ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ เปิดให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ ๒๙ ตุลาคม ถึง ๒ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๘ มีผู้เข้าชมทั้งสิ้น ๑๕๕ คน


รายงานงบทดลองหน่วยเบิกจ่ายรายเดือน ตุลาคม ๒๕๖๘พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์




สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศและเครื่องประกอบ ในพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง        วันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘) เวลา ๐๘.๐๐ น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศและเครื่องประกอบ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมี ท่านผู้หญิงสิริกิติยา เจนเซน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร  และคณะกรรมการ เฝ้า ฯ รับเสด็จ         ในการนี้ เสด็จฯ เข้าภายในพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ทรงวางพวงมาลัยถวายสักการะพระพุทธสิหิงค์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธสิหิงค์ จากนั้นเสด็จ ฯ ไปยังมณฑลพิธี ด้านหน้าโรงราชรถ ทรงจุดเทียนทอง เทียนเงิน ธูป และปักธูปหางที่เครื่องบวงสรวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย พระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ อ่านโองการบวงสรวงเทพยดา และอัญเชิญดวงพระวิญญาณพระมหากษัตริยาธิราชเจ้า ทอดพระเนตรการแสดงรำบวงสรวง ๑ ชุด บรรเลงเพลงสาธุการ โดยสำนักการสังคีต กรมศิลปากร เสด็จ ฯ ไปยังมณฑลพิธี ทรงสุหร่ายที่เครื่องมือช่าง ทรงโปรยข้าวตอก ดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง ทรงคล้องมาลัยที่พระมหาพิชัยราชรถ พระยานมาศสามลำคาน จำนวน ๒ องค์ พระเวชยันตราชรถและราชรถน้อย จำนวน ๓ องค์ ตามลำดับ และทอดพระเนตรพระราชรถ พระยานมาศ แล้วจึงเสด็จ ฯ กลับ         ตามที่นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ  งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ดังนั้น เพื่อให้การบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติยศทุกประการ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ จึงมอบหมายให้กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีบวงสรวงเพื่อบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ พระยานมาศ และเครื่องประกอบในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ตามโบราณราชประเพณีไทย และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่ราชรถ ราชยานทั้งหลายได้สร้างขึ้นแต่ครั้งรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก และได้ใช้สืบเนื่องกันมาในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพและพระศพตั้งแต่ครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์          กรมศิลปากร กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ จะดำเนินงานบูรณะราชรถ ๕ องค์ ประกอบด้วย พระมหาพิชัยราชรถ เวชยันตราชรถ และราชรถน้อย ๓ องค์ เกรินบันไดนาค ๒ เกริน พระยานมาศสามลำคาน ๒ องค์ พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ โดยกรมศิลปากรจะดำเนินงานบูรณะ ซ่อมแซม และอนุรักษ์ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ งานตกแต่ง และงานประดับส่วนต่าง ๆ ที่เป็นงานประณีตศิลปกรรม กรมสรรพาวุธทหารบก และกรมอู่ทหารเรือ จะดำเนินการศึกษา ตรวจสอบสภาพโครงสร้างของราชรถ ระบบกลไก การเคลื่อนที่ และการชักลาก ให้มีความมั่นคงแข็งแรง ทั้งนี้ เพื่อให้งดงามและสมพระเกียรติ 


หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ จัดแสดงหนังสือพระราชประวัติและหนังสือที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ณ โถงกลาง ชั้น ๑ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่


พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ขอเชิญชมนิทรรศการศิลปกรรม “เพราะรัก” โดย เกษมศักดิ์ ตรานุชรัตน์ และ ราษี ศรบรรจง โดยได้รวบรวมผลงานจิตรกรรมที่เป็นดังบันทึกแห่งชีวิต ถ่ายทอดการมองโลกและความงามผ่านสายตาของสองหัวใจที่เคยเดินเคียงกัน ผลงานของทั้งคู่สะท้อนความเข้าใจใน “ชีวิต” และ “ความรัก” ในหลากหลายมิติ รักที่งดงามแต่ไม่สมบูรณ์ รักที่สูญเสียแต่ยังคงอยู่ และรักที่กลายเป็นแรงผลักดันให้ศิลปะดำเนินต่อไปแม้ในความเงียบงัน “เพราะรัก” ไม่ใช่เพียงนิทรรศการจัดแสดงผลงานจิตรกรรมของสองศิลปิน หากแต่เป็นบทสนทนาทางใจที่ดำเนินอยู่ผ่านสี เส้น และแสงเงา บทสนทนาที่เริ่มต้นจากความผูกพันและมิตรภาพ จนกลายเป็นการเดินทางทางศิลปะที่ร่วมกันสร้างและสืบต่อด้วย “รัก” นิทรรศการนี้คือพื้นที่แห่งการรำลึกและเฉลิมฉลอง “ความรัก” ที่ยังคงดำรงอยู่ ทั้งในความทรงจำและบนผืนผ้าใบ เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายที่แปรความคิดถึงให้กลายเป็นแสงแห่งแรงบันดาลใจ เพื่อยืนยันว่า “ศิลปะที่เกิดจากรัก”จะไม่มีวันจางหายไปตามกาลเวลา ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการศิลปกรรม “เพราะรัก” ได้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร จัดแสดงระหว่างวันที่ 6 – 28 พฤศจิกายน 2568 เปิดให้เข้าชมวันพุธ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ และอังคาร) อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 240 บาท โดยมีพิธีเปิดนิทรรศการ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป  ------------------------------------------------------------------ The Art Exhibition “For Love” By Kasemsak Tranucharat & Rasee Sornbanjong   “For Love” is not merely an exhibition of paintings by two artists, but a heartfelt dialogue expressed through color, line, and light — a conversation that began with friendship and affection, and grew into a shared artistic journey sustained by love. This exhibition brings together a collection of paintings that serve as visual journals of life, portraying the world and its beauty through the eyes of two hearts that once walked side by side. Each work reflects their profound understanding of “life” and “love” — love that is beautiful yet imperfect, love that endures loss, and love that continues to inspire creation even in silence. “For Love” is thus both a space of remembrance and a celebration of enduring affection — a tribute to love that lives on, both in memory and on canvas. It marks a final journey transformed by longing into light and inspiration, affirming that “art born of love” will never fade with time. The National Gallery, Chao Fa Road 6-28 November 2025 Open Wednesday–Sunday, 9:00 A.M.–4:00 P.M. (Closed on Monday and Tuesday) Admission: Thai Citizens 30 THB | Foreign Visitors 240 THB Opening Ceremony: November 7, 2025, from 5:00 P.M. onwards  


วันพฤหัสบดีที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๔.๐๐ น. บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกเชียงใหม่ เข้าร่วมอบรมการใช้งานฐานข้อมูลนิตยสารและหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์  Hibrary เพื่อแนะนำแก่ผู้ใช้บริการ ผ่านระบบออนไลน์ Zoom Meeting


กิจกรรม Goal Together เรียนรู้มรดกวัฒนธรรมไทย ครั้งที่ 4 มีเป้าหมายที่จะพาคุณครูไปเรียนรู้เรื่องราวทางโบราณคดี ประวัติศาสตร์ ภาษา วรรณกรรม และมรดกศิลปวัฒนธรรมของเมืองโบราณสุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร ซึ่งเป็นต้นทางของประวัติศาสตร์ไทย เป็นแหล่งอารยธรรมที่ทรงคุณค่าระดับสากลได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกและมรดกความทรงจำของโลกจากองค์การยูเนสโก เพื่อให้คุณครูได้นำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดและบูรณาการการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนและสังคมต่อไป ถ่ายทอดความรู้ตลอดรายการ โดยคณะวิทยากรของกรมศิลปากร ได้แก่ กองโบราณคดี สำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ และสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย เปิดรับสมัครคุณครูที่สอนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไปหรือมีกิจกรรมการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้อง จำนวน 30 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรม ตั้งแต่วันนี้ - 16 พฤศจิกายน 2568 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScGHTqW3OadsHflo_P2v3Z4GmP_7FE7nnIOzuM7vHuHBmYlYQ/viewformประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกในวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ทาง www.suthiratfoundation.or.th  สอบถามข้อมูล 098-249-9143 (วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 08.30 – 17.30 น.) Line ID: @syf2546



