับการเสริมกำลังทหารของกัมพูชาใกล้ปราสาทโดนตวล [5.1, 5.3, 5.4] ซึ่งสะท้อนความตึงเครียดและประเด็นเรื่องเขตแดน นอกจากนี้ยังมีความเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทพื้นที่รอบปราสาทเขาพระวิหารด้วย [5.2]
• อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม (จังหวัดสระแก้ว): ปราสาทแห่งนี้อยู่ในอาณาเขตของประเทศไทยอย่างชัดเจน และกรมศิลปากรได้ดำเนินการอนุรักษ์มาโดยตลอด [4.2] แม้จะเคยถูกหยิบยกมาเป็นกรณีศึกษาในบริบทความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา แต่ปัจจุบันไม่มีข้อพิพาทเรื่องอธิปไตย
 
การยืนยันความเป็นชาติไทยผ่านการพิทักษ์มรดก
ประเทศไทย โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตระหนักถึงความสำคัญของโบราณสถานเหล่านี้มาโดยตลอด จึงได้ดำเนินการ ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติไทย อย่างเป็นทางการ ภายใต้พระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ซึ่งเป็นการยืนยันสิทธิในการดูแล บำรุงรักษา และอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้ในฐานะส่วนหนึ่งของแผ่นดินไทย ดังตัวอย่างที่ชัดเจน
• ปราสาทเขาพระวิหาร: แม้คำตัดสินศาลโลกจะทำให้ตัวปราสาทอยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชา แต่ประเทศไทยยังคงรักษาผลประโยชน์ในพื้นที่โดยรอบที่เป็นส่วนหนึ่งของไทย และเป็นผู้ดูแลเส้นทางขึ้นสู่ปราสาทมาอย่างยาวนาน
• กลุ่มปราสาทตาเมือน (ตาเมือนธม, ตาเมือนโต๊ด, ตาเมือน) จังหวัดสุรินทร์: กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2478 [1] มีการประกาศกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษา [2] และกรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
• ปราสาทตาควาย (จังหวัดสุรินทร์): ได้รับการดูแลและอยู่ภายใต้การกำกับของกรมศิลปากรในฐานะโบราณสถานของไทยเช่นกัน [3] การดำเนินการทางกฎหมายและการบริหารจัดการพื้นที่ได้ยืนยันถึงความรับผิดชอบของประเทศไทย
• ปราสาทโดนตวล (จังหวัดศรีสะเกษ): การดูแลปราสาทโดนตวลนี้ ยิ่งตอกย้ำถึงความเชื่อมโยงทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ไทยมีต่อมรดกขอมโบราณบนผืนแผ่นดินของตน [3, 4]
 
โบราณสถานเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความเป็นชาติไทยในหลายมิติ
• มรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า: เป็นหลักฐานแสดงถึงความหลากหลายและวิวัฒนาการทางวัฒนธรรม รวมถึงอารยธรรมที่เคยรุ่งเรืองบนผืนแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นรากฐานของวัฒนธรรมไทยในปัจจุบัน
• ประวัติศาสตร์ชาติไทยที่จับต้องได้: เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทยที่แสดงถึงการขยายตัวและการเปลี่ยนแปลงของอาณาจักรต่างๆ ในภูมิภาค และปฏิสัมพันธ์ระหว่างชนชาติ
• แหล่งเรียนรู้และสร้างความตระหนัก: เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศิลปะ และโบราณคดีที่สำคัญยิ่ง สำหรับคนไทยทุกยุคสมัยได้เข้าใจรากเหง้า อัตลักษณ์ และภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
• การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน: ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น อีกทั้งยังสร้างความตระหนักถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม
• ความภาคภูมิใจและเอกราชของชาติ: การดูแลรักษาและอนุรักษ์ปราสาทเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เป็นการแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในมรดกของชาติ และความรับผิดชอบต่อคนรุ่นหลัง ซึ่งสะท้อนถึงอธิปไตยและความสามารถของประเทศไทยในการพิทักษ์มรดกทางวัฒนธรรมบนผืนแผ่นดินของตน
 
