ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,611 รายการ



องค์ความรู้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านเรื่อง “พุทธรูปเจ้าองค์นี้พ่อเจ้าฟ้าหลวงสร้างไว้...”--- พระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะล้านนา พื้นเมืองน่าน อายุราวครึ่งแรกของพุทธศตวรรษที่ ๒๔ทำด้วยไม้ ลงรักปิดทอง ขนาด ตักกว้าง ๒๒ เซนติเมตร สูง ๖๓ เซนติเมตรจากวัดพระธาตุแช่แห้ง อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน--- องค์พระพุทธรูปประทับนั่งขัดสมาธิราบแสดงปางมารวิชัยบนฐานบัวลูกแก้วอกไก่ พระรัศมีเป็นเปลวสูง รองรับด้วยอุษณีษะ พระเศียรเรียบเกลี้ยงไม่มีขมวดพระเกศา พระพักตร์รูปไข่ พระขนงโก่งเป็นสัน พระเนตรเหลือบต่ำ พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์เรียวบาง พระกรรณยาวทำเป็นแนวเส้นคล้ายลายก้านขดม้วนเข้าทางด้านใน พระศอเป็นปล้อง ครองจีวรห่มเฉียงเปิดพระอังสาขวา ชายจีวรทำเป็นแผ่นใหญ่ปลายตัดตรงยาวลงมาจรดพระนาภี นิ้วพระหัตถ์ทั้งสี่ยาวเสมอกัน บริเวณขอบฐานด้านล่างมีจารึกอักษรธรรมล้านนา ภาษาไทย จำนวน ๓ บรรทัด ความว่า “(พระ) พุทธรูปเจ้าองค์นี้ พ่อเจ้าฟ้าหลวง สร้างไว้ หื้อเป็นที่ไหว้สาสักการบูชาแห่งคนแลเทวดาทั้งหลาย ไปนานตราบ ๕๐๐๐ พระวัสสา แล นิพฺพานํ ปจฺจโย โหตุ”--- พระพุทธรูปองค์นี้ จากลักษณะพระพักตร์ แนวชายจีวร และสัดส่วนของฐาน คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปทรงเครื่องประทับยืน วัดบุญยืน อำเภอเวียงสา สันนิษฐานว่าคงสร้างขึ้นโดยช่างชาวเมืองน่านกลุ่มเดียวกัน--- จากเนื้อความในจารึก แม้ว่าจะไม่ได้ระบุศักราชที่สร้าง แต่ได้มีการจารึกนามผู้สร้างว่า “พ่อเจ้าฟ้าหลวง” สร้างไว้ ซึ่งในที่นี้หมายถึง "เจ้าอัตถวรปัญโญ" เจ้าผู้ครองนครน่าน องค์ที่ ๕๗ ครองเมืองน่านระหว่าง พุทธศักราช ๒๓๒๙ - ๒๓๕๓ (รวม ๒๕ ปี) ในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ เป็นช่วงที่เมืองน่านได้ขึ้นกับกรุงรัตนโกสินทร์ โดยในปีพุทธศักราช ๒๓๓๑ เจ้าอัตถวรปัญโญได้ลงมาเฝ้าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ (รัชกาลที่ ๑) ณ กรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อขอเป็นข้าขอบขัณฑสีมา จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าอัตถวรปัญโญ เป็น “สมเด็จเจ้าฟ้าเมืองน่าน” กลับขึ้นมาครองเมืองน่าน และต่อมาตำนานเมืองน่าน ได้เรียกพระนามว่า “(สมเด็จ) เจ้าฟ้าหลวง” จึงสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ--- ตามพงศาวดารเมืองน่าน ได้กล่าวว่าในสมัยเจ้าอัตถวรปัญโญ ได้มีการบูรณะฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในเมืองน่าน โดยการสร้างและซ่อมแซมวัดวาอารามตลอดจนพระพุทธรูปต่างๆ เช่น พุทธศักราช ๒๓๓๒ บูรณะปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุแช่แห้ง, พุทธศักราช ๒๓๓๖ สร้างพระพุทธรูปปางมารวิชัยสำริด วัดศรีบุญเรือง, พุทธศักราช ๒๓๔๐ สร้างวัดบุญยืน อำเภอเวียงสา,พุทธศักราช ๒๓๕๐ สร้างทิพย์เจดีย์และศาลานางหย้อง วัดพระธาตุช้างค้ำฯ เป็นต้น --- อาจกล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาในสมัยของเจ้าอัตถวรปัญโญ เป็นช่วงที่ได้รับการทำนุบำรุงให้มีความรุ่งเรืองเป็นอย่างยิ่งช่วงหนึ่งเลยก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าเมืองน่านในชั้นหลังทุกพระองค์ต่างก็ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากหลักฐานที่ปรากฏ อันได้แก่ วัดวาอาราม พระพุทธรูป สิ่งของหรือเครื่องใช้ทางศาสนาต่างๆ เช่น หีบพระธรรม คัมภีร์ใบลาน ซึ่งยังคงปรากฏอยู่ทั้งในเมืองน่าน และต่างอำเภอ อันเป็นขอบเขตการปกครองนครน่านจากอดีตจนถึงปัจจุบันเอกสารอ้างอิง- สุรศักดิ์ ศรีสำอาง และคณะ. เมืองน่าน โบราณคดี ประวัติศาสตร์ และศิลปะ. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร. ๒๕๓๗. - สำนักศิลปากรที่ ๗ น่าน. พงศาวดารเมืองน่าน ฉบับวัดพระธาตุช้างค้ำ. ๒๕๕๗.- สำนักศิลปากรที่ ๗ น่าน. พงศาวดารเมืองน่าน ฉบับวัดพระเกิด. ๒๕๕๗.- ฮันส์ เพนธ์ และคณะ. ประชุมจารึกล้านนา เล่ม ๕ จารึกในพิพิธภัณฑ์ฯ น่าน และจารึกเมืองน่านที่น่าสนใจ. คลังข้อมูลจารึกล้านนา, ๒๕๔๔. (เอกสารอัดสำเนา)



