ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,825 รายการ
มหามกุฎราชสันตติวงศ์ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๔๒๘ วันประสูติสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ ๕๓ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ที่ประสูติแต่สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๔๒๘
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ สิ้นพระชนม์ในรัชกาลที่ ๕ เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๔๓๐ สิริพระชันษา ๒ ปี
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงกำหนดงานพระเมรุ ณ ท้องสนามหลวง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้สิ่งก่อสร้างเป็นไม้จริง ด้วยมีพระราชประสงค์ว่าเมื่อเสร็จการแล้วจะพระราชทานแก่โรงพยาบาล เมื่อเสร็จการพระเมรุแล้ว โปรดเกล้าฯ ให้รื้อพระเมรุไปสร้างเรือนคนไข้ได้จำนวน ๔ หลัง ภายในโรงพยาบาล และพระราชทานเครื่องเรือน เครื่องใช้ทั้งปวงให้แก่โรงพยาบาลวังหลัง พร้อมทั้งพระราชทานนามโรงพยาบาลวังหลังใหม่ว่า "โรงพยาบาลศิริราช"
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์ ทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ ที่สืบสายจากพระบรมชนกนาถ
ภาพ : สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าศิริราชกกุธภัณฑ์
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 37/5ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 42 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 53 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 132/4เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 168/4
เอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 21/6ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 46 หน้า : กว้าง 5.2 ซม. ยาว 54.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 56/4ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 82 หน้า : กว้าง 5.3 ซม. ยาว 57.8 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ภาพ ‘หญิงสาว’ และ ‘ชายหนุ่ม’ ของ สมโภชน์ อุปอินทร์
100 ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรีศิลปแห่งนวสมัย
สมโภชน์ อุปอินทร์ (พ.ศ. 2477 – 2557) เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี ที่มีความโดดเด่นในด้านการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมแนวคิวบิสม์ (Cubism Art) สมโภชน์เรียนจบจากสาขาประติมากรรม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่กลับมีความสนใจในงานจิตรกรรมมากกว่า ลาวัณย์ อุปอินทร์ ศิลปินแห่งชาติ ผู้เป็นภรรยาของสมโภชน์เคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า ครอบครัวของสมโภชน์ไม่ได้ร่ำรวย จึงไม่มีเงินพอสำหรับซื้อสีมาเขียนภาพ ทำให้สมโภชน์ต้องเลือกเรียนสาขาประติมากรรมแทน เนื่องจากใช้ทุนทรัพย์น้อยกว่า แต่ก็มิได้ทำให้ความชื่นชอบและความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์งานจิตรกรรมของสมโภชน์ลดลง สมโภชน์และศิลปินหลายคนในยุคนั้นนิยมนำวัสดุที่หาได้ง่ายและมีราคาถูกอย่างแผ่นกระดานอัด (Masonite Board) มาใช้ในการเขียนภาพเช่นเดียวกันกับผืนผ้าใบ พ.ศ. 2502 ขณะยังเป็นนักศึกษา สมโภชน์เขียนภาพ ‘หญิงสาว’ ด้วยสีน้ำมันบนแผ่นกระดานอัด สมโภชน์ใช้เส้นและระนาบของสีที่มีรูปทรงเรขาคณิตตัดกันไปมา สร้างสรรค์เป็นรูปหญิงสาวแนวคิวบิสม์ได้อย่างลงตัว สีและฝีแปรงที่ปรากฏบนภาพเขียนชวนให้นึกถึงผลงานของ ฌอร์ช บราก (Georges Braque) ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่เป็นดั่งบิดาผู้ให้กำเนิดศิลปะแนวคิวบิสม์
ความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของผลงานชิ้นนี้ก็คือ ข้างหลังภาพ ‘หญิงสาว’ มีภาพ ‘ชายหนุ่ม’ (ภาพอยู่ในคอมเมนต์) ซึ่งเป็นผลงานอีกชิ้นหนึ่งที่สมโภชน์เขียนไว้ด้านหลัง ภาพ ‘ชายหนุ่ม’ กำลังทำเครื่องจักสานเขียนด้วยสีน้ำมันในรูปแบบเหมือนจริง ไม่ปรากฏปีที่วาด แต่สันนิษฐานว่าเป็นผลงานที่เขียนขึ้นในขณะที่ยังเป็นนักศึกษา ภาพเขียนชิ้นนี้ก็ได้แสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในการเขียนภาพคนของสมโภชน์ ที่ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจเรื่องกายวิภาคของมนุษย์เป็นอย่างดี
ภาพ ‘หญิงสาว’ ของ สมโภชน์ อุปอินทร์ จัดแสดงอยู่ในนิทรรศการพิเศษ “100 ปี ศิลปสู่สยาม สุนทรียศิลปแห่งนวสมัย” ระหว่างวันที่ 18 มกราคม – 9 เมษายน 2566 ณ อาคารนิทรรศการ 4 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดให้เข้าชมวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 9.00 – 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ – วันอังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สมโภชน์ อุปอินทร์ ได้ที่
https://www.facebook.com/.../a.242467477.../2475606092570732
ชื่อผู้แต่ง สมาคมคหเศรษฐศาสตร์แห่งประเทศไทย
ชื่อเรื่อง วารสารคหเศรษฐศาสตร์ (ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๐๓)
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ ธนบุรี
สำนักพิมพ์ โรงเรียนช่างพิมพ์เพชรรัตน์
ปีที่พิมพ์ ๒๕๐๓
จำนวนหน้า ๗๕ หน้า
รายละเอียด
วารสารวิชาการสำหรับชาวคหกรรมศาสตร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ แนวคิดทางคหกรรมศาสตร์และผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ภายในเล่มประกอบด้วย ๗ บทความ เช่น การทดลองเตาแสงอาทิตย์,วิชาโภชนาการปัจจุบัน, เคล็ดลับที่ทำให้ชีวิตสมรสสดชื่นรื่นรมย์ ฯลฯ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ขอเชิญทุกท่านร่วมรับฟังการบรรยายทางวิชาการ
โครงการเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน ครั้งที่ ๔/๒๕๖๖ เรื่อง "รูปและรอบพระพุทธบาท : เกร็ดความรู้และข้อสังเกตในปัจจุบัน" โดย ดร. นันทนา ชุติวงศ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประติมานวิทยา ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี วันอาทิตย์ที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๖ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมอาคารดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
สอบถามรายละเอียดและสำรองที่นั่ง โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๓๓, ๐ ๒๒๒๔ ๑๔๐๒ (เปิดทำการวันพุธ ถึง วันอาทิตย์ เวลา ๐๘.๓๐ - ๑๖.๐๐ น.)
เลขทะเบียน : นพ.บ.460/1ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 62 หน้า ; 4.5 x 50 ซ.ม. : ทองทึบ-ชาดทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก-ลานดิบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 160 (174-182) ผูก 1 (2566)หัวเรื่อง : กถินเภทวินิจฉัย--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.604/4 ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณ หมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 50 หน้า ; 4 x 55 ซ.ม. : ล่องรัก ; ไม้ประกับธรรมดา มีฉลากไม้ชื่อชุด : มัดที่ 193 (399-407) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : อภิธัมมา--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
คำว่า “ บัว ” หมายถึง พืชที่เกิดในน้ำจืด สามารถจัดประเภทบัวได้ ๒ ประเภท คือ ปทุมชาติ และอุบลชาติ
“ปทุมชาติ” คือ บัวสำหรับกินฝักและเง่า (หัวบัว) เป็นอาหาร ได้แก่ บัวหลวงและบัวสัตตบงกช สีของดอกบัวทั้งสองชนิดนี้มีทั้งสีขาวและสีแดง รูปทรงของดอกบัวทั้งสองก็แตกต่างกัน กล่าวคือ ดอกบัวหลวงรูปทรงของดอกตูมจะมีความกว้าง ๑ ส่วน สูง ๒ ส่วน และประดิษฐ์เป็นลายบัวได้มากชนิด กับเป็นบ่อเกิดของลายกระหนกครึ่งซีก (ที่เรียกว่ากระหนกสามตัว) ส่วนบัวสัตตบงกชนั้นทรงของดอกบัวตูมจะมีลักษณะป้อมเตี้ยกว่าบัวหลวง ใช้ประดิษฐ์เป็นลายบัวกระหนก พุ่มตัวเทศและบัวปากฐาน บัวทั้งสองชนิดนี้มีก้านเป็นหนามเล็ก ๆ พอระคายมือเล็กน้อยเมือเวลาจับต้อง ดอกและใบชูขึ้นเหนือน้ำตลอดตั้งแต่ดอกตูบจนดอกบานและดอกโรยกลายเป็นฝัก (ภายในเป็นเมล็ดบัว) สำหรับฝักบัวนั้นใช้รับประทานได้ทั้งเมล็ดอ่อนและเมล็ดแก่ นอกจากทรงของดอกบัวนำไปประดิษฐ์เป็นลายบัวได้หลายแบบแล้วก็ตาม แม้แต่เกสรของดอกบัวยังนำไปประดิษฐ์เป็นลายได้เช่นกัน
“อุบลชาติ” คือ บัวสำหรับกินสาย (โดยนำเอาก้านของดอกมารับประทาน) ได้แก่ บัวสัตตบุษย์ บ้างก็เรียกชื่อว่า บัวเผื่อน บัวผัน ดอกมีสี ขาว แดง แต่ถ้าเป็นพันธ์ขนาดเล็กมักมีหลายสี เช่น ชมพู ขาบ เหลือง ม่วง เป็นต้น มักเลี้ยงเป็นบัวประดับเพื่อความสวยงาม เพราะก้านของดอกเล็กมาก ดอกและใบมักอยู่เหนือน้ำแค่ปริ่ม ๆ น้ำเท่านั้น ทรงของบัวสัตตบุษย์หรือบัวกินสายนี้มีลักษณะเป็นดอกผอม ๆ ยาว ๆ ใช้ประดิษฐ์เป็นลักษณะของบัวปลายเสาและลายกรวยเชิง
ที่มา: https://datasipmu.finearts.go.th/academic/33