พะลามชาดก
พะลามชาดก เป็นวรรณกรรมชาดกพื้นถิ่นแห่งลุ่มน้ำโขง ว่าด้วยการบำเพ็ญเพียรบารมีของพระโพธิสัตว์ ที่มีเค้าโครงเรื่องมาจาก"รามเกียรติ์" เขียนเล่าเรื่องราวบนผนังด้านทิศเหนือและทิศตะวันออก
จิตรกรรมฝาผนังอุโบสถวัดป่าเรไร บ้านหนองพอก ตำบลดงบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
พะลาม พะลัก นางสีดาและม้ามณีกาบ
กองทัพพะลาม
กองทัพฮาบมะนาสวน
"เมืองลังกา"
กำเนิดนางสีดา นางสุชาดาลงมาปฏิสนธิในครรภ์นางจันทามเหสีฮาบมะนาสวน
นางจันทาฝันร้าย อุปราชพิกพีทำนายว่านางจะตั้งครรภ์เป็นธิดาและจะนำพาให้ฮาบมะสวนสิ้นชีวิต ควรเอานางไปลอยแพเสีย
เมื่อครบกำหนดคลอดแล้วจึงประสูติธิดา นางจันทาและฮาบมะนาสวนเลี้ยงดูนางด้วยความรักจนอายุได้ ๑ ขวบ และเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของฮาบมะนาสวนเป็นอย่างมากและไม่เชื่อในคำทำนายนั้น
มาวันหนึ่งฮาบมะนาสวนอุ้มพระธิดา นางได้คว้ามีดในพานหมากแทงฮาบมะนาสวน แล้วจึงได้เชื่อตามคำทำนาย และสั่งให้เอาพระธิดาไปลอยแพเสีย
พระธิดาถูกนำไปลอยแพ การถูกลอยแพครั้งนี้มีพระอินทร์ให้ความช่วยเหลือต่อพระธิดา สอนให้รู้ถึงร้อยเอ็ดภาษา และสอนคาถาเมตตามหานิยมให้แก่พระธิดา
วันหนึ่งพญานาคเล่นน้ำอยู่ เห็นพระธิดาจึงได้ไต่ถาม แล้วเกิดความรักใคร่เอ็นดู จึงพากลับไปเลี้ยงดูในเมืองบาดาล
นาคแปลงนำพระธิดาไปเลี้ยงดูในเมืองบาดาล
นางสีดาอาศัยอยู่ในเมืองบาดาลได้ ๑๕ ปี จึงได้ขอลาพญานาคกลับอยู่บนโลกมนุษย์ต่อไป และต่อมานางได้มาอาศัยอยู่กับฤๅษี
มีนายพรานไปพบเห็นนางสีดาก็ชื่นชมในความงามของนาง และกล่าวชมโฉมความงามของนางทุกๆที่ๆเดินทางไป และพ่อค้าชาวเมืองกบิลพัสดุ์ได้ยินนายพรานกล่าวชมความงามของนางสีดา คราวเมื่อเดินทางไปค้าขายที่เมืองลังกา ก็ได้กล่าวสรรเสริญความงามของนางสีดาเลื่องลือต่อๆกันไป จนเข้าหูของฮาบมะนาสวน
หลังจากฮาบมะนาสวนทราบข่าวเกิดความอยากได้นางสีดามาเป็นชายา จึงออกเดินทางตามหาจนเจอและขอนางจากฤๅษี ฤๅษีจึงให้ยกธนูศิลป์ให้ได้ก่อนจึงจะยอมยกนางให้ แต่อย่างไรท้ายที่สุดฮาบมะสวนก็ไม่สามารถยกธนูนั้นขึ้นได้ จึงไม่ได้มอบนางให้แก่ฮาบมะนาสวน
"เมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค"
พะลามได้ข่าวความงดงามของนางสีดา จึงได้ชวนพะลักผู้น้องขี่ม้ามะนีกาบออกติดตามหานางสีดาเพื่อเป็นชายา
พะลาม พะลัก และม้ามะนีกาบ
พะลามขอนางสีดากับฤๅษี และสามารถยกศรธนูศิลป์ขึ้นได้ ฤๅษีจึงยกนางสีดาให้ และนำน้ำวิเศษจากสระอโนดาตมาทำพิธีอภิเษก เมื่อเสร็จพิธีแล้วทั้งสามจึงลากลับเมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค
ขณะทั้งสามเดินทางกลับไปยังเมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค ฝ่ายฮวบมะนาสวนก็ยังคงหวลคิดถึงนางสีดาอยู่ เมื่อรู้ข่าวจึงหาอุบายเพื่อลักพานางสีดาจากพะลาม โดยแปลงเป็นกวางทองและเป็นที่ต้องการของนางสีดา พะลามจึงต้องตามจับกวางทองมาให้นาง
จากอุบายดังกล่าวทำให้ทั้งพะลามและพะลักหลงอุบาย ทำให้ฮาบมะนาสวนเข้าหานางสีดาและสามารถลักพานางกลับเมืองลังกาได้ แต่กว่าจะลักพานางสีดาไปได้นั้น เนื่องจากพะลักได้ฝากนางสีดาไว้กับนางธรณี ฮาบมะนาสวนพยายามอุ้มนางแต่ก็อุ้มไม่ขึ้นเพราะนางธรณียึดไว้ และเมื่อถูกต้องกายนางก็ร้อนราวกับไฟ ฮาบมะสวนจึงเนรมิตโง่นหินเป็นรูปตนเข้าอุ้มนางไปได้(เพราะพะลามต่อว่าพะลักที่ฝากนางไว้กับนางธรณีนั้นจนางะช่วยอะไรได้ นางธรณีได้ยินจึงโกรธและได้ปล่อยนางสีดาไป โง่นหินแปลงนั้นจึงสามารถอุ้มนางสีดาขึ้นได้)
โง่นหินแปลงอุ้มนางสีดา(ฮาบมะนาสวนเหาะตาม) ฮาบมะนาสวนต่อสู้กับพญาครุฑ
พญาครุฑสหายของพะลาม ได้ยินเสียงโต้เถียงกันระหว่างนางสีดกับฮาบมะนาสวน จึงรู้ว่าฮาบมะสวนลักพานางสีดามาจากพะลามจึงเข้าขัดขวาง ท้ายที่สุดฮาบมะสวนก็ชนพญาครุฑและพานางสีดากลับเมืองลังกาได้
"ต้นมณีโคตร"
ต้นมณีโคตร ต้นไม้กายสิทธิ์มีผลดกมาก ผู้ใดกินผลจากกิ่งที่ชี้ไปทิศตะวันออกจะกลายเป็นลิง กิ่งทิศใต้จะกลายเป็นนกเจ่า กิ่งทิศเหนือจะกลายเป็นนกกก กิ่งที่ชี้ขึ้นไปในอากาศจะกลับกลายเป็นคน
เมื่อพะลาม พะลัก เดินทางมาถึงบริเวณนี้ ม้ามณีกาบได้เนรมิตปราสาทให้พะลาม พะลักพักได้อาศัยใต้ต้นมณีโคตร และในตอนเช้าพะลามได้เก็บลูกมณีโคตรกิ่งด้านทิศตะวันออกกินจึงกลายเป็นลิงอยู่ ๓ ปี (ม้ามณีกาบบอกพะลักว่าทีพะลามกลายเป็นลิง เป็นเพราะเทวดาดลใจให้เก็บผลกิ่งด้านทิศตะวันออกนั้นกิน เพื่อจะได้คลายความทุกข์จากการที่คิดถึงนางสีดา)
"กำเนิดหุนละมาน"
ลิงพะลามกับลิงนางแพงสี อาศัยอยู่บนต้นมณีโคตรได้อยู่กินกันจนลิงนางแพงสีตั้งครรภ์และให้กำเนิดลิงเผือกตัวผู้ ชื่อว่า "หุนละมาน" เป็นลิงที่มีอิทธิฤทธิ์มาก
"กำเนิดทัวระพี"
มีฝูงควายฝูงหนึ่ง จ่าฝูงเมื่อมีลูกตัวเมียก็จะเลี้ยงไว้ แต่เป็นตัวผู้ก็จะฆ่าทิ้ง กลัวว่าเมื่อโตขึ้นจะมาแย่งความเป็นใหญ่แทนตน นางควายตัวหนึ่งตั้งท้องและแอบไปคลอดลูกในถ้ำแห่งหนึ่ง และได้คลอดลูกควายตัวผู้ ให้ชื่อว่า"ทัวระพี" เมื่อลูกโตแล้วแม่จึงเรื่องความชั่วร้ายของผู้พ่อให้ลูกฟัง ทัวระพีผู้ลูกจึงร่ำเรียนวิชาเพื่อกลับไปแก้แค้นผู้พ่อ ท้ายที่สุดทัวระพีผู้ลูกก็สามารถฆ่าพ่อได้ และมีใจหึกเหิมกำเริบคิดว่าตัวเองเก่งกล้าจึงไปท้ารบเทวดา และอาละวาทเขาไปทั่ว
ทัวระพีผู้ลูก(ตัวสีเทา)และผู้พ่อต่อสู้กัน
ทัวระพีต่อสู้กับสังคีบภายในถ้ำ สังคีบชนะฆ่าควายทัวระพีได้
กองทัพพะลามต่อสู้กับกองทัพฮาบมะนาสวน พะลามเป็นฝ่ายชนะและนับนางสีดากลับเมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค
*การเสนอจิตรกรรมเล่าเรื่องราวพะลามชาดกที่ปรากบนผนังนั้น ช่างเขียนได้เขียนเล่าเรื่องราวถึงแค่การรบของกองทัพพะลามและฮาบมะสวนเพื่อแย่งชิงนางสีดาเพียงเท่านั้น
พะลามชาดกในผนังด้านนอกฝั่งทิศตะวันออก
พะลาม พะลัก นางสีดาและม้ามณีกาบ
กองทัพพะลาม
กองทัพฮาบมะนาสวน
"เมืองลังกา"
กำเนิดนางสีดา นางสุชาดาลงมาปฏิสนธิในครรภ์นางจันทามเหสีฮาบมะนาสวน
นางจันทาฝันร้าย อุปราชพิกพีทำนายว่านางจะตั้งครรภ์เป็นธิดาและจะนำพาให้ฮาบมะสวนสิ้นชีวิต ควรเอานางไปลอยแพเสีย
เมื่อครบกำหนดคลอดแล้วจึงประสูติธิดา นางจันทาและฮาบมะนาสวนเลี้ยงดูนางด้วยความรักจนอายุได้ ๑ ขวบ และเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของฮาบมะนาสวนเป็นอย่างมากและไม่เชื่อในคำทำนายนั้น
มาวันหนึ่งฮาบมะนาสวนอุ้มพระธิดา นางได้คว้ามีดในพานหมากแทงฮาบมะนาสวน แล้วจึงได้เชื่อตามคำทำนาย และสั่งให้เอาพระธิดาไปลอยแพเสีย
พระธิดาถูกนำไปลอยแพ การถูกลอยแพครั้งนี้มีพระอินทร์ให้ความช่วยเหลือต่อพระธิดา สอนให้รู้ถึงร้อยเอ็ดภาษา และสอนคาถาเมตตามหานิยมให้แก่พระธิดา
วันหนึ่งพญานาคเล่นน้ำอยู่ เห็นพระธิดาจึงได้ไต่ถาม แล้วเกิดความรักใคร่เอ็นดู จึงพากลับไปเลี้ยงดูในเมืองบาดาล
นาคแปลงนำพระธิดาไปเลี้ยงดูในเมืองบาดาล
นางสีดาอาศัยอยู่ในเมืองบาดาลได้ ๑๕ ปี จึงได้ขอลาพญานาคกลับอยู่บนโลกมนุษย์ต่อไป และต่อมานางได้มาอาศัยอยู่กับฤๅษี
มีนายพรานไปพบเห็นนางสีดาก็ชื่นชมในความงามของนาง และกล่าวชมโฉมความงามของนางทุกๆที่ๆเดินทางไป และพ่อค้าชาวเมืองกบิลพัสดุ์ได้ยินนายพรานกล่าวชมความงามของนางสีดา คราวเมื่อเดินทางไปค้าขายที่เมืองลังกา ก็ได้กล่าวสรรเสริญความงามของนางสีดาเลื่องลือต่อๆกันไป จนเข้าหูของฮาบมะนาสวน
หลังจากฮาบมะนาสวนทราบข่าวเกิดความอยากได้นางสีดามาเป็นชายา จึงออกเดินทางตามหาจนเจอและขอนางจากฤๅษี ฤๅษีจึงให้ยกธนูศิลป์ให้ได้ก่อนจึงจะยอมยกนางให้ แต่อย่างไรท้ายที่สุดฮาบมะสวนก็ไม่สามารถยกธนูนั้นขึ้นได้ จึงไม่ได้มอบนางให้แก่ฮาบมะนาสวน
"เมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค"
พะลามได้ข่าวความงดงามของนางสีดา จึงได้ชวนพะลักผู้น้องขี่ม้ามะนีกาบออกติดตามหานางสีดาเพื่อเป็นชายา
พะลาม พะลัก และม้ามะนีกาบ
พะลามขอนางสีดากับฤๅษี และสามารถยกศรธนูศิลป์ขึ้นได้ ฤๅษีจึงยกนางสีดาให้ และนำน้ำวิเศษจากสระอโนดาตมาทำพิธีอภิเษก เมื่อเสร็จพิธีแล้วทั้งสามจึงลากลับเมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค
ขณะทั้งสามเดินทางกลับไปยังเมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค ฝ่ายฮวบมะนาสวนก็ยังคงหวลคิดถึงนางสีดาอยู่ เมื่อรู้ข่าวจึงหาอุบายเพื่อลักพานางสีดาจากพะลาม โดยแปลงเป็นกวางทองและเป็นที่ต้องการของนางสีดา พะลามจึงต้องตามจับกวางทองมาให้นาง
จากอุบายดังกล่าวทำให้ทั้งพะลามและพะลักหลงอุบาย ทำให้ฮาบมะนาสวนเข้าหานางสีดาและสามารถลักพานางกลับเมืองลังกาได้ แต่กว่าจะลักพานางสีดาไปได้นั้น เนื่องจากพะลักได้ฝากนางสีดาไว้กับนางธรณี ฮาบมะนาสวนพยายามอุ้มนางแต่ก็อุ้มไม่ขึ้นเพราะนางธรณียึดไว้ และเมื่อถูกต้องกายนางก็ร้อนราวกับไฟ ฮาบมะสวนจึงเนรมิตโง่นหินเป็นรูปตนเข้าอุ้มนางไปได้(เพราะพะลามต่อว่าพะลักที่ฝากนางไว้กับนางธรณีนั้นจนางะช่วยอะไรได้ นางธรณีได้ยินจึงโกรธและได้ปล่อยนางสีดาไป โง่นหินแปลงนั้นจึงสามารถอุ้มนางสีดาขึ้นได้)
โง่นหินแปลงอุ้มนางสีดา(ฮาบมะนาสวนเหาะตาม) ฮาบมะนาสวนต่อสู้กับพญาครุฑ
พญาครุฑสหายของพะลาม ได้ยินเสียงโต้เถียงกันระหว่างนางสีดกับฮาบมะนาสวน จึงรู้ว่าฮาบมะสวนลักพานางสีดามาจากพะลามจึงเข้าขัดขวาง ท้ายที่สุดฮาบมะสวนก็ชนพญาครุฑและพานางสีดากลับเมืองลังกาได้
"ต้นมณีโคตร"
ต้นมณีโคตร ต้นไม้กายสิทธิ์มีผลดกมาก ผู้ใดกินผลจากกิ่งที่ชี้ไปทิศตะวันออกจะกลายเป็นลิง กิ่งทิศใต้จะกลายเป็นนกเจ่า กิ่งทิศเหนือจะกลายเป็นนกกก กิ่งที่ชี้ขึ้นไปในอากาศจะกลับกลายเป็นคน
เมื่อพะลาม พะลัก เดินทางมาถึงบริเวณนี้ ม้ามณีกาบได้เนรมิตปราสาทให้พะลาม พะลักพักได้อาศัยใต้ต้นมณีโคตร และในตอนเช้าพะลามได้เก็บลูกมณีโคตรกิ่งด้านทิศตะวันออกกินจึงกลายเป็นลิงอยู่ ๓ ปี (ม้ามณีกาบบอกพะลักว่าทีพะลามกลายเป็นลิง เป็นเพราะเทวดาดลใจให้เก็บผลกิ่งด้านทิศตะวันออกนั้นกิน เพื่อจะได้คลายความทุกข์จากการที่คิดถึงนางสีดา)
"กำเนิดหุนละมาน"
ลิงพะลามกับลิงนางแพงสี อาศัยอยู่บนต้นมณีโคตรได้อยู่กินกันจนลิงนางแพงสีตั้งครรภ์และให้กำเนิดลิงเผือกตัวผู้ ชื่อว่า "หุนละมาน" เป็นลิงที่มีอิทธิฤทธิ์มาก
"กำเนิดทัวระพี"
มีฝูงควายฝูงหนึ่ง จ่าฝูงเมื่อมีลูกตัวเมียก็จะเลี้ยงไว้ แต่เป็นตัวผู้ก็จะฆ่าทิ้ง กลัวว่าเมื่อโตขึ้นจะมาแย่งความเป็นใหญ่แทนตน นางควายตัวหนึ่งตั้งท้องและแอบไปคลอดลูกในถ้ำแห่งหนึ่ง และได้คลอดลูกควายตัวผู้ ให้ชื่อว่า"ทัวระพี" เมื่อลูกโตแล้วแม่จึงเรื่องความชั่วร้ายของผู้พ่อให้ลูกฟัง ทัวระพีผู้ลูกจึงร่ำเรียนวิชาเพื่อกลับไปแก้แค้นผู้พ่อ ท้ายที่สุดทัวระพีผู้ลูกก็สามารถฆ่าพ่อได้ และมีใจหึกเหิมกำเริบคิดว่าตัวเองเก่งกล้าจึงไปท้ารบเทวดา และอาละวาทเขาไปทั่ว
ทัวระพีผู้ลูก(ตัวสีเทา)และผู้พ่อต่อสู้กัน
ทัวระพีต่อสู้กับสังคีบภายในถ้ำ สังคีบชนะฆ่าควายทัวระพีได้
กองทัพพะลามต่อสู้กับกองทัพฮาบมะนาสวน พะลามเป็นฝ่ายชนะและนับนางสีดากลับเมืองจันทบุรีศรีสัตตนาค
*การเสนอจิตรกรรมเล่าเรื่องราวพะลามชาดกที่ปรากบนผนังนั้น ช่างเขียนได้เขียนเล่าเรื่องราวถึงแค่การรบของกองทัพพะลามและฮาบมะสวนเพื่อแย่งชิงนางสีดาเพียงเท่านั้น
พะลามชาดกในผนังด้านนอกฝั่งทิศตะวันออก
(จำนวนผู้เข้าชม 2262 ครั้ง)