ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,765 รายการ

 "บารายเมืองสุโขทัย" หนึ่งในระบบจัดการน้ำสมัยสุโขทัย •.บารายเมืองสุโขทัย หรือเรียกตามชื่อโบราณสถานของอุทยานว่า ทำนบ 7 อ. หรืออ่างเก็บน้ำหมายเลข 2 เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองสุโขทัยด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นคันดินมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า คันดินกว้าง 25-30 เมตร สูง 2-4 เมตร มี 3 ด้าน ด้านทิศเหนือยาว 1,400 เมตร ด้านด้านทิศตะวันออกยาว 750 เมตร ด้านทิศใต้ยาว 1,050 เมตร และด้านทิศตะวันตกไม่พบแนวคันดินเนื่องจากติดคลองแม่ลำพัน.#การใช้ประโยชน์ของบารายเมืองสุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้ทำการศึกษาทางโบราณคดี เมื่อปี พ.ศ.2560-2561 พบหลักฐานทำให้สันนิษฐานได้ว่าบารายหรือทำนบ 7 อ. แห่งนี้ไม่ได้กักเก็บน้ำไว้ตลอดเวลา แต่เป็นการกักเก็บน้ำไว้ในช่วงฤดูน้ำหลากของแต่ละปี โดยใช้กักเก็บน้ำในฤดูน้ำหลาก สำหรับรับน้ำจากคลองแม่ลำพันมาเก็บไว้ เมื่อผ่านพ้นฤดูน้ำหลากในแต่ละปีแล้วจึงปล่อยที่กักเก็บไว้ออกสู่พื้นที่ทางการเกษตรโดยรอบบารายเมืองสุโขทัย.#การกำหนดอายุสมัยของบารายเมืองสุโขทัย ได้ส่งตัวอย่างถ่าน จำนวน 2 ตัวอย่าง ที่พบการขุดค้นทางโบราณคดี เมื่อ ปี พ.ศ.2560 เพื่อหาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ ด้วยวิธี Radiocarbon Dating (AMS) ที่มหาวิทยาลัย Waikato ประเทศนิวซีแลนด์ ได้ค่าอายุดังนี้- ตัวอย่างถ่านที่ 1 จากหลุมขุดตรวจคันดินบารายด้านทิศตะวันออก T.1 E.1 ได้ค่าอายุ 613 +-15 B.P. หรือ 628 - 598 ปีมาแล้ว ตรงกับ พ.ศ.1865 - 1895 ซึ่งตรงกับสมัยพระยาเลอไท- ตัวอย่างถ่านที่ 2 จากหลุมขุดค้นทางโบราณคดีบนเนินโบราณสถานวัดโบสถ์ TP.1 ได้ค่าอายุ 578 +-15 B.P. หรือ 593 - 563 ปีมาแล้ว ตรงกับ พ.ศ.1900 - 1930 ซึ่งอยู่ในช่วงสมัยพระยาลิไท - พระยาลือไท (พระมหาธรรมราชาที่ 1-2).สรุปได้ว่าบารายเมืองสุโขทัยหรือทำนบ 7 อ. นั้นสร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยพระยาเลอไทหรือพระยางั่วนำถมเป็นกษัตริย์ครองเมืองสุโขทัย ช่วงระหว่างปี พ.ศ.1842-1890 ต่อมาในช่วงสมัยพระยาลิไทจึงมีการเริ่มถมพื้นที่เพื่อก่อสร้างโบราณสถานวัดโบสถ์ขึ้น ส่วนโบราณสถานอื่นๆ ภายในพื้นที่บริเวณดังกล่าวก็น่าจะสร้างขึ้นช่วงเวลาเดียวกัน.#สภาพปัจจุบันของบารายเมืองสุโขทัยกรมศิลปากรโดยอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ได้ดำเนินงานโครงการเพื่อฟื้นคืนสภาพดั่งเดิมของคันดินของบารายเมืองสุโขทัยขึ้นมาอีกครั้งเมื่อปี พ.ศ.2562-2563 จากภาพมุมสูงที่ถูกถ่ายเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงหน้าที่การใช้งานของบารายเมืองสุโขทัยในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี คือ เมื่อปริมาณน้ำจากคลองแม่ลำพันมีมากเกินไป ก็จะล้นไปลงบารายเมืองสุโขทัยที่อยู่ทางด้านตะวันออก น้ำจะถูกกักไว้เพื่อชะลอความเร็วของน้ำในระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อปริมาณน้ำมีมากเกินกว่าระดับคันดินของบารายจะรับไหว ก็จะล้นออกไปทางทิศตะวันออกซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต่ำกว่าหรือพื้นที่สำหรับรับน้ำในสมัยสุโขทัย ที่เรียกตามศิลาจารึกหลักที่ 1 พ่อขุนรามคำแหง ว่า "ทะเลหลวง".#เอกสารสำหรับอ่านเพิ่มเติม1) บทความเรื่อง บารายเมืองสุโขทัย โดย ธงชัย สาโค ในนิตยสารศิลปากร ปีที่ 62 ฉบับที่ 6 พ.ย.-ธ.ค.2562 หน้าที่ 57-75 (ดาวน์โหลดหรืออ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงก์นี้ >>> https://www.finearts.go.th/.../cuPFUeeUEipwNzjJAUkML1hI1e...)2) หนังสือ ระบบชลประทานสมัยสุโขทัย โดย เอนก สีหามาตย์และคณะ (ดาวน์โหลดและอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งก์นี้ >>> https://drive.google.com/.../1TYO1yCMtoodAHEXgamH.../view...)3) รายงานการดำเนินงานทางโบราณคดีโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งน้ำโบราณเมืองสุโขทัย ทำนบ 7 อ. (บารายเมืองสุโขทัย) โดยอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ปีงบประมาณ 2560 - 2561 (ดาวน์โหลดหรืออ่านเพิ่มเติมได้ตามลิ้งก์นี้ >>> https://drive.google.com/.../1yJK3lURcVgbYexhRAN1.../view...)


โพธิปกฺขิยธมฺม (โพธิปกฺขิยธมฺม)  ชบ.บ.49/1-14  เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง                                สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (วิภังค์-มหาปัฏฐาน) สพ.บ.                                  307/7ประเภทวัสดุมีเดีย                    คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                               พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                           30 หน้า กว้าง 4.8 ซม. ยาว 54.2 ซม.หัวเรื่อง                                 พุทธศาสนา                                           บทคัดย่อ/บันทึก          เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรขอม ภาษาบาลี-ไทย เส้นจาร ฉบับทองทึบ-ล่องชาด ได้รับบริจาคมาจาก วัดบ้านหมี่ ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี


          กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ กรมศิลปากร เพิ่มช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และองค์ความรู้มรดกศิลปวัฒนธรรมของกรมศิลปากร ผ่านช่องทางอินสตราแกรม เพียงสแกน qr code และกดติดตามได้เลย


องค์ความรู้จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีเรื่อง คำช่างโบราณ ตอน ฐานบัว




หอสมุดเปิดให้บริการ วันอังคาร ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 น ถึง เวลา 17.00 น.หยุด วันอาทิตย์ วันจันทร์ และวันหยุดนขัตฤกษ์



ชื่อเรื่อง : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 40 (ประชุมพงศาวดาร ภาคที่ 65 - 66) พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี จดหมายเหตุรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2512 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าวจำนวนหน้า : 324 หน้า สาระสังเขป : ประชุมพงศาวดาร เล่ม 40 ภาคที่ 65 กล่าวถึง พระราชพงศาวดารเมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรียกทัพออกจากวัดพิชัย รบฝ่ากองทัพพม่า มุ่งตรงไปนครนายก เดินทัพไปพักอยู่ที่จังหวัดระยอง และเข้ายึดจันทบุรี และเนื้อหาเกี่ยวกับการกู้ชาติ โดยยกกองทัพเรือจากจันทบุรีเข้ามาปราบพม่าโพสามต้น และตั้งต้นรวมอาณาจักรไทย ในส่วนของประชุมพงศาวการ ภาคที่ 66 กล่าวถึงจดหมายรายวันทัพสมัยกรุงธนบุรี เมื่อคราวปราบเมืองพุทไธมาศและเขมร เมื่อ พ.ศ. 2314


ชื่อผู้แต่ง        สหธรรมมิกบ้านธรรมประสิทธิ์ ชื่อเรื่อง         เดินไปสู่ความสุข ๒ ครั้งที่พิมพ์     - สถานที่พิมพ์   พระนคร สำนักพิมพ์     โรงพิมพ์บูรพาศิลป์ ปีที่พิมพ์        ๒๕๑๔ จำนวนหน้า    ๘๙ หน้า รายละเอียด    เป็นหนังสือที่ระลึก เนื่องในโอกาสทอดผ้าป่า ของวัดปากน้ำภาษีเจริญ เนื่องในวันวิสาขบูชาวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๔ สร้างธรรมศาลา ของศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม              ที่คลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเตือนสติพุทธศาสนิกชนให้หันมาสนใจปฏิบัติธรรม กระทำแต่ความดีทั้งกาย วาจาและใจ


