ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,608 รายการ
เว็ปไซต์หอจดหมายเหตุแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา : www.finearts.go.th/phayaoarchives
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดพะเยาสร้างขึ้นเนื่องด้วยพิจารณาเห็นว่าจังหวัดพะเยามีความเหมาะสมที่จะจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เพราะเป็นจังหวัดที่มีอดีต อันรุ่งเรือง เคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรสำคัญทางภาคเหนือ และมีความพร้อมที่เกิดจากการสนับสนุน ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งบุคลากรที่เข้าใจและเห็นคุณค่าของเอกสาร จดหมายเหตุ โดยเริ่มต้นจากการที่นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้มีหนังสือถึง กรมศิลปากร เมื่อเมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๓๕ ขอให้พิจารณาดำเนินการจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ที่จังหวัดพะเยา โดยเสนอให้ใช้อาคารที่ว่าการอำเภอเมืองเดิม เป็นที่ทำการสำนักงานชั่วคราว กรมศิลปากร พิจารณาเห็นสมควรปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีข้อสังเกตว่างานจดหมายเหตุ และงานหอสมุดมีลักษณะใกล้เคียงกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดทั้งงบประมาณ อัตรากำลังและสถานที่ ในการก่อสร้าง ควรจัดตั้งรวมหน่วยงานทั้งสองแห่งไว้ในสถานที่เดียวกัน กรมศิลปากร จึงเสนอ ขอดำเนินการจัดตั้งหอจดหมายเหตุแห่งชาติควบคู่กันไปด้วย และได้มอบหมายให้ นายพูลลาภ อินทรนัฎ วิศวกรโยธา และ นายสุเทพ วิริยะบุศย์ มัณฑนากร ไปตรวจสอบอาคารดังกล่าว พบว่าอาคารนั้น มีสภาพไม่แข็งแรงเพียงพอที่จะรับน้ำหนักเอกสารได้
กรมศิลปากร จึงได้พิจารณาที่ดินเพื่อทำการก่อสร้างอาคารใหม่และได้รับการสนับสนุนจากพระธรรมวิมลโมลี เจ้าอาวาสวัดศรีโคมคำ (ขณะนั้น) โดยมอบที่ดินของวัดพระธาตุจอมทองจำนวน ๕ ไร่ ด้านที่ติดถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ให้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารหอจดหมายเหตุแห่งชาติจังหวัดพะเยา กรมศิลปากรจึงมอบหมายให้นายไพบูลย์ ผลมาก สถาปนิก (ขณะนั้น) ดำเนินการออกแบบอาคาร ส่วนการตกแต่งภายในอาคารนั้นมอบหมายให้ นายสุเทพ วิริยะบุศย์ มัณฑนากร ดำเนินการโดยได้รับงบประมาณดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ถึง พ.ศ. ๒๕๔๒ รวมทั้งสิ้น ๒๗,๖๗๘,๖๐๐บาท (ยี่สิบเจ็ดล้านหกแสนเจ็ดหมื่นแปดพันหกร้อยบาทถ้วน )หอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดพะเยาแห่งนี้ กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ (ขณะนั้น)สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาส ที่ทรงมีพระชนมายุครบ ๔๕ พรรษา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๐
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่ออาคารว่า “หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา ”เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๘ และได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันพุธที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ เวลา ๑๕.๐๐ น.ต่อมาได้รับ พระมหากรุณาธิคุณพระราชทานพระนามาภิไธยย่อ มวก.เพื่ออัญเชิญมาประดิษฐาน ณ อาคารหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา ในวันจันทร์ที่ ๒๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๒ หอจดหมายแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา จึงพร้อมเปิดให้บริการได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๒
