ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,749 รายการ
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฐาน)อย.บ. 102/7ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 24 หน้า กว้าง 4.9 ซม. ยาว 56.6 ซม.หัวเรื่อง พระไตรปิฎก พระอภิธรรมบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ธรรมอีสาน ฉบับล่องชาด มีไม้ประกับ
ชื่อเรื่อง : ประชุมบทเพลงไทยเดิม ภาค 1
หัวเรื่อง : เพลงไทยเดิม
ลักษณปรีชา (ภู่ หุราพันธุ์) พ.ต.หลวง, 2425 – 2482
หนังสืออนุสรณ์งานศพ
คำค้น : -
รายละเอียด : นางองุ่น ลักษณปรีชา กับบุตรธิดา พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ พันตรีหลวงลักษณปรีชา (ภู่ หุราพันธุ์) ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2491
ผู้แต่ง : -
แหล่งที่มา : หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
หน่วยงานที่รับผิดชอบ : โรงพิมพ์ไทยพิทยา
วันที่ : 2491
วันที่เผยแพร่ : 16 พฤษภาคม 2568
ผู้ร่วมสร้างสรรค์ผลงาน : -
ลิขสิทธิ์ : กรมศิลปากร
รูปแบบ : PDF
ภาษา : ภาษาไทย
ประเภททรัพยากร : หนังสืออนุสรณ์งานศพ
ตัวบ่งชี้ : -
รายละเอียดเนื้อหา : รวบรวมบทลำนำซึ่งเป็นเนื้อร้องของเพลงไทยเดิมรวมทั้งสิ้นจำนวน 22 บท และได้ตั้งชื่อว่า “ประชุมบทเพลงไทยเดิม ภาค1” ในการรวบรวมบทลำนำเหล่านี้ พบว่า บางบทมีถ้อยคำหรือวรรคตอนที่ไม่ตรงกับต้นฉบับในหนังสือเรื่องเดิม ในส่วนที่แตกต่างจากฉบับต้นเรื่อง ได้มีการคัดลอกบทจากหนังสือเรื่องเดิมแนบไว้เพื่อเปรียบเทียบ ให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
เลขทะเบียน : น. 34 บ. 6016 จบ (ร)
เลขหมู่ : ห 784.7
อ119ป
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน)อย.บ. 141/1ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 26 หน้า กว้าง 4.7 ซม. ยาว 55 ซม.หัวเรื่อง พระอภิธรรมปิฎก พระสังคิณีบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน ฉบับล่องชาด ไม้ประกับธรรมดา ได้รับจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
เลขทะเบียน : นพ.บ.615/1 ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 92 หน้า ; 4 x 57 ซ.ม. : ลานดิบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 201 (49-56) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : ปัญญาบารมี--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.684/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 28 หน้า ; 4.5 x 55 ซ.ม. : รักทึบ-ลานดิบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 216 (196-201) ผูก 1 (2568)หัวเรื่อง : โมคคัลลานไปดูหมอนรก--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.747/ข/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 58 หน้า ; 4 x 53 ซ.ม. : ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 233 (362-369) ผูก ข1 (2568)หัวเรื่อง : กจฺจายนมูล --เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี ๒๐ กันยายน ๒๕๖๘ ผู้ออกแบบ นายปริญญา บุญฤทธิ์ นายช่างศิลปกรรมปฏิบัติงาน สังกัด กลุ่มงานศิลปประยุกต์ กลุ่มศิลปประยุกต์และเครื่องเคลือบดินเผา สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร
---------------------------------------------
ความหมายของตราสัญลักษณ์
