ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 42,271 รายการ

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔ นายอธิยุตชัย ป้องภัย (อายุ ๔๖ ปี) นักจัดรายการวิทยุ ได้สังเกตพบรอยฝ่ามือและภาพเขียนต่างๆบนก้อนหินขนาดใหญ่ จึงได้แจ้งทางอำเภอโพธิ์ไทร และ สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกันเมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ ----- แหล่งภาพเขียนสีแห่งใหม่ตั้งอยู่ที่ บ้านกะลึง หมู่ ๖ ตำบลสารภี อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านเรียกบริเวณที่พบภาพเขียนสีนี้ว่า “ลานหินทองคำ ภูถ้ำพระวัดถ้ำไฮ” ----- บริเวณที่พบภาพเขียนสีมีสภาพเป็นเพิงหินขนาดใหญ่ กว้างประมาณ ๑๑.๖ เมตร ยาวประมาณ ๒๑.๕ เมตร สูงประมาณ ๔ เมตร พบภาพเขียนสีทั้งบนผนังและเพดานของเพิงผา ภาพที่พบเขียนด้วยสีแดงแบบน้ำหมาก โดยสามารถแบ่งกลุ่มภาพออกได้สองกลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มภาพทางด้านทิศเหนือของเพิงหิน และ กลุ่มภาพทางด้านทิศใต้ของเพิงหิน สภาพของภาพเขียนสีส่วนใหญ่ลบเลือนไปค่อนข้างมาก บางจุดยากแก่การสังเกตเห็นด้วยตาเปล่า ----- ภาพเขียนสีทั้งหมดที่พบ สามารถจำแนกออกได้ ๓ ประเภทหลักๆ ได้แก่ รอยฝ่ามือ ภาพคน และภาพลายเส้น โดยแหล่งภาพเขียนสีบ้านกะลึงแห่งนี้ พบรอยฝ่ามือทั้งหมดจำนวน ๒๒ มือ แบ่งออกเป็นมือข้างซ้าย จำนวน ๓ มือ มือข้างขวาจำนวน ๑๒ มือ และไม่สามารถระบุข้างได้จำนวน ๗ มือ ในจำนวนนี้แบ่งเป็นมือเด็กข้างขวาจำนวน ๒ มือ และมือเด็กข้างซ้ายจำนวน ๑ มือ พบภาพคนทั้งหมดจำนวน ๙ คน เขียนแบบลักษณะเงาทึบ ให้เห็นแต่ด้านหน้าตรง ไม่เห็นตา จมูก ปาก ส่วนแขนและขากางออกจากลำตัว ยืนทำท่าทางในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ส่วนภาพลายเส้นที่พบเป็นภาพแบบคตินิยม (Idealism) ซึ่งเป็นภาพที่ไม่เป็นธรรมชาติ ยากแก่การแปลความหมาย เช่น ลายเส้นซิกแซก (Zigzag) ลายเส้นคู่ขนานไขว้ตัดกัน ลายเส้นเรขาคณิต ลายจุดไข่ปลา (เส้นประ) และกลุ่มลายเส้นที่ไม่สามารถระบุลวดลายที่แน่ชัดได้ จากลักษณะภาพเขียนสีและบริบทสภาพแวดล้อมที่พบ สันนิษฐานในเบื้องต้นว่าภาพเขียนสีแห่งนี้อยู่ในช่วงสมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย อายุประมาณ ๒,๐๐๐ - ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว ----- ภาพเขียนสีเหล่านี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงการมีตัวตนของคนในอดีตแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนในสมัยโบราณว่าอยู่กันเป็นกลุ่ม และการแสดงถึงรูปแบบความเชื่อภายในกลุ่มสังคม เช่น การประทับรอยฝ่ามือลงบนหิน นอกจากจะเป็นการแสดงตนเชิงสัญลักษณ์แล้ว อาจมีความเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องโชคลางและสุขภาพ จึงทำให้พบทั้งรอยฝ่ามือเด็กและฝ่ามือผู้ใหญ่ เป็นต้น ดังนั้นภาพเขียนสีจึงเป็นหลักฐานทางโบราณคดีที่มีความสำคัญอย่างยิ่งอีกประเภทหนึ่ง ข้อมูล : นางสาวศุภภัสสร หิรัญเตียรณกุล นักโบราณคดีชำนาญการ




-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : เสาหลักเมืองจังหวัดพะเยา -- “เสาหลักเมือง” หรือ “สะดือเมือง” คือวัตถุที่เป็นที่จำหมายเป็นสัญลักษณ์ของของการก่อตั้งชุมชน หรือเมือง อันบ่งบอกถึงความภาคภูมิใจความร่มเย็นเป็นสุข เสาหลักเมืองถือเป็นใจของเมือง เป็นที่สถิตของเทพยดาผู้ปกปักพิทักษ์บ้านเมือง มีธรรมเนียมว่าก่อนที่จะสร้างเมืองจะต้องทำพิธียกเสาหลักเมืองในที่ที่เป็นชัยภูมิสำคัญ เพื่อให้เป็นสิริมงคลแก่บ้านเมืองที่จะสร้างขึ้น  สิ่งที่จะนำมาใช้เป็นเสาหลักเมือง   ไม้มงคล คือ ไม้ชัยพฤกษ์ เป็นไม้เนื้อแข็งคงทน ส่วนมากโบราณนิยมใช้ไม้นี้มากกว่าไม้อย่างอื่นเหตุเพราะชื่อเป็นมงคลนาม ไม้ราชพฤกษ์ เป็นไม้ตระกูลเดียวกับไม้ชัยพฤกษ์ เป็นมงคลนาม หมายถึงความเป็นใหญ่ ไม้กัลปพฤกษ์ ไม้สักทอง ไม้พยุง ไม้คันทรง ไม้จันทน์ ใช้หินเป็นแท่ง หินทราย หินแกรนิต เป็นต้น จะต้องสกัดออกมาให้เป็นแท่งตามสโลก (โฉลก) สิ่งปลูกสร้างที่เป็นมงคล ได้แก่ เจดีย์ พระพุทธรูป องค์เสาหลักเมืองของจังหวัดพะเยานั้น ทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์ โดยนายสุวิทย์ สุทธิวนา ผู้จัดการโรงเลื่อยจักรพนาชัย เป็นผู้จัดหาจากป่าในเขตอำเภองาว จังหวัดลำปาง ติดต่อกับอำเภอเมืองพะเยา ซึ่งไม้ดังกล่าวมีขนาดวัดโดยรอบลำต้น โดยประมาณ 140-150 เซนติเมตร ขึ้นอยู่ในป่าลึก ใช้ช้างชักลากออกมาสู่ถนนใหญ่ และได้มอบหมายให้นายน้อย หนักตื้อ ชาวอำเภอดอกคำใต้ เป็นช่างกลึงไม้ทำเป็นเสาหลักเมือง โดยใช้เวลากลึงอยู่ 17 วัน ตั้งแต่วันที่ 7 - 23 เมษายน 2530 มีผู้ช่วยช่างเพียง 1 คน คือนายสุรพล หนักตื้อ มีการประกอบพิธีพุทธาภิเษกองค์หลักเมือง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2530 ซึ่งถือเป็นปีที่ครบรอบ 10 ปี การประกาศจัดตั้งจังหวัดพะเยา (พระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัดพะเยา พุทธศักราช 2520 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2520)  ในวันพุธที่ 27 มกราคม พุทธศักราช 2531 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และคณะ เฝ้าฯ น้อมเกล้าฯ ถวายเสาสะดือเมือง จังหวัดเชียงราย และองค์เสาหลักเมืองจังหวัดพะเยา เพื่อทรงพระสุหร่ายและทรงเจิม ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน   หลังจากนั้น ได้นำยอดเสาหลักเมืองมาพักไว้ที่วิหารวัดศรีโคมคำ ในวันที่ 28 มกราคม พุทธศักราช 2531 จัดพิธีแห่และสมโภชยอดหลักเมือง และสวมยอดองค์หลักเมือง ในวันที่ 28 สิงหาคม ของทุกปี จังหวัดพะเยาจะประกอบพิธีทำบุญเมืองและบวงสรวงศาลหลักเมือง ………………………………ผู้เรียบเรียง:  นางสาวอรทัย ปานจันทร์ (นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)........................................ข้อมูลอ้างอิง : 1. หนังสือที่ทำการปกครองจังหวัดพะเยา ที่ พย0016/ว94 ลงวันที่ 24 มกราคม พุทธศักราช 25312. โทรพิมพ์ในราชการกระทรวงมหาดไทย ด่วนมากที่ มท 0201/806 ลงวันที่ 19 มกราคม พุทธศักราช 25313. นที เมืองมา, เอกสารการทำบุญเมือง บวงสรวงวิญาณพระมหากษัตริย์พะเยาและศาลหลักเมือง,ในโอกาสฉลอง 900 ปี ภูกามยาว 20 ปี จังหวัดพะเยา. (พะเยา : นครนิวส์การพิมพ์, 2540), หน้า 34-39.4. ชมรมเสวนาประวัติศาสตร์ไชยนารายณ์, ที่ระลึกพิธีเปิดป้ายชื่อ ประตูเมืองเชียงราย. (เชียงราย : เชียงรายโฆษณาและการพิมพ์, 2530), หน้า 28-33.ภาพถ่าย : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พะเยา. หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช. #จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ





ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           62/2ประเภทวัสดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                               54 หน้า : กว้าง 4.5 ซม. ยาว 57 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


ชื่อผู้แต่ง         - ชื่อเรื่อง          ประกาศงลดุลย์แสดงบบัญชีรายนามของคณะส่วนร่วม ครั้งที่พิมพ์       - สถานที่พิมพ์    สงขลา สำนักพิมพ์      โรงพิมพ์สมบูรณ์-โอสถ ปีที่พิมพ์         2479 จำนวนหน้า     66 หน้า รายละเอียด              เป็นหนังสือบันทึกรายชื่อคณะกรรมการคณะส่งเสริมพระปริยัติธรรม ภาษาบาลี แขวงเมือง สงขลา  จังหวัด  สงขลา  ประจำปีที่ ๑ พ.ศ.๒๔๗๙ วัดเลียบและรายชื่อผู้บริจาคเงิน  ส่งเสริมการเรียนประปริยัติธรรม ภาษาบาลี  แขวงเมือง สงขลา พร้อมทั้งสารตอบขอบคุณจากประธานกรรมการ  คณะส่งเสริมปริยัติธรรม


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 153/6เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


มงฺคลตฺถทีปนี (มงฺคลตฺถทีปนีเผด็จ) ชบ.บ 181/5เอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)


ชื่อเรื่อง : ธรรมาธรรมะสงคราม พระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมราชวงศ์ ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม 27 สิงหาคม พุทธศักราช 2515ชื่อผู้แต่ง : มงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จ ปีที่พิมพ์ : 2515 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ : หจก.ช.ชุมนุมช่าง จำนวนหน้า : 106 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเล่มนี้พิมพ์เป็นระลึกในงานพระราชทานเพลิงศพ หม่อมราชวงศ์ประสิทธิศักดิ์ สิงหรา เรื่องธรรมา ธรรมมะ สงคราม นี้ เป็นบทพากย์โขน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๑ ดำเนินความตามเค้าเรื่องในธรรมชาดก เอกาทสนิบาตกล่าวถึงธรรมเทพบุตรผู้รักษาความเป็นธรรม


ชื่อเรื่อง                     ตำนานว่าวพนัน ตำราผูกว่าว วิธีชักว่าวและการเล่นว่าวต่อสู้กันในอากาศผู้แต่ง                       พระยาภิรมย์ภักดี (บุญรอด ภิรมย์ภักดี) ประเภทวัสดุ/มีเดีย       หนังสือหายากหมวดหมู่                   นันทนาการ กีฬาเลขหมู่                      796.158 ภ549ตสถานที่พิมพ์               พระนครสำนักพิมพ์                 โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากรปีที่พิมพ์                    2464ลักษณะวัสดุ               178 หน้าหัวเรื่อง                     ว่าวภาษา                       ไทยบทคัดย่อ/บันทึกกล่าวถึงความเป็นมาของการเล่นว่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ อธิบายวิธีและขั้นตอนในการเล่นว่าวพนัน วิธีการชักว่าว การเล่นว่าว นอกจากนี้ยังอธิบายการทำว่าวปักเป้า อุปกรณ์เล่นว่าว เหนียงว่าวปักเป้า วิธีบังคับว่าวปักเป้า และตำราว่าวจุฬา รวมทั้งกติกาการเล่นว่าวสนามหลวงสวนดุสิต รัตนโกสินทร์ศก 125