ภูวเณศวร์ จิระชัยประสิทธิ.  หยุดชีวิตวุ่นวายด้วย Notion : คู่มือการใช้งาน Notion ตั้งแต่ขั้นเริ่มต้นจนถึงมือโปร.  นนทบุรี : ธิงค์ บียอนด์ บุ๊คส์, 2567.  ในยุคที่ทุกอย่างเร่งรีบและซับซ้อน หนังสือเล่มนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ Notion เครื่องมืออเนกประสงค์ที่จะเปลี่ยนชีวิตที่วุ่นวายให้เป็นระบบระเบียบได้ในแอปเดียว ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนงาน จัดการตารางเวลา เขียนบันทึก หรือแชร์ไอเดียกับทีม ทุกอย่างสามารถทำได้ง่ายและคล่องตัว คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้การใช้งาน Notion ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงเทคนิคระดับมือโปร เหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักเรียน พนักงาน หรือฟรีแลนซ์ มาร่วมจัดการชีวิตให้มีประสิทธิภาพไปด้วยกัน       005.35       ภ686ห ห้องหนังสือทั่วไป 1


พราวภัส เตชะรุ่งโรจน์.  ยินดีต้อนรับและขอบคุณที่กลับมา.  กรุงเทพฯ: โอเพ่นดูเรียน, 2568. หนังสือเล่มนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัยอีกแห่งของหัวใจ เป็นการโอบกอดเล็กๆ ที่พร้อมปลอบโยนและฟื้นฟูคุณในวันที่เหนื่อยล้า ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผ่านอะไรมาก็ตาม เรื่องราวและคำปลอบโยนจากคุณ SUNDAYISBLISS จะช่วยเยียวยาใจอย่างอ่อนโยน พร้อมต้อนรับคุณกลับมาเสมอ ราวกับบ้านที่ไม่มีวันปิดประตู         153.8        พ424ย ห้องหนังสือทั่วไป 1


หลิน, ฉาง หยาง.  Infographic ฉบับคนขี้เกียจ.  กรุงเทพฯ: วาบิซาบิ เอ็ดดูเคชั่น, 2567.  หนังสือสำหรับคนอยากทำ Infographic โดยทีมงาน BetterPitch ผู้เชี่ยวชาญด้านการสรุปและการเล่าเรื่องด้วยภาพ จะพาคุณไปรู้จัก Infographic อย่างเข้าใจง่าย ไม่ว่าจะเป็นประโยชน์ วิธีใช้ให้เหมาะสม เคล็ดลับการออกแบบให้น่าสนใจ ไปจนถึงวิธีดึงดูดให้คนอยากอ่าน สรุปกระชับ เข้าใจไว พร้อมใช้จริง เหมาะสำหรับทั้งมือใหม่และคนที่อยากพัฒนาทักษะการสื่อสารให้ชัดเจนและทรงพลังขึ้น!         006.6        ห334อ ห้องหนังสือทั่วไป 1


ธาวิต สุขพานิช.  108 เรื่องที่หญิงไทยควรรู้.  กรุงเทพฯ: ดูมายเบส, 2558. หนังสือเล่มนี้ชวนผู้อ่านย้อนพินิจบทบาทและสถานะของผู้หญิงไทยในสังคม โดยตั้งคำถามต่อความจริง ที่เราคิดว่าเข้าใจดีแล้วเกี่ยวกับเพศหญิง ผ่านการวิเคราะห์ทั้งประวัติศาสตร์ แนวคิดทางสังคม และกฎหมายในหลายแง่มุม ตั้งแต่สิทธิของสตรีในครอบครัวและเศรษฐกิจ ไปจนถึงเรื่องเพศ ความบริสุทธิ์ การเลือกคู่ และการแต่งงาน       305.4       ธ529ร ห้องหนังสือทั่วไป 1


สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชดำริว่าจะฉลองพระองค์ด้วยชุดไทย เพื่อแสดงถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย ในการตามเสด็จพระราชดำเนินพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เยือนประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศในยุโรปอย่างเป็นทางการ เพื่อทรงเจริญทางพระราชไมตรีกับประเทศต่างๆ เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๐๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชดำริว่า “แม้เราจะมีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมในการแต่งกายของเราเองอยู่แล้ว แต่สตรีไทยก็ยังไม่มีเครื่องแต่งกายชุดประจำชาติ” ซึ่งในสมัยนั้นสตรีไทยไม่ได้มีเครื่องแต่งกายที่เป็นชุดไทย หรือธรรมเนียมการแต่งกายชุดประจำชาติเหมือนชนชาติอื่นๆ พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง “แต่ไหนแต่ไรมา คนไทยชอบแต่งกายกันตามสบายให้เหมาะแก่ความสะดวก ความประหยัด และอากาศของเมืองเราเท่านั้น ฉะนั้นเครื่องแบบประจำชาติของเราจึงเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่มีเป็นประจำ อยู่เป็นแบบฉบับ อย่างเพื่อนบ้านใกล้เคียง จนเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก เช่น ส่าหรีของอินเดีย เครื่องแต่งกายของชาวจีน และกิโมโนของญี่ปุ่น บรรดาพวกผู้หลักผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด ต่างก็แนะนำให้ข้าพเจ้านุ่งซิ่นอย่างไทยๆ นี่แหละไปทุกหนทุกแห่ง ข้าพเจ้าก็ยังไม่กล้าตกลงใจที่จะกระทำตาม เพราะมีปัญหาขัดข้องเรื่องเสื้อผ้า ที่จะสวมกับผ้าซิ่น ด้วยเรายังไม่มีเสื้อที่จะใช้เป็นแบบฉบับ” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ออกแบบฉลองพระองค์ชุดไทยแบบต่างๆ โดยนำรูปแบบการแต่งกายของสตรีไทยในอดีตมาผสมผสานกับวิธีการตัดเย็บปัจจุบันได้อย่างลงตัว เพื่อให้ง่ายต่อการสวมใส่และเหมาะสมกับยุคสมัย และมีพระราชวินิจฉัยเห็นชอบจนได้ชุดไทยประยุกต์ทั้งหมด ๘ แบบ ประกอบด้วย ชุดไทยเรือนต้น ชุดไทยจิตรลดา ชุดไทยดุสิต ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยจักรี ชุดไทยจักรพรรดิ ชุดไทยศิวาลัย และชุดไทยอมรินทร์ โดยตั้งตามชื่อพระที่นั่งหรือพระตำหนักต่างๆ และแสดงแบบเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๗ ณ เวทีสวนอัมพร ในโอกาสครบรอบร้อยปีของกาชาดสากล หรือเรียกกันว่า “ชุดไทยพระราชนิยม” เมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ. ๑๙๖๒ หรือ พ.ศ. ๒๕๐๕ นิตยสาร Vogue หน้า ๔๘ – ๔๙ ซึ่งเป็นนิตยสารแฟชั่นระดับโลกของสหรัฐอเมริกา ขอพระราชทานพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงฉลองพระองค์ชุดไทยจักรี ส่งผลให้ผ้าไทยมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักเป็นอย่างมาก และทำให้ในปัจจุบันชุดไทยเป็นที่นิยมในการสวมใส่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้ยังเป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงถึงความงดงามของชุดไทยไปยังนานาประเทศอีกด้วย ชุดไทยพระราชนิยม ๘ แบบ ประกอบด้วย  ๑.    ชุดไทยเรือนต้น ตั้งตามชื่อพระตำหนักเรือนต้น ในพระราชวังดุสิต เป็นชุดไทยแบบลำลองที่ใช้ได้ในหลายโอกาส เหมาะสำหรับใช้แต่งไปในงานที่ไม่เป็นพิธีการการ อาทิเช่น งานสำคัญทางศาสนา ส่วนผ้านุ่งป้ายเป็นผ้าฝ้ายหรือผ้าไหมมีลายริ้วตามขวางหรือตามยาว หรือผ้าพื้นเกลี้ยงมีเชิงก็ได้ ยาวจรดข้อเท้า ส่วนเสื้อเป็นคอกลมตื้นใช้สีตามริ้วหรือเชิง สีตัดกับผ้านุ่งหรือเป็นสีเดียวกันก็ได้ แขนสามส่วนปลายแขนหลวมเล็กน้อยกว้างพอสบาย ผ่าอกคอกลมติดกระดุม ๕ เม็ด เป็นคนละท่อนกับผ้านุ่ง และใช้เครื่องประดับสวยงามตามสมควร ๒.    ชุดไทยจิตรลดา ตั้งตามชื่อพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นชุดไทยในงานพิธีกลางวัน ลักษณะทั่วไปคล้ายกับชุดไทยเรือนต้น ต่างกันตรงคอเสื้อที่มีขอบตั้งเล็กน้อย แขนยาวจรดข้อมือ แต่ใช้ในงานพิธีการมากกว่าชุดไทยเรือนต้น อาทิเช่น การต้อนรับแขกต่างประเทศที่มาเยือนเป็นทางการ โดยไม่ต้องประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ส่วนผ้านุ่งป้ายเป็นผ้าไหมเกลี้ยงมีเชิง หรือยกดอกมีเชิงหรือยกดอกทั้งตัวแบบเสื้อคนละท่อนกับผ้านุ่ง และใช้เครื่องประดับสวยงามตามควร ๓.    