หน้าที่ความรับผิดชอบ
๑. รับผิดชอบการบริหารงานเอกสารของส่วนราชการ ๘ จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดพะเยา เชียงราย แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร และเพชรบูรณ์
๒. รวบรวม ประเมินคุณค่า วิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ เก็บรักษา และอนุรักษ์เอกสารสำคัญของชาติ
๓.ให้บริการศึกษาค้นคว้าวิจัยแก่หน่วยงานองค์กร รัฐวิสาหกิจ นักเรียนนักศึกษา ประชาชนทั่วไป
๔. บันทึกเหตุการณ์สำคัญของชาติ
๕.ดำเนินการเป็นตัวแทนกรมศิลปากรในพื้นที่ จังหวัดพะเยา
๖.ปฏิบัติงานร่วมกันหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นทีเกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมายในรูปแบบบูรณาการ
การตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกรมศิลปากร ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖
หน่วยงานและโบราณสถานในเขตรับผิดชอบของ สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
ชื่อวัตถุ :: ตะเกียงเจ้าพายุเลขทะเบียน :: 43/0098/2549
ลักษณะ :: ด้านบนเป็นโลหะ ฉลุลาย มีหูสำหรับแขวน ส่วนกลางมีโปะกระจก สำหรับครอบใต้ มีแกนโลหะยึด ส่วยฐานมือหมุนปรับระดับความสว่างเป็นโลหะ มีช่องสำหรับเติมน้ำมัน แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ป้านชา
เลขทะเบียน ::43/0103/2549
ลักษณะ :: ป้านชาทรงกระบอก ก้นตัด ฝาเชื่อมติดกับลำตัว มีหูจับระหว่างกลาง อีกด้านสามารถเปิดได้ อีกด้านทำเป็นพวยกา
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
แหล่งที่มาวัตถุ :: ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
ชื่อวัตถุ :: พาน
เลขทะเบียน :: 43/0132/2549
ลักษณะ :: พานทรงกลม มีเชิงปากผายออก ลงรักปิดทองด้านในและด้านนอก ของพาน
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษกแหล่งที่มาวัตถุ :: ต.ตาลเดี่ยว อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
ชื่อวัตถุ :: กระโถนปากแตรเลขทะเบียน :: 43/0076/2549
ลักษณะ :: ขอบปากบานออก ช่วงกลางลำตัวปั้นเป็นลายแบบฟักทอง แตกราน เคลือบน้ำเคลือบสีเขียว มีฐานเป็นเชิงกลมเตี้ย
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: กระปุกดินเผา เลขทะเบียน :: 43/0035/2549
ลักษณะ :: ทรงป้านแบบกระปุกตังฉ่าย เคลือบน้ำดินสีดำ แตกรานทั้งใบ ประทับลายบริ-เวณไหล่ภาชนะเป็นช่องสี่เหลี่ยม แบ่งช่องเป็นเส้นแต่ละช่อง คล้ายผลฟักทอง ขอบปากหนา สำหรับใส่ของเหลว
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษกแหล่งที่มาวัตถุ :: ต.ศาลารีไทย อ.เสาไห้ จ.สระบุรี
ชื่อวัตถุ :: เต้าปูนเลขทะเบียน :: 43/0092/2547
ลักษณะ :: ทรงกระบอก ก้นตัด ผิวเรียบ ด้านในกลวง สำหรับใส่ปูนกินหมาก
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษกแหล่งที่มาวัตถุ :: ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ชื่อวัตถุ :: เครื่องมือทำขนมปลากริม เลขทะเบียน :: 43/0080/2547
ลักษณะ :: คล้ายไม้แผ่นแบน คล้ายไม้พายมีด้ามจับบริเวณใบพายเป็นเจาะเป็นรู
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษกแหล่งที่มาวัตถุ :: ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
ชื่อวัตถุ :: โถมีฝาก้นกลมเลขทะเบียน :: 43/0050/2554