การที่ประเทศไทยได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนและดูแลรักษาปราสาทโบราณเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นการยืนยันถึงสิทธิอันชอบธรรมในการเป็นผู้ดูแลมรดกทางวัฒนธรรมเหล่านี้บนแผ่นดินของตน และเน้นย้ำถึงความเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของประวัติศาสตร์และอัตลักษณ์ของชาติไทย ที่แม้กาลเวลาจะผ่านไป ปราสาทหินเหล่านี้ยังคงยืนหยัดเป็นสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์และความภาคภูมิใจของคนไทยตลอดไป
 
สำหรับท่านที่สนใจเกี่ยวกับ โบราณสถานในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา สามารถสืบค้นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ โบราณคดี และความรู้รูปแบบทางศิลปะของปราสาทเหล่านี้ได้ที่ #ห้องค้นคว้า ชั้น 2 หอสมุดเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา เราขอแนะนำหนังสือบางส่วนที่น่าสนใจดังนี้
1.ชื่อหนังสือ : ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 3 จังหวัดสุรินทร์.
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.334025 ศ528ท
บรรณานุกรม : กรมศิลปากร.  กองโบราณคดี.   ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 3 จังหวัดสุรินทร์.  กรุงเทพฯ: กรม, 2538.
 
2.ชื่อหนังสือ : ปราสาทขอมในดินแดนไทย ความเป็นมาและข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ 
เลขทะเบียนหนังสือ : 959.3  ร636ป
บรรณานุกรม : รุ่งโรจน์ ธรรมรุ่งเรือง.  ปราสาทขอมในดินแดนไทย ความเป็นมาและข้อมูลด้านประวัติศาสตร์ศิลปะ.  กรุงเทพฯ: มติชน, 2551.
 
3.ชื่อหนังสือ : ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 4 จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ   จังหวัดอุบลราชธานี
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.33025 ศ528ก ล.4
บรรณานุกรม : กรมศิลปากร.  สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ.  งานกลุ่มวิจัยพัฒนาโบราณคดีและพิพิธภัณฑสภานแห่งชาติ.  ทำเนียบโบราณสถานขอมในประเทศไทย เล่ม 4 จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี.  กรุงเทพฯ: กรม, 2539.
 
4.ชื่อหนังสือ : คู่มือท่องเที่ยว-เรียนรู้ ปราสาทหิน พิมาย-พนมรุ้ง-เมืองต่ำ-ตาเมือน-เขาพระวิหาร 
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.3 ธ395ค 
บรรณานุกรม : ธวัชชัย องค์วุฒิเวทย์.  คู่มือท่องเที่ยว-เรียนรู้ ปราสาทหิน พิมาย-พนมรุ้ง-เมืองต่ำ-ตาเมือน-เขาพระวิหาร.  กรุงเทพฯ: มิวเซี่ยมเพรส, 2550.
 
5.ชื่อหนังสือ : ประวัติศาสตร์-โบราณคดี กัมพูชา
เลขทะเบียนหนังสือ : ศก 959.6 ศ528ป 
บรรณานุกรม : กรมศิลปากร.  กองโบราณคดี.  ประวัติศาสตร์-โบราณคดี กัมพูชา.  กรุงเทพฯ: กรม, 2536.
 
อ้างอิง:
[1] สำหรับกรณีปราสาทเขาพระวิหารและกลุ่มปราสาทตาเมือน (ขึ้นทะเบียนโดยไทย):
• ปราสาทเขาพระวิหาร:
o International Court of Justice (ICJ). (1962). Case Concerning the Temple of Preah Vihear (Cambodia v. Thailand), Merits, Judgment of 15 June 1962, I.C.J. Reports 1962, p. 6.
o ICJ: Temple of Preah Vihear (Cambodia v. Thailand) - Merits (1962)
o International Court of Justice (ICJ). (2013). Request for interpretation of the judgment of 15 June 1962 in the case concerning the Temple of Preah Vihear (Cambodia v. Thailand) (Cambodia v. Thailand), Judgment of 11 November 2013, I.C.J. Reports 2013, p. 257.
o ICJ: Request for Interpretation of the Judgment of 15 June 1962 in the Case concerning the Temple of Preah Vihear (2013)
• กลุ่มปราสาทตาเมือน (ขึ้นทะเบียนโดยไทย): 
o กรมศิลปากร. (2478, 8 มีนาคม). ประกาศกรมศิลปากร เรื่อง กำหนดจำนวนโบราณสถานสำหรับชาติ. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 52 , หน้า 3712. 
 
