ค้นหา
รายการที่พบทั้งหมด 48,759 รายการ
วัดโพธิ์ศิลา บ้านเปือย หมู่ที่ ๖ ตำบลเปือย อำเภอลืออำนาจ จังหวัดอำนาจเจริญ มีลักษณะเป็นเนินดินสูง สภาพปัจจุบันปูพื้นด้วยศิลาแลง มีบันไดทางขึ้นเนินอยู่ด้านทิศตะวันตก ส่วนรอบเนินอีกสามด้าน มีขอบกั้นเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก ถัดลงไปเป็นเขื่อนหินกั้นดินสไลด์ และได้มีการนำใบเสมามาปักเรียงใหม่เป็น ๒ แถว อยู่บนพื้นที่ปูด้วยศิลาแลง รวมจำนวน ๑๖ ใบ สลักจากหินทราย มีขนาดใหญ่ ที่ฐานสลักเป็นกลีบบัวคว่ำ-บัวหงาย ส่วนใหญ่อยู่ในสภาพชำรุด แตก หัก มี ๒ ใบ ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ ใบเสมาวัดโพธิ์ศิลากำหนดอายุอยู่สมัยประวัติศาสตร์ตอนต้นในวัฒนธรรมทวารวดี ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๓ – ๑๕
เสมาใบที่ ๑ สลักลวดลายกลีบบัวคว่ำ บัวหงาย รองรับสันนูนตรงกลางคล้ายสถูปยอดเรียวชะลูดจนสุดปลายใบ อีกด้านสลักลวดลายคล้ายกันมีหม้อปูรณฆฏะ(หม้อน้ำ)ที่ส่วนยอด ซึ่งมีการแตกหักหายไปบางส่วน
เสมาใบที่ ๒ สลักลวดลายหม้อปูรณฆฏะ(หม้อน้ำ)รองรับสันนูนตรงกลางคล้ายสถูปยอดเรียวชะลูดจนสุดปลายใบ อีกด้านสลักคล้ายกันมีฐานบัวสลักลายรูปธรรมจักรแทรกที่ส่วนยอด สภาพยอดแตก บิ่นเล็กน้อย
ใบเสมาวัดโพธิ์ศิลา กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๑๑๙ ตอนพิเศษ ๑๓๑ ง หน้า ๒ เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๔๕ มีพื้นที่โบราณสถานประมาณ ๖ ไร่ ๑ งาน
------------------------------------------------
อ้างอิงจาก
- คันฉาย มีระหงส์. รายงานผลการตรวจสอบโบราณสถานวัดโพธิ์ศิลา. (เอกสารอัดสำเนา), กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี, ๒๕๖๑.
- สิริพัฒน์ บุญใหญ่ และคณะ. รายงานการสำรวจแหล่งโบราณคดี โบราณสถาน ในเขตจังหวัดอำนาจเจริญ. สำนักศิลปากรที่ ๑๑ อุบลราชธานี, ๒๕๕๙, หน้า ๑๒๗.
------------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล : สำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02Mp6rqU38t8gXiegT72DkRjdPouNWB9AWdZ8NZRuv7zcnd142sR11HNk1aFXmDCJwl&id=835594323191791
กรมศิลปากร ขอเชิญร่วมกิจกรรมเนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย พุทธศักราช ๒๕๖๕ Museum Talk “พลังพิพิธภัณฑ์ สร้างสรรค์ไทย: The Power of Thai Museums” พร้อมเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยไม่เก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม ในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ตามที่คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้วันที่ ๑๙ กันยายน ของทุกปี เป็นวันพิพิธภัณฑ์ไทย กรมศิลปากร โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และภาคีเครือข่ายพิพิธภัณฑ์ไทยขอเชิญร่วมรับฟัง Museum Talk “พลังพิพิธภัณฑ์ สร้างสรรค์ไทย: The Power of Thai Museums” กับมุมมองหลากหลายและประสบการณ์จากเครือข่ายพิพิธภัณฑ์กรมศิลปากร ที่จะมาเป็นแรงพลังให้พิพิธภัณฑ์ไทยอีกมากมาย ก้าวเดินต่อไปพร้อมกับสังคมโลกอย่างมั่นคง ในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ น เป็นต้นไป และถ่ายทอดสดผ่านทาง YouTube และ Facebook : Office of National Museums, Thailand ประกอบด้วย การปาฐกถาพิเศษ เรื่อง พิพิธภัณฑ์กับการอนุรักษ์มรดกไทย โดยอธิบดีกรมศิลปากร การบรรยายพิเศษ “A New Museum Definition: ICOM Prague 2022” โดยนางสมลักษณ์ เจริญพจน์ ผู้อำนวยการศูนย์ภูมิภาคว่าด้วยโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ (SPAFA) และการบรรยายใน ๓ หัวข้อ ได้แก่
"The Power of Achieving Sustainability" เรื่อง การเพิ่มคุณค่าสู่การสร้างมูลค่าภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยพระปลัดประพจน์ สุปภาโต เจ้าอาวาสวัดสำโรง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดสำโรง จังหวัดนครปฐม เรื่อง พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน การอนุรักษ์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนายเอิบเปรม วัชรางกูร ที่ปรึกษาด้านโบราณคดี มูลนิธิพระราชนิเวศน์มฤคทายวัน ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เรื่อง พิพิธภัณฑ์ที่มุ่งเน้นความหลากหลายและความยั่งยืนทางวัฒนธรรม โดย ผศ.ดร.พรู คูศรีพิทักษ์ วิวิธชาติพันธุ์ พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยาวัฒนธรรม สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวิทยาลัยมหิดล
“The Power of Innovating on Digitalisation and Accessibility" เรื่อง การปรับตัวเข้าสู่โลกออนไลน์: นิทรรศการหมุนเวียนเล่าเรื่องอาคารกับวันวานรอบพิพิธภัณฑ์และการเริ่มต้นเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลพระปกเกล้าศึกษา โดยนางกาญจนา ศรีปัดถา ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง E-BOOK ใน QR CODE โดย นาวาเอก ไพรัช สมุทรสินธุ์ หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ กองประวัติศาสตร์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ กองทัพเรือ เรื่อง การบริหารพิพิธภัณฑ์ในยุคดิจิทัล โดยนางสาวสำเภาว์ งามเชย รองผู้อำนวยการสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) เรื่อง พิพิธภัณฑ์กับการสื่อสารร่วมสมัย โดยนายชนะภพ วัณณโอฬาร ภัณฑารักษ์ สำนักศิลปและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
“The Power of Community Building Through Education” เรื่อง พิพิธภัณฑ์ในสังกัดกองส่งเสริมและพัฒนาทรัพย์สินมีค่าของรัฐ และการมีส่วนร่วมกับชุมชน โดยนายชลทิตย์ ไชยจันทร์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาทรัพย์สินมีค่าของรัฐ กรมธนารักษ์ เรื่อง งานวิจัยพื้นที่สามวัยโดยบริบทของนิทรรศการ และกิจกรรมในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เป็นฐาน โดยนางสาววิลาสินี ไตรยราช ผู้อำนวยการกองวิจัยและบริการวิชาการ ศูนย์พัฒนาความตระหนักด้านวิทยาศาสตร์แห่งชาติ เรื่อง ความรู้เรื่องที่ดินกับชุมชนผ่านวัตถุจัดแสดง โดยนายชัยวัฒน์ ไชยประเสริฐ ภัณฑารักษ์ พิพิธภัณฑ์กรมที่ดิน เรื่อง พิพิธภัณฑ์รัฐสภา: MUSEUM FOR ALL โดยนายเชษฐา ทองยิ่ง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานพิพิธภัณฑ์และจดหมายเหตุ สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่อง มิวเซียมสยามและชุมชนท่าเตียน โดยนายทวีศักดิ์ วรฤทธิ์เรืองอุไร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนิทรรศการและกิจกรรม มิวเซียมสยาม สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ เนื่องในวันพิพิธภัณฑ์ไทย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เปิดให้บริการเป็นกรณีพิเศษ งดเก็บค่าธรรมเนียมเข้าชม โดยสามารถเข้าชมการจัดแสดงนิทรรศการได้ทุกห้องจัดแสดง อาทิ นิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย: สานตำนานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน การจัดแสดงนิทรรศการถาวร ประณีตศิลป์สยาม ณ หมู่พระวิมาน พระราชวังบวรสถานมงคล การจัดแสดงนิทรรศการถาวร ประวัติศาสตร์และโบราณคดี อาคารมหาสุรสิงหนาท และอาคารประพาสพิพิธภัณฑ์ ผู้สนใจสามารถเข้าชมโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมเข้าชม ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนำผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการพิเศษ เรื่อง “เซรามิกแห่งแหลมทองและแดนอาทิตย์อุทัย : สานสายใยไม่เสื่อมคลายในพาณิชยวัฒนธรรมโลก” ณ พระที่นั่งศิวโมกขพิมาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในวันจันทร์ที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. บรรยายนำชมโดยวิทยากรจากทีมงานผู้จัดนิทรรศการฯ ทั้งนักโบราณคดี ภัณฑารักษ์และนักวิชาการอิสระ และเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมสามารถเข้าชมและฟังการบรรยายได้อย่างทั่วถึง จึงจัดการเข้าชมเป็นสองรอบคือ รอบแรกเวลา ๑๓.๓๐ น. (ลงทะเบียน เวลา ๑๓.๐๐ น.) และรอบที่สองเวลา ๑๔.๔๕ น. (ลงทะเบียนเวลา ๑๔.๐๐ น.) รอบละ ๓๐ คนเท่านั้น ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่หน้าห้องประชุม อาคารดำรงราชานุภาพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๔ ๑๔๐๒ และ ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๓๓ เวลา ๐๘.๓๐ น. – ๑๖.๓๐ น. วันพุธ - วันอาทิตย์ สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม ทางผู้จัดฯ มีของที่ระลึกแจกสำหรับผู้ที่แต่งกายเข้ากับบรรยากาศของนิทรรศการพิเศษ
อาสาฬหบูชา “การบูชาในเดือน ๘” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน ๘ เพื่อรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเป็นการพิเศษ เนื่องในวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ทำให้เกิดมีปฐมสาวก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ และเกิดสังฆรัตนะคำรบพระรัตนตรัย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาสายกลางที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพานนั้น เป็นไฉน? ปฏิปทาสายกลางนั้น ได้แก่อริยมรรค มีองค์ ๘ นี้แหละ คือปัญญาอันเห็นชอบ ๑ ความดำริชอบ ๑ เจรจาชอบ ๑ การงานชอบ ๑ เลี้ยงชีวิตชอบ ๑ พยายามชอบ ๑ ระลึกชอบ ๑ ตั้งจิตชอบ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อนี้แลเป็นทุกขอริยสัจ คือ ความเกิดก็เป็นทุกข์ ความแก่ก็เป็นทุกข์ ความเจ็บไข้ก็เป็นทุกข์ ความตายก็เป็นทุกข์ ความประจวบด้วยสิ่งที่ไม่เป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักก็เป็นทุกข์ ปรารถนาสิ่งใดไม่ได้สิ่งนั้นก็เป็นทุกข์โดยย่นย่อ อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นทุกข์เอกสารอ้างอิงพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต) พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต เข้าถึงได้โดย https://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%CD%D2%CA%D2%CC%CB%BA%D9%AA%D2พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔ มหาวรรค ภาค ๑ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตรปฐมเทศนา เข้าถึงได้โดย https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_line.php?B=4...
ชื่อเรื่อง วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดสุพรรณบุรีผู้แต่ง กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกระทรวงมหาดไทยประเภทวัสดุ/มีเดีย หนังสือท้องถิ่นISBN/ISSN 974-419-303-4หมวดหมู่ ภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยวเลขหมู่ 959.373 ว394สถานที่พิมพ์ กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าวปีที่พิมพ์ 2544ลักษณะวัสดุ 308 หน้า : ภาพประกอบ ; 30 ซม.หัวเรื่อง วัฒนธรรม -- สุพรรณบุรี สุพรรณบุรี -- ประวัติศาสตร์ สุพรรณบุรี -- ภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยว สุพรรณบุรี -- ความเป็นอยู่และประเพณีภาษา ไทยบทคัดย่อ/บันทึก รวบรวมเรื่องราวท้องถิ่นจังหวัดสุพรรณบุรี ประกอบด้วยสภาพภูมิศาสตร์ สิ่งแวดล้อมและสังคม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น การตั้งถิ่นฐาน มรดกทางธรรมชาติ มรดกทางวัฒนธรรม ภาษาและวรรณกรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาชาวบ้านและเทคโนโลยีท้องถิ่น เอกลักษณ์ของจังหวัด บุคคลสำคัญ ตลอดจนพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาท้องถิ่น เสด็จพระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจต่างๆ
กรมศิลปากร โดยสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ขอเชิญชวนผู้สนใจร่วมเรียนรู้พร้อมรับพรปีใหม่อันเป็นมงคลจากผู้คุ้มครองดวงชะตาทั้งจากพระและเทพเจ้า รวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ผู้ทำหน้าที่ปกปักรักษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ในกิจกรรม “นบพระ ไหว้ (เทพ) เจ้า” เนื่องในเทศกาลปีใหม่ ในวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๗.๐๐ - ๑๘.๐๐ น. วันละ ๑ รอบๆ ละ ๔๐ – ๕๐ คน ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมในวันงาน (เวลา ๑๖.๓๐ น.) ณ ศาลาลงสรง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
เส้นทางกิจกรรมนำชมในครั้งนี้ แบ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ออกเป็น ๒ ประเภทคือ ๑. เทพเจ้ากับพระพุทธ ผู้ครองเรือนชะตามนุษย์ และ ๒. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกปักรักษา ดังนี้
๑. ผู้ครองเรือนชะตามนุษย์ ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ได้แก่ นพเคราะห์ทั้ง ๙ (อุปสรรค) ผู้ให้คุณและโทษแก่ผู้เกิดในวันนั้น ๆ โดยมีพระคเณศเป็นเจ้าแห่งอุปสรรคทั้งหลาย นพเคราะห์เหล่านี้เองที่เป็นต้นแบบให้กับ รูปแม่ซื้อ ที่แขวนไว้เหนือเปลเด็กเกิดใหม่ โดยนำภาพสัตว์เทพพาหนะของแต่ละองค์มาแทนศีรษะ แม่ซื้อในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์์โปรดให้สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระปรมานุชิตชิโนรส ทรงคัดเลือกลักษณะปางหรือมุทราตามที่ปรากฏในพุทธประวัติของพระบรมศาสดา จำนวน ๔๐ ปาง มาสร้างถวายเป็นพุทธบูชา และต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ จึงปรากฏการสร้างพระพุทธรูปแทนนพเคราะห์ประจำวันเกิด ดังปรากฏใน พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ที่อัญเชิญมาให้สักการะในปีใหม่นี้
๒. สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ปกปักรักษา ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นั้น ประกอบด้วย พระชัยหลังช้าง ผู้ปกปักรักษากองทัพในการสงคราม พระพุทธรูปแกะสลักจากนอระมาด ของทนสิทธ์ผู้ปกปักรักษาบ้านเรือนให้ร่มเย็น รอดพ้นจากอัคคีภัย สัตตมงคล สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของครูโขนละคร ผู้ปัดเสนียดจัญไร พระภูมิเจ้าที่ผู้ปกปักรักษาบ้านเรือน ไร่นา และยุ้งฉาง และเจ้าพ่อหอแก้ว ศาลพระภูมิประจำพระราชวังบวรสถานมงคล (วังหน้า)
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
สำหรับเส้นทางนำชมเรียงตามลำดับทักษิณาวรรต ได้แก่
๑. พระพุทธสิหิงค์ และพระพุทธรูปประจำวันเกิด ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์
๒. พระชัยในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระแกะสลักจากนอระมาด ณ พระตำหนักแดง
๓. บัตรนพเคราะห์และแม่ซื้อ ณ พระตำหนักแดง
๔. พระคเณศและสัตตมงคล ณ พระที่นั่งทักษิณาภิมุข
๕. พระภูมิเจ้าที่ ณ มุขเด็จ
๖. พระชัยเมืองนครราชสีมา ณ พระที่นั่งบูรพาภิมุข
๗. เจ้าพ่อหอแก้ว ณ ศาลพระภูมิประจำวังหน้า
นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังได้ร่วมลุ้นรับของที่ระลึกสุดพิเศษ (*วันละ ๑๐ ชิ้นเท่านั้น) "เครื่องรางโอมาโมริแก้ชง ปีเถาะ ธาตุน้ำ" ภายในบรรจุยันต์ "องค์ไท่ส่วย" ปี ๒๕๖๖ รับเมตตาอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์จีนคณาณัติจีนพรต (เย็นงี้) เจ้าอาวาสวัดมังกรกมลาวาส (เล่งเน่ยยี่)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 149/5เอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
สตฺตปฺปกรณาภิธมฺม (สงฺคิณี-มหาปฎฺฐาน) ชบ.บ 178/6ฉเอกสารโบราณ (คัมภีร์ใบลาน)
ชื่อเรื่อง : อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงสวัสดิ์วรสาส์น (สวัสดิ์ คชะสุต) ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2514 ชื่อผู้แต่ง : - ปีที่พิมพ์ : 2514 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯสำนักพิมพ์ : การพิมพ์ไชยวัฒน์ จำนวนหน้า : 76 หน้า สาระสังเขป : หนังสือเล่มนี้ได้จัดพิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงสวัสดิ์วรสาส์น (สวัสดิ์ คชะสุต) ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2514 หลวงสวัสดิ์วรสาส์นเคยรับราชการประจำ ณ สถานฑูตสยาม กรุงลอนดอนระหว่าง พ.ศ. 2466-2471 เคยใกล้ชิดเจ้านายหลายพระองค์ด้วยความภักดี จึงเห็นสมควรจัดพิมพ์ลายพระหัตถ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประทานหม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล พระธิดาองค์ใหญ่ระหว่างเสด็จประพาสยุโรป เมื่อ พ.ศ. 2473
ชื่อเรื่อง : เมขลา-รามสูร ของเสฐียรโกเศศ นางสาวสมจิตร ชิตินทร พิมพ์แจกเป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นางสาวไขศรี ชิตินทร ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม 28 มิถุนายน 2507 ชื่อผู้แต่ง : เสฐียรโกเศศ ปีที่พิมพ์ : 2507 สถานที่พิมพ์ : กรุงเทพฯ สำนักพิมพ์ : การพิมพ์พาณิชย์ จำนวนหน้า : 114 หน้าสาระสังเขป : เมขลา-รามสูร ของเสฐียรโกเศศ นางสาวสมจิตร ชิตินทร พิมพ์แจกเป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ นางสาวไขศรี ชิตินทร ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม 28 มิถุนายน 2507 เนื้อหาในหนังสือตอนแรกจะกล่าวถึงประวัติของนางสาวไขศรี ชิตินทร ตอนต่อไปจะเป็นเรื่อง เมขลา-รามสูร ของเสฐียรโกเศศ และนาคะประทีป เนื้อเรื่องจะเป็นการเล่าถึงเรื่องราวของเมขลากับรามสูรพร้อมทั้งข้อสันนิษฐานบางอย่าง โดยเรื่องบางเรื่องที่นำมาอ้าง เป็นข้อความที่คัดเอามาลงไว้ทั้งตอน เพื่อให้ได้อ่านกวีนิพนธ์ที่อาจจะลืมไปบ้างแล้ว ตอนที่ 2 บันทึกคำว่าเมขลา ของนายกี อยู่โพธิ์
ชื่อเรื่อง สวดมนต์สิบสองตำนาน (สวดมนต์สิบสองตำนาน)สพ.บ. 435/1ประเภทวัสดุมีเดีย คัมภีร์ใบลานหมวดหมู่ พุทธศาสนาลักษณะวัสดุ 82 หน้า กว้าง 4.5 ซม. ยาว 56.5 ซม.หัวเรื่อง พุทธศาสนา บทสวดมนต์บทคัดย่อ/บันทึก เป็นคัมภีร์ใบลาน อักษรธรรมอีสาน ภาษาบาลี เส้นจาร ฉบับลานดิบ ได้รับบริจาคมาจาก วัดลานคา ต.โคกคราม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี