องค์ความรู้เรื่องพระบรมธาตุเจดีย์วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
พระบรมธาตุไชยาเป็นเจดีย์ทรงปราสาทยอดแบบที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่าศิลปะศรีวิชัย เรือนธาตุมีผังเป็นรูปกากบาท มีมุขทั้ง ๔ ด้าน ลักษณะเป็นมุขตัน ยื่นออกมาจากกลางผนังเรือนธาตุ ยกเว้นด้านทิศตะวันออกมีบันไดทางขึ้นเข้าสู่ห้องโถงกลาง มุขทั้งสี่ด้านที่ยื่นออกมาจากผนังเรือนธาตุนี้ทำให้ดูคล้ายย่อมุมไม้สิบสอง แต่โดยข้อเท็จจริงแล้วมิได้เป็นการย่อมุมไม้แต่เป็นการเพิ่มมุข มุขที่เพิ่มขึ้นมาคือมุมของจัตุรมุขนั่นเอง
ความสูงของพระบรมธาตุจากฐานถึงยอดประมาณ ๒๔ เมตร ประกอบด้วยฐานบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยมจัตุรัสตกแต่งด้วยเสาติดผนังลดเหลี่ยม ๑ ชั้น วางอยู่บนบานเขียงซ้อนกัน ๒ ชั้น ขนาดฐานวัดจากทิศตะวันออกถึงทิศตะวันตกยาวประมาณ ๑๓ เมตร ( ของเดิมยาว ๑๐ เมตร สร้างพอกขึ้นใหม่ทางด้านหน้าอีก ๓ เมตร ) จากทิศเหนือถึงทิศใต้ยาวประมาณ ๑๐ เมตร ส่วนฐานอยู่ต่ำกว่าผิวดินปัจจุบัน เนื่องจากพบว่าเดิมมีดินทับถมอยู่ ทางวัดจึงได้ขุดบริเวณโดยรอบฐานเป็นสระกว้างประมาณ ๒.๓๐-๒.๕๐ เมตร ลึกประมาณ ๑ เมตร เพื่อให้เห็นฐานเดิม ปัจจุบันมีน้ำขังอยู่รอบฐานตลอดปี ด้านหน้าฐานบัวลูกแก้วด้านทิศตะวันออกมีซุ้มพระพุทธรูปอยู่ข้างบันไดจำนวน ๒ ซุ้ม เป็นของที่สร้างต่อเติมสมัยหลัง สามารถเห็นร่องรอยฐานเก่าที่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพราะมีฐานบัวเดิมโผล่ออกมาให้เห็นชัดเจน
ฐานบนของบัวลูกแก้วสี่เหลี่ยม มีลักษณะเป็นฐานทักษิณ ที่มุมทั้งสี่ประดับด้วยสถูปจำลอง ตรงกลางฐานเป็นฐานบัวลูกแก้วอีกชั้นหนึ่งรองรับเรือนธาตุเจดีย์ทรงจตุรมุข ที่มุมเรือนธาตุทำเป็นรูปเสาหลอกติดผนังตรงกลางเสาเซาะตลอดโคนถึงปลายเสา มุขด้านทิศตะวันออกมีบันไดทางขึ้นสามารถเดินขึ้นไปนมัสการพระพุทธรูปภายในองค์เจดีย์ได้ ห้องภายในมีขนาดประมาณ ๒X ๒ เมตร ผนังเรือนธาตุก่ออิฐไม่สอปูนลดหลั่นกันขึ้นไปถึงยอด ( ปัจจุบันฉาบปูนปิดทับหมดแล้ว) มุขอีกสามด้านทึบ ที่มุขของมุขแต่ละด้านทำเป็นเสาติดผนังอาคาร เหนือมุขเป็นซุ้มหน้าบันประดับลายปูนปั้นรูปวงโค้งคล้ายเกือกม้า หรือเรียกว่า “กุฑุ” เหนือเรือนธาตุมีลักษณะเป็นหลังคาซ้อนกันขึ้นไป ๓ ชั้น โดยการจำลองย่อส่วนอาคารเบื้องล่างลดหลั่นขึ้นไป แต่ละชั้นประดับด้วยสถูปจำลองที่มุขทั้งสี่และตรงกลางด้านเหนือซุ้มหน้าบัน รวมจำนวนสถูปจำลองชั้นละ ๓ องค์ ทั้งหมดสามชั้นรวมทั้งสิ้น ๒๔ องค์
ถัดขึ้นไปเป็นส่วนยอดซึ่งซ่อมแซมครั้งใหญ่ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยขยายส่วนยอดให้สูงขึ้น เริ่มตั้งแต่บัวปากระฆังซึ่งเป็นดอกบัวบานขนาดใหญ่ องค์ระฆังรูปแปดเหลี่ยม ถัดขึ้นไปเป็นฐานเขียงแปดเหลี่ยมขนาดเล็กรองรับก้านฉัตร ต่อด้วยปล้องไฉนแปดเหลี่ยมจำนวนห้าชั้น เหนือปล้องไฉนเป็นบัวกลุ่มหุ้มทองคำรองรับปลียอดหุ้มทองคำ ซึ่งเข้าใจว่าได้ต้นแบบมาจากยอดพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช เหนือปลียอดประดับฉัตรหุ้มทองคำ
โครงสร้างพระบรมธาตุไชยาเป็นเจดีย์ก่ออิฐไม่สอปูน อิฐเนื้อแกร่งเผาด้วยไฟแรง เมื่อก่ออิฐแล้วคงขัดถูแต่งรอยให้เรียบเสมอกัน พระบรมธาตุไชยาได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์หลายครั้ง จึงมีลวดลายเครื่องประดับเป็นลวดลายเก่าใหม่ผสมกัน ลวดลายเก่าที่น่าสนใจคือ ลวดลายที่ซุ้มหน้าบันหรือ กุฑุ เดิมใช้วิธีแกะสลักอิฐเป็นรูปวงโค้ง เมื่อมีการซ่อมครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ ๕ จึงมีการซ่อมแปลงหน้าบันด้วยปูนปั้น เติมลวดลายใหม่ ๆ ได้แก่ รูปตราแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ ๕ ภายในเป็นพระพุทธรูป รูปเทพพนม ด้านข้างเป็นช้างสามเศียรและนกยูง รูปสิงห์ รูปเหรา รูปผีเสื้อ เป็นต้น
รูปแบบแผนผังโครงสร้างของสถาปัตยกรรมที่เรียกว่าพระบรมธาตุไชยานี้ได้รับการตีความอย่างกว้างขวาง บ้างก็ว่าคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมที่เรียกว่า จันทิ ในศิลปะชวาภาคกลาง เช่น จันทิปะวน จันทิเซวู จันทิเมนดุต อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔-๑๕ ซึ่งมีลักษณะโดยรวมคล้ายคลึงกับสถาปัตยกรรมแบบอินเดียใต้ แต่เปลี่ยนรูปจำลองอาคารขนาดเล็กบนชั้นหลังคาซึ่งเป็นเทวาลัยในศาสนาพราหมณ์ ให้กลายเป็นลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมในพุทธศาสนา บ้างก็ว่ามีเค้าของการคลี่คลายมาจากปราสาท ๒ หลัง ที่วัดแก้วและวัดหลง ทำให้เกิดข้อสันนิษฐานอีกอย่างหนึ่งว่าอายุของพระบรมธาตุไชยาอาจจะหลังลงมาจากโบราณสถานที่วัดแก้วและวัดหลง เป็นสถาปัตยกรรมในยุคครหิ ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘
อย่างไรก็ดีรูปแบบศิลปกรรมของพระบรมธาตุไชยาก็ได้แพร่อิทธิพลให้แก่สถาปัตยกรรมในสมัยต่อมาอย่างแพร่หลาย เช่น เจดีย์วัดเขาพระอานนท์ อำเภอพุนพิน เจดีย์ถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม
เจดีย์บนเขาสายสมอ และวัดโบราณต่าง ๆ ในเขตอำเภอไชยา
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา1.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา2.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา3.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา4.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา5.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา6.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา7.jpeg
ดาวน์โหลดไฟล์: พระบรมธาตุไชยา8.jpeg
(จำนวนผู้เข้าชม 23916 ครั้ง)