- แบบตราสัญลักษณ์ ประกอบด้วย อักษรพระปรมาภิไธย อ.ป.ร. อันหมายถึง อานันทมหิดล ปรมราชาธิราช พื้นอักษรสีทอง ภายในกรอบวงกลมพื้นสีแดงอันเป็นสีของวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นสีประจำวันพระบรมรมราชสมภพ
- ภายในกรอบประดับเพชร ๑๒ ดวง หมายถึง ทรงดำรงสิริราชสมบัติ ๑๒ ปี พื้นหลังสีน้ำเงินเป็นสีของชัตติยกษัตริย์ เบื้องบนประดิษฐานพระมหาพิชัยมงกุฎประกอบด้วยเลข ๘ อันเป็นเลขมหามงคลประจำรัชกาล
- เบื้องหลังพระมหาพิชัยมงกุฎประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร แสดงถึงพระบรมราชอิสริยยศของสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราช ขนาบด้วยสัปตปฏล
- เบื้องล่างมีเลข ๑๐๐ หมายถึง วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี แพรแถบขอบขลิบทองพื้นสีหงขาด (ชมพู) ปลายแถบเป็นรูปเศียรพระโค สื่อถึงปีฉลูนักษัตรอันเป็นปีพระบรมราชสมภพ มีข้อความว่า "เฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ ๑๐๐ ปี" เบื้องล่างสุดมีข้อความว่า "๒๐ กันยายน ๒๕๖๘"
พบเครื่องถ้วยชามลายน้ำทอง มีพระบรมฉายาลักษณ์ ร.5 ที่กาน้ำ และจาน
ไม่ทราบว่ามีจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่เคยเห็นในหนังสือ รวมทั้งภาพใน Internet
ขอทราบรายละเอียดด้วยครับ
ผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2536 สถานที่พิมพ์ : เชียงใหม่ สำนักพิมพ์ : ม.ป.พ. การแต่งกายของชาวล้านนาสมัย พระราชชายาเจ้าดารารัศมี สมัยพระราชชายาเจ้าดารารัศมีถือได้ว่าอยู่ในช่วงสมัย รัชกาลที่ 5 ถึงรัชกาลที่ 7 ซึ่งสภาพแวดล้อมของล้านนาตอนนั้นนอกจากจะมีการติดต่อกับกรุงเทพฯ ในฐานะประเทศราชแล้ว ยังได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศคืออังกฤษซึ่งครอบครองพม่าขณะนั้น และได้เข้ามาติดต่อค้าขายกับเชียงใหม่ ทำให้ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมต่างๆ เข้ามาด้วย ทำให้วัฒนธรรมการแต่งกายของล้านนาสมัยนั้นมีการผสมผสานกันไปแต่ส่วนใหญ่ชาวล้านนาก็ยังคงยึดรูปแบบการแต่งกายประจำท้องถิ่นไว้เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ท่านได้มีบทบาทสำคัญที่จะเป็นผู้นำในการอนุรักษ์วัฒนธรรมการแต่งกายของชาวล้านนาไว้ โดยให้เจ้านาย และเหล่าข้าราชบริพารในวังแต่งกายแบบพื้นเมืองทั้งหมดรวมทั้งพระองค์ท่านด้วย
วันที่ ๒๒ - ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพาณิชย์นาวี จันทบุรี ได้จัดโครงการฝึกอบรมการอ่านแบบ ขยายแบบ และสร้างเรือจำลอง โดยมี นายเอิบเปรม วัชรางก ูร ผู้อำนวยการกองโบราณคดีใต้น้ำ เป็นประธานในพิธีเปิดและได้รับเกียรติจากอาจารย์ประทับ ขาวมาลา และอาจารย์นเรศ โพธิรัตน์ จากกลุ่มงานพัฒนาเรือประมง สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีประมงทะเล เป็นวิทยากรบรรยาย
วัดช้างล้อม ตั้งอยู่ทางฝั่งเหนือของคลองแม่ลำพัน ได้พบศิลาจารึกที่วัดนี้เขียนเล่าเหตุการณ์ในระหว่างก่อน พุทธศักราช ๑๙๐๕ - ๑๙๓๓ ว่า พนมไสดำผัวแม่นมเทด เป็นขุนนางผู้จงรักภักดีต่อพระมหาธรรมราชาลิไท มีใจศรัทธาออกบวชตามพระมหาธรรมราชาลิไท และได้อุทิศที่ดินของตนสร้างวิหาร ในปี พุทธศักราช๑๙๓๓ สร้างพระพุทธรูป หอพระไตรปิฎก ปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์ อุทิศบุญกุศล ถวายแด่พระมหาธรรมราชาลิไทซึ่งเสด็จสวรรคตแล้ว และสร้างพระพุทธรูปหินอุทิศบุญกุศลถวายแด่ มหาเทวี พระขนิษฐาของพระมหาธรรมราชาลิไทผู้เคยปกครองเมืองสุโขทัย