โบราณสถานนอกเมืองโบราณสุโขทัยด้านใต้
ประตูนะโม
เป็นประตูหลักของเมืองโบราณสุโขทัยทางด้านใต้ มีลักษณะทั่วไปเช่นเดียวกับประตูเมืองด้านอื่นๆ คือตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางกำแพง
ด้านใต้ และมีป้อมดินที่สร้างยื่นออกไปจากแนวกำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยม หลักฐานเรื่องกำแพงเมืองสุโขทัยปรากฏอยู่ในศิลาจารึกหลัก
ที่ ๑ ว่า "…เมืองสุโขทัยนี้มีสี่ปากประตูหลวง… " และ… "รอบเมืองสุโขทัยนี้ตรีบูรได้สามพันสี่ร้อยวา…"
ลักษณะกำแพงเมืองสุโขทัยเป็นกำแพงสามชั้น สองชั้นนอกเป็นคันดินสลับกับคูน้ำ กำแพงชั้นในมีแกนเป็นคันดินบางส่วนก่อหุ้ม
ด้วยศิลาแลงและอิฐ ประโยชน์ของกำแพงเมืองคือใช้บอกขอบเขตของเมือง ป้องกันข้าศึก และคูน้ำใช้เป็นทางระบายน้ำไม่ให้
ท่วมเมือง เนื่องจากพื้นที่ลาดเอียงจึงเป็นทำเลที่ดีและมีการใช้เทคนิควิทยาการที่เหมาะสม คือใช้คันดินบังคับน้ำให้พ้นตัวเมือง
การขุดค้นทางโบราณคดีระหว่าง พุทธศักราช ๒๕๒๔ - ๒๕๒๕ พบว่าการสร้างกำแพงเมืองทั้งสามชั้นนั้น คงสร้างในระยะสมัยที่
แตกต่างกัน คือครั้งแรกมีกำแพงเมืองกับคูน้ำชั้นในเพียงชั้นเดียว
วัดก้อนแลง
ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองโดยห่างจากประตูนะโมประมาณ ๖๐ เมตร เป็นวัดเล็กๆ และไม่มีหลักฐานการสร้างวัด ลักษณะโบราณสถานเหลือฐานเจดีย์ประธานซึ่งเป็นฐานสูงแบบฐานเขียงของเจดีย์ทรงดอกบัวตูม(ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) มีวิหารและเจดีย์
รายก่อด้วยอิฐ
เป็นประตูหลักของเมืองโบราณสุโขทัยทางด้านใต้ มีลักษณะทั่วไปเช่นเดียวกับประตูเมืองด้านอื่นๆ คือตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางกำแพง
ด้านใต้ และมีป้อมดินที่สร้างยื่นออกไปจากแนวกำแพงเป็นรูปสี่เหลี่ยม หลักฐานเรื่องกำแพงเมืองสุโขทัยปรากฏอยู่ในศิลาจารึกหลัก
ที่ ๑ ว่า "…เมืองสุโขทัยนี้มีสี่ปากประตูหลวง… " และ… "รอบเมืองสุโขทัยนี้ตรีบูรได้สามพันสี่ร้อยวา…"
ลักษณะกำแพงเมืองสุโขทัยเป็นกำแพงสามชั้น สองชั้นนอกเป็นคันดินสลับกับคูน้ำ กำแพงชั้นในมีแกนเป็นคันดินบางส่วนก่อหุ้ม
ด้วยศิลาแลงและอิฐ ประโยชน์ของกำแพงเมืองคือใช้บอกขอบเขตของเมือง ป้องกันข้าศึก และคูน้ำใช้เป็นทางระบายน้ำไม่ให้
ท่วมเมือง เนื่องจากพื้นที่ลาดเอียงจึงเป็นทำเลที่ดีและมีการใช้เทคนิควิทยาการที่เหมาะสม คือใช้คันดินบังคับน้ำให้พ้นตัวเมือง
การขุดค้นทางโบราณคดีระหว่าง พุทธศักราช ๒๕๒๔ - ๒๕๒๕ พบว่าการสร้างกำแพงเมืองทั้งสามชั้นนั้น คงสร้างในระยะสมัยที่
แตกต่างกัน คือครั้งแรกมีกำแพงเมืองกับคูน้ำชั้นในเพียงชั้นเดียว
วัดก้อนแลง
ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองโดยห่างจากประตูนะโมประมาณ ๖๐ เมตร เป็นวัดเล็กๆ และไม่มีหลักฐานการสร้างวัด ลักษณะโบราณสถานเหลือฐานเจดีย์ประธานซึ่งเป็นฐานสูงแบบฐานเขียงของเจดีย์ทรงดอกบัวตูม(ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) มีวิหารและเจดีย์
รายก่อด้วยอิฐ
(จำนวนผู้เข้าชม 1916 ครั้ง)