แม่โถ ร่องรอยแหล่งโลหกรรมของเมืองเชียงใหม่
//แม่โถ ร่องรอยแหล่งโลหกรรมของเมืองเชียงใหม่ ใจกลางเทือกเขาสูง//
#บ่อเหล็กแม่โถ #โบราณโลหะวิทยาดินแดนล้านนา
.
โดย: นายยอดดนัย สุขเกษม นักโบราณคดีปฏิบัติการ สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่
.
- ในห้วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ดอยแม่โถ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งท่องเที่ยวบนยอดดอยสูงที่มีทุ่งหญ้าสะวันนา และวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่รู้หรือไม่ว่าดอยแม่โถแห่งนี้ยังซ่อนหลักฐานความรุ่งเรืองทางภูมิปัญญาของอดีต ในฐานะแหล่งผลิตเหล็กโบราณที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของอาณาจักรล้านนาเอาไว้อีกด้วย
.
- การค้นพบดังกล่าว เริ่มต้นราวปี พ.ศ. 2561 เป็นต้นมา เมื่อสำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้เบาะแสจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ จึงได้เข้าไปสำรวจในพื้นที่บ้านแม่โถ จนพบกลุ่มแหล่งโลหกรรมโบราณขนาดใหญ่ ประกอบด้วย 1. แหล่งถลุงเหล็ก 2. ร่องรอยเหมืองแร่ และ 3. ร่องรอยชุมชนผลิตเหล็ก จำนวนรวมไม่ต่ำกว่า 15 แหล่ง กระจายตัวอยู่ตามสันเขา ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 ตารางกิโลเมตร
.
- ในเบื้องต้น ผู้ศึกษาได้นำตัวอย่างถ่านที่ตกค้างในก้อนตะกรันไปศึกษาค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ ด้วยวิธี AMS Dating พบว่า มีอายุกิจกรรมอยู่ในช่วงครึ่งหลังของพุทธศตวรรษที่ 22 ทั้งนี้เมื่อวิเคราะห์ร่วมกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์จะพบว่า ตรงกับช่วงที่กองทัพพม่าเข้ายึดเมืองเชียงใหม่ครั้งที่สอง ในปี พ.ศ. 2157 โดย อนอคเปตลุน กษัตริย์ราชวงศ์ตองอูตอนปลาย หรือที่เอกสารล้านนาจดบันทึกในนาม "พระเจ้าสุทโธธรรมราชา" (แท้จริงนามของ อนอคเปตลุน คือ มหาธรรมราชา)
.
- จากขนาดและจำนวนของแหล่งโบราณคดี ที่สะท้อนถึงกิจกรรมการผลิตเหล็กในปริมาณมหาศาล ประกอบกับค่าอายุทางวิทยาศาสตร์ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางประวัติศาสตร์ สามารถตั้งข้อสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า บริเวณบ้านแม่โถ น่าจะเป็นแหล่งผลิตทรัพยากรเหล็กให้กับเมืองเชียงใหม่มาแล้วแต่เดิม ต่อมาเมื่อพม่าเข้ายึดครองเมืองเชียงใหม่ ในครั้งที่ 2 สมัยกษัตริย์อนอคเปตลุน ซึ่งมีนโยบายสร้างจักรวรรดิพม่าให้ยิ่งใหญ่เช่นเดียวกับบุเรงนอง น่าจะมีความต้องการทรัพยากรเหล็กอย่างมหาศาล ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของกลุ่มชุมชนถลุงเหล็กขนาดใหญ่ กระจายตัวทั่วพื้นที่สันเขาล้อมรอบบ่อเหล็กแม่โถ มีการผลิตเหล็กอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นชั้นตะกรันทับถมหนาหลายเมตร อย่างไรก็ตามบ่อเหล็กแม่โถน่าจะมีการเข้าไปใช้สอยหาทรัพยากรแร่เหล็กต่อมาอีกหลายยุคสมัย จนกระทั้งสิ้นสุดเมื่อราว 100 ปีที่ผ่านมา ตามความทรงจำของกลุ่มคนลัวะบ้านบ่อหลวง
.
- ทั้งนี้ ข้อมูลข้างต้นยังไม่ถือเป็นข้อสรุป จำเป็นต้องมีการขุดค้นทางโบราณคดีต่อไปในอนาคต
.
- ท้ายที่สุดนี้ ในนามของสำนักศิลปากรที่ 7เชียงใหม่ ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่โถทุกท่าน กำนันตำบลบ่อหลวง กำนันตำบลบ่อสลี และองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อสลี ที่กรุณาให้ความอนุเคราะห์และสนับสนุนการศึกษาทางโบราณคดีในครั้งนี้ จนเริ่มเห็นภาพประวัติศาสตร์ที่สำคัญของดินแดนล้านนาชัดเจนมากยิ่งขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้ร่วมกันสร้างสรรค์องค์ความรู้ในโอกาสต่อไป
(จำนวนผู้เข้าชม 1437 ครั้ง)