เรื่อง “วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า (วันวชิราวุธ) 25 พฤศจิกายน” วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือ “วันวชิราวุธ” เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของคณะลูกเสือแห่งชาติ และบรรดาลูกเสือ เนตรนารี บุคลากรทางการลูกเสือ ตลอดจนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า คือ เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสิน ทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีคุณูปการต่อประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งด้านการคมนาคม การแพทย์และสาธารณสุข ด้านการปกครอง กิจการเสือป่าและลูกเสือ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านศิลปและวัฒนธรรมไทย ด้านวรรณกรรมและหนังสือพิมพ์ เป็นต้น ด้วยคุณูปการดังกล่าว ทางราชการจึงได้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ไว้ในสถานที่ต่างๆหลายแห่ง ที่สำคัญ คือ พระบรมราชานุสาวรีย์บริเวณหน้าสวนลุมพินี ซึ่งรัฐบาลและประชาชนพร้อมใจกันบริจาคทรัพย์สร้างขึ้น พระบรมราชานุสาวรีย์แห่งนี้ได้มีพิธีเปิด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2485 และทางราชการได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือ “วันวชิราวุธ” และจัดให้มีการถวายบังคมพระบรมรูปเป็นประจำทุกปี พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสิน ทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (1 มกราคม พ.ศ. 2423 – 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468) เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์จักรี เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ เดือนยี่ ขึ้น 2 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2423 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ปีจอ พุทธศักราช 2453 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 รวมพระชนมายุ 45 พรรษา เสด็จดำรงราชสมบัติรวม 15 ปี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระอัจฉริยภาพและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายสาขา ทั้งด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือด้านวรรณกรรมและอักษรศาสตร์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้นับพันเรื่อง กระทั่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วว่า “สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า” พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์ใน พระราชวงศ์จักรีพระองค์แรกที่ไม่มีวัดประจำรัชกาล แต่ได้ทรงมีการการสถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กหลวงหรือวชิราวุธวิทยาลัยในปัจจุบัน ขึ้นแทน ด้วยทรงพระราชดำริว่าพระอารามนั้นมีมากแล้ว และการสร้างอารามในสมัยก่อนนั้นก็เพื่อบำรุงการศึกษาของเยาวชนของชาติ จึงทรงพระราชดำริให้สร้างโรงเรียนขึ้นแทน อ้างอิง : ประชิด สกุณะพัฒน์, อุดม เชยกีวงศ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : ภูมิปัญญา, 2549. บุญเติม แสงดิษฐ์. วันสำคัญ. กรุงเทพฯ : พัชรการพิมพ์. 2541. ผู้เรียบเรียง : นายประพนธ์ รอบรู้ นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี #องค์ความรู้ #วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า #วันวชิราวุธ #พระมงกุฎเกล้าฯ #หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกจันทบุรี #กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์กรมศิลปากร #สำนักศิลปากรที่5ปราจีนบุรี #กรมศิลปากร #กระทรวงวัฒนธรรม                     33    



ชื่อเรื่อง                                        สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม  (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ.                                           47/6ประเภทวัดุ/มีเดีย                       คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่                                     พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ                              30 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง                                        พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก               เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา


สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 151/5เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมสงฺคห) ชบ.บ 179/1ญ เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)


สารคดีชีวิต ฯพณฯ ชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรีคนที่ 20


ชื่อผู้แต่ง        สามัญศึกษา,กรม ชื่อเรื่อง         หนังสือที่ระลึกในงานพระกฐินพระราชทาน กรมสามัญศึกษา ณ วัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง          วันที่ ๗   พฤศจิกายน ๒๕๒๔ ครั้งที่พิมพ์       - สถานที่พิมพ์   ม.ป.ท. สำนักพิมพ์     ม.ป.พ. ปีที่พิมพ์         ๒๕๒๔ จำนวนหน้า     ๙๒ หน้า หมายเหตุ       หนังสือที่ระลึกในงานพระกฐินพระราชทาน กรมสามัญศึกษา ณ วัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง          วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๒๔                      หนังสือเล่มนี้ได้จัดพิมพ์เนื่องในโอกาสที่ได้รับพระราชทานผ้าพระกฐินปี ๒๕๒๔ ทอด ณ วัดป่าโมกวรวิหาร อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง กรมสามัญศึกษาได้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้โดยเสด็จพระราชกุศล ปีนี้ได้รวบรวมงานของกรมสามัญศึกษาที่น่าสนใจและประวัติวัดป่าโมกวรวิหาร




บทความจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านในจุลสารแป้นเกล็ดจุลสารเรื่องราวอาคารเก่า สาระความรู้ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการอนุรักษ์อาคารเก่าเมืองน่านฉบับที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ - กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓เรื่อง "ลวดลายจีน : บนกู่ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร"อ่านเนื้อหา บทความอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/.../pfbid0YvZKmV5eRKxazUEteMHX6f...


เลขทะเบียน : นพ.บ.410/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 114 หน้า ; 4 x 54.5 ซ.ม. : ชาดทึบ-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 147  (71-80) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : พระอภิธรรมฮอม--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


เลขทะเบียน : นพ.บ.540/5ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 70 หน้า ; 4 x 49 ซ.ม. : ล่องรัก-รักทึบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 180  (292-302) ผูก 5 (2566)หัวเรื่อง : สุวัณณสังขาร--เอกสารโบราณ            คัมภีร์ใบลาน            พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา  สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม


ชื่อเรื่อง : รายงานการปราบเงี้ยว พ.ศ. 2445 โดย ร.อ. เพิ่ม (หลวงทวยหาญรักษา) พ.อ. ถวิล อยู่เย็น อธิบายความประกอบ พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานฌาปนกิจศพ นายสยม จงใจหาญ ณ ฌาปนกิจสถาน วัดโสมนัสราชวรวิหาร นางเลิ้ง, นครหลวงกรุงเทพ ธนบุรี วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 ชื่อผู้แต่ง : เพิ่ม (หลวงทวยหาญรักษา) ปีที่พิมพ์ : 2515สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์เจริญกิจ จำนวนหน้า : 128 หน้า สาระสังเขป : เริ่มเรื่องว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีรับสั่งให้นายพลโทเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี ขึ้นไปเฝ้าที่พระราชวังบางปะอินและโปรดเกล้าฯ ให้เป็นแม่ทัพยกไปปราบเงี้ยวที่เข้าปล้นเมืองแพร่ กวีเล่าว่าได้รับมอบหมายหน้าที่จากแม่ทัพให้เป็นคลังทัพเบิกจ่ายเงินตรา เสื้อผ้า อาวุธยุทโธปกรณ์และรำพันว่า ตนไม่ได้อยู่ในวัยหนุ่มเหมือนเมื่อไปรบฮ่อแล้วเกรงจะปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ดี กวีพรรณนาเส้นทางและคร่ำครวญถึงหญิงคนรักตามแบบอย่างนิราศโดยทั่วไปเมื่อกองทัพถึงบ้านพึ่ง เจ้าราชวงศ์เมืองแพร่มารับทัพเชิญเข้าเมือง ที่เมืองแพร่แม่ทัพได้สอบถามเรื่องเงี้ยวได้ทราบว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ร.ศ. 120 พวกเงี้ยวมีหัวหน้าชื่อปะกาหม่อง ได้เข้าปล้นเมือง ยิงโรงพัก โรงไปรสินีย์ (ไปรษณีย์) ทำลายสายโทรเลข ขึ้นรื้อทำลายสิ่งของ บนเค้าสนาม (ที่ว่าการเมือง) ล้อมบ้านพักข้าหลวงข้าราชการต้องพากันหลบหนีเอาตัวรอด ราษฎรชาวเมืองหนีเข้าป่าก็มาก แม่ทัพได้สอบสวนกรมการเมืองฝ่ายต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุที่เงี้ยวเข้าปล้นเมืองแพร่ พร้อมกับให้กองทหารตามจับพวกเงี้ยวที่ก่อกบฏ ได้ตัวนำมาลงโทษประหารชีวิตส่วนหนึ่ง นักโทษที่ความผิดไม่ชัดเจนอีก 16 คนให้ขังคุกเพื่อนำไปกรุงเทพฯ ด้วย นอกจากปราบเงี้ยวกบฏแล้วยังได้ดำเนินการปรับปรุงการปกครองบ้านเมืองในด้านต่าง ๆ พร้อมกันไปด้วย เช่น จัดวางระเบียบปฏิบัติของราชการ การศาลยุติธรรม การจัดเก็บภาษีอากรซึ่งมีผู้ค้างจ่ายภาษีเก็บไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมทั้งจัดวางแผนการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นหน้าที่ของทหารและตำรวจ และการระดมพลและเสบียงเข้าสมทบหากมีทัพจากกรุงเทพฯยกมา เป็นต้น


black ribbon.