เครื่องมือช่วยการเข้าถึง
color contrast
text size
highlighting content
zoom in


สำรวจเตาเผาภาชนะในวัฒนธรรมเขมรโบราณ ย่านอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์
"ลัดเลาะสำรวจเตาเผาภาชนะในวัฒนธรรมเขมรโบราณ ย่านอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์"
 
 
 
จากการสำรวจแหล่งเตาเผาภาชนะ ในวัฒนธรรมเขมรโบราณ พื้นที่ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า แหล่งโบราณคดี ประเภท เตาเผาโบราณ จะมีลักษณะภูมิประเทศเป็นโนนดินขนาดใหญ่ รูปทรงกลม หรือรี 
 
หลักฐานทางโบราณคดีที่มักพบจากแหล่งเตาเผาภาชนะ ในวัฒนธรรมเขมรโบราณ แน่นอนว่าหัวใจของแหล่งเตาเผาภาชนะโบราณ เราต้องพบ (1) ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาเนื้อแกร่ง ตกเเต่งด้วยวิธีการเคลือบน้ำเคลือบสีน้ำตาล เเละเคลือบน้ำเคลือบสีเขียว ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของเตา ใช้อุณหภูมิประมาณ 1,200-1,300 ปีมาเเล้ว (2) กี๋เม็ด เเละ (3) ร่องรอยโครงสร้างเตาเผาที่มีลักษณะเป็นก้อนดินเผาไฟขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าเป็นผนังเตา ซึ่งจะแตกต่างจากแหล่งโบราณคดี ประเภท แหล่งถลุงเหล็ก เพราะไม่พบร่องรอยขี้แร่ (slag) ท่อลม (tuyère) หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการถลุงเหล็ก 
 
สำหรับ กี๋เม็ด มีลักษณะเป็นก้อนดินปั้นด้วยมือ มีรูปทรงกลม หรือเกือบกลม ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-5 เซนติเมตร โดยยิ่งเตาเผามีขนาดใหญ่ เราจะยิ่งพบกี๋เม็ดเป็นจำนวนมาก จากร่องรอยกี๋เม็ดที่พบบนชิ้นส่วนภาชนะดินเผา พบว่า กี๋เม็ดจะถูกวางอยู่บริเวณก้นหรือขอบของภาชนะ เพื่อให้ภาชนะเกิดช่องว่าง เเละเมื่อเวลาเผาน้ำเคลือบเเต่ละใบ จะไม่ไหลเชื่อมติดกัน คนโบราณจึงได้ภาชนะที่มีความสมบูรณ์ ไม่ติดกันจนเป็นของเสีย
 
สำหรับผลิตภัณฑ์ภาชนะดินเผาจากแหล่งเตาบ้านกรวด ถูกพบกระจายหลายเมืองโบราณในดินเเดนไทย ที่ปรากฏร่องรอยวัฒนธรรมเขมรโบราณ อาทิ เมืองพิมาย เมืองสุโขทัย เมืองลพบุรี เมืองสุพรรณบุรี เมืองราชบุรี เมืองเพชรบุรี เเละศาสนสถานในวัฒนธรรมเขมรโบราณ ที่ถูกสร้างขึ้นเเละใช้งานในช่วงเวลาดังกล่าว
 
ที่ผ่านมากรมศิลปากรกำหนดอายุสมัยเตาผลิตภาชนะดินเผา ในวัฒนธรรมเขมรโบราณ ด้วยวิธีวิทยาศาสตร์ อยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15-18 ทั้งนี้ การกำหนดอายุดังกล่าวยังเป็นข้อถกเถียง สืบเนื่องมาจากอุปกรณ์เเละเครื่องมือในอดีตที่ยังไม่ทันสมัยนัก การกำหนดอายุจึงเป็นอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ที่ทำให้เกิดโครงการศึกษาทางโบราณคดีเพื่อจัดลำดับอายุสมัยแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาประเภทเนื้อแกร่ง ในประเทศไทย โดยกองโบราณคดี กรมศิลปากร ขึ้นในครั้งนี้ 
 
จากจำนวนแหล่งโบราณคดี ประเภท เตาเผาภาชนะ ในวัฒนธรรมโบราณ สะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 15-18 ซึ่งเป็นช่วงที่วัฒนธรรเขมรโบราณแผ่อิทธิพลเข้ามายังพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงของดินเเดนไทย คงเป็นพื้นที่ผลิตภาชนะดินเผาที่ตกแต่งด้วยวิธีการเคลือบน้ำเคลือบสีน้ำตาล และเคลือบน้ำเคลือบสีเขียว ในระดับอุตสาหกรรม ของวัฒนธรรมเขมรโบราณ 
 
ถ้าทุกท่านอยากชมแหล่งเตาโบราณที่ขุดศึกษาทางโบราณคดี มีอาคารหลังคาคลุมเรียบร้อยแล้ว ก็ขอเชิญชวนมาชม แหล่งเตาโบราณนายเจียน และแหล่งเตาโบราณสวาย ที่อำเภอบ้านกรวด แดนดินถิ่นเตาโบราณในวัฒนธรรมเขมรโบราณ กันได้นะครับ
 
อ้างอิงข้อมูลจาก
หนังสือ
1) กรมศิลปากร. เครื่องถ้วยลพบุรีจากแหล่งเตาเผาบุรีรัมย์. กรุงเทพฯ: กรมศิลปากร. 2532.
2) รัชนก โตสุพันธุ์ เเละสถาพร เที่ยงธรรม. โบราณคดีวิเคราะห์ 2 : เครื่องถ้วยบุรีรัมย์และเครื่องถ้วยสุโขทัย. กรุงเทพฯ: สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร. 2539.
สัมภาษณ์
1) นายสุรพล เทวัญรัมย์. รองฯประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอบ้านกรวด. สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2566
2) นางสาวอิสราวรรณ อยู่ป้อม นักโบราณคดีชำนาญการ กองโบราณคดี กรมศิลปากร. สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2566
"โบราณสถาน โบราณวัตถุ เป็นสมบัติของชาติ ต้องช่วยกันรักษาไว้"
 
เรียบเรียงนำเสนอโดย นายวรรณพงษ์ ปาละกะวงษ์ ณ อยุธยา นักโบราณคดีปฏิบัติการ

(จำนวนผู้เข้าชม 1934 ครั้ง)