ชุดไทยดุสิต ตั้งตามชื่อพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นชุดไทยสวมใส่ในงานพระราชพิธีที่กำหนดให้แต่งกายเต็มยศ หรือพระราชพิธีเต็มยศตอนค่ำ ตัดเย็บด้วยผ้ายกไหมหรือยกทอง ตัวเสื้อเป็นเสื้อไม่มีแขนคอด้านหน้าและด้านหลังคว้านกว้าง ผ่าด้านหลังตัวเสื้อปักลวดลายอย่างงดงามด้วยวัสดุต่างๆ เช่น ดิ้นเงิน ดิ้นทอง ปีกแมลงทับ ไข่มุก และลูกปัด เป็นต้น ส่วนผ้านุ่งยาวมีจีบด้านหน้ามีชายพก คาดเข็มขัดไทย และใส่เครื่องประดับเข้ากันกับชุด ๔.    ชุดไทยบรมพิมาน ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง เป็นชุดไทยในงานพระราชพิธีและงานพิธีตอนค่ำ สำหรับใช้ในงานเต็มยศและครึ่งยศ เช่น งานอุทยานสโมสร งานต้อนรับแขกต่างประเทศที่มาเยือนเป็นทางการ และงานพระราชทานเลี้ยงอาหารอย่างเป็นทางการ เป็นต้น มีลักษณะเป็นผ้าไหมยกดอกหรือยกทองมีเชิงหรือยกทั้งตัวก็ได้ ตัวเสื้อแขนยาวกรอมข้อมือ คอกลมมีขอบตั้ง ผ้านุ่งตัดแบบติดกันเป็นชุดเดียว ผ้าจีบข้างหน้ายาวจรดข้อเท้าและมีชายพก ไม่ผ่าหลังหรือผ่าข้าง คาดเข็มขัดไทย และใส่เครื่องประดับเข้ากันกับชุด ๕.    ชุดไทยจักรี ตั้งตามชื่อพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นชุดไทยสวมใส่ในงานเลี้ยง งานมงคลสมรส งานราตรีสโมสร ที่มีพิธีการตอนค่ำไม่เป็นทางการและอากาศไม่เย็นมากนัก เป็นชุดที่สวยสง่างามและนิยมมากอีกชุดหนึ่ง เป็นชุดที่ใช้ผ้านุ่งแบบเดียวกับชุดไทยบรมพิมาน ประกอบด้วยการห่มสไบเฉียงปักหรือไม่ปักก็ได้ตัดเย็บติดกับท่อนล่าง ทิ้งชายยาวด้านหลัง เปิดไหล่ข้างหนึ่ง และผ้านุ่งจีบหน้านาง เป็นผ้าไหมยกทองทั้งตัวหรือยกเฉพาะเชิงก็ได้ มีชายพกสำหรับคาดเข็มขัด และใส่เครื่องประดับเข้ากันกับชุด ๖.    ชุดไทยจักรพรรดิ ตั้งตามชื่อพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นชุดไทยสวมใส่ในโอกาสพิเศษที่กำหนดให้แต่งกายเต็มยศสวมสายสะพายในงานพระราชพิธี หรือใช้ในงานพิธีเต็มยศตอนค่ำ โดยท่อนบนห่มผ้าสองชั้น ชั้นในเป็นสไบแพรจีบ แล้วห่มสะพักปัก ผ้านุ่งตัดด้วยผ้ายกไหมหรือยกทองมีจีบด้านหน้า มีชายพกสำหรับคาดเข็มขัด และใส่เครื่องประดับเข้าชุดกันแบบเดียวกับชุดไทยจักรี ๗.    ชุดไทยศิวาลัย ตั้งตามชื่อพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นชุดไทยของสตรีบรรดาศักดิ์ในสมัยก่อน มักใช้ในงานพิธีตอนค่ำ งานเลี้ยง งานฉลองสมรส หรืองานพิธีเต็มยศ เหมาะสมสำหรับช่วงอากาศเย็นเพราะมีหลายชั้น และเป็นชุดแบบเดียวกับชุดไทยบรมพิมาน แต่ห่มสะพักทับหรือสไบแบบห่มเฉียงอีกชั้นหนึ่ง ๘.    ชุดไทยจิตรลดา แต่มีลักษณะเนื้อผ้าและเครื่องประดับหรูหรากว่า โดยใช้ผ้าไหมยกดอกที่มีทองแกมหรือยกทองทั้งตัว เสื้อเป็นแขนยาว คอตั้ง เสื้อกับผ้านุ่งคนละท่อน ไม่ต้องคาดเข็มขัด และประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชุดนี้ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีตอนค่ำ หรือเหมาะสำหรับใช้ในงานเลี้ยงรับรอง หรือในงานพระราชพิธีสวนสนามในวันเฉลิมพระชนมพรรษาจะประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์  ชุดไทยพระราชนิยม ได้ขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. ๒๕๖๖ ประเภท รายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม แนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล อยู่ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๒๗ ง เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๗ ชุดไทยพระราชนิยม จึงเป็นเครื่องแต่งกายประจำชาติที่มีความสวยงาม สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่แตกต่างจากชาติอื่น ทั้งในด้านการออกแบบ การตัดเย็บที่มีความประณีตงดงาม มีลวดลายบนผืนผ้าที่วิจิตรทรงคุณค่างามอย่างไทย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงใช้ศิลปะ วัฒนธรรม