ลักษณะ :: เครื่องเขินทรงโถก้นกลม ประกอบด้วยส่วนลำตัวและฝา ส่วนลำตัวมีลักษณะเป็นทรงก้นกลม มีขาไม้ทรงขาสิงห์ 6 ขา มาเชื่อมต่อเป็นฐาน บริเวณไหล่มีลักษณะเป็นสันตกแต่งด้วยการขูดขีดลายสัตว์มงคลส่วนฝาตกแต่งด้วยการขูดขีดลายนกยูง
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ปัจจัยไม้รูปวัวเลขทะเบียน :: 43/0042/2554
ลักษณะ :: แกะสลักเป็นรูปวัว ส่วนหลังมีช่องสำหรับใส่ของ มีฝาเปิดปิดบริเวณคอมีกระดิ่งผูกห้อยคอ
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ตลับเลขทะเบียน :: 43/0038/2554
ลักษณะ :: ตลับทรงกลม ส่วนฐานมีลักษณะเป็นขา 4 ขาลวดลายพรรณพฤกษาส่วนลำตัวฉลุโปร่งเป็นลายดอกไม้ส่วนฝาเป็นกระจกใสมีบานพับและที่จับสำหรับเปิดปิด
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: กรรไกรหนีบหมากเลขทะเบียน :: 43/0055/2549
ลักษณะ :: กรรไกรหนีบหมาก ด้านบนของกรรไกรรูปมีด ส่วนด้านล่าง เป็นแผ่น เพื่อรองรับคมมีด ปลายด้ามจับทำเป็นเม็ดมัณฑ์
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: กรรบิดเลขทะเบียน :: 43/0054/2549
ลักษณะ :: ประกอบด้วยคมมีดยาว 2 ด้าน แต่ละด้านมีด้ามจับยาวออกมาเชื่อมต่อกันสำหรับจับและบังคับการใช้งาน
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ปั้นชาชื่ออื่น :: ป้านชา, เต้ป๋านเลขทะเบียน :: 43/0030/2549
ลักษณะ :: เคลือบน้ำดินสีน้ำตาลทั้งใบ มีฝาหู และพวยเหมือนกาน้ำชา สันนิษฐานว่าที่เรียกว่าปั้นชานั้นมาจากกิริยา ปั้น เป็นการทำให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นรูปทรง ตามช่างปั้น ปั้นชา ภาคใต้ เรียกว่า เต้ป๋านที่ใต้ฝามีตราประทับของผู้ผลิตเป็นรูปหนู เหนือรูปหนู เขียนว่า "ศก110"แหล่งที่มาของวัตถุ :: ต.ห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ถ้วยขนมถ้วยเลขทะเบียน :: 43/0140/2547
ลักษณะ :: ก้นลึกและแคบลายดอกไม้แทรกด้วยภาษาจีน
แหล่งที่มาของวัตถุ :: ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานีแหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: กระชอนกรองกะทิเลขทะเบียน :: 43/0102/2547
ลักษณะ :: ลักษณะป็นวงกลม ตาถี่ มีด้ามจับที่ขอบทั้ง 2 ด้าน
แหล่งที่มาวัตถุ :: ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานีแหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ย่าม เลขทะเบียน :: 43/0017/2553
ลักษณะ :: พื้นสีดำ ทอสลับลายทางสีแดง มุมล่างกระเป๋ามีพู่ห้อย
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ย่าม เลขทะเบียน :: 43/0005/2553
ลักษณะ :: ย่ามของกลุ่มชาติพันธุ์ไทแดง ตัวย่ามสั้น เมื่อเทียบกับสายสะพาย ทำด้วยผ้าฝ้ายพื้นสีแดง ทอเป็นลวดลายเลขาคณิต สลับลายเส้นทึบสีเหลือง เขียว และขาว ก้นถุงทั้งสองข้างตกแต่งพู่ห้อยสีดำไทแดงชอบมีเครื่องประดับเสื่อผ้า เป็นลูกไม้หรือเป็นลวดลายสีแดง จึงถูกเรียกว่าไทแดง หัตถกรรมทอผ้าถือว่าเป็นสิ่งที่โดดเด่นและเชิดหน้าชูตาของผู้หญิงไทแดง ผู้หญิงไทแดง ได้ใช้กระบวนการทอผ้าเป็นเครื่องมือสำคัญในกระบวนการขัดเกลาทางสังคมอย่างยอดเยี่ยมและเข้มแข็ง หญิงใดที่จะออกไปงานแต่งงานได้จะต้องมีความพร้อมในการทำผลิตภัณฑ์จากผ้าเพื่อเตรียมไว้สำหรับสมมาและนำไปใช้ในครอบครัวใหม่ของเธอ หากไม่สามารถกระทำได้ก็หมายความว่าพวกเธอยังไม่พร้อมที่จะออกเรือน ในขณะที่ผู้หญิงมีหน้าที่ทอผ้า ผู้ชายจะเป็นคนดำเนินในการจักทำเครื่องทอผ้าทุกชนิด โดยเฉพาะกี่ ส่วนใหญ่จะไช้วัตถุดิบในท้องถิ่น โครงกี่จะทำจากไม้ไผ่มากกว่าไม้เนื้อแข็ง *สมมา คือ ขั้นตอนไหว้ผู้ใหญ่ เนื่องในพิธีสู่ขอ โดย ฝ่ายหญิงจะนำผ้าที่ตนเองทอมา มอบให้กับ พ่อ-แม่ฝ่ายชาย เสมือนการฝากตัวเข้ามาอยู่เป็นครอบครัวเดียวกัน
