ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,748 รายการ
ชื่อเรื่อง มหานิปาตวณฺณนา (เวสฺสนฺตรชาดก) ชาตกฏฐกถา ขุทฺทกนิกายฏฐกถา (ทสพร-นครกัณฑ์) อย.บ. 423/6ประเภทวัสดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลาน หมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 26 หน้า : กว้าง 4.6 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา--การศึกษาและการสอน ชาดกบทคัดย่อ/บันทึก
เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับล่องชาด ทองทึบ รักทึบ ลานดิบ ไม่มีไม้ประกับ ได้รับบริจาคมาจากวัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี
องค์ความรู้เรื่อง "การสังคายนาสวดมนต์ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย"
นายทัตพล พูลสุวรรณ
นักอักษรศาสตร์ปฏิบัติการ
กลุ่มจารีตประเพณี
สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์
ค้นคว้าเรียบเรียง
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร กำหนดจัดกิจกรรม “การอนุรักษ์เรือพระราชพิธี ศิลปะบนผืนน้ำ” ในวันเสาร์ที่ ๘, ๑๕, ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๖ เวลา ๐๙.๓๐ - ๑๕.๓๐ น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ขอเชิญชวนผู้สนใจเข้าร่วมชมนิทรรศการและร่วมอนุรักษ์เรือพระราชพิธี ศิลปะบนผืนน้ำ ต่อยอดสร้างงานศิลป์ ร่วมกิจกรรมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมผ่าน google form โดยสแกน QR-code ในภาพด้านล่าง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๒๔๒๔ ๐๐๐๔
บทกวีผาแดงจีนเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยอารยธรรมที่สืบทอดกันมาหลายพันปี นอกจากขนบธรรมเนียมประเพณี แนวคิดหลักปรัชญาแล้ว จีนยังเต็มไปด้วยความรุ่มรวยทางศิลปกรรมหลากหลายแขนง เช่นเดียวกับงานวรรณกรรม ในประวัติศาสตร์จีนจึงพบกวีได้ในทุกยุคสมัย แม้บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์หลายคนก็เป็นกวีที่มีฝีมือจับตัวได้ยาก และกวีนิพนธ์ที่หลงเหลืออยู่นั้นได้ถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานศิลปะมากมายในเวลาต่อมา เฉกเช่น บทกวีผาแดง ซึ่งเป็นหนึ่งในบทกวียอดนิยมที่ผู้คนยังคงกล่าวขวัญถึงกระทั่งปัจจุบันบทกวีผาแดง (赤壁賦 ชื่อปี้ฟู่ ; Ode to the Red Cliff) เขียนขึ้นเมื่อ ค.ศ. ๑๐๘๒ (พ.ศ. ๑๖๒๒) โดย ซูซื่อ (苏轼) หรือซูตงโพ (東坡) กวีที่มีชื่อเสียงมากผู้หนึ่งของราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. ๑๐๓๗ – ๑๑๐๑ หรือ พ.ศ. ๑๕๘๐ – ๑๖๔๔) ขณะที่เขาโดนลดตำแหน่งไปเป็นขุนนางที่เมืองหวงโจว มณฑลหูเป่ย (อยู่ในเขตเมืองหวงกังปัจจุบัน) บทกวีดังกล่าวแบ่งเป็น ๒ ตอน ตอนที่หนึ่ง เรียกว่า เฉียนชื่อปี้ฟู่ (前赤壁賦; Former Ode to the Red Cliff) เขียนขึ้นในเดือนเจ็ดตามปฏิทินจันทรคติ เล่าถึงครั้งซูซื่อและเพื่อนเดินทางเที่ยวชมแก่งกลางน้ำชื่อปี้ (ผาแดง) ในแม่น้ำแยงซีเกียง นอกเมืองหวงโจว โดยนำเรื่องราวของสามก๊กตอนยุทธการที่ผาแดง (หรือตอนโจโฉแตกทัพเรือ) มาเปรียบเปรยว่าทุกสิ่งไม่จีรัง