เป็นเครื่องมือในการพัฒนาคุณภาพชีวิต เสริมสร้างความภาคภูมิใจให้กับความเป็นชาติไทย จึงทำให้เป็นชุดต้นแบบประจำชาติที่มีความสง่างาม ทรงคุณค่าของเครื่องแต่งกายไทยทำให้เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ และเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าล้วนต่างน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงอุทิศพระวรกายและพระราชหฤทัยในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการมาตลอดพระชนม์ชีพ เพื่อความรุ่งเรืองของประเทศและความสุขสวัสดีของประชาชนตลอดมา เรียบเรียงโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม แหล่งอ้างอิง : “การแต่งกายของคนไทย.”  สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว.  ๑๘. (๒๕๔๗): ๕๙-๘๕. กรมประชาสัมพันธ์.  ดาวน์โหลดพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง. [ออนไลน์].           สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘, จาก: https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/33/iid/434510, ๒๕๖๘. กรมหม่อนไหม.  ประวัติ ชุดไทยพระราชนิยม ชุดประจำชาติ การแต่งกาย ความภูมิใจในความเป็นไทย. [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,          จาก: https://qsds.go.th/newqssclei/ประวัติ-ชุดไทยพระราชนิย/ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ.  ชุดไทย: จากราชสำนักสู่ราชนิยม. [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,            จาก: http://www.qsmtthailand.org/th/showing/ชุดไทย-จากราชสำนักสู่รา/ พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ.           พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง. [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,           จาก: https://www.facebook.com/photo/?fbid=1232367112268051&set=pcb.1232367162268046, ๒๕๖๘. พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ.           พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง. [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,           จาก: https://www.facebook.com/photo?fbid=1237053975132698&set=a.644243874413714, ๒๕๖๘. แพรว.  ชุดไทยพระราชนิยม มรดกชาติจาก สมเด็จพระพันปีหลวง. [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,           จาก: https://praew.com/people/royal-update/556058.html, ๒๕๖๘. หน่วยราชการในพระองค์.  พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง หน่วยราชการในพระองค์           ขอเผยแพร่พระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เพื่อน้อมถวายความอาลัย ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้.  [ออนไลน์].           สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘, จาก: https://www.royaloffice.th/26/10/2025/ทรงเชิดชูศิลปวัฒนธรรม/, ๒๕๖๘. Aroundonline.  งดงาม ๘ ฉลองพระองค์ชุดไทยราชนิยม สมเด็จพระพันปีหลวง.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,           จาก: https://www.aroundonline.com/queen-sirikit-thai-dressing/, ๒๕๖๒. Rachel King.  Queen Sirikit, Thailand’s Longest-Serving Queen Consort, Dies at 93.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,           จาก: https://www.townandcountrymag.com/society/tradition/a69165657/queen-sirikit-thailand-death-obituary/, ๒๕๖๘. Vogue.  From the Archives: Henry Clarke Photographs the Golden Court of Thailand.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,           จาก: https://www.vogue.com/article/the-golden-court-of-thailand Vogue.  Queen Sirikit of Thailand.  [ออนไลน์].  สืบค้นเมื่อ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๘,          จาก: https://archive.vogue.com/article/1962/7/queen-sirikit-of-thailand


black ribbon.