พิพิธภัณฑ์ (Museum) เป็นสถาบันสำคัญเพื่อการเรียนรู้ตามอัธยาศัย ทำหน้าที่รวบรวม สงวนรักษา ศึกษาวิจัย และจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เช่น โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ ตัวอย่าง
พันธุ์พืชและสัตว์ เป็นต้น ซึ่งเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรมที่มีความสำคัญต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมของมนุษย์ เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้และสืบสานมรดกทางปัญญาของชาติ ประวัติศาสตร์
การพิพิธภัณฑ์ของโลกบันทึกไว้ว่าในหลายประเทศพิพิธภัณฑ์ได้ถือกำเนิดจากความสนใจในการเก็บรวบรวมวัตถุต่างๆ ของผู้นำประเทศหรือชนชั้นปกครอง พิพิธภัณฑ์ในระยะแรกจึงมีที่ตั้งอยู่ในพระราชวังหรือคฤหาสน์ในเมืองสำคัญ
สำหรับประเทศไทยนั้น การกำเนิดพิพิธภัณฑ์มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 และพัฒนาต่อเนื่องอย่างเป็นระบบในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยแรกเริ่มพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงรวบรวมสิ่งของโบราณที่ได้จากการเสด็จประพาสหัวเมืองและเครื่องราชบรรณาการจากต่างประเทศมาจัดแสดงไว้สำหรับพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ทอดพระเนตร ณ พระที่นั่งราชฤดี ในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาเครื่องราชบรรณาการจากต่างประเทศได้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำมาจัดแสดงไว้ที่พระที่นั่งอนันตสมาคม ซึ่งใช้เป็นท้องพระโรง
รับราชทูตและทูตต่างประเทศ และให้นำสิ่งของจากพระที่นั่งราชฤดีมาจัดแสดงที่พระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน แม้จะเป็นเพียงพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ แต่ก็นับได้ว่าเป็น
จุดเริ่มต้นของการจัดแสดงที่เปิดให้บุคคลอื่นเข้าชม นอกจากนี้ยังทรงเจริญพระราชไมตรีกับนานาประเทศ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดส่งสิ่งของที่เป็นผลผลิตแห่งฝีมือคนไทยไปร่วมจัดแสดงสินค้าโลกและนิทรรศการในต่างประเทศหลายครั้ง เช่น การแสดงพิพิธภัณฑ์นานาชาติที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2404 การแสดงพิพิธภัณฑ์นานาชาติที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2409 เป็นต้น การส่งสิ่งของไปจัดแสดงในต่างประเทศไม่เพียงแต่เป็นการเผยแพร่ชื่อเสียงของประเทศไทยเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับชาติตะวันตกของคนไทยให้กว้างขึ้นด้วย
ครั้งถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “หอมิวเซียม”ณ หอคองคอเดีย (ปัจจุบันคือศาลาสหทัยสมาคม) ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่สำหรับสโมสรทหารมหาดเล็กในพระองค์ โดยได้นำศิลปโบราณวัตถุต่างๆ จากพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ในพระบรมมหาราชวังมาจัดแสดง และมีพิธีเปิดหอมิวเซียม เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2417 ซึ่งต่อมารัฐบาลได้ประกาศให้วันที่ 19 กันยายนของทุกปี เป็น “วันพิพิธภัณฑ์ไทย” จึงนับได้ว่าหอมิวเซียมที่ตั้งอยู่ ณ หอคองคอเดียนี้เป็นพิพิธภัณฑ์หลวงสำหรับประชาชนแห่งแรกของไทย ซึ่งในด้านการบริหารจัดการ ขณะนั้นได้มีระบบการจัดเก็บและจัดแสดงที่มีกระบวนการที่เป็นระเบียบมากขึ้น มีการจัดทำบัญชีศิลปโบราณวัตถุ และการจัดแบ่งเนื้อหาของศิลปวัตถุในการจัดแสดงเพื่อให้เกิดความเข้าใจในหมู่ผู้ชมมากยิ่งขึ้น
ต่อมาใน พ.ศ. 2430 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายหอมิวเซียมจากหอคองคอเดียไปไว้ในพระที่นั่งตอนหน้าของพระราชวังบวรสถานมงคล เรียกกันว่า “พิพิธภัณฑ์วังหน้า” หรือ “มิวเซียมหลวงที่วังหน้า” และต่อมาได้พัฒนาเป็น “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร” ในปัจจุบัน
กิจการพิพิธภัณฑ์ไทยได้มีพัฒนาการและมีความเจริญก้าวหน้ามาตามลำดับ โดยพระมหากษัตริย์ไทยทรงมีพระมหากรุณาธิคุณและเป็นองค์อุปถัมภ์ในทุกรัชกาล ปัจจุบันพิพิธภัณฑสถาน
แห่งชาติอยู่ในการกำกับดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งมีภารกิจโดยตรงในการอนุรักษ์ พัฒนา สืบสาน สร้างสรรค์ และเผยแพร่งานด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ
การก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยถือเป็นพัฒนาการสำคัญทางด้านการอนุรักษ์และการจัดการองค์ความรู้ด้านมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ อย่างไรก็ตามการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งแรกของไทยมิได้มีเพียงบทบาทด้านการอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติเท่านั้น หากยังสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวของสยามเพื่อความมั่นคงของพระราชอาณาจักรในสภาวการณ์
ขณะนั้นที่บรรยากาศการล่าอาณานิคมแผ่ปกคลุมทั่วทั้งภูมิภาค โดยการใช้พิพิธภัณฑ์เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความมีอารยธรรมของชาติที่มีการสั่งสมองค์ความรู้ต่างๆ รวมไปถึงการเปิดกว้างสู่สากล ตลอดจนเป็นต้นแบบการจัดการแหล่งเรียนรู้เพื่อสาธารณชนในเวลาต่อมา
แหล่งข้อมูลอ้างอิงและภาพประกอบ
ปรีดี ปลื้มสำราญกิจ. พิพิธภัณฑ์: แหล่งเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2568, จาก https://so06.tci-
thaijo.org/index.php/tla_bulletin/article/view/132631
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ประวัติศาสตร์ที่เหลืออยู่ของวังหน้า. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2568, จาก https://thestandard.co/national-museum-history-of-wangna-
palace/
“รถไฟจำลอง” ความรู้ใหม่ของสยาม เครื่องราชบรรณาการจากควีนวิกตอเรียแห่งอังกฤษ. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 12 กันยายน 2568, จาก https://www.silpa-mag.com/old-photos-tell-
the-historical-story/article_36917
ส่งศรี ประพัฒน์ทอง. พระมหากษัตริย์ไทยกับการพิพิธภัณฑ์. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร, 2541.
สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. อาไคฟ ขอให้เก็บให้จงดี. กรุงเทพฯ: สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ, 2567.
เอนก นาวิกมูล. แรกมีในสยาม ภาค 1. กรุงเทพฯ: แสงดาว, 2559.
เรียบเรียงโดย นางสาวปริศนา ตุ้มชัยพร บรรณารักษ์ชำนาญการ
หอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษก จันทบุรี
สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี กรมศิลปากร
(จำนวนผู้เข้าชม 23 ครั้ง)