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ย่าม เลขทะเบียน :: 43/0001/2553
ลักษณะ :: ทำด้วยผ้าไหม พื้นสีเขียว ตกแต่งด้วยลายจกทั้ง 2 ด้าน เป็นรูปฟันปลา ด้วยเส้นไหม สีแดง เขียว เหลือง ด้านบนและล่างทำเป็นลวดลายเลขาคณิต กุ๊นขอบสายสะพายด้วยผ้าสีแดง ก้นถุงมุมล่างซ้าย-ขวา ห้อยชายครุยด้วยพู่สีเดียวกับย่าม สำหรับใส่ของใช้ประจำตัวของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยวน
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: ย่าม
เลขทะเบียน :: 43/0674/2548
ลักษณะ :: ทำด้วยผ้าฝ้าย พื้นขาวตกแต่งด้วยเส้นฝ้ายสีดำเป็นลายเส้นทับและขนาบข้างด้วยลายเส้นประ ด้วยเทคนิคการทอสลับสลับสี ประดับพู่ตกแต่งที่ก้นถุงทั้งสองข้าง เป็นอุปกรณ์ติดตัว ส่วนมากจะพบเป็นของใช้ประจำตัวของผู้ชายสำหรับใส่ของ เช่น มีด ยาสูบ
แหล่งที่มาของวัตถุ :: อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก
ชื่อวัตถุ :: แท่นวางของ เลขทะเบียน :: 43/0037/2554
ลักษณะ :: ลักษณะเป็นแผ่นทองเหลืองทรงกลม ด้านบนทำเป็นช่องกลมสี่ช่องเชื่อมติดกันสำหรับวางแก้วน้ำ ตรงกลางประดับด้วยมุกขนาดใหญ่ ด้านข้างระหว่างช่องกลมประดับด้วยอัญมณี (นิล)และทองเหลืองฉลุลายพรรณพฤกษาทั้งสี่ด้าน ฐานตกแต่งเป็นรูปใบไม้โดยรอบ ตรงกลางฐานแต่ละด้านประดับด้วยมุก ฐานด้านใต้ ขาทำเป็นปุ่ม 3 ปุ่มแหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก (ฝ่ายวิชาการ)
ชื่อวัตถุ :: เหล็กจารเลขทะเบียน :: 43/0419/2549
ลักษณะ :: ลักษณะเป็นเหล็กปลายแหลมยาว ใช้สำหรับจารคาถาหรือคัมภีร์ต่างๆลงบนใบลาน แหล่งที่มาข้อมูล :: พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กาญจนาภิเษก (ฝ่ายวิชาการ)
วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๑ นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้นำข้าราชการ ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ในจังหวัดจันทบุรี ร่วมแต่งกายชุดไทย ร่วมพิธีเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งถือเป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย
โดยกิจกรรมในภาคเช้าเป็นพิธีทำบุญพระสงฆ์จำนวน ๑๐ รูป และมีการลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยพลเรือตรี นพดล ปัญญาโฉม รองผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เป็นประธานกล่าวถวายราชสดุดี
ต่อมานายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ได้ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการซึ่งจัดโดยหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากรประกอบด้วยหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรี, กองโบราณคดีใต้น้ำ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรี โดยหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จันทบุรีได้จัดทำชุดนิทรรศการชุด "บรรพโบราณสร้าง ปริวงศ์วานจันท์สืบสาน"
ในช่วงค่ำ นายวิทูรัช ศรีนาม เป็นประธานในพิธีถวายราชสดุดี และถวายพระพรชัยมงคลต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมีการจัดแสดงการประกวดการแต่งกายด้วยผ้าไทย และตลาดพื้นบ้านจากสภาวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี
เมื่อวันอังคารที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๘.๔๙ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจยังโรงเรียนวัดสระกำแพงใหญ่ หมู่ที่ ๑ บ้านสระกำแพงใหญ่ ตำบลสระกำแพงใหญ่ อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ โดยมี นายจารึก วิไลแก้ว ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา พร้อมด้วยข้าราชการสำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา เฝ้าฯ รับเสด็จ
เมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วยนางสาวศุภร รัตนพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง และคณะ เดินทางมาตรวจราชการกรมศิลปากรในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีและกาญจนบุรี และให้เกียรติเยี่ยมชมพร้อมตรวจราชการหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีนายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี นางสาวธารทิพย์ ภิรมย์อนุกูล หัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและร่วมหารือการดำเนินงาน
***บรรณานุกรม***
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบรมราโชวาทและโคลงสุภาษิต พิมพ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ ท่านเชื้อ ณ สงขลา ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ 3 ธันวาคม พุทธศักราช 2487
พระนคร
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง
2487
ลูกปัดแก้วเป็นเครื่องประดับชนิดหนึ่งที่ทำมาจากแก้ว ซึ่งแก้วเป็นวัสดุที่สันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดเมื่อประมาณ ๔,๕๐๐ - ๕,๐๐๐ ปีมาแล้ว โดยในสมัยโบราณผลิตจากการหลอมส่วนประกอบหลัก ๓ อย่าง รวมกัน ได้แก่ ๑. ซิลิกา (Silica) เป็นส่วนประกอบหลัก ได้แก่ ทราย ๒. ด่าง (Alkali) เช่น โซเดียมไบคาร์บอนเนตหรือเกลือ Natron ช่วยให้ใช้อุณหภูมิในการหลอมละลายลดลง ๓. แคลเซียม (Calcium) เช่น ปูนขาวหรือหินปูน ช่วยให้แก้วคงรูปร่าง นอกจากนี้ยังมีการใส่วัตถุดิบที่ให้เกิดสีอื่นๆ เช่น เหล็กให้สีเขียว คาร์บอนหรือนิเกิลให้สีน้ำตาล โครเมียมให้สีเขียว โคบอลท์ให้สีฟ้า เป็นต้น จากหลักฐานทางโบราณคดีในประเทศไทยพบลูกปัดแก้วตั้งแต่สมัยประวัติศาสตร์ตอนปลาย โดยสันนิษฐานว่าในช่วงแรกเป็นของนำเข้ามาจากประเทศอินเดีย โดยผ่านการค้าทางทะเลกับชุมชนก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายริมชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกของไทย และค้าขายผ่านเส้นทางการค้าทางบกไปยังชุมชนร่วมสมัยต่างๆ ที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งทะเล และต่อมาบางชุมชนริมชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตกของไทยได้ผลิตลูกปัดแก้วขึ้นใช้เอง โดยอาจนำเข้าก้อนแก้ว หรือวัตถุดิบมาผลิต เช่น แหล่งโบราณคดีเขาสามแก้ว จ.ชุมพร (อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๕-๑๐) และแหล่งโบราณคดีควนลูกปัด จ.กระบี่ (อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๖-๘) ที่พบหลักฐานเป็นเศษแก้วหลอม และลูกปัดแก้วที่ยังผลิตไม่สมบูรณ์ ที่แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง ได้ขุดค้นพบลูกปัดแก้วอยู่ร่วมกับหลุมฝังศพ โดยพบเป็นลูกปัดแก้วสีต่างๆ ได้แก่ สีเหลือง สีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงิน สีแดง และมีรูปทรงต่างๆ ได้แก่ ทรงกระบอกยาว ทรงกลม ทรงกลมแบน ทรงถังเบียร์ ทรงกระบอกยาวแบบหลอดคล้ายตะกรุด และทรงกรวยหัวตัดฐานประกบคู่ (Truncated bicone) โดยเฉพาะทรงกระบอกยาวแบบหลอดคล้ายตะกรุด และรูปทรงทรงกรวยหัวตัดฐานประกบคู่ (Truncated bicone) นี้ พบเฉพาะในแหล่งโบราณคดีกลุ่มวัฒนธรรมบ้านเชียงเท่านั้น และยังไม่พบแหล่งผลิตที่ชัดเจน และจากการที่พบลูกปัดแก้วอยู่ร่วมกับหลุมฝังศพเพียงไม่กี่หลุมเท่านั้น ซึ่งแสดงว่าเป็นเครื่องประดับที่มูลค่าสูงหรือหายากในชุมชนบ้านเชียงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ และผู้สวมใส่จะมีสถานภาพทางสังคมสูงด้วย และจากการที่เป็นของนำเข้ามาจากที่อื่นก็แสดงถึงติดต่อสัมพันธ์กับชุมชนอื่นๆ ที่อยู่ร่วมสมัยกันด้วย ............................................