ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,652 รายการ
น่าน : จากหนังสือนำทางทั่วพระราชอาณาจักรสยาม (สมุดคู่มือสำหรับตัวผู้เดินทาง) พ.ศ. ๒๔๖๙.มณฑลพายัพ เป็นมณฑลที่อยู่เหนือที่สุดของประเทศสยาม แบ่งออกเป็น ๗ จังหวัด จังหวัดน่าน ภูมิประเทศ จังหวัดนี้อยู่ถัดจังหวัดแพร่ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือทางตอนต้นของแม่น้ำน่าน ณาเขตรทิศเหนือและตะวันออกจดเขตรแดนเมืองหลวงพระบางในการปกครองของฝรั่งเศสซึ่งแต่เดิมเป็นของไทย มีเนื้อที่ประมาณ ๑๔,๐๐๐ ตารางกิโลเมตร หรือ ๙,๐๐๐,๐๐๐ ไร่ มีพลเมืองประมาณ ๑๖๐,๐๐๐ คน แบ่งออกเป็น ๖ อำเภอ คือ ๑. อำเภอเมืองน่าน ๒. อำเภอบุญยืน ๓. อำเภอบ้านม่วง ๔. อำเภอนาน้อย ๕. อำเภอปัว ๖. อำเภอและ ศาลากลางของจังหวัดอยู่ในอำเภอเมืองน่าน ทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำน่าน ห่างจากแพร่ประมาณ ๑๑๐ กิโลเมตร มีพลเมืองเปนชาวเขาปนอยู่ด้วย เช่น ขมุ ฮ่อ เย้า แม้ว ลื้อ ประมาณ ๖๐๐๐ คน พื้นที่มีที่ราบน้อย เปนป่าและภูเขาโดยมาก แร่เหล็กมีที่ตำบลบ้านอวม ในอำเภอปัว แร่เกลือมีที่ตำบลบ่อเกลือในอำเภอปัว แร่ตะกั่วดำ มีที่ตำบลห้วยเกวียนในอำเภอนาน้อย แร่ทองแดงมีในอำเภอบุญยืน สินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ ข้าวเปลือก ไม้สัก ไม้กระยาเลย ยาสูบ และเขา หนัง เหล่านี้เปนพื้น ราษฎรพลเมืองหาเลี้ยงชีพด้วยการทำนาทำไร่ ตัดไม้แลหาของป่าขายเหล่านี้เปนต้น. ทางคมนาคม ทางคมนาคมไปมาของจังหวัดนี้ มีถนนจากแพร่ไปน่าน ทางสายนี้ตั้งแต่อำเภอเมืองแพร่ไปถึงอำเภอร้องกวาง รถและเกวียนเดินได้สดวก ตอนแต่อำเภอร้องกวางไปถึงจังหวัดน่าน เปนทางเดินลำบาก บางตอนต้องขึ้นเขาลงห้วย รวมระยะทางประมาณ ๑๑๐ กิโลเมตร เดินทางจากน่านถึงแพร่เดินตามปรกติทางประมาณ ๕ วัน ยานพาหนะ การไปมาด้วยยานพาหนะของจังหวัดนี้ ถ้าจะไปจากกรุงเทพฯ ต้องไปขึ้นรถไฟสายเหนือที่สถานีหัวลำโพงแล้วไปลงที่สถานีเด่นชัยจังหวัดแพร่ก่อน แล้วจึงเดินทางจากแพร่ไปน่าน มีถนนทางเดินจะเดินไป ม้าหรือไปโดยรถยนต์หรือเกวียน ก็แล้วแต่ความสดวกของถนนหนทางเปนดอนๆ ไปจนกว่าจะถึงจังหวัดน่าน ระยะทางก็แล้วแต้จะเดินไป หรือไปม้าหรือจะโดยรถยนต์อย่างใด ประมาณทางเดินอย่างกลาง เช่น เดินอย่างสบายไม่รีบร้อนวัน ๑ เดิน ทางได้อยู่ในราว ๒๔ กิโลเมตร หรือ ๖๐๐ เส้น แต่จังหวัดแพร่ถึงจังหวัดน่าน ทางประมาณ ๕ วันถึง ส่วนอัตราค่าโดยสารรถไฟแต่กรุงเทพฯ ถึงสถานีเด่นชัยจังหวัดแพร่นั้น ชั้นที่ ๑ ๒๘ บาท ๗๐ ส,ต, ชั้นที่ ๒ ๑๗ บาท ๓๐ ส,ต, ชั้นที่ ๓ ๑๑ บาท ๕๐ ส,ต, ส่วนค่าจ้างม้าต่างหรือโคต่างวันละ ๑ บาท ๕๐ ส,ต, ค่าจ้างคนหาบหามวันละ ๘๕ ส,๖, แม้จะยิ่งหรือหย่อนกว่านี้บ้างก็เล็กน้อย.เอกสารอ้างอิงนฤราชภักดี, หลวง. หนังสือนำทางทั่วพระราชอาณาจักรสยาม เป็นสมุดคู่มือสำหรับผู้เดินทาง. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์บรรณวัฒนาคาร. ๒๔๖๙. เข้าถึงได้โดยhttps://studiescenter.kingprajadhipokmuseum.com/book.../4280
ประติมากรรมรูปช้างมีบุคคลขี่อยู่บนหลัง
พุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑
ได้มาจากจังหวัดสวรรคโลก กระทรวงมหาดไทยส่งมาให้
ปัจจุบันจัดแสดง ณ ห้องสุโขทัย อาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ประติมากรรมดินเผาเคลือบสีเขียวมีรอยแตกราน รูปช้างชูงวงที่รัดดอกบัวขึ้น ขาหลังย่อตัวลง บนหลังช้างมีพานเชิงสี่เหลี่ยม และบุคคลนั่งอยู่คล้ายกับเป็นควาญท้าย ตัวช้างยืนอยู่บนแผ่นภาชนะดินเผาเนื้อแกร่งไม่เคลือบ
ประติมากรรมชิ้นนี้เป็นตัวอย่างงานที่ผลิตขึ้นจากแหล่งเตาศรีสัชนาลัย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเครื่องสังคโลกที่สำคัญในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๒ มีแหล่งเตาสำคัญสองแห่งคือ แหล่งเตาป่ายางและแหล่งเตาบ้านเกาะน้อย ผลิตภัณฑ์จากแหล่งเตาเหล่านี้พบทั้งประเภทภาชนะ อาทิ ชาม จาน กระปุก ไห ตลับ ฯลฯ ประเภทเครื่องประดับสถาปัตยกรรม อาทิ หน้าจั่ว บราลี กระเบื้องเชิงชาย ฯลฯ และประเภทประติมากรรม อาทิ รูปบุคคล หมากรุก และรูปสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะประติมากรรมรูปช้างนั้นพบทั้งสองแหล่งเตา ทั้งแบบเทคนิคเคลือบสีเขียว เทคนิคเคลือบสีน้ำตาล และเทคนิคเคลือบสองสี
สำหรับคำว่า “สังโลก” นั้นมีข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อเรียกต่างกันออกไป โดยแนวคิดแรก สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงสันนิษฐานว่า มาจากคำว่า “ซ้องโกลก” ซึ่งแปลว่าเตาแผ่นดินซ้อง* ขณะที่แนวคิดที่สองคือ ชารล์ เนลสัน สปิงส์ (Charles Nelson Spinks) เชื่อว่ามาจากคำว่า “สวรรคโลก”**
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงสนพระราชหฤทัยเครื่องสังคโลกจากเมืองสุโขทัยอย่างมาก ด้วยมีพระประสงค์จะนำมาจัดแสดงในมิวเซียมหลวง*** ดังข้อความในพระราชหัตถ์เลขา เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๒๘ ความตอนหนึ่งกล่าวว่า
“...ด้วยถ้วยชามสังคโลกต่าง ๆ ฃ้างเมืองเหนือเหนจะยังมีมาก หยากจะได้มาเกบไนมิวเซียม เปนที่คนต่างประเทศมาดูมาก ๆ ฃอให้ทรงมีตราไปให้เจ้าเมืองกรรมการสืบหา แต่กลัวจะไปกดขี่เอาแก่ราษฎร ฤๅหลอกลวงเอาถ้วยชามอื่น ๆ ที่เคยเปนมาแล้ว ฤๅจะให้ใครฃึ้นไปคิดอ่านจัดซื้อเสียต่างหากก็ตาม สุดแต่อย่าให้เปนต้องพระราชประสงค์แล้วฃ่มเหงเอา ถึงที่เจ้าเมืองกรมการจะหามาก็ให้เปนจัดซื้อทั้งสิ้น ฃอให้ทรงจัดให้ดีด้วย ถึงเปนของแตกเปนซีกแต่ใหญ่โต ฤๅที่เปนฃองเสียในเวลาเผา คือติดกันเลอะไปบ้าง เบี้ยวแฟบไปบ้างอย่างหนึ่งอย่างใดใช้ได้ทั้งนั้น...”
เดือนถัดมาทางกระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งไปยังพระยาวิชิตภักดีผู้ว่าราชการเมืองสวรรคโลกให้ดำเนินการค้นหาเครื่องสังคโลก และจัดซื้อเครื่องสังโลกที่ประชาชนเก็บรักษาไว้ส่งไปยังมิวเซียมที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ และในเดือนกันยายนพระยาวิชิตภักดีได้ทูลเกล้า ถวายรายงานว่าได้จัดหาเครื่องสังคโลกแล้ว ดังข้อความว่า
“...แต่งให้กรมการคุมมาส่ง ฉะบับ ๑ ว่าได้รับตราพระราชสีห์ว่าต้องพระราชประสงค์ชามถ้วยโถสังคโลกนั้นได้จัดหาซื้อได้ ชาม ๕ จาน ๓ ขวด ๔ ถ้วย ๑ ให้กรมการคุมลงมาทูลเกล้า ฯ ถวายครั้งหนึ่งก่อน...”
*คำว่า “ซ้อง” ในที่นี้หมายถึง ราชวงศ์ซ้อง หรือ ซ่ง ซึ่งปกครองแผ่นดินจีนระหว่าง พ.ศ. ๑๕๐๓-๑๘๒๒
** สวรรคโลก เป็นชื่อที่ปรากฏในเอกสารสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยาเป็นต้นมาตัวอย่างเช่น “พระไอยการตำแหน่งนาทหารหัวเมือง” มีข้อความตอนหนึ่งกล่าวถึงเจ้าเมืองสวรรคโลก (เมืองศรีสัชนาลัย) ว่า “...ออกญากระเสตรสงครามรามราชแสนญาธิบดีศรีสัชนาไลยอภัยพิริยบรากรมภาหุ พญาสวรรคโลก...”
***ขณะนั้น มิวเซียมหลวงอยู่ที่ หอคองคอเดีย ในพระบรมมหาราชวัง
อ้างอิง
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบาทสมเด็จพระ. จดหมายเหตุพระราชกรณียกิจรายวันภาค ๑๙. พิมพ์ครั้งที่ ๒.ธนบุรี: สุทธิสารการพิมพ์, ๒๕๑๓ (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานพลิงศพ นายถม สังข์กังวาน ณ เมรุวัดหัวลำโพง พระนคร วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๓).
ธันยกานต์ วงษ์อ่อน และปริวรรต ธรรมาปรีชากร. เครื่องปั้นดินเผาสุโขทัยและศรีสัชนาลัย. กรุงเทพฯ: S.P.M. การพิมพ์, ๒๕๕๘.
วินัย พงศรีเพียร. “ศรีสัชนาลัย เชลียง และสวรรคโลก ในหลักฐานประวัติศาสตร์ไทย” ใน ข้อมูลใหม่และทัศนะใหม่ด้านสุโขทัยศึกษา (สุมาลี บำรุงสุข บรรณาธิการ). นนทบุรี : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, ๒๕๓๙.
สุรพล ดำริห์กุล. ประวัติศาสตร์และศิลปะสุโขทัย. นนทบุรี: เมืองโบราณ, ๒๕๖๒.
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ รล.-ตราน้อย เล่ม ๗/๑๑๔. เอกสารเย็บเล่ม ตราน้อย รัชกาลที่ ๕ เรื่อง ที่ ๑๑๔ เมืองสวรรคโลกย์ให้จัดซื้อชาม โถ ถ้วย ไห สังคโลกต่าง ๆ แต่งกรมการคุมลงมาส่ง ณ กรุงเทพฯ.
หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ร.๕ บ.1.2/๑๒. เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ด เรื่องพระราชกระแสโปรดฯ ให้รวบรวมถ้วยชามสังคโลกจากหัวเมืองเหนือมาจัดเป็นมิวเซียม.
ชื่อเรื่อง สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฏฺฐาน) อย.บ. 47/5ประเภทวัดุ/มีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 46 หน้า : กว้าง 5 ซม. ยาว 56 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนาบทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน เส้นจาร ฉบับทองทึบ ไม้ประกับธรรมดา ได้รับบริจาคมาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา
ชื่อผู้แต่ง เถกิงศักดิ์ พัฒโน
ชื่อเรื่อง ย้อนอดีตนครหาดใหญ่ ชุด ๓ ยุคปรากฎชื่อหาดใหญ่ในประวัติศาสตร์ตอน ๑ เกิดสมรภูมิทุ่ง (ท่า)หาดใหญ่
ครั้งที่พิมพ์ -
สถานที่พิมพ์ สงขลา
สำนักพิมพ์ บริษัท สมิหลาไทมส์ จำกัด
ปีที่พิมพ์ 2554
จำนวนหน้า 128 หน้า
รายละเอียด
ย้อนอดีตนครหาดใหญ่ชุด ๓ ยุคปรากฎชื่อหาดใหญ่ในประวัติศาสตร์ ตอน ๑ เกิดสมรภูมิทุ่ง
(ท่า)หาดใหญ่ การศีกษาประวัติศาสตร์หาดใหญ่ จากพงศาสดารเมืองสงขลา ฉบับของเจ้าพระยาวิเชียรคีรี (บุญสังข์) และฉบับของพระยาวิเชียรคีรี (ชม) รวมทั้งจดหมายเหตุ หลวงอุดมสมบัติ รวมทั้งเอกสารทางวิชาการของชาวมาเลย์ จากการเข้าสืบค้นยังรัฐเดดาร์ ปีนัง ละเปอร์ลิสประเทศมาเลเซีย
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 151/4เอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)
อภิธมฺมตฺถสงฺคห (อภิธมฺมสงฺคห) ชบ.บ 179/1ฌเอกสารโบราณ(คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อผู้แต่ง ยอช เซเดส์ และสุภัทรดิศ ดิศกุล
ชื่อเรื่อง ตำนานพระพิมพ์และพุทธศิลปในประเทศไทย
ครั้งที่พิมพ์ พิมพ์ครั้งที่ ๒๘
สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯ
สำนักพิมพ์ โรงพิมพ์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
ปีที่พิมพ์ ๒๕๒๒
จำนวนหน้า ๑๒๓ หน้า
หมายเหตุ พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานทอดผ้าพระกฐินพระราชทาน ณ วัดอินทาราม(ใต้) ตลาดพลู เขตธนบุรี วันที่ ๒๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๒๒
หนังสือตำนานพระพิมพ์และพุทธศิลปะในประเทศไทย เล่มนี้ รวบรวมพระพิมพ์ต่างๆมาหลายปีทั้งเก่าและใหม่ ทำด้วยโลหะบ้าง ดินเผาบ้าง ดินดิบบ้าง ส่วนเรื่องพุทธศิลปะในประเทศไทย กล่าวถึงการแบ่งลักษณะพระพุทธรูปในประเทศไทย ออกเป็น ๙ แบบด้วยกัน คือแบบพระพุทธอินเดียรุ่นเก่า แบบทราวดี แบบศรีวิชัย แบบลพบุรี แบบเชียงแสน แบบสุโขทัย แบบอู่ทอง แบบศรีอยุธยา และแบบรัตนโกสินทร์
บทความจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่านในจุลสารแป้นเกล็ดจุลสารเรื่องราวอาคารเก่า สาระความรู้ ศิลปกรรม สถาปัตยกรรมคณะกรรมการกองทุนเพื่อการอนุรักษ์อาคารเก่าเมืองน่านฉบับที่ ๑๘ มิถุนายน - พฤศจิกายน ๒๕๖๔เรื่อง "หอคำนครน่าน : จากที่ประทับเจ้าผู้ครองนคร สู่ศาลากลางจังหวัด และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน"อ่านเนื้อหาและบทความอื่นๆ ได้ที่ https://www.facebook.com/.../pfbid02FRn1H5BeaQx467JYS6qtJ...
เลขทะเบียน : นพ.บ.409/4ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 48 หน้า ; 4 x 52 ซ.ม. : ชาดทึบ-รักทึบ-ล่องชาด-ล่องรัก ; ไม่มีไม้ประกับชื่อชุด : มัดที่ 146 (58-70) ผูก 4 (2566)หัวเรื่อง : ทสชาติ--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
เลขทะเบียน : นพ.บ.539/2ห้องจัดเก็บ : ศรีโคตรบูรณ์ประเภทสื่อ : เอกสารโบราณหมวดหมู่ : พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ : 42 หน้า ; 4 x 48 ซ.ม. : ล่องรัก-รักทึบ ; ไม้ประกับธรรมดาชื่อชุด : มัดที่ 180 (292-302) ผูก 2 (2566)หัวเรื่อง : ปฐมมูล--เอกสารโบราณ คัมภีร์ใบลาน พุทธศาสนาอักษร : ธรรมอีสานภาษา : ธรรมอีสานบทคัดย่อ : มีเนื้อหาเกี่ยวกับพุทธศาสนา สามารถสืบค้นได้ที่ห้องศรีโคตรบูรณ์ หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ นครพนม
ชื่อเรื่อง : ตำนานเครื่องมโหรีปี่พาทย์ พระนิพนธ์ สมเด็จกรมพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พิมพ์เป็นอนุสรรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นายครื้นอาคม สิงหรัตน์ ณ เมรุวัดกลางวรวิหาร 16 เมษายน พุทธศักราช 2515ชื่อผู้แต่ง : ดำรงราชานุภาพ, กรมพระยา ปีที่พิมพ์ : 2515 สถานที่พิมพ์ : พระนคร สำนักพิมพ์ : โรงพิมพ์มิตรไทย จำนวนหน้า : 86 หน้า สาระสังเขป : ตำนานเครื่องมโหรีปี่พาทย์นี้ สมเด็จกรมพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้ทรงนิพนธ์ขึ้น โดยมีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับต้นตำราเครื่องสังคีต เรื่องตำนานเครื่องมโหรี เรื่องตำนานมโหรีเครื่องสาย เรื่องตำนานเครื่องปี่พาทย์ เรื่องตำนานกลองแขก เรื่องตำนานปี่ซอและแคน เครื่องมโหรีปี่พาทย์ของไทย