ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ครบกำหนดรื้อถอนอาคารรุกล้ำกำแพงดินแล้วแต่สถานการณ์ยังนิ่ง ผู้ว่าฯ ยันสั่งแล้วต้องดำเนินการ เทศบาลเผยเจ้าของอาคารอุทธรณ์กลับต้องนำเสนอจังหวัดอีกรอบก่อนดำเนินการต่อ ด้านศิลปากรบอกต้องอุทธรณ์กับส่วนกลางเท่านั้น แต่ไม่รู้เจ้าของอาคารดำเนินการหรือยัง ส่วนธนารักษ์แจงความเห็นแตก “รื้อหมด-รื้อเฉพาะที่ล้ำ” รอชี้ขาดในที่ประชุมติดตามความคืบหน้า 17 ก.พ. นี้
วันนี้ (17 ก.พ.) หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในการประชุมติดตามและเร่งรัดการแก้ไขปัญหา กรณีเอกชนก่อสร้างอาคารบริเวณแนวกำแพงเมือง-คูเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ อาคารศูนย์ราชการกระทรวงการคลังจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวเข้าร่วมประชุม
การประชุมดังกล่าวเป็นการติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ปัญหากรณีที่เอกชน 2 ราย ก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่แนวกำแพงดิน ซึ่งนับตั้งแต่มีการเปิดเผยเรื่องราวผ่านทางสื่อมวลชน หน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวได้มีการประชุมหารือ และกำหนดมาตรการแก้ไข โดยล่าสุด ได้มีการออกคำสั่งให้รื้อถอนสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ที่เป็นปัญหาทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ อาคารโรงแรม บริเวณตรงข้ามโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง ของนางสาวเพ็ญสินี พรหมเศรณี และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 4 คูหา ข้างร้านเต้ยติ่มซำ ของนายวลัญช์ชัย เกียรตินิยมรุ่ง
ในที่ประชุมได้มีการพิจารณากรณีที่ นางสาวเพ็ญสินี พรหมเศรณี ได้ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างอาคารไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดย นายณภัทร ประเสริฐดี ผู้อำนวยการส่วนควบคุมอาคารและผังเมือง สำนักการช่าง เทศบาลนครเชียงใหม่ แจ้งต่อที่ประชุมว่า เรื่องการยื่นอุทธรณ์ของนางสาวเพ็ญสินี อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการอุทธรณ์ระดับจังหวัด
ส่วนนายวิเศษ เพชรประดับ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ แจ้งว่า ทางสำนักได้แจ้งให้ นางสาวเพ็ญสินี ทราบแล้วว่าการยื่นอุทธรณ์นั้นต้องยื่นไปที่กรมศิลปากร แต่การยื่นอุทธรณ์นั้นจะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงคำสั่งดังกล่าว
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.ยงยุทธ เรืองภัทรกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า เนื่องจาก นางสาวเพ็ญสินี ได้แจ้งมาในคำร้องอุทธรณ์ ว่า ยินดีที่จะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างส่วนที่เปลี่ยนแปลงต่อเติมใหม่จากอาคารของเดิมที่มีอยู่ และจะปรับสภาพอาคารที่มีอยู่แล้วให้อยู่ในสภาพเดิมก่อนการเช่า ประกอบกับผู้ตรวจราชการ นางสาวจินตนา กิจจำนง ได้ให้ความเห็นภายหลังการเข้าตรวจสอบพื้นที่ ว่า ควรจะพิจารณาเรื่องการรื้อถอนให้รอบคอบ เนื่องจากหารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกทั้งหมดแล้ว ในอนาคตหากไม่มีการปรับปรุงพื้นที่ก็อาจมีปัญหาถูกรุกล้ำอีก
ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ จึงได้ทำหนังสือขอให้กรมธนารักษ์ประสานกับกรมศิลปากร เพื่อหารือว่าจะขอปรับสภาพอาคารที่มีการก่อสร้างไปโดยไม่ได้รับอนุญาตให้กลับคืนอยู่ในสภาพเดิม ก่อนที่จะมีการจัดให้เช่า จะสามารถทำได้หรือไม่ แม้ที่ประชุมจะยังไม่มีข้อสรุปในกรณีดังกล่าว อย่างไรก็ตามแนวทางที่ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกัน ก็คือ จะรอให้คณะกรรมการอุทธรณ์ระดับจังหวัดพิจารณาเรื่องดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อน เมื่อคณะกรรมการมีมติอย่างไรก็จะดำเนินการตามแนวทางนั้น
ขณะที่สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงคำสั่งต่างๆ ของกรมศิลปากรนั้นเป็นอำนาจของอธิบดี แต่ในเบื้องต้นหน่วยงานเห็นควรให้ปฏิบัติตามคำสั่งที่ได้ออกไปแล้ว เช่นเดียวกับ หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้ให้ความเห็นว่าควรปล่อยให้เรื่องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้หารือถึงแนวทางการฟื้นฟูสภาพแนวกำแพงดินในส่วนที่ยังคงสภาพอยู่ โดยสำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ได้เสนอพื้นที่ช่วงถนนกำแพงดิน บริเวณตรงข้ามวัดช่างฆ้องจนถึงสี่แยกถนนกำแพงดินตัดกับถนนลอยเคราะห์ ให้เป็นพื้นที่สำหรับทำการบูรณะฟื้นฟูแนวกำแพงดินส่วนที่ยังคงสภาพ ซึ่งยังคงมีเหลืออยู่ในบริเวณดังกล่าว เพื่อให้เป็นจุดตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าบริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของกำแพงดินเมืองเชียงใหม่
ทั้งนี้ ที่ประชุมให้ความสนใจในแนวทางดังกล่าว และมีความเห็นว่า ให้สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ไปศึกษาถึงแนวทางในการพัฒนาและฟื้นฟูพื้นที่ดังกล่าว โดยอาจจะใช้วิธีการประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอนุรักษ์ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากระทบกระทั่งกับประชาชนส่วนที่ยังอยู่ในพื้นที่ ส่วนธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ และสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงใหม่จะดูในส่วนของการแก้ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ และให้เทศบาลนครเชียงใหม่ดูแลในส่วนของการก่อสร้างและงบประมาณ ซึ่งในส่วนของงบประมาณอาจจะขอความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดด้วย
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 17 กุมภาพันธ์ 2554 15:40 น
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000021498(จำนวนผู้เข้าชม 800 ครั้ง)