ชื่อผู้แต่ง          อวย เกตุสิงห์และวัฒนา โอสถานุเคราะห์ ชื่อเรื่อง           ภพอื่นและเรื่องควรคำนึง พิสูจน์บุญ-บาปในปัจจุบัน ครั้งที่พิมพ์       พิมพ์ครั้งที่ ๓ สถานที่พิมพ์    กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์      โรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย ปีที่พิมพ์           ๒๕๑๖ จำนวนหน้า      ๑๔๖ หน้า หมายเหตุ        นายอุบล นางสุมน สังสิทธิ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ คุณแม่เล็ก ศรีประทีป                       หนังสือเล่มนี้ ได้รวบรวมเรื่องไว้ล้วนเป็นเรื่องจริง และเป็นประสบการณ์ของบุคลที่มีตัวตนมีหลักฐานยืนยันพอเชื่อถือได้ ผู้อ่านจะเห็นความจริงตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า คนเราธรรมดาเมื่อตายแล้วจะต้องไปเกิดอีก เพราะฉะนั้นบาปบุญที่ได้กระทำไว้ในปัจจุบัน ถ้ายังไม่เห็นผลในชาตินี้ก็จะส่งผลในชาติต่อๆไป เราควรจะละเว้นความชั่วและตั้งหน้าสร้างกุศลเพื่อประโยชน์ในภายภาคหน้า




-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : สุราต้องไม่ค้ากำไร -- ปี 2491 สุราหรือเหล้ามีบทบาทต่อการลดค่าครองชีพช่วยเหลือข้าราชการ เป็นบทบาทสำคัญที่ขนาดกระทรวงมหาดไทยมีหนังสือถึงคณะกรมการจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อแจ้งเรื่องที่เกี่ยวข้องดังสรุปความว่า แรกเริ่มกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้สโมสรข้าราชการจังหวัดปราจีนบุรีซื้อสุราจากผู้ขายส่ง โดยเสียค่าธรรมเนียมพิเศษ ค่าขนส่ง และกำไรให้แก่ผู้ขาย ซึ่งขัดแย้งกับมติคณะรัฐมนตรีเรื่องการลดค่าครองชีพช่วยเหลือข้าราชการ กระทรวงอุตสาหกรรมชี้แจงว่า โรงงานสุราเกิดอุปสรรคบางประการ ไม่สามารถผลิตส่งได้ตามความต้องการดังเดิม จึงลดจำนวนการขายให้สโมสรประจำจังหวัดก่อน กอปรกับมีผู้ลักลอบขนสุราจากที่อื่นและสุราปลอมไปขาย ดังนั้น จึงขอแก้ไขปัญหาโดยให้ผู้ขายส่งทุกพื้นที่ขายสุราแก่สโมสรประจำจังหวัดในราคาทุน บวกค่าขนส่ง ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมพิเศษอีกต่อไป จากรายละเอียดข้างต้น ทำให้ทราบความสำคัญของสุราว่า เกิดผลกระทบอย่างไรต่อการขาย ในเอกสารที่นำมาแสดงระบุยี่ห้อสุราเช่นกัน ซึ่งน่าสนใจว่าเหตุใดถึงไม่ใช่ยี่ห้ออื่นๆ ด้วย หรือผู้ผลิตรายนั้นประมูลได้ ? ถัดมา ความน่าจะเป็นในการช่วยเหลือค่าครองชีพควรเกี่ยวกับปัจจัยสี่มากกว่า "น้ำเมา " เป็นไปได้ว่าอาจช่วยสนับสนุนสินค้าอุตสาหกรรมของคนไทยหรือไม่ ? อย่างไรก็ตาม การแจ้งเรื่องที่เกี่ยวข้องของกระทรวงมหาดไทยนี้ เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่รัฐช่วยเหลือค่าครองชีพ หลักฐานที่ปรากฏเพียงเอกสารหนึ่งแผ่น จึงไม่อาจนำเสนอผลตอบรับ รายงานปฏิบัติ และแนวโน้มต่อไปในอนาคต ทำให้ไม่ทราบถึงความเป็นไปได้ของเป้าหมายตามนโยบายในขณะนั้น.ผู้เขียน : นายธานินทร์ ทิพยางค์ (นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)เอกสารอ้างอิง : หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา. สท 1.2.2/26 เอกสารสำนักงานปกครองจังหวัดสุโขทัย เรื่อง การลดค่าครองชีพช่วยเหลือข้าราชการ [ 4 ส.ค. 2491 ].#จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ


          กรมศิลปากร ขอเชิญร่วมกิจกรรมเนื่องในเทศกาลมหาสงกรานต์ พุทธศักราช 2566 ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร รับความรู้คู่ความสนุกกับ “สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ” วันที่ 7 - 9 เมษายน 2566 จัดกิจกรรมในลักษณะการออกร้านศิลปะเชิงสร้างสรรค์ และกิจกรรมต่าง ๆ ในหัวข้อ “สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ”      ระหว่างวันที่ 7 – 9 เมษายน 2566 ซึ่งประกอบด้วย 9 กิจกรรม ดังนี้            1. นิทรรศการ “เก้าดารา” เรียนรู้เกี่ยวกับเทวดานพเคราะห์ในวิถีชีวิตไทย            2. เปิด “ตลาดเก้าล้าน” แสดงและจำหน่ายสินค้าที่นักศึกษา ศิลปิน และอาสาสมัคร ได้พัฒนาต่อยอดมาจากโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร           3. “สถานีเก้าสิปป์” กิจกรรมเวิร์กชอปงานศิลปะที่หยิบเล่นได้ โดยนักศึกษาและศิลปินอาร์ตทอย ณ ระเบียงด้านข้างหมู่พระวิมานฝั่งทิศเหนือ ข้างอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์           4. กิจกรรม “ทัวร์เก้ามณี” นำชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเรียนรู้ถึงที่มาของเทวดานพเคราะห์และเทศกาลมหาสงกรานต์ ผ่านโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ในห้องจัดแสดงต่าง ๆ           5. กิจกรรม “ล่าขุมทรัพย์เก้าแต้ม” รับสมุดประทับตราแล้วออกตามหาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ  ที่เกี่ยวเนื่องกับเทวดานพเคราะห์ จำนวน 9 จุด เพื่อแลกรับถุงเครื่องราง “นวธัญมงคล” (เมล็ดพืชอันเป็นมงคล   9 ชนิด) เป็นของที่ระลึก วันละ 500 ชิ้นเท่านั้น           6. จิบชาเก้าชนิด “จิ๋วจ่งฉา” โดย อ๋อง ที บาย บี๋ (Ong Tea by Bee) ณ เรือนชาลีลาวดี            7. ลุ้นกาชาปองชุดพิเศษ “นวพ่าห์” สัตว์พาหนะเก้าชนิดของเทพนพเคราะห์โดย Little Turtle Studio           8. พิเศษสุดกับการเสี่ยงทายพระคเณศ “นวคเณศ” ซึ่งออกแบบโดยศิลปินอาร์ตทอยเพื่องานสงกรานต์แฟร์ 2566 โดยเฉพาะและมีจำนวนจำกัด           9. ทุกคนที่เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในช่วงงานสงกรานต์แฟร์ วันที่ 7 - 9 เมษายน 2566 จะได้รับเหรียญที่ระลึก “พิพิธคเณศ” เป็นรูปพระคเณศแบบต่าง ๆ ที่ศิลปินร่วมกันออกแบบไว้ 15 แบบ จำนวน 15,000 ชิ้น โดยจำกัดคนละ 1 เหรียญ/คน/วัน            กรมศิลปากร จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมกิจกรรม“สงกรานต์แฟร์ : นพเคราะห์บูชาดาราจร รับพรสงกรานต์ปีเถาะ”  ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เวลา 09.00 – 16.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊ก เพจ National Museum Bangkok : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร หรือ โทรศัพท์ 0 2224 1333, 0 2224 1402