ค้นหา

รายการที่พบทั้งหมด 48,758 รายการ

แนะนำ E-book หนังสือหายาก เรื่อง งานรูปพรรณเครื่องประดับ


“สุดาวรรณ” ยินดี ครม. ไฟเขียวเอกสารเสนอ “วัดพระมหาธาตุฯ นครศรีธรรมราช” ขึ้นทะเบียนมรดกโลก เร่งดันขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแหล่งที่ 6 ของไทยและมรดกโลกแห่งแรกของภาคใต้ ประกาศเดินหน้านโยบายผลักดันทุกภูมิภาค มีแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม  นำมรดกทางวัฒนธรรมกระตุ้นเศรษฐกิจ – ชูประเทศไทยเป็นหมุดหมายสำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยว              วันที่ 28 มกราคม 2568 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.)  กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบเอกสารนำเสนอขอประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ฉบับสมบูรณ์ของแหล่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระบรมธาตุ) จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปยังศูนย์มรดกโลก ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อนำเสนอเข้าสู่กระบวนการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก กระทรวงวัฒนธรรม โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมมีนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักในการเพิ่มขีดความสามารถ ซึ่งในส่วนของโบราณสถานนั้นจะมีการเสริมสร้างระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม จะมีการยกระดับการบริการของพิพิธภัณฑ์โบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ และมีการส่งเสริม สร้างสรรค์ทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ โดยให้มีแหล่งมรดกโลกครบทุกภูมิภาคและเร่งการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับโลก                “หลังจากที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบให้นำเสนอเอกสารขอประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ฉบับสมบูรณ์ ของแหล่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระบรมธาตุ) จังหวัดนครศรีธรรมราช ไปยังศูนย์มรดกโลก หากวัดพระมหาธาตุฯ จังหวัดนครศรีธรรมราชได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก จะเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมแหล่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกในภาคใต้ จะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับท้องถิ่นและประเทศไทย เพิ่มศักยภาพการแข่งขันในเวทีโลก ทราบว่ากระบวนการพิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกของแหล่งวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระบรมธาตุ) ดังนี้ 1.ภายในวันที่ 31 มกราคม 2568 ดำเนินการจัดส่งเอกสารขอประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ฉบับสมบูรณ์ถึงศูนย์มรดกโลก 2. เดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม 2568 ศูนย์มรดกโลกนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการประเมินซึ่งอาจมีการประสานจากศูนย์มรดกโลก เพื่อแจ้งการได้รับเอกสาร ความคืบหน้า หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม 3. เดือนสิงหาคม 2568 เป็นต้นไปจะเข้าสู่กระบวนการตรวจประเมินประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ การประเมินศักยภาพของแหล่งในพื้นที่, การประเมินคุณค่าของแหล่งตามเอกสารที่นำเสนอและการตอบข้อซักคำถาม 4. เดือนพฤษภาคม 2569 ศูนย์มรดกโลกจะรวบรวมความเห็นขององค์กรที่ปรึกษาฯ และจัดทำร่างมติผลการพิจารณาประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลกแจ้งต่อรัฐภาคี และพิจารณาบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ และเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม 2569 คณะกรรมการมรดกโลกพิจารณาตัดสินการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก” รมว.วธ. กล่าว                ทั้งนี้ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระบรมธาตุ) จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการบรรจุรายชื่อในบัญชีชั่วคราว (Tentative List) ตั้งแต่ พ.ศ. 2555 โดย วธ.ในฐานะคณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรมได้มอบหมายกรมศิลปากรให้คำปรึกษาแนะนำการปรับปรุงเอกสารนำเสนอขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก (Nomination Dossier) ของแหล่งวัดพระมหาธาตุฯ อย่างใกล้ชิด ในการปรับเปลี่ยนและเลือกเฟ้นคุณค่าโดดเด่นระดับสากล (Outstanding Universal Value หรือ OUV) ที่แสดงถึงคุณค่าความสำคัญในระดับโลกของวัดพระมหาธาตุฯ จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งได้มีการส่งร่างเอกสารไปขอรับการตรวจสอบความถูกต้องของรูปแบบและความครบถ้วนของเอกสารจากศูนย์มรดกโลก เมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยแหล่งวัดพระมหาธาตุฯ มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเกณฑ์ของมรดกโลกที่เลือกนำเสนอ จำนวน 2 ข้อ ดังนี้ เกณฑ์ข้อที่ 2 วัดพระมหาธาตุแสดงให้เห็นถึงความหลากหลายทางศาสนา ความต่อเนื่องทางจิตวิญญาณ และองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนถึงอิทธิพลทางศาสนาและรูปแบบศิลปะ จากศาสนาฮินดู พุทธศาสนามหายาน และพุทธศาสนาเถรวาท ที่ได้รับการถ่ายทอดทั่วทั้งตอนใต้ของเอเชียภาคพื้นสมุทรมาเป็นเวลาประมาณ 1,500 ปี วัดพระมหาธาตุมีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่หลากหลายและทรงคุณค่าซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากแหล่งที่สำคัญในภูมิภาคนี้ เช่น ศิลปะปาละจากนาลันทา ศิลปะชวาภาคกลาง ศิลปะศรีลังกา และศิลปะมอญจากเมียนมาทางตอนใต้ จึงเป็นตัวอย่างของการแลกเปลี่ยนทางศาสนาและสถาปัตยกรรมในมวลมนุษย์อย่างชัดเจน โดยรูปแบบสถาปัตยกรรม การปฏิบัติทางพุทธศาสนา และประเพณีที่ยังคงดำรงอยู่ของอารามแห่งนี้ ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ อีกด้วย               รวมทั้ง เกณฑ์ข้อที่ 6 วัดพระมหาธาตุเป็นศูนย์กลางทางศาสนาของเมืองที่สำคัญและเป็นศูนย์กลางของประเพณีที่ยังดำรงอยู่ด้วยระบบความเชื่อที่หลากหลาย ซึ่งได้ผสมผสานระหว่างความเชื่อพื้นเมืองดั้งเดิม ความเชื่อในศาสนาฮินดู และพุทธศาสนาในกาลต่อมา ดังเห็นได้จากการบูชา การทำบุญ และประเพณีประจำปี ลักษณะอันเป็นเอกลักษณ์ของประเพณีที่ยังสืบทอดอยู่ในอารามแห่งนี้ เช่น พิธีแห่ผ้าขึ้นธาตุ การแสดงโนรา การบูชาบรรพบุรุษ พิธีพราหมณ์ งานศิลปะเฉพาะถิ่น และประเพณีท้องถิ่น ต่างสะท้อนถึงความสัมพันธ์ระหว่างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้กับชุมชนรายรอบอย่างชัดเจน อีกทั้งเป็นแนวทางให้กับอารามและชุมชนอื่น ๆ บนคาบสมุทรภาคใต้ของไทยและภูมิภาคอื่น ๆ ได้ปฏิบัติตามอีกด้วย               รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม  กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยมีแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่ได้รับการบรรจุรายชื่อในบัญชีชั่วคราว (Tentative List) จำนวน 5 แหล่ง ได้แก่ 1.วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระบรมธาตุ) จังหวัดนครศรีธรรมราช 2.กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด 3.อนุสรณ์สถาน แหล่งต่าง ๆ และภูมิทัศน์วัฒนธรรมของเชียงใหม่ นครหลวงของล้านนา 4.พระธาตุพนม  กลุ่มสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง และ5.สงขลา และชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา นอกจากนี้ ประเทศไทยมีแหล่งมรดกโลกวัฒนธรรมที่ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก (World Heritage Sites) จำนวน 5 ได้แก่ 1.นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา 2.เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร 3.แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง 4.เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง และ5.ภูพระบาท ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมา 








          อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ขอเชิญเที่ยวชมงานบวงสรวงเจ้าพ่อศรีเทพ ประจำปี 2568 ในวันที่ 30 - 31 มกราคม 2568 ซึ่งจัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี เพื่อสักการะเจ้าพ่อศรีเทพซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนในท้องที่ ร่วมชมขบวนแห่ข้าวต้มยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดโลก พิธีรำบวงสรวงเจ้าพ่อศรีเทพ การแสดงจากคณะหมอลำระเบียบวาทะศิลป์ ฯลฯ เชิญชวนทุกท่านไปร่วมพิธีอันเป็นมงคล ขอโชค ขอพรได้ตลอดปี 2568 ณ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์


             เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 17.30 น. นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ 68 “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” ณ สังคีตศาลา พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยมีผู้บริหารกรมศิลปากร และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมชมการแสดงจำนวนมาก              รายการดนตรีสำหรับประชาชน ณ สังคีตศาลา เป็นรายการแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม ที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อนำเสนอการบรรเลง ขับร้อง และการแสดงที่หลากหลาย ซึ่งล้วนแสดงออกถึงเอกลักษณ์ที่มีคุณค่าอันควรแก่การอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของชาติ สำหรับปีนี้ กำหนดจัดการแสดงทุกวันอาทิตย์ รวม 7 ครั้ง เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 16 มีนาคม 2568 เวลา 17.30 – 19.30 น. โดยในวันเปิดโครงการฯ ได้จัดการแสดงชุดพิเศษต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ประกอบด้วย การแสดงชุดมะเส็งหรรษา เริงร่าเภรี ปีใหม่ไทยจีน การแสดงละคร เรื่องเอียฮู ผู้กตัญญู และละคร เรื่องสามก๊ก ตอน จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า ส่วนการแสดงในครั้งต่อๆ ไปยังได้เตรียมรายการแสดงที่หลากหลาย ทั้งการแสดงโขน ละคร ระบำ รำ ฟ้อน การบรรเลงดนตรีไทย และดนตรีสากล สลับสับเปลี่ยนกันไป ดังนี้              วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 การบรรเลงดนตรีไทย “ชุดร้อยเรียงเสียงดนตรี”              วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 การแสดงวิพิธทัศนา ประกอบด้วย การบรรเลงดนตรีไทย ระบำสวัสดิรักษา ระบำอัศวลีลา การแสดงชุดจับม้ามังกร (แนวตลก) และการแสดงละคร เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนหึงนางลาวทอง – ลักพานางวันทอง ซึ่งเป็นการแสดงที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ดำเนินเรื่องตามบทพระราชนิพนธ์ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ เพื่อเฉลิมพระเกียรติกรมพระราชวังบวรสถานมงคลที่ทรงมีคุณูปการต่อศิลปวัฒนธรรมของชาติ              วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 การบรรเลง – ขับร้องวงดุริยางค์สากล “ลิเกออร์เคสตรา”              วันที่ 2 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีไทย และการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ชุด ร่มโพธิสมภารมารซื่อ              วันที่ 9 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีไทย การแสดงระบำนาฏดุริยะแห่งภูพระบาท รำฉุยฉายนางวิฬาร์แสนรู้ การแสดงสร้างสรรค์ ชุดสกุณกินรีศรีสำอาง และละครนอก เรื่องแก้วหน้าม้า ตอนถวายลูก              วันที่ 16 มีนาคม 2568 การบรรเลงดนตรีสากล ฟ้อนลาวคำหอม ออกฟ้อนแพน ละคร เรื่อง พระลอ ตอนตามไก่ และละคร เรื่องสุวรรณหงส์ ตอนกุมภณฑ์ถวายม้า              ขอเชิญผู้สนใจชมการแสดงรายการ “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ค่าเข้าชมการแสดงคนละ 20 บาท (จำหน่ายบัตรหน้างานก่อนการแสดง 1 ชั่วโมง) นำส่งเป็นเงินรายได้แผ่นดิน เพื่อร่วมกันอนุรักษ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมด้านนาฏดุริยางคศิลป์ของชาติ ให้คงอยู่และแพร่หลายอย่างกว้างขวางสืบไป



            อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ขอเชิญร่วมกิจกรรม “ซุโขทัย Light up : Light & Love” ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มวันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ – วันอาทิตย์ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๘.๐๐-๒๑.๐๐ น. กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย             - เปิดไฟส่องโบราณสถานยามค่ำคืน ในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ชั้นใน             - ประดับไฟโบราณสถานวัดมหาธาตุ สุดงดงามแบบเต็มรูปแบบ             - ยกตลาดท่าน้ำรับเสด็จฯ มาไว้ตรงข้ามวัดมหาธาตุ ให้นักท่องเที่ยวได้รับประทานอาหารพร้อมดื่มด่ำความงดงามของวัดมหาธาตุ             - บริการเช่าชุดไทย             - จำหน่ายหนังสือกรมศิลปากร             - การแสดงทุกวันเสาร์จากวิทยาลัยนาฏศิลป์สุโขทัย วันเสาร์ที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ การแสดงวิพิธทัศนา “รุ่งอรุณแห่งความสุข” วันเสาร์ที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ การแสดงอิงประวัติศาสตร์ “นักรบแห่งบางขลัง” วันเสาร์ที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ การแสดงวิพิธทัศนา “ชวนเต้น ชวนรำ ทำ Craft” วันเสาร์ที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ การแสดงดนตรีสากล “Song of Love” โดย วง Super Natural (ชนะเลิศการประกวดระดับประเทศ) วันเสาร์ที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๘ การแสดง “หมากรุกคน”             - กิจกรรมพิเศษ วันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ร่วมกับ ททท.สุโขทัย จัดกิจกรรมเวียนเทียนตะคันเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย โดยมีการแจกตะคันฟรี ๔๐๐ อัน และมีการแสดงโขน จากวิทยาลัยนาฏศิลป์สุโขทัย วันศุกร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ชวนมาดูหนังรักวันวาเลนไทน์ (หนังกลางแปลง) ณ บริเวณหน้าวัดมหาธาตุ และชวนคู่รัก คู่เพื่อน หรือครอบครัวมาลงทะเบียนรับตะคันรูปดอกกุหลาบ จำนวนจำกัด ๒๐๐ อัน ร่วมกันจุดแสงแห่งรักนำไปบูชามหาธาตุ ในวันแห่งความรัก หรือเก็บเป็นที่ระลึก              สอบถามเพิ่มเติมได้ที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย โทร. 0 5569 7527 Facebook: อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย 


            สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ขอเชิญชมการแสดงโครงการดนตรีสำหรับประชาชน ปีที่ ๖๘ “เหมันต์สุขสันต์ หฤหรรษ์สังคีต” วันอาทิตย์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ การบรรเลงดนตรีไทย “ชุดร้อยเรียงเสียงดนตรี” เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พบกับรายการบรรเลง - ขับร้อง ดังต่อไปนี้             ๑. การบรรเลงวงเครื่องสายปี่ชวา โหมโรงเพลงเจริญศรีอยุธยา ออกสะระหม่า             ๒. การบรรเลง - ขับร้องวงเครื่องสายผสมขิม เพลงตับเรื่องสามก๊ก (ตับจูล่ง)             ๓. การบรรเลง - ขับร้องวงมโหรีเครื่องแปด ขับลำนำเพลงเกร็ดในสมัยอยุธยา             ๔. การบรรเลง - ขับร้อง วงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ เพลงระบำเริงอรุณ และ เพลงล่องเรือพระนคร             ๕. การบรรเลง - ขับร้อง วงปี่พาทย์ไม้แข็ง เพลงมิ่งขวัญกัลยา เถา เพลงทยอยญวน เถา             ๖. การบรรเลงเดี่ยวระนาดเอกเพลงพญาโศก เถา             ๗. การบรรเลง - ขับร้อง วงปี่พาทย์ไม้แข็ง เพลงแขกบรเทศ เถา บรรเลง - ขับร้องโดย ศิลปินสำนักการสังคีต, ออกแบบรายการบรรเลง - ขับร้องโดย อัญชิษฐา สุขีลักษณ์, ควบคุมการบรรเลง - ขับร้องโดย เลอเกียรติ มหาวินิจฉัยมนตรี, อำนวยการแสดงโดย ศิริพงษ์ ทวีทรัพย์ ผู้อำนวยการสำนักการสังคีต             บัตรราคา ๒๐ บาท (จำหน่ายบัตรก่อนการแสดง ๑ ชั่วโมง) ณ สังคีตศาลา บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม (วันและเวลาราชการ) โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๑๓๔๒ และ โทร. ๐ ๒๒๒๑ ๖๕๓๓ สำหรับรายการแสดงในสัปดาห์ต่อไปสามารถดูได้ที่ลิ้งค์นี้ https://www.finearts.go.th/promotion/view/53929  


             พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ขอเชิญทุกท่านร่วมชมนิทรรศการ “The Precise Moment” โดยจิระพัฒน์ พิตรปรีชา เป็นนิทรรศการที่รวบรวมผลงานจิตรกรรมที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2559 - 2566 สะท้อนถึงภาพจำที่มีต่ออุบัติการณ์อันถือได้ว่าส่งผลกระทบต่อจิตใจของศิลปิน การสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินถ่ายทอดความเศร้าโศกเสียใจ อีกทั้งความโหยหาอาวรณ์ออกมาเป็นงานจิตรกรรมนามธรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดกระบวนการหลอมรวมทางศิลปะโดยใช้ทัศนธาตุสื่อออกมาเป็นงานจิตรกรรม ซึ่งผลงานส่วนใหญ่ระบายปาดป้ายลงบนผืนผ้าใบอย่างฉับพลันทันที ในห้วงขณะที่ย้อนรำลึกไป ณ เวลาและสถานการณ์อันยากต่อการบรรยาย รู้แต่เพียงว่าทุกสรรพสิ่งล้วนเลือนลับดับหาย และผลงานศิลปะของศิลปินอาจจะบอกกล่าวเรื่องที่ปกติและไม่ปกติเหล่านี้ออกมาได้ไม่มากก็น้อย              นิทรรศการ “The Precise Moment" โดยจิระพัฒน์ พิตรปรีชา เปิดให้เข้าชมระหว่างวันที่ 1 – 27 กุมภาพันธ์ 2568 ณ อาคารนิทรรศการ 6 พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ตั้งเเต่เวลา 09.00 - 16.00 น. ทุกวันพุธ - อาทิตย์ (ปิดให้บริการวันจันทร์ - อังคาร) ค่าเข้าชม ชาวไทย : 30 บาท ชาวต่างชาติ : 200 บาท นักเรียน นักศึกษา ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เข้าชมฟรี โดยได้รับเกียรติจากผู้ช่วยศาสตราจารย์อิทธิ คงคากุล เป็นประธานในพิธีเปิดนิทรรศการวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 17.00 น. สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายวิชการ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป โทร. 0 2282 2639 ----------------------------------------------- “The Precise Moment" by Jirapat Pitpreecha Exhibition dates 1st - 27th February 2025 : 9 AM. - 4 PM. Closed on Monday - Tuesday. At Building 6, The National Gallery of Thailand Opening Reception 2nd February 2025 : 5 PM.  


          วันจันทร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. นายธงชัย มหา ผู้อำนวยการกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ตรวจรับงานงวดที่ ๒ โครงการบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานวัดนางเขียวค้อม ตำบลพานพร้าว อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย


black ribbon.