ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,746 รายการ
วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๒ โรงเรียนสุวรรณวิจิตรวิทยา ตำบลกังแอน อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๒๘๐ คน คุณครู ๓๐ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมี นายธนากร วงศ์สิริพัฒนะ นักวิชาการวัฒนธรรม พนักงานประจำห้องทุกคน ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๐๐ น. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ โรงเรียนบ้านละหุ่งหนองกก ตำบลนาบัว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๕๔ คน คุณครู ๑๐ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมี นายกรภัทร์ สุขใหญ่ พนักงานประจำพิพิธภัณฑ์ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. นักเรียนชั้นอนุบาล ๒ ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนบ้านกระออม ตำบลกระออม อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๖๓ คน คุณครู ๑๑ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมี นายธนากร วงศ์สิริพัฒนะ นักวิชาการวัฒนธรรม ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๐๐ น. นักศึกษาชั้นปีที่ ๑ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ตำบลนอกเมือง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๓๐ คน อาจารย์ ๑ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมีนพรัศม์ เมธีวราธนานันท์ ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ ดำเนินการเคลื่อนย้ายทับหลัง จำลอง ๓ ชิ้น จากปราสาทปรางค์กู่ มาเก็บรักษา ไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ชาวกุย ตำบลกู่ อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ
วันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๓๐ น. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย ตำบลระแงง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จำนวน ๔๒๐ คน คุณครู ๒๐ คน เข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ โดยมี นพรัศม์ เมธีวราธนานันท์ ภัณฑารักษ์ปฏิบัติการ และพนักงานประจำห้องทุกคน ให้การต้อนรับและบรรยายนำชม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุรินทร์ เปิดให้บริการแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗ มีผู้เข้าชมทั้งสิ้น ๑,๔๕๓ คน
กรมศิลปากร ขอเชิญรับชมถ่ายทอด Facebook Live รายการไขความรู้จากครูกรมศิลป์ ตอน “ศิลปกรรมสมัยรัตนโกสินทร์ถ้ำสำ ภาพแทนยุคจีนสร้างเมืองในภาคใต้ของสยาม” วิทยากร นางศิริพร สังข์หิรัญ ผู้อำนวยการกลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช และนางสาวสิริยุพน ทับเป็นไทย นักโบราณคดีปฏิบัติการ สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช ผู้ดำเนินรายการ นายสิทธิพร บุปผา นักวิชาการเผยแพร่ กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ เวลา ๑๑.๐๐ น. ผู้สนใจสามารถติดตามชมได้ทาง Facebook Live : กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม และ Facebook Live : กลุ่มเผยแพร่ฯ กรมศิลปากร
รายการ “ไขความรู้จากครูกรมศิลป์” มีรูปแบบเนื้อหาของรายการเกี่ยวกับประวัติความเป็นไทย เกร็ดประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญ ประเพณี วัฒนธรรม วีถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ผ่านการบอกเล่า ถ่ายทอดความรู้ แนวความคิด เนื้อหาวิชาการ จากประสบการณ์ของผู้บริหาร นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญกรมศิลปากร กำหนดถ่ายทอดสดผ่านเฟสบุ๊กไลฟ์ (Facebook Live) ทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๑๑.๐๐ น. ตลอดปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๗ - กันยายน ๒๕๖๘
นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568กระทรวงวัฒนธรรม ได้จัดกิจกรรมของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยกรมศิลปากร ร่วมจัดกิจกรรม ดังนี้
1. เปิดให้บริการและงดเก็บค่าเข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ อุทยานประวัติศาสตร์ และโบราณสถานที่อยู่ในความดูแลของกรมศิลปากร (ยกเว้นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลป พีระศรี อนุสรณ์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย) ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวม 3 วัน ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2568 โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติทั่วประเทศอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญออกให้พุทธศาสนิกชนสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลในเทศกาลปีใหม่ อีกด้วย
2. กิจกรรมสักการะ นบพระปฏิมา 9 นครามหามงคล 2568 สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร อัญเชิญพระพุทธรูปกอปรด้วยพุทธศิลป์อันงดงาม มีประวัติความเป็นมาจากนครโบราณต่าง ๆ ของไทย โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เป็นพระประธาน พร้อมด้วยพระพุทธรูปอีก 9 องค์ ได้แก่ พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองเชียงใหม่ พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม 2 พระหัตถ์ เมืองลพบุรี พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองสรรคบุรี จ.ชัยนาท พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เมืองสุโขทัย พระพิมพ์ลีลาในซุ้มเรือนแก้ว (พระกำแพงศอก) เมืองสุพรรณบุรี พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองนครศรีธรรมราช พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย 2 พระหัตถ์ เมืองพิษณุโลก และพระชัยเมืองนครราชสีมา นำมาประดิษฐานให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลในวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2568 เวลา 09.00 – 16.00 น.
3. ชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำและท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรี เปิดพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ให้เข้าชมความงดงามของเรือพระราชพิธี มรดกวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าแห่งสายน้ำ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 20.00 น. ระหว่างวันที่ 27 - 29 ธันวาคม 2567 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม จัดกิจกรรม Night at The Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม เปิดให้เข้าชมวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา16.30 - 21.00 น. (เฉพาะภายนอกอาคาร) และอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เปิดให้เข้าชมวัดพระราม วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ และวัดไชยวัฒนาราม จนถึงเวลา 21.00 น. ในวันศุกร์ – อาทิตย์ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568
4. เชิญชวนมอบหนังสือเป็นของขวัญปีใหม่ “ให้หนังสือเท่ากับให้ปัญญา” นำหนังสือที่จัดพิมพ์โดยหน่วยงานในสังกัดกรมศิลปากร ลดราคาสูงสุด 20% ตั้งแต่บัดนี้ถึง 15 มกราคม 2568 พร้อมกันนี้ได้จัดพิมพ์สมุดบันทึก “เรือพระราชพิธี ศรีแห่งนครา” ให้เลือกสรรเป็นของขวัญปีใหม่ สามารถเลือกซื้อได้ที่ร้านหนังสือกรมศิลปากร ชั้น 1 อาคารเทเวศร์ หรือสั่งซื้อหนังสือทางออนไลน์ได้ที่ https://bookshop.finearts.go.th
5. กิจกรรม Night Library อ่านกันยามค่ำ ณ สำนักหอสมุดแห่งชาติ วันที่ 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2568 หอสมุดแห่งชาติ เปิดให้บริการ อาคาร 1 ชั้น 1, 2 และอาคาร Smart Library วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 – 19.30 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 09.00 – 17.00 น.
วันพุธที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๗ เวลา ๐๙.๑๙ น. นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม และกรมศิลปากร ร่วมสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นบพระปฏิมา ๙ นครามหามงคล ๒๕๖๘” เป็นปฐมฤกษ์ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้จัดกิจกรรมสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นบพระปฏิมา ๙ นครามหามงคล ๒๕๖๘” อัญเชิญพระพุทธรูปที่มีพุทธศิลป์อันงดงาม มีประวัติความเป็นมาจากนครโบราณต่าง ๆ ของไทย โดยมีพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) เป็นประธาน พร้อมด้วยพระพุทธรูปอีก ๙ องค์ ที่จัดแสดงและสงวนรักษา ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร จำนวน ๔ องค์ คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี จำนวน ๓ องค์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุพรรณบุรี จำนวน ๑ องค์ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา จำนวน ๑ องค์ มาประดิษฐานให้ประชาชนได้สักการบูชา เพื่ออำนวยความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลในวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ ประกอบด้วย
๑. พระพุทธสิหิงค์ ศิลปะล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๑
๒. พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองเชียงใหม่ ศิลปะล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๑๙ - ๒๐
๓. พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม ๒ พระหัตถ์ เมืองลพบุรี ศิลปะลพบุรี พุทธศตวรรษที่ ๑๘ - ๑๙
๔. พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองสรรคบุรี ศิลปะลพบุรี ก่อนอยุธยาแบบอู่ทองรุ่นที่ ๑ พุทธศตวรรษที่ ๑๙
๕. พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เมืองสุโขทัย ศิลปะสุโขทัย พุทธศตวรรษที่ ๒๐
๖. พระพิมพ์ลีลาในซุ้มเรือนแก้ว (พระกำแพงศอก) เมืองสุพรรณบุรี ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๐
๗. พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา ศิลปะอยุธยาตอนต้น แบบอู่ทองรุ่นที่ ๓ พุทธศตวรรษที่ ๒๐
๘. พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองนครศรีธรรมราช ศิลปะอยุธยา สกุลช่างนครศรีธรรมราช พุทธศตวรรษที่ ๒๑ - ๒๒
๙. พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย ๒ พระหัตถ์ เมืองพิษณุโลก ศิลปะอยุธยาตอนกลาง พุทธศตวรรษที่ ๒๑ - ๒๒
๑๐. พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองนครราชสีมา ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๒ - ๒๓
ขอเชิญพุทธศาสนิกชนสักการะพระพุทธรูปวังหน้า พระปฏิมาแห่งแผ่นดิน “นบพระปฏิมา ๙ นครามหามงคล ๒๕๖๘” ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ระหว่างวันที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. - ๑๖.๐๐ น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ
-----------------------------------------------------------------------
พระพุทธรูปทั้ง ๑๐ องค์ ประกอบด้วย
๑. พระพุทธสิหิงค์
ศิลปะ ล้านนา ปลายพุทธศตวรรษที่ ๒๑ (๕๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๑๓๕ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๖๓ เซนติเมตร
องค์พระสูง ๗๙ เซนติเมตร
ประวัติ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท (วังหน้าพระองค์แรกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเชียงใหม่เมื่อพุทธศักราช ๒๓๓๘ ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปสัมฤทธิ์กะไหล่ทอง ประทับขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ทั้งสองวางซ้อนกันบนพระเพลาแสดงปางสมาธิ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า) ตามตำนานพระพุทธสิหิงค์ได้รับการอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นสิริยังพระนครหลวงโบราณหลายแห่ง นับแต่สุโขทัย เชียงใหม่ พระนครศรีอยุธยา ตราบเท่าถึงกรุงรัตนโกสินทร์
๒. พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองเชียงใหม่
ศิลปะ ล้านนา พุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ (๖๐๐-๗๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๓๑.๒ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๑๔.๓ เซนติเมตร
ประวัติ ขุดได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ ครูบาเจ้าศรีวิชัยถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ (ด้วยวิธีเสี่ยงทาย) พระโอรสและพระธิดาประทานยืม
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบ พระวรกายเพรียวบาง และชายสังฆาฏิเป็นแถบเล็กยาวพาดพระอังสาเหนือพระนาภี ใกล้เคียงกับพระพุทธรูปแบบเชียงแสนสิงห์หนึ่งกลุ่มที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะสุโขทัย พระพุทธรูปองค์นี้ มีประวัติระบุว่าชาวกะเหรี่ยงขุดได้จึงนำมาถวายครูบาเจ้าศรีวิชัย ครั้งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จประพาสมณฑลพายัพ พ.ศ. ๒๔๖๔ ครูบาเจ้าศรีวิชัยจึงถวายสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
๓. พระพุทธรูปยืนปางแสดงธรรม ๒ พระหัตถ์ เมืองลพบุรี
ศิลปะ ลพบุรี พุทธศตวรรษที่ ๑๘-๑๙ (๗๐๐-๘๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๖๕ เซนติเมตร กว้าง ๒๓ เซนติเมตร
ประวัติ พระยาพินิจสารา ถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระโอรสและพระธิดาประทานยืม
พระพุทธรูปยืนทรงเครื่องแสดงปางประทานอภัย ๒ พระหัตถ์ พระองค์นี้จัดอยู่ในกลุ่มพระพุทธรูปศิลปะลพบุรี ที่สืบเนื่องมาจากพระพุทธรูปในศิลปะเขมรโบราณแบบบายน รูปแบบพระพุทธรูปลักษณะดังกล่าวพบมากในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะที่ “เมืองลพบุรี” ในเวลาต่อมากลุ่มชนชั้นปกครองของเมืองลพบุรีที่ปัจจุบันรู้จักกันในนาม “ราชวงศ์อู่ทอง” ได้รวมอำนาจเข้ากับราชวงศ์สุพรรณภูมิสถาปนากรุงศรีอยุธยาขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๑๘๙๓
๔. พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองสรรคบุรี
ศิลปะ ลพบุรี ก่อนอยุธยาแบบอู่ทองรุ่นที่ ๑ พุทธศตวรรษที่ ๑๙ (๗๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๒๙.๕ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๒๓ เซนติเมตร
ประวัติ ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย เดิมได้มาจากเมืองสรรค์ (อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท)
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย จากพุทธศิลป์แสดงความคาบเกี่ยวกับพระพุทธรูปในช่วงปลายของศิลปะลพบุรี พบมากบริเวณเมืองโบราณก่อนสมัยอยุธยา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตอำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท จนในอดีตขนานนามพระพุทธรูปกลุ่มนี้ว่า “พระเมืองสรรค์” เมื่อภายหลังการสถาปนาอาณาจักรอยุธยา เมืองสรรคบุรีจึงกลายเป็นเมืองสำคัญในฐานะเมืองลูกหลวงและเมืองหน้าด่าน
๕. พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย เมืองสุโขทัย
ศิลปะ สุโขทัย พุทธศตวรรษที่ ๒๐ (๖๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๗๗ เซนติเมตร
ประวัติ สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย พุทธลักษณะพระพักตร์รูปไข่ มีพระรัศมีเป็นเปลวเพลิง ครองจีวรห่มคลุมเรียบไม่มีริ้วและจีวรแนบพระวรกาย อันเป็นรูปแบบพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย บริเวณส่วนฐานด้านหลังของพระพุทธรูปมีจารึกอักษรไทยภาษาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ว่า “วัดกะพังทอง เมืองโสกโขไทย” ดังนั้นสันนิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากวัดตระพังทอง ภายในเมืองเก่าสุโขทัย
๖. พระพิมพ์ลีลาในซุ้มเรือนแก้ว (พระกำแพงศอก) เมืองสุพรรณบุรี
ศิลปะ อยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๐ (๖๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด กว้าง ๑๑ เซนติเมตร สูง ๓๒ เชนติเมตร
ประวัติ ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย เดิมได้มาจากจังหวัดสุพรรณบุรี
พระพิมพ์เนื้อชินรูปพระพุทธเจ้าในอิริยาบถลีลาภายในเรือนแก้ว พระพิมพ์แบบนี้พบมากในกรุพระปรางค์วัดพระศรีมหาธาตุ จังหวัดสุพรรณบุรี จึงสันนิษฐานว่าน่าจะได้จากกรุนี้เช่นกัน และนิยมเรียกกันทั่วไปว่า "พระกำแพงศอก" ตามขนาดของพระพิมพ์ที่ค่อนข้างใหญ่ จึงไม่สามารถพกติดตัวได้ มักบูซาที่บ้านเรือน โดยมีความเชื่อถือว่าเป็นพระพิมพ์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ สามารถป้องกันอัคคีภัยได้
๗. พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระนครศรีอยุธยา
ศิลปะ อยุธยาตอนต้น แบบอู่ทองรุ่นที่ ๓ พุทธศตวรรษที่ ๒๐ (๖๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๕๔.๕ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๒๖ เซนติเมตร
ประวัติ ได้จากกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๒๑-๒๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๑
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัย พุทธศิลปะของพระพุทธรูปองค์นี้นักวิชาการเรียกว่า “ศิลปะแบบอู่ทอง” ด้วยเชื่อว่ารูปแบบศิลปะนี้เกิดขึ้นในช่วงของรัชกาลสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ หรือพระเจ้าอู่ทอง และจำแนกออกเป็น ๓ รุ่น สำหรับวัดราชบูรณะสถานที่พบพระพุทธรูปองค์นี้นั้น สร้างขึ้นโดยพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (เจ้าสามพระยา) จากการขุดค้นภายในกรุพระปรางค์ พบพระพุทธรูปศิลปะต่างๆ จำนวนมาก โดยพระพุทธรูปในกลุ่มศิลปะแบบอู่ทองรุ่นที่ ๓ พบมากที่สุดจำนวนกว่า ๓๕๖ องค์
๘. พระพุทธรูปปางมารวิชัย เมืองนครศรีธรรมราช
ศิลปะ อยุธยา สกุลช่างนครศรีธรรมราช พุทธศตวรรษที่ ๒๑-๒๒ (๔๐๐-๕๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๕๙ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๒๗.๕ เซนติเมตร
ประวัติ สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นำไปจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๒
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ปางมารวิชัยสกุลช่างนครศรีธรรมราช เป็นพระพุทธรูปกลุ่มที่ได้รับรูปแบบมาจากพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชรสมัยอยุธยาตอนกลาง (พุทธศตวรรษที่ ๒๑-ต้นพุทธศตวรรษที่ ๒๓) ซึ่งมีแรงบันดาลใจและรูปแบบจากพระพุทธสิหิงค์ หรือพระพุทธรูปขัดสมาธิเพชร ศิลปะล้านนา ตามตำนานระบุว่าเมื่อพระพุทธสิหิงค์เชิญมาจากประเทศศรีลังกาเคยพักประดิษฐานที่นครศรีธรรมราชก่อนอัญเชิญไปเมืองสุโขทัย
๙. พระพุทธรูปยืนปางประทานอภัย ๒ พระหัตถ์ เมืองพิษณุโลก
ศิลปะ อยุธยาตอนกลาง พุทธศตวรรษที่ ๒๑-๒๒ (๔๐๐-๕๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๕๐.๕ เซนติเมตร กว้าง ๑๓.๕ เซนติเมตร
ประวัติ ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย เดิมได้มาจากมณฑลพิษณุโลก
พระพุทธรูปยืนทรงเครื่องน้อย ตามประวัติกล่าวว่าได้มาจากพื้นที่มณฑลพิษณุโลก ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อพุทธศักราช ๒๔๓๕ ประกอบด้วยเมืองพิจิตร เมืองพิชัย เมืองสวรรคโลก เมืองสุโขทัย และเมืองพิษณุโลก โดยมีเมืองเอกคือเมืองพิษณุโลก สำหรับเมืองพิษณุโลกเดิมมีนามว่า “สองแคว” เรียกตามสภาพภูมิศาสตร์ที่มีลำน้ำสองสายบรรจบกันบริเวณพื้นที่ทิศเหนือนอกตัวเมืองพิษณุโลก คือแม่น้ำน่าน (แควใหญ่) และแม่น้ำแควน้อย
๑๐. พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองนครราชสีมา
ศิลปะ อยุธยา พุทธศตวรรษที่ ๒๒–๒๓ (๓๐๐-๔๐๐ ปีมาแล้ว)
ขนาด สูงพร้อมฐาน ๒๕ เซนติเมตร หน้าตักกว้าง ๑๕.๔ เซนติเมตร
ประวัติ ย้ายมาจากห้องกลางกระทรวงมหาดไทย เดิมได้มาจากไหนไม่ปรากฏ
พระพุทธรูปปางมารวิชัยบนพระวรกายโดยรอบปรากฎมีจารึกพระคาถาอักษรขอม คติการสร้างพระชัยประจำตัวแม่ทัพยึดถือปฏิบัติมาแต่โบราณ เพื่อคุ้มครองป้องกันภัย นอกจากนี้ยังพบการสร้างพระชัยสำหรับเมืองเพื่อเป็นมิ่งขวัญและสวัสดิมงคล ดังตัวอย่าง พระชัยเมืองนครราชสีมา เมืองหน้าด่านสำคัญที่ป้องกันข้าศึกจากทิศตะวันออกและตะวันออกเฉียงเหนือ
วันที่ 1 มกราคม 2568 เวลา 09.00-17.00 น.
กิจกรรม
1. ฟังการบรรเลงเพลงจากเปียโนสองหน้า(เปียโนจุฑาธุช)
2. โพสต์ถ่ายภาพจุด check-in
3. NLT Books for gifts
4. ชมภาพยนตร์ผ่านแพลตฟอร์ม Netflix
5. สนุก กับแรลลี่ Library on tour
6. ลุ้นรับหนังสืออันทรงคุณค่า(จำนวนจำกัด)
วันที่ 2 มกราคม- 31 มีนาคม 2568
วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 09.00 -19.30 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 17.00 น.
วันจันทร์ - ศุกร์ อาคาร Smart Library เวลา 06.30 - 19.30 น.
วันเสาร์ - อาทิตย์ อาคาร Smart Library เวลา 09.00 - 17.00 น.
กิจกรรม
1. อ่านหนังสือเรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมไทยกับ Night Library
2. ชมนิทรรศการแผ่นเสียงในสยาม
3. การปรับปรุงพื้นที่รองรับยามค่ำคืน
4. ชมภาพยนตร์ผ่านแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง Netflix
5. Co-working & Meeting Room
6. Notebook and Gadget Zone
7. Café
8. จุดถ่ายภาพ Check-in
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงสถาปนาวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร และทรงมีพระราชดำริให้สร้างพระระเบียงเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปจากฝีมือช่างยุคต่างๆ รวมถึงทรงโปรดให้สืบเสาะหาพระพุทธรูปโบราณตามหัวเมืองต่างๆ จะต้องเป็นพระพุทธรูปที่มีความงดงามด้วยฝีมือช่างพุทธลักษณะแตกต่างจากที่เคยปรากฏ และมีขนาดพระพุทธรูปที่ไม่แตกต่างกันมาก ประดิษฐานบนแผ่นปั้นลายลงรักปิดทองเรียงรายรอบพระระเบียง (วิหารคด) มีพระพุทธรูปจำนวน ๕๒ องค์ สลับอิริยาบถทั้งแบบนั่งและแบบยืน
ทั้งนี้หากมีโอกาสไปวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ราชวรวิหาร สามารถเข้าไปกราบสักการะพระพุทธรูปปางและสมัยต่างๆ เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต
เรียบเรียงโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่
แหล่งอ้างอิง :
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีไปมากับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส. พระนคร: โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, ๒๔๗๒. (พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานแจกเนื่องใน งานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสนองพระเดชพระคุณในวันตรงกับวันเสด็จสวรรคตที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๒).
ประวัติวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์วิจิตรหัตถกร, ๒๕๒๒.
มูลนิธิเบญจมบพิตร. พระพุทธรูปที่พระระเบียงพระอุโบสถ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม. กรุงเทพฯ: มูลนิธิเบญจมบพิตร, ๒๕๔๓.