รายงานสรุปเบื้องต้น การดำเนินงานทางโบราณคดี (เดือนพฤษภาคม 2565) โครงการศึกษาทางโบราณคดีและรูปแบบสถาปัตยกรรมกลุ่มโบราณสถานทางทิศตะวันตกของเจดีย์ประธาน โบราณสถานเขาคลังนอก ปีงบประมาณ 2565 >>>โบราณสถานค.น.5<<<


ชื่อเรื่อง                     สพ.ส.15 กลอนสุภาษิตประเภทวัสดุ/มีเดีย       สมุดไทยขาวISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                  วรรณคดีลักษณะวัสดุ              57; หน้า : ไม่มีภาพประกอบหัวเรื่อง                    วรรณคดี              ภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก                   ประวัติวัดป่าเลไลยก์ ต.รั้วใหญ่  อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 16 ส.ค.2538 


ทราบกันหรือไม่ว่า.... ที่เมืองโบราณศรีเทพยังมีการพบแนวกำแพงโบราณบนคันดินคูเมืองด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเมืองโบราณในยุคทวารวดีที่เดียวที่ยังหลงเหลือหลักฐานอยู่      ------------------------------------------------ ที่มาของข้อมูล : อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ https://www.facebook.com/335850859778277/posts/pfbid02MmYMRfu5csDbpwEfXA319YPFVX7HZVWUuwXstE99tJRPz3icRsMvQKfh7nzCLoZGl/?d=n  


ชื่อเรื่อง                     สมโภชพระอารามหลวงครบ 100 ปี วัดป่าเลไลยก์วรวิหารผู้แต่ง                       -ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN                 -หมวดหมู่                   พระพุทธศาสนาเลขหมู่                      294.3135 ส272สถานที่พิมพ์               กรุงเทพ   สำนักพิมพ์                 สามลดา  ปีที่พิมพ์                    2562ลักษณะวัสดุ               454 หน้า : ภาพประกอบ ; 21 ซม.หัวเรื่อง                     วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร                              สมโภชพระอารามหลวง 100 ปีภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึก            ในวาระครอบศตวรรษแห่งการได้รับการยกวัดป่าเลไลยก์ขึ้นเป็นพระอารามหลวง รวบรวมเนื้อหาทางประวัติศาสตร์บุคคล และโบราณสถาน โบราณวัตถุ 2 เรื่อง พุทธศิลป์ 1 เรื่อง และวรรณคดีไทยเกี่ยวกับขุนช้าง ขุนแผน ที่มีความเกี่ยวข้องกับวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร ขอแนะนำหนังสือ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เจ้าฟ้าศิลปิน ทรงชุบชูชีวินปวงชน” จัดพิมพ์โดยกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ ๕ รอบ วันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐         เนื้อหาในหนังสือแบ่งออกเป็น ๘ บท ประกอบด้วย บทนำ พระประวัติ บทที่ ๑ ทรงดนตรีเปียโน บทที่ ๒ ทรงขับร้องเพลง บทที่ ๓ ทรงกู่เจิง บทที่ ๔ วันประมงน้อมเกล้าฯ บทที่ ๕ ถักร้อยสร้อยรัก น้ำพระทัยและไมตรีเพื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ บทที่ ๖ ทรงออกแบบเครื่องประดับอัญมณี และบทที่ ๗ ทรงวาดภาพ เพื่อถ่ายทอดพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจทางศิลปะในสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งนอกจากจะมีพระปรีชาสามารถเป็นเลิศในฐานะเจ้าฟ้านักวิทยาศาสตร์แล้ว ยังมีพระปรีชาสามารถในการสร้างสรรค์งานศิลปะหลายแขนง อาทิ งานศิลปะ การประดิษฐ์ ภาพวาดฝีพระหัตถ์ และดนตรี ทรงใช้งานศิลปะเหล่านี้เพื่อประโยชน์ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ดังคำว่า “เจ้าฟ้าศิลปิน ทรงชุบชูชีวินปวงชน” หนังสือเล่มนี้จึงเป็นสิ่งยืนยันพระปรีชาสามารถ และถือเป็นหนังสือจัดเก็บผลงานของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ให้เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทย         พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กำแพงเพชร ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคลให้ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน สถิตเป็นมิ่งขวัญของเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบกาลนาน        ทั้งนี้ สามารถเข้าดูเนื้อหาและละเอียดของหนังสือเพิ่มเติมจาก https://www.finearts.go.th/.../Tf9Zqh1F3NQYaccjg5tV1pCc7h...


black ribbon.