รายงานการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล
๑. ชื่อโครงการ : โครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประเทศอินเดีย-เนปาล ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘
๒. วัตถุประสงค์ :
๑. เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเป็นการน้อมฯ รับสนองต่อพระราชปณิธานที่ทรงมีพระเมตตาในการสถาปนาจัดตั้งกองทุนเผยแผ่พระธรรมในพระพุทธศาสนาตามพระราชประสงค์
๒. เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของระเบียบกรมการศาสนาว่าด้วยกองทุนส่งเสริมการ เผยแผ่พระพุทธศาสนาเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา พ.ศ. ๒๕๕๑ ข้อ ๖ (๒) เพื่อใช้ดอกผลของเงินทุนในการบริหารจัดการส่งเสริมให้พระสงฆ์และพุทธบริษัทไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล เพื่อประโยชน์ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
๓. เพื่อเปิดโอกาสให้พระภิกษุผู้ประกอบคุณงามความดีได้ไปจาริกแสวงบุญ และเรียนรู้พระพุทธศาสนาจากประสบการณ์จริงในดินแดนพุทธภูมิ สร้างความมั่นใจในศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา เพื่อนำมาถ่ายทอดสู่เด็ก เยาวชน และประชาชน
๔. เพื่อเป็นรางวัลชีวิต และเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับพุทธบริษัทผู้เสียสละอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาและประกอบคุณงามความดีเพื่อแผ่นดิน
๓. กำหนดเวลา : ๑๑-๑๘ มีนาคม ๒๕๕๘
๔. สถานที่ : ประเทศอินเดีย-เนปาล
๕. หน่วยงานผู้จัด : กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
๖. หน่วยงานสนับสนุน : กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
๗. กิจกรรม : ศึกษาดูงาน ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประเทศอินเดีย-เนปาล
๘. คณะผู้แทนไทย : ๑๒๐ คน โดยมีผู้แทนจากกรมศิลปากร ดังนี้
๑. สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ
นางสาลินี ชุ่มวรรณ นักจดหมายเหตุชำนาญการพิเศษ
๒. สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
นางสาวอัจฉรา แข็งสาริกิจ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ
๙. สรุปสาระของกิจกรรม :
คณะผู้เดินทางไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล
๑๐. ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม
ตลอดระยะเวลา ๗ วัน เปรียบเสมือนเป็นการเดินตามรอยพระบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งยังสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความศรัทธาในพระพุทธศาสนาของพระมหากษัตริย์หลายพระองค์ โดยเฉพาะพระเจ้าอโศกมหาราช ที่ทรงสร้างหลายสิ่งอย่างเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในดินแดนชมพูทวีปแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นพระมหาเจดีย์พุทธคยา ซึ่งแต่เดิมพระเจ้าอโศกมหาราชโปรดให้สร้างเป็นวิหารขนาดเล็ก ต่อมากษัตริย์แห่งราชวงศ์กุษาณะโปรดให้ขยายเป็นเจดีย์ซ้อนทับ จนสมัยราชวงศ์ปาละได้บูรณะปฏิสังขรณ์และขยายให้ใหญ่และสูงกว่าเดิม
ขณะที่เดินขึ้นเขาคิชฌกูฏ เมืองราชคฤห์ เพื่อนมัสการพระคันธกุฎีของพระพุทธองค์ หลายคนอาจคิดว่าต้องใหญ่โตหรือหรูหรา แต่แท้จริงแล้วเป็นเพียงพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดพอดีตัว ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก เป็นเพียงสถานที่อันเงียบสงบ เหมาะแก่การเจริญภาวนา ตรงนี้เองที่ชี้ให้เราเห็นว่า ศาสนาพุทธของแต่ละประเทศมีความเชื่อหรือการปฏิบัติที่แตกต่างกัน แต่พระพุทธเจ้ายังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนไว้ด้วยกันโดยไม่มีความแตกแยก
เพียง ๗ วัน กับโครงการส่งเสริมพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนไปประกอบศาสนกิจ ณ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ประเทศอินเดีย-เนปาล ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ แม้จะเป็นเวลาเพียงน้อยนิด แต่ก็เป็นเสมือนก้าวแรกของการหยั่งลึกแห่งศรัทธาที่ผ่านการเรียนรู้และสัมผัสด้วยตาตนเอง ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจจากประสบการณ์จริงที่สามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต และเพิ่มขวัญและกำลังใจที่จะประกอบคุณงามความดีต่อไป
(จำนวนผู้เข้าชม 900 ครั้ง)