สิ่งใดที่ไม่ใช่ของตนย่อมไม่สามารถครอบครองได้ บทกวีตอนที่สอง เรียกว่า โฮ่วชื่อปี้ฟู่ (後赤壁賦; Latter Ode to the Red Cliff) เขียนขึ้นสามเดือนให้หลังเมื่อซูซื่อและเพื่อนเดินทางไปยังแก่งกลางน้ำชื่อปี้อีกครั้ง ระหว่างทางกลับพวกเขาพบนกกระเรียนตัวหนึ่งบินผ่านไป และในคืนนั้นซูซื่อได้ฝันว่ากระเรียนตัวนั้นคือนักพรตในลัทธิเต๋าแปลงกายมาบทกวีผาแดงทั้งสองตอนเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในประเทศจีนและเป็นต้นแบบให้กับงานศิลปกรรมในสมัยหลังมากมาย อาทิ ภาพวาด การแสดง รวมไปถึงการผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วย เราจึงพบความนิยมในการตกแต่งเครื่องกระเบื้องจีนด้วยตัวอักษรในบทกวีผาแดง ซึ่งนอกจากสร้างความสวยงามให้กับวัตถุแล้ว ยังเป็นการสืบทอดมรดกทางวรรณกรรมให้ดำรงอยู่ต่อไปอีกทางหนึ่ง
ชื่อเรื่อง: วัธนธัมไทย เรื่อง ต้นไม้ประดับบ้านของไทย ผู้แต่ง: ก.ม สมบัติสิริปีที่พิมพ์: พ.ศ. ๒๔๘๖สถานที่พิมพ์: ม.ป.ทสำนักพิมพ์: ม.ป.พจำนวนหน้า: ๑๔๐ หน้า เนื้อหา: สำนักนายกรัถมนตรี จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่วัธนธัมของไทยในทุกสาขา อาทิ ประวัติศาสตร์ไทย พระราชสถาน การเล่นพื้นเมือง การดนตรี ละคอนไทย สิ่งของไนพิพิธภันท พระพุทธรูป สมุดไทย ตู้พระธัม การอาชีพ ลายผ้า ความอุดมสมบูรน์ของประเทสบ้านเมืองไทย เป็นต้น เนื่องในโอกาสงานฉลองวันชาติ พ.ศ. ๒๔๘๖ เรื่อง ต้นไม้ประดับบ้านของไทย โดย ก.ม. สมบัติสิริ เป็นเรื่องหนึ่งของหนังสือชุด "วัธนธัมไทย" กล่าวถึงวัธนธัมการจัดบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของคนไทยด้วยต้นไม้ อันเป็นสิลปกัมและเครื่องสแดงอารยะธัมอันสำคันของชาติหย่างหนึ่งที่มีระเบียบแบบแผนอันดีงามมาแต่โบราณกาล พรรนไม้และระเบียบตกแต่ง ทั้งไม้ดัด กล้วยไม้ ประพันธ์เป็นโคลง พรรณนาอย่างน่าสนใจ มีพรรณไม้แปลกๆ ที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยในปัจจุบัน เช่น ไม้หกเหียน ไม้ฉาก ไม้ตลกราก ไม้ป่าข้อม เป็นต้น ส่วนกล้วยไม้ เช่น เอื้องฟ้ามุ่ย กุหลาบเหลือง (กล้วยไม้พื้นเมืองเชียงใหม่) เอื้องเค้ากิ่ว ช้างดำ ช้างแดง เป็นต้น พร้อมภาพประกอบและคำอธิบาย เพื่อให้เกิดประโยชน์ในทางการศึกษา ค้นคว้าหาความรู้ของผู้ที่สนใจด้านพฤกษศาสตร์ พรรณไม้ของไทยเลขทะเบียนหนังสือหายาก: ๑๑๒๔
เลขทะเบียนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์: E-book ๒๕๖๖_๐๐๒๔หมายเหตุ: โครงการจัดเก็บและอนุรักษ์หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ และเอกสารโบราณ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ (ไฟล์ดิจิทัลเพื่อการอนุรักษ์เท่านั้น)
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอดสด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “เปิดมุมมองใหม่ เที่ยวโบราณสถานยามค่ำคืน” วิทยากร นายบัณฑิต ทองอร่าม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ เวลา ๑๑.๐๐ – ๑๑.๔๕ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
ชื่อเรื่อง สรุปผลการดำเนินงานด้านศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ประจำปีงบประมาณ 2551ผู้แต่ง สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรีประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN -หมวดหมู่ ประเพณี ขนบธรรมเนียม คติชนวิทยาเลขหมู่ 390.09593 ส691สสถานที่พิมพ์ ม.ป.ท.สำนักพิมพ์ ม.ป.พ.ปีที่พิมพ์ 2551ลักษณะวัสดุ 80 หน้า : ภาพประกอบ,ตาราง ; 29 ซม.หัวเรื่อง ประเพณี--ขนบธรรมเนียม--คติชนวิทยาภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก สรุปผลการทำงาน ประจำปีงบประมาณ 2551 เดือนตุลาคม 2550 – กันยายน 2551 ของสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี
-- องค์ความรู้จากเอกสารจดหมายเหตุ : ก่อนไปฝึกงาน -- เมื่อ 32 ปีก่อน รัฐบาลไทยคัดเลือกสมาชิกยุวเกษตรกร อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ไปฝึกงานภาคการเกษตร ณ จังหวัดคูมาโมโต้ (Kumamoto) บนเกาะคิวชู (Kyushu) ภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่น. ซึ่งก่อนเดินทางนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระอิสริยยศขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินศูนย์ส่งเสริมเยาวชนเกษตร อำเภอท่าม่วง เพื่อพระราชทานพระราชดำรัสแก่สมาชิกยุวเกษตรกรให้มีขวัญ กำลังใจ และความมานะพยายามกับการฝึกงานในต่างแดน ความตอนหนึ่งว่า " การไปฝึกงานนั้นอย่างคิดว่าเป็นการไปใช้แรงงาน เราไปเพื่อหาความรู้ ประสบการณ์ ต้องมีความอดทน บางครั้งอาจต้องทำงานตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ถึงจะหนักก็ขอให้คิดว่าการที่เราได้มาฝึกงานที่ญี่ปุ่นนี้เราก็ต้องมีดีอยู่เหมือนกันถึงได้รับคัดเลือก เรื่องนี้จะทำให้เรามีกำลังใจในการฝึกงาน และเมื่อมีเวลาว่างก็ขอให้พยายามค้นคว้าหาความรู้ใส่ตนเอง เช่น เรื่องสหกรณ์หรือการดูงานตามวิทยาลัยเกษตรกรรมต่างๆ รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย อาจจะดูจากโทรทัศน์ในเวลาว่างก็ได้ ขอให้คิดว่าระยะเวลา 1 ปีนี้ไม่นาน ควรพยายามนำความรู้กลับมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ ". จากพระราชดำรัสข้างต้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงย้ำสิ่งสำคัญ 3 ประการคือ 1. ให้ใฝ่หาความรู้ทั้งเทคโนโลยีและการจัดการเกษตรเพื่อนำกลับมาใช้ประโยชน์ 2. ให้มีความอดทนต่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิต 3. ให้รักษาภาพลักษณ์ที่ดีงามของตนและประเทศไทย (โปรดอ่านหลักฐานในภาพประกอบ). สุดท้าย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังพระราชทานแง่คิดที่เปรียบดังคำทำนาย ซึ่งไม่ใช่สำหรับเกษตรกรเท่านั้น หากคนไทยทุกคนควรตระหนัก ไม่ประมาทว่า " ในอนาคต . . . จะต้องแข่งขันกันเองมากขึ้น และต้องแข่งขันกับอาชีพอื่นๆ ด้วย จึงจำเป็นต้องมีความรู้และความชำนาญมากขึ้น ไม่เช่นนั้นคงลำบากหรืออยู่ไม่ได้ . . . " พระองค์ทรงพระปรีชาทอดพระเนตรการณ์ไกลอย่างยิ่ง .ผู้เขียน: นายธานินทร์ ทิพยางค์ (นักจดหมายเหตุ หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา)เอกสารอ้างอิง: หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯ พะเยา. เอกสารสำนักงานเกษตรจังหวัดพะเยา พย 1.13/9 เรื่อง พระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ศูนย์ส่งเสริมเยาวชนเกษตร อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี [ 31 ม.ค. - 11 ก.พ. 2535 ].#จดหมายเหตุ #องค์ความรู้จากจากจดหมายเหตุ #หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติฯพะเยา #เอกสารจดหมายเหตุ
ชื่อเรื่อง พ่อสอนลูกผู้แต่ง ทวี บุณยเกตุประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือหายากหมวดหมู่ จิตวิทยาเลขหมู่ 155.25 ท185พสถานที่พิมพ์ พระนครสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์เฟื่องอักษรปีที่พิมพ์ 2515ลักษณะวัสดุ 354 หน้า หัวเรื่อง ศีลธรรมจรรยา มารยาทและการสมาคมภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก“พ่อสอนลูก” รวบรวมการอบรมสั่งสอนบุตรธิดา
ชื่อเรื่อง โหราศาสตร์_ตำราดูฤกษ์ยามประเภทวัสดุ/มีเดีย สมุดไทยขาวISBN/ISSN -หมวดหมู่ โหราศาสตร์ลักษณะวัสดุ 25; หน้า : ไม่มีภาพประกอบหัวเรื่อง ตำราดูฤกษ์ยาม ภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก ประวัติวัดพยัคฆาราม ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี มอบให้หอสมุดฯ วันที่ 15 ส.ค.2538
ศาสตราจารย์ ศิลป พีระศรี (Prof. Silpa Bhirasri)
ศิลปิน : สนั่น ศิลากรณ์ (Sanan Silakorn)
ปีพุทธศักราช: ปี พ.ศ.2499 (1956)
เทคนิค: ดินเผา( Bakedclay)
ขนาด : สูง 28.5 เซนติเมตร ( H. 28.5 cm.)
ประวัติ : สนั่น ศิลกรณ์ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2462 ที่กรุงเทพฯ ศึกษาศิลปะที่ โรงเรียนประณีตศิลปกรรม (แผนกปั้น) ภายหลังเข้ารับราชการที่กรมศิลปากร และสอยที่คณะจิตรกรรมและปติมากรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความแม่นยำในวิชาวาดเส้น กายวิภาควิทยา คน-สัตว์ และมีความสามารถสูงในวิชาประติมากรรม มีผลงานประติมากรรมอนุสาวรีย์สำคัญมากมาย อาทิเช่นอนุสาวรีย์ท้าวเทพตรีและท้าวศรีสุนทร ที่ ภูเก็ต อนุสาวรีย์วีรชนไทยที่นครศรีธรรมราช อนุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงที่สุโขทัยและเป็นผู้ปั้นอนุสาวรีย์ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร
แสดงภาพวัตถุหมุน คลิกที่นี่ http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri/360/model/s05ok/
ที่มา: http://www.virtualmuseum.finearts.go.th/silpabhirasri
โรงเรียนอนุบาลชลบุรี จ.ชลบุรี (เวลา 13.00 น.) จำนวน 100 คนวันเสาร์ที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. คณะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโรงเรียนอนุบาลชลบุรี จำนวน ๑๐๐ คน เข้าเยี่ยมชม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครนายก พระบรมชนกชลพัฒน์ โดยมีว่าที่ร้อยตรีรุ่งเรือง ชื่นชม ตำแหน่ง พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ เป็นวิทยากรนำชมในครั้งนี้