[2] สำหรับประเด็นการอ้างสิทธิ์ล่าสุดของกัมพูชา (ต้นเดือนมิถุนายน 2568):
• [2.1] ผู้จัดการออนไลน์. (2568, 5 มิ.ย.).  เขมรเบี้ยว! ถก JBC 14 มิ.ย.ไม่คุยปมชายแดนกับไทย อ้างเตรียมขึ้นศาลโลกแล้ว
o เขมรเบี้ยว! ถก JBC 14 มิ.ย.ไม่คุยปมชายแดนกับไทย อ้างเตรียมขึ้นศาลโลกแล้ว - ผู้จัดการออนไลน์ (เผยแพร่ 5 มิ.ย. 2568)
• [2.2] ไทยรัฐออนไลน์. (2568, ). ทัพภาค 2 แจงข้อพิพาทเขตแดน ปราสาทตาเมือน-ช่องบก รอดูผลเจรจา. https://www.thairath.co.th/scoop/theissue/2862743
• [2.3] PPTV HD 36. (2568, มิ.ย.). กัมพูชาเตรียมยื่น ICJ ขอคำวินิจฉัยพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม-ตาควาย. 
o ปราสาทชายแดนร้อน! กัมพูชาอ้างสิทธิ์ 3 โบราณสถาน 1 พื้นที่ฝั่งไทย - Thai PBS (เผยแพร่ 1 มิ.ย. 2568 - จาก Thai PBS)
 
[3] สำหรับการยืนยันความเป็นดินแดนของไทย (กลุ่มปราสาทตาเมือน):
•  กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). ข้อมูลโบราณสถาน: ปราสาทตาเมือน. 
o ปราสาทตาเมือน - ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)
 
[4] สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม (จังหวัดสระแก้ว):
• [4.1] กรมศิลปากร. (ม.ป.ป.). อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม. 
o อุทยานประวัติศาสตร์สด๊กก๊อกธม - กรมศิลปากร
• [4.2] วารสารวิชาการ มรดกโลกและวัฒนธรรม. (ม.ป.ป.). บทความที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาปราสาทสด๊กก๊อกธมในบริบทของความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา. 
o SADOK KOK THOM 2 INSCRIPTION: SIGNIFICANT EVIDENCE of ANCIENT KHOM - KHMER HISTORY - วารสารวิชาการ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
 
[5] สำหรับปราสาทโดนตวล (จังหวัดศรีสะเกษ):
• [5.1] TOP NEWS LIVE  (2568, 13 พฤษภาคม.) สะพัด!ชายแดน เขมรขยับกำลังประชิด "ปราสาทโดนตวล" กระตุกไทยขึ้นลำปืน เสริมกำลังทันควัน   https://www.youtube.com/watch?v=oKUpmlOpEBY 
• [5.2] ไทยรัฐออนไลน์. (2568, 12 พฤษภาคม). ความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีปราสาทโดนตวล. 
o ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด! ล่าสุดเสริมทหารใกล้ปราสาทโดนตวล - PPTV HD 36 (เผยแพร่ 12 พ.ค. 2568 - จาก PPTV HD 36)
• [5.3] PPTV ออนไลน์ (2568, 12 พฤษภาคม). ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด! ล่าสุดเสริมทหารใกล้ปราสาทโดนตวล
.
เรียบเรียงข้อมูลและแนะนำโดย นางแพรว ธนภัทรพรชัย เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน
ออกแบบกราฟิกโดย นายพีรยุทธ กษิติบดินทร์ชัย  บรรณารักษ์ปฏิบัติการ

(จำนวนผู้เข้าชม 4516 ครั้ง)