โบราณสถานวัดนี้มีพื้นที่กว้างขวาง มีคูน้ำล้อมรอบ นอกคูน้ำห่างไปทางตะวันออกมีพระอุโบสถที่มีน้ำล้อมรอบเรียกว่า อุทกสีมาหรือนทีสีมา เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่มาก เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงระฆัง ที่ฐานเจดีย์ทำเป็นรูปช้างล้อมจำนวน ๓๒ เชือก มีลายประทักษิณโดยรอบ ที่วิหารหน้าเจดีย์มีพระพุทธรูปปูนปั้นชำรุดมากแล้ว สิ่งก่อสร้างอื่นก็มี เจดีย์ราย มีกำแพงแก้วล้อมรอบชั้นหนึ่งก่อนชั้นของคูน้ำ วัดตระพังทองหลาง วัดโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง ที่ตั้งโบราณสถานอยู่ในวัดตระพังทองหลางซึ่งเป็นวัดสมัยปัจจุบันซ้อนทับวัดโบราณอยู่ไม่ปรากฏหลักฐานเอกสารว่าสร้างในสมัยใด มีมณฑปประกอบวิหารที่งดงามแห่งหนึ่งของสุโขทัย มีเจดีย์ราย มีคูน้ำล้อมรอบ และพระอุโบสถอยู่ทางตะวันออก วัดนี้ไม่มีเจดีย์ประธาน แต่ใช้มณฑปทำหน้าที่เหมือนเป็นเจดีย์ประธานอันเป็นลักษณะเฉพาะแบบหนึ่งของการสร้างวัดที่สุโขทัย มณฑปก่อด้วยอิฐ เป็นอาคารในผังรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่เต็มพื้นที่ แต่ปัจจุบันชำรุดหมดแล้ว มณฑปด้านทิศตะวันออกเป็นซุ้มประตู อีกสามด้านเป็นผนังที่ประดับด้วยปูนปั้น เป็นเรื่องตามพุทธประวัติที่ชำรุดเกือบหมดแล้ว แต่จากหลักฐานที่บันทึกเป็นภาพถ่ายเก่าทำให้ทราบเรื่องราวได้ดังนี้ ผนังด้านเหนือ เป็นภาพตอนพระพุทธเจ้าทรมานช้างนาฬาคีรี โดยปั้นรูปพระพุทธองค์ประทับยืนเคียงข้างด้วยอัครสาวกคือพระอานนท์ ที่ปลายพระบาทของพระพุทธเจ้ามีร่องรอยให้ทราบว่าเป็นหัวเข่าช้าง ซึ่งคุกเข่ายอมแพ้พระพุทธเจ้า ผนังด้านใต้ เป็นภาพตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ภายหลังเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดาปั้นรูปพระพุทธเจ้าในท่าลีลา มีพระอินทร์กับพระพรหมและเหล่าทวยเทพตามเสด็จมาส่ง ได้มีการถอดพิมพ์ภาพปูนปั้นนี้ขณะที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์กว่าจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง สุโขทัย ผนังด้านตะวันตก เป็นภาพตอนพระพุทธเจ้าโปรดเทศนาสั่งสอนพวกศากยวงศ์ ที่เมืองกบิลพัสดุ์ ขณะทรงสั่งสอนทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ เป็นรูปรัศมีเปลวไฟล้อมรอบพระพุทธองค์และมีรูปบรรดาพระญาติแวดล้อมอยู่ภายนอกรูปรัศมีนั้น บรรดาภาพปูนปั้นเหล่านี้แสดงถึงลักษณะศิลปะสุโขทัยที่เจริญสูงสุด หรือที่เรียกว่ายุคทองของศิลปะสุโขทัย ซึ่งอายุอยู่ในราวกลางพุทธศตวรรษที่ ๒๐ วัดเจดีย์สูง ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง อยู่ถัดจากวัดตระพังทองหลางไปทางตะวันออก ชื่อของวัดคงเรียกตามลักษณะของเจดีย์ประธานในวัดที่ตั้งอยู่บนฐานสูง ฐานเจดีย์กว้างขนาด ๑๔ x ๑๔ เมตร ตัวองค์เจดีย์เป็นทรงระฆัง ส่วนฐานก่อเป็นแท่นสูง ย่อมุมไม้ยี่สิบ ลักษณะคล้ายกับผนังของมณฑปแต่ก่อทึบทุกด้าน วัดเจดีย์สูงน่าจะเป็นวัดที่สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยตอนปลายแล้ว โดยดูจากลักษณะการทำฐานสูง และลักษณะของเครื่องเจดีย์ทั้งองค์ ก็พัฒนาการต่อมาจากเจดีย์จำลองทำด้วยสำริดที่ได้จากวัดสระศรี และเจดีย์เอนที่เมืองศรีสัชนาลัย
กระทรวงวัฒนธรรมขอเชิญชมละครเวทีอิงประวัติศาสตร์ เรื่อง นางเสือง ตั้งแต่บัตนี้ - 27 มกราคมนี้ สำรองที่นั่งได้ที่ ศาลาเฉลิมกรุง และไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร.02-2623456, 022258757-8