อ้างอิง: ผุสดี รอดเจริญ, “การศึกษาแก้วสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายที่พบในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย”, สารนิพนธ์หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ภาควิชาโบราณคดี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๘ วิลภา กาศวิเศษ, “การศึกษาเครื่องประดับที่ได้จากการขุดค้นที่วัดโพธิ์ศรีใน ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๖”, สารนิพนธ์หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิต (โบราณคดี) ภาควิชาโบราณคดี คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร, ๒๕๔๖. สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ, เครื่องใช้และเครื่องประดับที่ทำด้วยแก้ว ก่อนพุทธศตวรรษที่ ๑๘, กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, ๒๕๔๙. ................................................. เรียบเรียงโดย: นายวีระเกียรติ สหวรเมธี ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง
หมวดหมู่ ประเพณีเทศกาลต่างๆภาษา บาลี/ไทยอีสานหัวเรื่อง ไทย ความเป็นอยู่และประเพณีประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 16 หน้า : กว้าง 5ซม. ยาว 56 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับชาดทึบ ได้รับบริจาคมาจากพระอธิการเด่น ปญฺญาทีโป วัดคิรีรัตนาราม ต.ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ดำเนินการอนุรักษ์เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2534
สาระสังเขป : บันทึกการท่องเที่ยวประเทศทางฝั่งตะวันออกในเอเชีย ได้แก่ มะลายู ฮ่องกง มะนิลา เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เกาหลี ญี่ปุ่น และอินโดจีนผู้แต่ง : สิบพันพารเสนอ โสณกุล, หม่อมเจ้าโรงพิมพ์ : กรมวิชชาธิการปีที่พิมพ์ : 2475ภาษา : ไทยรูปแบบ : PDFเลขทะเบียน : น.32บ.4842จบเลขหมู่ : 915 ส728ร
หมวดหมู่ พุทธศาสนาภาษา บาลี/ไทยหัวเรื่อง พุทธศาสนา—บทสวดมนต์ บทสวดมนต์ พระอภิธรรมประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานลักษณะวัสดุ 24 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 57 ซม. บทคัดย่อ
เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม เส้นจาร ฉบับล่องชาด ได้รับบริจาคมาจากพระครูวิมลสังวร วัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองฯ จ.สุพรรณบุรี
อธิบดีกรมศิลปากร ตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเก่า (หลังใหม่)
วันพฤหัสบดีที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการตรวจการรับการจ้างงาน ในโครงการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (บ้านเก่า) ตามสัญญาจ้างเลขที่ ๑๘/๒๕๖๒ ประจำงวดที่ ๗ และงวดที่ ๘ พร้อมทั้งตรวจงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดง(หลังใหม่) โดยมีนางสาวอัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องร่วมการประชุม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (บ้านเก่า) ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี