ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,823 รายการ
หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา ขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรม “ศิลปะการตัดกระดาษสื่อผสมสร้างสรรค์ - CREATIVE MIXED PAPER CUTTNG” กิจกรรมนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตัดธรรมดา แต่เป็นกิจกรรมที่ปูพื้นฐานเพื่อการต่อยอดในอนาคต! รายละเอียดกิจกรรมมีดังนี้- วิทยากรโดย อาจารย์สุวัฒน์ ชะตางาม ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานในงาน Thailand Biennale Korat 2022-2023- กิจกรรมการตัดกระดาษสื่อผสม 3 รูปแบบ ทั้งพระชัยเมืองนครราชสีมา พระนารายณ์มหาราช และท้าวสุรนารี- วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 2568 เวลา 13:00 - 17:00 น. ณ ห้องวารสารและหนังสือพิมพ์ ชั้น 1 หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา- ฟรี!!!! ไม่มีค่าใช้จ่าย [รับจำนวนจำกัด]สนใจลงทะเบียนได้ที่ : https://forms.gle/1MXzPrmR8Xx8TNPU6 [รับจำนวนจำกัด]
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ นางสาวปุณณภา สุขสาคร ผู้อำนวยการหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ มอบหนังสือและสื่อการเรียนรู้ในโครงการ Read Me Around @NL.CNX ให้แก่โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับนักเรียนในพื้นที่ สร้างสรรค์สังคมที่มีคุณภาพผ่านการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ให้กับเยาวชนไทย
ประชุมพิจารณาการตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ขออนุญาตส่งหรือนำออกราชอาณาจักร ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น.
นายสมาวิษฎ์ สุพรรณไพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต (กำกับดูแลงานด้านกระทรวงวัฒนธรรม) ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้เป็นประธานในที่ประชุมพิจารณาการตรวจพิสูจน์โบราณวัตถุหรือศิลปวัตถุที่ขออนุญาตส่งหรือนำออกราชอาณาจักร ครั้งที่ ๑/๒๕๖๘
โดยมีนางสาวกิตติมา ทิพรัตน์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ปฏิบัติราชการแทนวัฒนธรรมจังหวัดภูเก็ต นางสาวพนิตนาถ สุวรรณพงศ์ นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ ปฏิบัติราชการแทนนายด่านศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต นางสาวสิริยุพน ทับเป็นไทย นักโบราณคดีปฏิบัติการ ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช นายกานต์ รับสมบัติ หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง พร้อมด้วยคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ซึ่งในการพิจารณาครั้งนี้มีการขออนุญาตส่งออกศิลปวัตถุ พระพุทธรูป เทวรูป จำนวน ๑๙ รายการ ๑๙ ชิ้น
ทั้งนี้ มติคณะกรรมการฯ จากการพิจารณาเห็นว่าเป็นศิลปวัตถุ พระพุทธรูป ที่ทำขึ้นใหม่ในปัจจุบันจึงเห็นควรอนุญาตให้นำออกนอกราชอาณาจักรได้
ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และบูรณะพระอุโบสถในปี พ.ศ. ๒๔๖๓ ซึ่งวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม และเมื่อวันศุกร์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. (วันศุกร์ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนยี่เหนือ ปีจอ) หรือเดือน ๑๒ ภาคกลาง ถือว่าเป็นวันสำคัญที่ทำพิธีบุกเบิกทางเป็นอุดมฤกษ์ ซึ่งชาวล้านนาที่ไม่มีวันลืมเลือน และเป็นความทรงจำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา เพราะเป็นวันที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย และปูชนียบุคคลที่ชาวเชียงใหม่ รวมถึงประชาชนโดยทั่วไป เคารพศรัทธา ได้ทำการริเริ่มลงปักจอบแรกลงบนดินเป็นปฐมฤกษ์ เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ความยาวรวม ๑๑ กิโลเมตร ๕๓๐ เมตร จนแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้ถนนได้เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘ เป็นระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างเป็นเวลา ๕ เดือนกับ ๒๒ วัน ซึ่งการสร้างถนนเส้นทางใช้แรงงานคนกับอุปกรณ์ที่มี อาทิเช่น จอบ เสียม พลั่ว ชะแลง อีโต้ มีด หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมาเอง เพื่อใช้การก่อสร้างทางต้องแผ้วถาง ทั้งนี้ต้องขุดหินเจาะหินระเบิดเป็นช่วงๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เป็นเขาสูงชันสลับซับซ้อนตลอดระยะทางด้วยแรงศรัทธา
บริเวณวัดศรีโสดามีความสำคัญ ซึ่งเป็นจุดลงจอบแรกในการสร้างถนนขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยมีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๙ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร เป็นผู้ลงจอบแรก พร้อมคณะขุนนาง ข้าราชการและคหบดี เมื่อวันศุกร์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ และวัดนี้ยังเป็นจุดรับบริจาคข้าวสาร รวมถึงอาหารสด เช่น เนื้อ ปลา และผักผลไม้ เป็นต้น ถือว่าเป็นจุดนี้เป็นเริ่มต้นเส้นทางบุญด้วยพลังศรัทธาของประชาชนสำหรับใช้ในการสัญจรได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ครูบาเจ้าศรีวิชัยยังสร้างวัดตามรายทาง ๓ วัด โดยตั้งชื่อให้มีความหมายเกี่ยวโยงกับหลักธรรมที่ผู้ปฎิบัติธรรมพึงบรรลุได้ คือ มรรค ผล นิพพาน เทียบกับพระอริยบุคคลหรือบุคคลผู้ประเสริฐ ซึ่งมีอยู่ ๔ ระดับ ได้แก่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ตามลำดับ วัดแรกที่ครุบาศรีวิชัยสร้างคือ วัดโสดาบันพระอารามหลวง หรือวัดศรีโสดาในปัจจุบัน อยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ อยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ทั้งนี้เพื่อเป็นจุดรับบริจาคในการสร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ซึ่งในปัจจุบันเป็นสำนักศึกษาอบรมพระภิกษุสามเณร และเผยแผ่พระพุทธศาสนาบนดอยให้แก่กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ต่อไปอีก ๔ กิโลเมตร สร้างวัดสกทาคามีวนาราม หรือ วัดผาลาด ตั้งอยู่ม่อนเถรจันทร์ หรือห้วยขุนผีบ้า จากผาลาดถัดไปอีกประมาณ ๓ กิโลเมตร เรียกว่า วัดอนาคามี ปัจจุบันมีการบูรณะขึ้นใหม่ เป็นพุทธอุทยานอนาคามี และลำดับสุดท้ายบนยอดดอยสร้างอีกวัดหนึ่งวัด เรียกว่า วัดอรหันต์ หรือวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ในปัจจุบัน
ชาวเชียงใหม่จะพากันเดินข้ามคืนขึ้นดอย ตรงกับวันแปดเป็ง หรือวันวิสาขบูชาของทุกปี โดยใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อไปทำบุญตักบาตร ทำวัตรสวดมนต์ สมาทานศีล หรือฟังธรรมเทศนา ในวันสำคัญดังกล่าว และเส้นทางเส้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๐๔ หลังจากสร้างเสร็จถนนเส้นนี้มีชื่อว่า ถนนดอยสุเทพ ต่อมาเปลี่ยนเป็นถนนศรีวิชัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างแท้จริง
เรียบเรียงโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
แหล่งอ้างอิง :
เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์. ๘๙ ปี จอบแรก ครูบากองทัพธรรมผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพ. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘, จาก: https://thecitizen.plus/node/91485, ๒๕๖๖.
รุ่งวิทย์ สุวรรณอภิชน. ครูบาศรีวิชัย : พระอริยสงฆ์แห่งความสำเร็จ. กรุงเทพฯ: พริ้นติ้งบ้านมงคล, ๒๕๕๘.
สิงฆะ วรรณสัย. สารประวัติครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา. ลำพูน: สภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน, ๒๕๕๓.
ครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และบูรณะพระอุโบสถในปี พ.ศ. ๒๔๖๓ ซึ่งวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม และเมื่อวันศุกร์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ เวลา ๑๐.๐๐ น. (วันศุกร์ขึ้น ๓ ค่ำ เดือนยี่เหนือ ปีจอ) หรือเดือน ๑๒ ภาคกลาง ถือว่าเป็นวันสำคัญที่ทำพิธีบุกเบิกทางเป็นอุดมฤกษ์ ซึ่งชาวล้านนาที่ไม่มีวันลืมเลือน และเป็นความทรงจำที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธา เพราะเป็นวันที่ครูบาเจ้าศรีวิชัย ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งล้านนาไทย และปูชนียบุคคลที่ชาวเชียงใหม่ รวมถึงประชาชนโดยทั่วไป เคารพศรัทธา ได้ทำการริเริ่มลงปักจอบแรกลงบนดินเป็นปฐมฤกษ์ เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ ความยาวรวม ๑๑ กิโลเมตร ๕๓๐ เมตร จนแล้วเสร็จและสามารถเปิดใช้ถนนได้เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘ เป็นระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างเป็นเวลา ๕ เดือนกับ ๒๒ วัน ซึ่งการสร้างถนนเส้นทางใช้แรงงานคนกับอุปกรณ์ที่มี อาทิเช่น จอบ เสียม พลั่ว ชะแลง อีโต้ มีด หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ชาวบ้านนำมาเอง เพื่อใช้การก่อสร้างทางต้องแผ้วถาง ทั้งนี้ต้องขุดหินเจาะหินระเบิดเป็นช่วงๆ ซึ่งเป็นเส้นทางที่เป็นเขาสูงชันสลับซับซ้อนตลอดระยะทางด้วยแรงศรัทธา
บริเวณวัดศรีโสดามีความสำคัญ ซึ่งเป็นจุดลงจอบแรกในการสร้างถนนขึ้นไปสักการะพระบรมธาตุดอยสุเทพ โดยมีเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ ๙ แห่งราชวงศ์ทิพย์จักร เป็นผู้ลงจอบแรก พร้อมคณะขุนนาง ข้าราชการและคหบดี เมื่อวันศุกร์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๗๗ และวัดนี้ยังเป็นจุดรับบริจาคข้าวสาร รวมถึงอาหารสด เช่น เนื้อ ปลา และผักผลไม้ เป็นต้น ถือว่าเป็นจุดนี้เป็นเริ่มต้นเส้นทางบุญด้วยพลังศรัทธาของประชาชนสำหรับใช้ในการสัญจรได้อย่างสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ครูบาเจ้าศรีวิชัยยังสร้างวัดตามรายทาง ๓ วัด โดยตั้งชื่อให้มีความหมายเกี่ยวโยงกับหลักธรรมที่ผู้ปฎิบัติธรรมพึงบรรลุได้ คือ มรรค ผล นิพพาน เทียบกับพระอริยบุคคลหรือบุคคลผู้ประเสริฐ ซึ่งมีอยู่ ๔ ระดับ ได้แก่ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์ ตามลำดับ วัดแรกที่ครุบาศรีวิชัยสร้างคือ วัดโสดาบันพระอารามหลวง หรือวัดศรีโสดาในปัจจุบัน อยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ อยู่ไม่ไกลจากอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ทั้งนี้เพื่อเป็นจุดรับบริจาคในการสร้างวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ซึ่งในปัจจุบันเป็นสำนักศึกษาอบรมพระภิกษุสามเณร และเผยแผ่พระพุทธศาสนาบนดอยให้แก่กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบน ต่อไปอีก ๔ กิโลเมตร สร้างวัดสกทาคามีวนาราม หรือ วัดผาลาด ตั้งอยู่ม่อนเถรจันทร์ หรือห้วยขุนผีบ้า จากผาลาดถัดไปอีกประมาณ ๓ กิโลเมตร เรียกว่า วัดอนาคามี ปัจจุบันมีการบูรณะขึ้นใหม่ เป็นพุทธอุทยานอนาคามี และลำดับสุดท้ายบนยอดดอยสร้างอีกวัดหนึ่งวัด เรียกว่า วัดอรหันต์ หรือวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ในปัจจุบัน
ชาวเชียงใหม่จะพากันเดินข้ามคืนขึ้นดอย ตรงกับวันแปดเป็ง หรือวันวิสาขบูชาของทุกปี โดยใช้เส้นทางดังกล่าว เพื่อไปทำบุญตักบาตร ทำวัตรสวดมนต์ สมาทานศีล หรือฟังธรรมเทศนา ในวันสำคัญดังกล่าว และเส้นทางเส้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๑๐๐๔ หลังจากสร้างเสร็จถนนเส้นนี้มีชื่อว่า ถนนดอยสุเทพ ต่อมาเปลี่ยนเป็นถนนศรีวิชัย เพื่อเป็นเกียรติแก่ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยอย่างแท้จริง
เรียบเรียงโดย : นายธีรบูลย์ มิตรมโนชัย นักวิชาการโสตทัศนศึกษาชำนาญการ หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชียงใหม่ สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม
แหล่งอ้างอิง :
เพ็ญสุภา สุขคตะ ใจอินทร์. ๘๙ ปี จอบแรก ครูบากองทัพธรรมผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างถนนขึ้นสู่ดอยสุเทพ. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘, จาก: https://thecitizen.plus/node/91485, ๒๕๖๖.
รุ่งวิทย์ สุวรรณอภิชน. ครูบาศรีวิชัย : พระอริยสงฆ์แห่งความสำเร็จ. กรุงเทพฯ: พริ้นติ้งบ้านมงคล, ๒๕๕๘.
สิงฆะ วรรณสัย. สารประวัติครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา. ลำพูน: สภาวัฒนธรรมจังหวัดลำพูน, ๒๕๕๓.
เจ้าหน้าที่สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา ลงพื้นที่ดำเนินงานถากถางกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางเมืองโบราณเมืองเสมา ตำบลเสมา อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
.
พนักงานดูแลรักษาโบราณสถาน
.
...ศูนย์กลางการเรียนรู้และการท่องเที่ยว
มรดกศิลปวัฒนธรรมอีสานใต้แบบบูรณาการ...
( #นครราชสีมา #ชัยภูมิ #บุรีรัมย์ #สุรินทร์ #ศรีสะเกษ #มหาสารคาม )
สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา 274 หมู่ 17 ถนนพิมาย-ชุมพวง
ตำบลในเมือง อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา 30110
Tel : 044-471518 , 044-481024
E-Mail : fed_10@finearts.go.th
Website : www.finearts.go.th/fad10
Facebook : สำนักศิลปากรที่ ๑๐ นครราชสีมา กรมศิลปากร
Youtube : สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา