รายงานการเดินทางไปราชการ ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
๑. ชื่อโครงการ ศึกษาดูงานการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน
๒. วัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนา การบริหารจัดการและการสร้างสรรค์กิจกรรมการท่องเที่ยว
ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำเมืองโบราณอู่ทอง
๓. กำหนดเวลา วันที่ ๑๗ – ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘
๔. สถานที่
๑) กุ้ยหลิน
๒) หยางซั่ว
๓) เฟิ่งหวง
๔) จางเจี่ยเจี้ย
๕) อุทยานอู่หลิงหยวน
๕. หน่วยงานผู้จัด องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน)
๖. หน่วยงานสนับสนุน -
๗. กิจกรรม
วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๘
กุ้ยหลิน
- ศึกษาดูงานล่องเรือการพัฒนา ๒ แม่น้ำ ๔ ทะเลสาบ ได้แก่ ซาหู หลงหู กุ้ยหู และมู่หลงหู ในสมัยราชวงศ์ซุ้ง ซึ่งเป็นการพัฒนาคูเมืองโดยการขุดลอกคูเมืองทิ้ง เพื่อแก้ปัญหาน้ำเสีย และเป็นแหล่งท่องเที่ยวล่องเรือใจกลางเมืองชมแสง สี สะพานคริสตัล สะพานกำแพงเมืองจีน สะพานโกลเด้นท์ และลอดใต้สะพานสำคัญ มีรูปปั้นนูนต่ำตกแต่งเล่าเรื่องเมืองกุ้ยหลิน ชมเจดีย์เงิน เจดีย์ทอง ชมการแสดงวิถีชีวิตของชนเผ่าจ้วง และเผ่าม้งที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ
วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๘
หยางซั่ว (กุ้ยหลิน)
- ล่องเรือชมทะเลสาบนกนางแอ่น ตามวรรณกรรมท้องถิ่นเรื่องเมืองลับแล และการสาธิตผลิตสินค้า
หัตถกรรม
- ดูงานการท่องเที่ยวของหมู่บ้านชนชาติส่วนน้อยริมน้ำหลายเผ่า
- ดูงานการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำที่เมืองลับแล โดยใช้เรือแบตเตอรรี่รักษาสิ่งแวดล้อม ล่องเรือลอดถ้ำ ชมเกาะดอกท้อ และบ้านเจ้าสาว
- ชมการแสดงนิทรรศการ การแสดงชนเผ่าตุ้ง การแสดงชนเผ่าจ้วง และเผ่าเย้า
- ศึกษาดูงานที่ถ้ำเงิน (Silver Cave) เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม
- ศึกษาดูงานการท่องเที่ยวทางน้ำในรูปแบบของการล่องแพไม้ไผ่ ในแม่น้ำหลีเจียง
- ดูการแสดงริมน้ำ “หลิวซานเจี่ย” ที่ใช้ความเป็นธรรมชาติของแม่น้ำหลีเจียงเป็นฉากและเนื้อเรื่องของการแสดง จะเป็นวิถีชีวิตของชนเผ่าที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ
- ศึกษาดูงานถนนคนเดิน (ถนนฝรั่ง)
วันที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๘
กุ้ยหลิน
- ศึกษาดูงานการพัฒนาทำกระเช้าขึ้นเขาเหยาซาน สู่จุดชมวิว
- ประชุมรับฟังความคิดเห็นการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวจากสำนักงานการท่องเที่ยวกุ้ยหลิน
- ขึ้นรถไฟความเร็วสูงเดินทางสู่เมืองฉางซา
วันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๘
เฟิ่งหวง
- ล่องเรือชมเมืองโบราณเฟิ่งหวง
- ชมกำแพงเมืองโบราณ “เฟิ่งหวางกู่เฉิง”
- ชมสะพานไม้โบราณหงเฉียว ที่มีหลังคาคลุมเหมือนสะพานข้ามคลองเวนิส
- ชมบ้านยกพื้นสูงเรียงรายกันบนริมน้ำ
- นั่งเรือแจวล่องตามลำน้ำถัวเจียง สัมผัสชีวิตบ้านเรือนริมน้ำ
- ประชุมรับฟังความคิดเห็นการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเมืองเฟิ่งหวง กับบริษัทเอกชน
วันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๘
จางเจี่ยเจี้ย
- ประชุมการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาเทียนเหมินซาน ร่วมกับสำนักงานท่องเที่ยวเมืองจางเจี่ยเจี้ย
และบริษัทเอกชน
- ศึกษาดูงานเขาเทียนเหมินซาน สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๕๑๘.๖ เมตร หรือประตูสวรรค์ เป็น ๑ ใน ๔
ของภูเขาที่สวยงามที่สุดของประเทศจีน
- นั่งกระเช้าขึ้นเขาเทียนเหมืนซาน ที่มีความยาว ๗.๕ เมตร
- ดูงานจัดการแหล่งท่องเที่ยว ที่ได้สร้างพื้นทางเดินชมวิวเป็นพื้นกระจกยาวประมาณ ๖๐ เมตร สูงกว่า
ระดับน้ำทะเล ๑.๔ กิโลเมตร
- ศึกษาดูงานถ้ำเทียนเหมิน (ประตูสวรรค์) ผ่านถนนคดเคี้ยวไปมา ๙๙ โค้ง
- ชมการแสดงที่มีชื่อว่า “ชายตัดฟืนกับนางพญาจิ้งจอกขาว”
วันที่ ๒๒ มิถุนายน ๒๕๕๘
อุทยานอู่หลิงหยวน
- ศึกษาดูงานในลิฟก์แก้วไป่หลง ที่มีความสูงถึง ๓๒๖ เมตร การก่อสร้างบางส่วนได้เจาะภูเขาเพื่อเป็น
ช่องลิฟท์
- ศึกษาดูงานในเขตอุทยานแห่งชาติอู่หลิงหยวน จางเจี่ยเจี้ย ซึ่งเป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง AVATA นั่งกระเช้าขึ้นสู่ยอดเขา บริเวณเขตวิวเทียนเซี่ยตี้อี่เฉี่ยว (สะพานหนึ่งในใต้หล้า) สะพานหินลอยฟ้า เกิดเองตามธรรมชาติ เหมือนสะพานเชื่อมต่อระหว่างสองภูเขา
- ศึกษาดูงานภาพเขียนสิบลี้ ซึ่งเป็นทัศนียภาพของการขึ้นตามธรรมชาติของภูเขา โดยมีทางเดินและ รถไฟเล็กสำหรับชมภาพ
วันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๕๘
- ชมพิพิธภัณฑ์ภาพวาดทราย จัดแสดงผลงานของศิลปินหลิวจิงเฉิง ตั้งแต่ปี ๑๙๙๙ เป็นต้นมา
(สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จทอดพระเนตรด้วย)
- เดินทางเข้าสู่นครฉางซา เพื่อเดินทางกับกรุงเทพฯ
๘. คณะผู้แทนไทย
๑) รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี (นายพิภพ บุญธรรม) เป็นหัวหน้าคณะ
๒) ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี
๓) ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุพรรณบุรี
๔) นายอำเภออู่ทอง
๕) ที่ดินอำเภออู่ทอง
๖) หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์จังหวัดสุพรรณบุรี
๗) ตัวแทน อพท. อู่ทอง
๘) ตัวแทน บริษัท เอ เซเว่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด
๙. สรุปสาระของกิจกรรม
- ศึกษาดูงานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และทางธรรมชาติของประเทศจีน
- เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดการแหล่งท่องเที่ยวทั้งหน่วยงานของรัฐ และเอกชน
- การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวของประเทศจีน จะให้เอกชนเข้ามาบริหารจัดการ โดยการควบคุม กำกับ มาตรฐานโดยรัฐ นำส่งรายได้เป็นเปอร์เซ็นให้รัฐ
การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวมี ๒ แนวทาง
๑) รัฐลงทุนทั้งหมดหรือบางส่วน แล้วให้เอกชนสัมปทานให้รัฐ
๒) ให้เอกชนผู้ได้สัมปทานลงทุน และแบ่งรายได้จากค่าตั๋ว
๑๐. ข้อเสนอแนะจากการจัดกิจกรรม
การศึกษาดูงาน ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งนี้ ทำให้ทราบถึงแนวทางการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ซึ่งมีข้อดี และข้อจำกัด ดังนี้
๑. ข้อดี : รัฐไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับบุคลากรและการจัดการ ด้านการบำรุงรักษาและ
การบริหาร
๒. ข้อกำจัด : การจัดการแหล่งมรดกวัฒนธรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ยังไม่คำนึงถึงการอนุรักษ์ มุ่งพัฒนาท่องเที่ยวอย่างเดียว
..............................................................ผู้สรุปผลการเดินทางไปราชการ
(นายวิเศษ เพชรประดับ)
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๒ สุพรรณบุรี
(จำนวนผู้เข้าชม 1063 ครั้ง)