ประกาศสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
เรื่อง สอบราคาจ้างเหมาดำเนินการขุดแต่งโบราณสถานปราสาทโคกปราสาท(โคกงิ้ว)
จ.บุรีรัมย์
--------------------------------
ด้วยกรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา มีความประสงค์จะสอบราคาจ้าง โครงการขุดแต่งโบราณสถานปราสาท(โคกงิ้ว) ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ กิจกรรมขุดค้นและขุดแต่งโบราณสถาน กำหนดเวลาทำงานแล้วเสร็จภายใน ๒๗๐ วัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
๑. ขุดแต่งโบราณสถานภายในกำแพงแก้ว ลึกเฉลี่ย ๐.๙๐ เมตร พื้นที่ ๘๐๐ ลูกบาศก์เมตร
๒. ขุดแต่งโบราณสถานนอกนกำแพงแก้ว ลึกเฉลี่ย ๐.๘๐ เมตร พื้นที่ ๑,๐๓๘ ลูกบาศก์เมตร
๓. สำรวจวางแนวกริด + ทำผังหินหล่น พื้นที่ ๒,๑๘๕ ตารางเมตร
๔. ขุดค้นเพื่อศึกษางานโบราณคดี ขนาดหลุม ๒x๒x๒.๒.๕ เมตร พื้นที่ ๔๐ ลูกบาศก์เมตร
๕. เขียนแบบโบราณสถานสภาพก่อนการขุดแต่ง พื้นที่ ๙๘๘ ตารางเมตร
๖. เขียนแบบโบราณสถานสภาพหลังการขุดแต่ง พื้นที่ ๑,๒๓๕ ตารางเมตร
๗. จัดทำนั่งร้านและเสริมความมั่นคงโบราณสถานหลังการขุดแต่ง พื้นที่ ๖๐ ตารางเมตร
๘. งานกระจายกองหิน+ทดลองประกอบหินคืนสภาพ พื้นที่ ๑๕ ลูกบาศก์เมตร
๙. งานทำแบบแสดงการทดลองประกอบหิน พื้นที่ ๗๕ ตารางเมตร
๑๐. งานทำแบบวิเคราะห์เพื่อศึกษารูปแบบทางสถาปัตยกรรม พื้นที่ ๑,๒๓๕ ตารางเมตร
๑๐. เขียนแบบเพื่อการบูรณะโบราณสถานตามรายละเอียดที่คณะกรรมการวิชาการ
พิจารณาเห็นชอบ พื้นที่ ๑,๒๓๕ ตารางเมตร
โดยมีข้อกำหนดและเงื่อนไข ดังต่อไปนี้
ผู้มีสิทธิ์เสนอราคาจะต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติ ดังนี้
๑. ต้องเป็นนิติบุคคล ผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่สอบราคาจ้าง
๒. ต้องมีผลงานบูรณะโบราณสถาน ประเภทหินหรือศิลาแลง ด้วยวิธีอนัสติโลซีส ในวงเงิน ไม่น้อยกว่า ๔๔๒,๐๐๐.-บาท(สี่แสนสี่หมื่นสองพันบาทถ้วน) ที่แล้วเสร็จในสัญญาเดียว และเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งกฎหมายบัญญัติ ให้มีฐานะเป็นราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่สำนักศิลปากร ที่ ๑๒ นครราชสีมา เชื่อถือได้
๓. ต้องไม่เป็นผู้ที่ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว
๔. ต้องไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์ หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่ รัฐบาลของผู้เสนอราคาได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์ความคุ้มกันเช่นว่านั้น
๕. ไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่นที่เข้าเสนอราคาให้แก่สำนักศิลปากร ที่ ๑๒ นครราชสีมา ณ วันสอบราคา หรือไม่เป็นผู้กระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมในการสอบราคาจ้างครั้งนี้
กำหนดดูสถานที่ และรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม ในวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ โดยพร้อมกัน ณ สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา เวลา ๐๙.๓๐ น. แล้วเจ้าหน้าที่จะพาเดินทางต่อไป เพื่อดูสถานที่ ณ โบราณสถานปราสาทโคกปราสาท(โคกงิ้ว) ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
ให้ผู้ที่ขอรับรูปแบบรายการไปดูสถานที่ตามวัน เวลา ดังกล่าว เพื่อรับฟังคำอธิบายชี้แจง รายละเอียดเพิ่มเติม ในกรณีที่ไม่สามารถไปดูสถานที่ได้ด้วยตนเองให้มีหนังสือมอบอำนาจให้ผู้อื่นเป็นผู้แทนไปดูสถานที่และรับฟังคำชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติม โดยถือว่าผู้ขอรับแบบและรายการทุกรายได้ทราบสถานที่รายละเอียดเงื่อนไข ตลอดจนปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ดีแล้ว เมื่อมีปัญหาและอุปสรรคในเวลาปฏิบัติงานจะนำมาอ้างให้พ้นความรับผิดต่อทางราชการมิได้ สำหรับผู้ที่ไม่ไปดูสถานที่ตามวัน เวลา ที่กำหนดแต่มีความประสงค์จะขอยื่นซองเสนอราคาจะต้องยินยอมรับทราบ เสมือนหนึ่งว่าได้ไปดูสถานที่แล้ว
กำหนดรับซองสอบราคา ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ในเวลา ๐๙.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ตามนาฬิกาของฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา และคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานส่วนที่ ๑ ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคา ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. ณ ห้องประชุมสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา และตรวจสอบเอกสารหลักฐานส่วนที่ ๒ และพิจารณาผลการสอบราคา ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๐๐ น. เป็นต้นไป ณ ห้องประชุมสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
ผู้สนใจติดต่อขอรับเอกสารสอบราคา ได้ที่ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๕.๐๐ น. หรือสอบถามทางโทรศัพท์ หมายเลข ๐ ๔๔๔๗ ๑๕๑๘ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ
สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา ขอสงวนสิทธิ์ที่จะยกเลิกการสอบราคา โดยไม่จัดจ้างก็ได้ หากไม่ได้รับอนุมัติเงินประจำงวด ทั้งนี้ ผู้รับจ้าง จะถือเป็นข้ออ้างเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ มิได้
ประกาศ ณ วันที่ ๘ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
(นายศักดิ์ชัย พจน์นันท์วานิชย์)
ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมศิลปากร
เอกสารสอบราคาจ้าง เลขที่ ๑/๒๕๕๔
จ้างเหมาดำเนินโครงการขุดแต่งโบราณสถานปราสาท(โคกงิ้ว) ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
ตามประกาศสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
ลงวันที่ ๘ เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๓
-------------------------------
กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า " สำนักฯ " มีความประสงค์จะสอบราคาจ้างเหมาดำเนินโครงการขุดแต่งโบราณสถานปราสาท(โคกงิ้ว) ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ กำหนดเวลาทำงานแล้วเสร็จภายใน ๒๗๐ วัน โดยมีข้อแนะนำและข้อกำหนด ดังนี้
๑. เอกสารแนบท้ายเอกสารสอบราคา
๑.๑ แบบรูปรายการละเอียด
๑.๒ แบบใบเสนอราคา
๑.๓ แบบสัญญาจ้าง
๑.๔ แบบหนังสือค้ำประกัน
๑.๕ บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและค่าแรงงาน
๑.๖ สูตรการปรับราคา
๑.๗ บทนิยาม
(๑) ผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน
(๒) การขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
๑.๘ แบบบัญชีเอกสาร
(๑) บัญชีเอกสารส่วนที่ ๑
(๒) บัญชีเอกสารส่วนที่ ๒
๒. คุณสมบัติของผู้เสนอราคา
๒.๑ ผู้เสนอราคาต้องเป็นผู้มีอาชีพรับจ้างงานที่สอบราคาจ้าง
๒.๒ ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ถูกระบุชื่อไว้ในบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงานของทางราชการและได้แจ้งเวียนชื่อแล้ว หรือไม่เป็นผู้ที่ได้รับผลของการสั่งให้นิติบุคคลอื่น เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
๒.๓ ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศสอบราคาหรือไม่เป็นผู้ถูกกระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมตามข้อ ๑.๗
๒.๔ ผู้เสนอราคาต้องไม่เป็นผู้ได้รับเอกสิทธิ์หรือความคุ้มกัน ซึ่งอาจปฏิเสธไม่ยอมขึ้นศาลไทย เว้นแต่รัฐบาลของผู้เสนอราคาได้มีคำสั่งให้สละสิทธิ์และความคุ้มกัน เช่นว่านั้น
๒.๕ ต้องมีผลงานบูรณะโบราณสถาน ประเภทหินหรือศิลาแลง ด้วยวิธีอนัสติโลซีส ในวงเงิน ไม่น้อยกว่า ๔๔๒,๐๐๐.-บาท(สี่แสนสี่หมื่นสองพันบาทถ้วน) ที่แล้วเสร็จในสัญญาเดียว และเป็นคู่สัญญาโดยตรงกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งกฎหมายบัญญัติ ให้มีฐานะเป็นราชการส่วนท้องถิ่น รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานเอกชนที่สำนักศิลปากร ที่ ๑๒ นครราชสีมา เชื่อถือได้
๓. หลักฐานการเสนอราคา
ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอเอกสารหลักฐานยื่นมาพร้อมกับซองใบเสนอราคา โดยแยกไว้นอกซองใบเสนอราคา เป็น ๒ ส่วน คือ
๓.๑ ส่วนที่ ๑ อย่างน้อยต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
(๑) ในกรณีผู้เสนอราคาเป็นนิติบุคคล
(ก) ห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล บัญชีรายชื่อหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
(ข) บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด ให้ยื่นสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล หนังสือบริคณห์สนธิ บัญชีรายชื่อกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจควบคุม และบัญชีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
(๒) ในกรณีผู้เสนอราคา เป็นผู้เสนอราคาร่วมกันในฐานะเป็นผู้ร่วมค้า ให้ยื่นสำเนาสัญญาของการเข้าร่วมค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ร่วมค้า และในกรณีที่ผู้เข้าร่วมค้าฝ่ายใด เป็นบุคคลธรรมดาที่มิใช่สัญชาติไทย ก็ให้ยื่นสำเนาหนังสือเดินทาง หรือผู้ร่วมค้าฝ่ายใดเป็นนิติบุคคล ให้ยื่นเอกสารตามที่ระบุไว้ใน (๑)
(๓) สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(๔) บัญชีเอกสารส่วนที่ ๑ ทั้งหมดที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา ตามแบบในข้อ ๑.๗(๑)
๓.๒ ส่วนที่ ๒ อย่างน้อยต้องมีเอกสาร ดังต่อไปนี้
(๑) หนังสือมอบอำนาจ ซึ่งปิดอากรแสตมป์ตามกฎหมาย ในกรณีที่ผู้เสนอราคามอบอำนาจให้บุคคลอื่นลงนามในใบเสนอราคาแทน
(๒) สำเนาหนังสือรับรองผลงานที่รับรองโดยหัวหน้าส่วนราชการ หรือหัวหน้าหน่วยงาน ตั้งแต่ระดับผู้อำนวยการกอง หรือเทียบเท่าขึ้นไป และสำเนาสัญญาจ้าง (สำหรับผลงานที่ดำเนินการกับส่วนราชการ หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอื่นซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้มีฐานะเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(๓) สำเนาหนังสือรับรองผลงานของผู้ว่าจ้าง และสำเนาสัญญาจ้าง และสำเนาหลักฐานการเสียภาษีของผู้เข้าประกวดราคา (สำหรับผลงานบูรณะกับเอกชน) พร้อมทั้งรับรองสำเนาถูกต้อง
(๔) บัญชีเอกสารส่วนที่ ๒ ทั้งหมด ที่ได้ยื่นพร้อมกับซองใบเสนอราคา และบัญชีรายการวัสดุอุปกรณ์ ค่าแรงงาน ภาษีประเภทต่าง ๆ รวมทั้งกำไรไว้ด้วย ตามแบบในข้อ ๑.๗(๒)
๔. การยื่นซองสอบราคา
๔.๑ ผู้เสนอราคาต้องยื่นเสนอราคาตามแบบที่กำหนดไว้ในเอกสารสอบราคานี้ โดยไม่มี เงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น และจะต้องกรอกข้อความให้ถูกต้องครบถ้วน ลงลายมือชื่อของผู้เสนอราคาให้ชัดเจน จำนวนเงินที่เสนอจะต้องระบุตรงกันทั้งตัวเลขและตัวอักษร โดยไม่มีการขูด ลบหรือแก้ไข หากมีการขูด ลบ ตก เติม แก้ไข เปลี่ยนแปลง จะต้องลงลายมือชื่อผู้เสนอราคาพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) กำกับไว้ด้วยทุกแห่ง
๔.๒ ผู้เสนอราคาจะต้องกรอกปริมาณวัสดุและราคาในบัญชีรายการขุดแต่ง ให้ครบถ้วน หากบัญชีรายการขุดแต่งดังกล่าว ไม่พอที่จะกรอกปริมาณวัสดุและราคาขุดแต่ง ให้ผู้เสนอราคาจัดพิมพ์ต่อท้าย โดยอนุโลม ตามแบบแนบท้ายเอกสารประกาศนี้ได้
ในการเสนอราคาให้เสนอราคาเป็นเงินบาท และเสนอราคาเพียงราคาเดียว โดยเสนอราคารวมและหรือราคาต่อหน่วย และหรือราคาต่อรายการตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ท้ายใบเสนอราคาให้ถูกต้อง ทั้งนี้ ราคารวมที่เสนอจะต้องตรงกันทั้งตัวเลขและตัวหนังสือ ถ้าตัวเลขและตัวหนังสือไม่ตรงกันให้ถือตัวหนังสือเป็นสำคัญ โดยคิดราคารวมทั้งสิ้น ซึ่งรวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีอากรอื่น และค่าใช้จ่ายทั้งปวงไว้แล้ว หากราคารวมในใบเสนอราคาไม่ตรงกับราคารวมในบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและแรงงานค่าขุดแต่งไม่ตรงกัน ให้ถือราคารวมในใบเสนอราคาเป็นสำคัญ
ราคาที่เสนอจะต้องเสนอกำหนดยืนราคาไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน นับแต่วันเปิดซองสอบราคา โดยภายในกำหนดยื่นราคา ผู้เสนอราคาต้องรับผิดชอบราคาที่ตนได้เสนอไว้ และจะถอนการเสนอราคามิได้
๔.๓ ก่อนยื่นซองสอบราคา ผู้เสนอราคาควรตรวจดูร่างสัญญาแบบรูปและรายละเอียดให้ ถี่ถ้วนและเข้าใจเอกสารสอบราคาทั้งหมดเสียก่อนที่จะตกลงยื่นซองสอบราคา ตามเงื่อนไขในเอกสารสอบราคา
๔.๔ ผู้เสนอราคาจะต้องเสนอกำหนดเวลาดำเนินการบูรณะ แล้วเสร็จไม่เกิน ๒๗๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา หรือวันที่ได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักฯ ให้เริ่มทำงาน
๔.๕ ผู้เสนอราคาจะต้องยื่นซองสอบราคาที่ปิดผนึกซองเรียบร้อย จ่าหน้าซองเรียน ประธานคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา โดยระบุไว้ที่หน้าซองว่า " ใบเสนอราคาตามเอกสารสอบราคา เลขที่ ๑/๒๕๕๔ " ยื่นต่อเจ้าหน้าที่พัสดุ ตั้งแต่วันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ระหว่างเวลา ๐๙.๐๐ น. ถึงเวลา ๑๖.๐๐ น. โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ตามนาฬิกาของ ฝ่ายบริหารงานทั่วไป สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
เมื่อพ้นกำหนดเวลายื่นซองสอบราคาแล้ว จะไม่รับซองสอบราคาโดยเด็ดขาด และคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานส่วนที่ ๑ ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๙.๓๐ น. เป็นต้นไป และกำหนดเปิดซองใบเสนอราคาตามบัญชีเอกสารส่วนที่ ๒ ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๐๐ น. ตามนาฬิกาของห้องประชุมสำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา และตรวจสอบเอกสารหลักฐานส่วนที่ ๒ และพิจารณาผลการสอบราคา ในวันที่ ๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๑๑.๐๐ น.
คณะกรรมการเปิดซองสอบราคา จะดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เสนอราคาแต่ละรายว่าเป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ตามข้อ ๑.๖(๑) ณ วันประกาศสอบราคา หรือไม่ และประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือก ก่อนการเปิดซองใบเสนอราคา
หากปรากฏต่อคณะกรรมการเปิดซองสอบราคา หรือในขณะที่มีการเปิดซองใบเสนอราคาว่ามีผู้เสนอราคากระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามข้อ ๑.๖(๒) และคณะกรรมการฯ เชื่อว่ามีการกระทำอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม คณะกรรมการฯ จะตัดรายชื่อผู้เสนอราคารายนั้นออกจากการเป็นผู้เสนอราคา และประกาศรายชื่อผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือก และสำนักฯ จะพิจารณาลงโทษผู้เสนอราคาดังกล่าวเป็นผู้ทิ้งงาน เว้นแต่คณะกรรมการฯ จะวินิจฉัย ได้ว่า ผู้เสนอราคารายนั้น เป็นผู้ที่ให้ความร่วมมือเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของทางราชการและมิได้เป็นผู้ริเริ่มให้มีการกระทำดังกล่าว
ผู้เสนอราคาที่ถูกตัดรายชื่อออกจากการเป็นผู้เสนอราคา เพราะเหตุเป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศสอบราคา หรือเป็นผู้เสนอราคา ที่กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อาจอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อปลัดกระทรวงภายใน ๓ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการพิจารณาผลการเปิดซองราคา การวินิจฉัยอุทธรณ์ของปลัดกระทรวงให้ถือเป็นที่สุด
การยื่นอุทธรณ์ตามวรรค ๔ ย่อมไม่เป็นเหตุให้มีการขยายระยะเวลาการเปิดซองใบเสนอราคา เว้นแต่ปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นว่า การพิจารณาระยะเวลาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง และในกรณีที่ปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นด้วยกับคำคัดค้านของผู้อุธรณ์และเห็นว่าการยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง ให้ปลัดกระทรวงมีอำนาจยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาดังกล่าวได้
๕. หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณาราคา
๕.๑ ในการสอบราคาครั้งนี้ สำนักฯ จะพิจารณาตัดสินด้วยราคารวม
๕.๒ หากผู้เสนอราคารายใดมีคุณสมบัติไม่ถูกต้องตามข้อ ๒ หรือยื่นหลักฐานการเสนอราคาไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนตามข้อ ๓ หรือยื่นซองสอบราคาไม่ถูกต้องตามข้อ ๔ และคณะกรรมการฯ จะไม่รับพิจารณาราคาของผู้เสนอราคารายนั้น เว้นแต่เป็นข้อผิดพลาดหรือผิดหลงเพียงเล็กน้อย หรือผิดแผกไปจากเงื่อนไขของเอกสารสอบราคาในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ ทั้งนี้เฉพาะในกรณีที่พิจารณาเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสำนักฯ เท่านั้น
๕.๓ สำนักฯ สงวนสิทธิ์ไม่พิจารณาราคาของผู้เสนอราคา โดยไม่มีการผ่อนผันในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) ไม่ปรากฏชื่อผู้เสนอราคารายนั้นในบัญชีผู้รับเอกสารสอบราคา หรือในหลักฐานการรับเอกสารสอบราคาของสำนักฯ
(๒) ไม่กรอกชื่อนิติบุคคล หรือลงลายมือชื่อผู้เสนอราคาอย่างหนึ่งอย่างใด หรือทั้งหมดในใบเสนอราคา
(๓) เสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารสอบราคาที่เป็นสาระสำคัญหรือมีผลทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบแก่ผู้เสนอราคารายอื่น
(๔) ราคาที่เสนอมีการขูดลบ ตกเติม แก้ไขเปลี่ยนแปลง โดยผู้เสนอราคามิได้ลงลายมือชื่อพร้อมประทับตรา (ถ้ามี) กำกับไว้
๕.๔ ในการตัดสินการสอบราคาหรือในการทำสัญญา คณะกรรมการฯ หรือสำนักฯ มีสิทธิให้ผู้เสนอราคาชี้แจงข้อเท็จจริง สภาพ ฐานะ หรือข้อเท็จจริงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับผู้เสนอราคาได้ สำนักฯ มีสิทธิที่จะไม่รับราคาหรือไม่ทำสัญญา หากหลักฐานดังกล่าวไม่มีความเหมาะสมหรือไม่ถูกต้อง
๕.๕ สำนักฯ ทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะไม่รับราคาต่ำสุด หรือราคาหนึ่งราคาใด หรือราคาที่เสนอทั้งหมดก็ได้ และอาจพิจารณาเลือกจ้างในจำนวนหรือขนาด หรือเฉพาะรายการหนึ่งรายการใด หรืออาจจะยกเลิกการสอบราคา โดยไม่พิจารณาจัดจ้างเลยก็ได้สุดแต่จะพิจารณา ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญและให้ถือว่าการตัดสินของสำนักฯ เป็นเด็ดขาด ผู้เสนอราคาจะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ มิได้ รวมทั้งสำนักฯ จะพิจารณายกเลิกการสอบราคาและลงโทษผู้เสนอราคาเสมือนเป็นผู้ทิ้งงาน หากมีเหตุที่เชื่อถือได้ว่าการเสนอราคากระทำโดยไม่สุจริต หรือมีการสมยอมกันในการเสนอราคาอันเป็นเท็จ หรือใช้ชื่อบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลอื่นมาเสนอราคาแทน เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้เสนอราคาต่ำสุด เสนอราคาต่ำจนคาดหมายได้ว่าไม่อาจดำเนินงานตามสัญญาได้คณะกรรมการฯ หรือสำนักฯ จะให้ผู้เสนอราคารายนั้นชี้แจงและแสดงหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่าผู้เสนอราคาสามารถดำเนินการตามสอบราคาจ้างให้เสร็จสมบูรณ์ หากคำชี้แจงไม่เป็นที่รับฟังได้ สำนักฯ มีสิทธิที่จะไม่รับราคาของผู้เสนอราคารายนั้น
๕.๖ ในกรณีที่ปรากฏข้อเท็จจริงภายหลังจากการเปิดซองสอบราคาว่าผู้เสนอราคาที่มีสิทธิ์ได้รับการคัดเลือกตามที่ได้ประกาศรายชื่อไว้ ตามข้อ ๔.๕ เป็นผู้เสนอราคาที่มีผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้เสนอราคารายอื่น ณ วันประกาศสอบราคา หรือเป็นผู้เสนอราคาที่กระทำการอันเป็นการขัดขวางการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามข้อ ๑.๖(๒) สำนักฯ มีอำนาจที่จะตัดรายชื่อผู้เสนอราคาที่มีสิทธิได้รับการคัดเลือกดังกล่าวออกจากประกาศรายชื่อ ตามข้อ ๔.๕ และสำนักฯ จะพิจารณาลงโทษผู้เสนอราคารายนั้นเป็นผู้ทิ้งงาน
ในกรณีนี้หากปลัดกระทรวงพิจารณาเห็นว่าการยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาที่ได้ดำเนินการไปแล้วจะเป็นประโยชน์แก่ทางราชการอย่างยิ่ง ปลัดกระทรวงมีอำนาจยกเลิกการเปิดซองใบเสนอราคาดังกล่าวได้
๖. การทำสัญญาจ้าง
ผู้ชนะการสอบราคาจะต้องทำสัญญาจ้างตามแบบสัญญา ดังระบุในข้อ ๑.๓ กับสำนักฯ ภายใน ๗ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้ง และจะต้องวางหลักประกันสัญญาเป็นจำนวนเท่ากับร้อยละ ๕ ของราคาค่าจ้างที่สอบราคาได้ ให้สำนักฯ ถือไว้ในขณะทำสัญญา โดยใช้หลักประกันอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
๖.๑ เงินสด
๖.๒ เช็คที่ธนาคารสั่งจ่ายให้แก่สำนักฯ โดยเป็นเช็คลงวันที่ที่ทำสัญญา หรือก่อนหน้านั้นไม่เกิน ๓ วันทำการของทางราชการ
๖.๓ หนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในประเทศ ตามแบบหนังสือค้ำประกัน ดังระบุใน ข้อ ๑.๔(๒)
๖.๔ พันธบัตรรัฐบาลไทย
หลักประกันนี้จะคืนให้โดยไม่มีดอกเบี้ยภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากผู้ชนะการสอบราคา (ผู้รับจ้าง) พ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาจ้างแล้ว
๗. ค่าจ้างและการจ่ายเงิน
สำนักฯ จะจ่ายเงินค่าจ้างโดยแบ่งออกเป็น ๓ งวด ดังนี้
งวดที่ ๑ เป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ ๓๕ ของค่าจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานสำรวจวางแนวกริดคลุมพื้นที่โบราณสถาน ขุดค้นเพื่อศึกษางานโบราณคดี ขนาดหลุม ๒x๒x๒.๕ เมตร จำนวน ๔ หลุม ขุดแต่งโบราณสถาน คิดเป็นพื้นที่ ๕๐% ของงานขุดแต่งทั้งหมด ภายใน ๑๒๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
งวดที่ ๒ เป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ ๓๕ ของค่าจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานขุดแต่งโบราณสถานส่วนที่เหลือทั้งหมด กระจายกองหินและทดลองประกอบหินคืนสภาพ ตามรูปแบบรายการกำหนด และค้ำยันเสริมความมั่นคงให้กับตัวโบราณสถานหลังการขุดแต่ง ให้แล้วเสร็จภายใน ๒๑๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
งวดที่ ๓ งวดสุดท้าย เป็นจำนวนเงินในอัตราร้อยละ ๓๐ ของค่าจ้าง เมื่อผู้รับจ้างได้ปฏิบัติงานเขียนแบบโบราณสถานก่อนขุดแต่ง , เขียนแบบโบราณสถานหลังขุดแต่ง , เขียนแบบทดลองประกอบหิน , เขียนแบบเพื่อการบูรณะโบราณสถาน , เขียนแบบวิเคราะห์เพื่อศึกษารูปแบบทางสถาปัตยกรรม , จัดส่งรายงานการขุดแต่ง-ขุดค้น , รวบรวมโบราณวัตถุพร้อมบัญชีโบราณวัตถุส่งมอบผู้ว่าจ้าง , รวบรวมฟิล์ม ภาพถ่ายเข้าอัลบั้มพร้อมคำบรรยาย รวมทั้งทำสถานที่ขุดแต่งให้สะอาดเรียบร้อย ให้แล้วเสร็จภายใน ๒๗๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา
๘. อัตราค่าปรับ
ค่าปรับตามแบบสัญญาจ้างข้อ ๑๕ จะกำหนดในอัตราร้อยละ ๐.๑๐ ของค่าจ้างตามสัญญาต่อวัน และจะต้องชำระค่าใช้จ่ายในการควบคุมงาน นับถัดจากวันที่กำหนดแล้วเสร็จตามสัญญา หรือวันที่ ผู้ว่าจ้างได้ขยายให้จนถึงวันที่ทำงานแล้วเสร็จบริบูรณ์
๙. การประกันความชำรุดบกพร่อง
ผู้ชนะการสอบราคาซึ่งได้ทำข้อตกลงเป็นหนังสือ หรือสัญญาจ้างตามแบบดังระบุในข้อ ๑.๓ แล้วแต่กรณี จะต้องรับประกันความชำรุดบกพร่องของงานจ้างที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับถัดจากวันที่สำนักฯ ได้รับมอบงาน โดยผู้รับจ้างต้องรีบจัดการซ่อมแซมแก้ไขให้สมบูรณ์เหมือนเดิมภายใน ๑๕ วัน นับถัดจากวันที่ได้รับแจ้งความชำรุดบกพร่อง
๑๐. ข้อสงวนสิทธิในการเสนอราคาและอื่น ๆ
๑๐.๑ เงินค่าจ้างสำหรับงานจ้างครั้งนี้ ได้มาจากเงินงบประมาณ งบลงทุน หมวดค่าที่ดินและสิ่งก่อสร้าง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๔ ของกรมศิลปากร
การลงนามในสัญญาจ้าง กระทำได้ต่อเมื่อสำนักฯ ได้รับอนุมัติเงินประจำงวดจากกรมศิลปากรแล้วเท่านั้น
๑๐.๒ เมื่อสำนักฯ ได้คัดเลือกผู้เสนอราคารายใดให้เป็นผู้รับจ้างและได้ตกลงจ้างตามสอบราคาจ้างแล้ว ถ้าผู้รับจ้างจะต้องสั่ง หรือนำสิ่งของมาเพื่องานจ้างดังกล่าว เข้ามาจากต่างประเทศ และของนั้นต้องนำเข้ามาโดยทางเรือในเส้นทางที่มีเรือไทยเดินอยู่และสามารถให้บริการรับขนได้ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมประกาศกำหนด ดังนี้
(๑) แจ้งการสั่งหรือนำสิ่งของดังกล่าวเข้ามาจากต่างประเทศ ต่อสำนักคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี ภายใน ๗ วัน นับถัดจากวันที่ผู้รับจ้างสั่ง หรือซื้อของจากต่างประเทศ เว้นแต่เป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศยกเว้นให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้
(๒) จัดการให้สิ่งของดังกล่าวบรรทุกโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยจากต่างประเทศมายังประเทศไทย เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสำนักคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวีให้บรรทุกสิ่งของนั้นโดยเรืออื่นที่มิใช่เรือไทย ซึ่งจะต้องได้รับอนุญาตเช่นนั้นก่อนบรรทุกลงเรืออื่น หรือเป็นของที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ประกาศยกเว้นให้ใช้บรรทุกโดยเรืออื่น
(๓) ในกรณีที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม (๑) หรือ (๒) ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมพาณิชยนาวี
๑๐.๓ ผู้เสนอราคาซึ่งสำนักฯ ได้คัดเลือกแล้วไม่ไปทำสัญญาหรือข้อตกลงภายในเวลาที่ทางราชการกำหนดดังระบุในข้อ ๗ สำนักฯ จะริบหลักประกันซองหรือเรียกร้องจากผู้ออกหนังสือค้ำประกันซองทันที และอาจพิจารณาเรียกร้องให้ชดใช้ความเสียหายอื่น (ถ้ามี) รวมทั้งจะพิจารณาให้เป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบของทางราชการ
๑๐.๔ สำนักฯ สงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในแบบสัญญาให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักอัยการสูงสุด (ถ้ามี)
๑๑. การปรับราคาค่างานขุดแต่ง
การปรับราคาค่างานขุดแต่งตามสูตรการปรับราคาดังระบุในข้อ ๑.๖ จะนำมาใช้ในกรณีที่ค่างานขุดแต่งลดลงหรือเพิ่มขึ้น โดยวิธีการต่อไปนี้
ก. เงื่อนไขและหลักเกณฑ์
๑. สัญญาแบบปรับราคาได้นี้ให้ใช้กับงานขุดแต่งทุกประเภท รวมถึงงานปรับปรุง และซ่อมแซมซึ่งเบิกจ่ายค่างานในลักษณะหมวดค่าครุภัณฑ์ที่ดินและสิ่งขุดแต่ง หมวดเงินอุดหนุนและหมวดรายจ่ายอื่นที่เบิกจ่ายในลักษณะค่าที่ดินและสิ่งขุดแต่งที่อยู่ในเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามที่ได้กำหนดนี้
๒. สัญญาแบบปรับราคาได้นี้ให้ใช้ในกรณีเพิ่ม หรือลดค่างานจากค่างานเดิมตามสัญญาเมื่อดัชนีราคาซึ่งจัดทำขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ มีการเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นหรือลดลงจากเดิม ขณะเมื่อวันเปิดซองประกวดราคา สำหรับกรณีที่จัดจ้างโดยวิธีอื่นให้ใช้วันเปิดซองราคาแทน
๓. การขอเพิ่มค่างานขุดแต่งตามสัญญาแบบปรับราคาได้นี้ เป็นหน้าที่ของผู้รับจ้างที่จะต้องเรียกร้องภายในกำหนด ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันที่ผู้รับจ้างได้ส่งมอบงานงวดสุดท้ายหากพ้นกำหนดนี้ไปแล้ว ผู้รับจ้างไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องเงินเพิ่มค่างานขุดแต่งจากผู้ว่าจ้างได้อีกต่อไป และในกรณีที่ผู้ว่าจ้างจะต้องเรียกเงินคืนจากผู้รับจ้าง ให้ผู้ว่าจ้างที่เป็นคู่สัญญารีบเรียกเงินคืนจากผู้รับจ้างโดยเร็ว หรือให้หักค่างานของงวดต่อไป หรือให้หักเงินจากหลักประกันสัญญาแล้วแต่กรณี
๔. การพิจารณาคำนวณเงินเพิ่มหรือลด และการจ่ายเงินเพิ่มหรือเรียกเงินคืนจากผู้รับจ้างตามเงื่อนไขของสัญญาแบบปรับราคาได้ ต้องได้รับการตรวจสอบ และเห็นชอบจากสำนักฯงบประมาณและให้ถือการพิจารณาวินิจฉัยของสำนักฯงบประมาณเป็นที่สิ้นสุด
ข. ประเภทงานขุดแต่งและสูตรที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้
ในการพิจารณาเพิ่มเติมหรือลดราคาค่างานจ้างเหมาขุดแต่งให้คำนวณตามสูตรดังนี้
P = (Po) x (K)
กำหนดให้ P = ราคาค่างานต่อหน่วยหรือราคาค่างานเป็นงวดที่จะต้องจ่ายให้ผู้รับจ้าง
Po = ราคาค่างานต่อหน่วยที่ผู้รับจ้างประมูลได้ หรือราคาค่างานเป็นงวด ๆ
ซึ่งระบุไว้ในสัญญาแล้วแต่กรณี
K = ESCALATION FACTOR ที่หักด้วย ๔ % เมื่อต้องเพิ่มค่างานหรือ
บวกเพิ่ม ๔% เมื่อต้องเรียกค่างานคืน
ESCALATION FACTOR K หาได้จากสูตร ซึ่งแบ่งตามประเภทและลักษณะงาน ดังนี้
หมวดที่ ๑ งานอาคาร
งานอาคาร หมายถึง ตัวอาคาร เช่น ที่ทำการ โรงเรียน โรงพยาบาล หอพัก ที่พักอาศัย หอประชุม อัฒจันทร์ ยิมเนเซียม สระว่ายน้ำ โรงอาหาร คลังพัสดุ โรงงาน รั้ว เป็นต้น และให้หมายความรวมถึง
๑.๑ ไฟฟ้าของอาคารบรรจบถึงสายเมนจำหน่าย แต่ไม่รวมถึงหม้อแปลง และระบบไฟฟ้าภายในบริเวณ
๑.๒ ประปาของอาคารบรรจบถึงท่อเมนจำหน่าย แต่ไม่รวมถึงระบบประปาภายในบริเวณ
๑.๓ ระบบท่อ หรือระบบสายต่าง ๆ ที่ติดหรือฝังอยู่ในส่วนของอาคาร เช่น ท่อปรับอากาศ ท่อก๊าซ สายไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศ สายล่อฟ้า ฯลฯ
๑.๔ ทางระบายน้ำของอาคารจนถึงทางระบายน้ำภายนอก
๑.๕ ส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับอาคาร เฉพาะส่วนที่ติดกับอาคาร โดยต้องสร้าง หรือประกอบพร้อมกับการขุดแต่งอาคารแต่ไม่รวมถึงเครื่องจักร หรือเครื่องมือกลที่นำมาประกอบ หรือติดตั้ง เช่น ลิฟท์ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องสูบน้ำ เครื่องปรับอากาศ พัดลม ฯลฯ
๑.๖ ทางเท้ารอบอาคาร ดินถม ดินตัก ห่างจากอาคารโดยรอบไม่เกิน 3 เมตร
ใช้สูตร K = ๐.๒๕+๐.๑๕ It/Io+๐.๑๐ Ct/CO+๐.๔๐ Mt/Mo +๐.๑๐ St/So ดัชนีราคาที่ใช้คำนวณตามสูตรที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ จัดทำขึ้นโดยกระทรวงพาณิชย์ (หมวดที่ ๑ งานอาคาร)
หมวดที่ ๒ งานดิน
๒.๑ งานดิน หมายถึง การขุดดิน การตักดิน การบดอัดดิน การขุดเปิดหน้าดิน การเกลี่ย บดอัดดิน การขุด-ถมบดอัดแน่นเขื่อน คลอง คันคลอง คันกั้นน้ำ คันทาง ซึ่งต้องใช้เครื่องจักร เครื่องมือกลปฏิบัติงาน
สำหรับการถมดิน ให้หมายความถึงการถมดินหรือทราย หรือวัสดุอื่นที่มีการควบคุมคุณสมบัติของวัสดุนั้น ๆ และมีข้อกำหนดวิธีการถม รวมทั้งการบดอัดแน่นโดยใช้เครื่องจักร เครื่องมือกล เพื่อให้ได้มาตรฐานตามที่กำหนดไว้เช่นเดียวกับงานขุดแต่งถนนหรือเขื่อนชลประทาน
ทั้งนี้ ให้รวมถึงงานประเภท EMBANKMENT , EXCAVATION SUBBASE, SELECTED MATERIAL , UNTREATED BASE และ SHOULDER
ใช้สูตร K = ๐.๓๐+๐.๑๐ It/Io +๐.๔๐ Et/Eo+๐.๒๐ Ft/Fo
๒.๒ งานหินเรียง หมายถึง งานหินขนาดใหญ่นำมาเรียงกันเป็นชั้นให้เป็นระเบียบจนได้ความหนาที่ต้องการโดยในช่องว่างระหว่างหินใหญ่จะแซมด้วยหินย่อยหรือกรวดขนาดต่าง ๆ และ ทรายให้เต็มช่องว่างมีการควบคุมคุณสมบัติของวัสดุและมีข้อกำหนดวิธีปฏิบัติโดยใช้เครื่องจักร เครื่องมือกลหรือแรงคนและให้หมายความรวมถึงงานหินทิ้ง งานหินเรียงยาแนว หรืองานหินใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเพื่อการป้องกันการกัดเซาะพังทลายของลาดตลิ่งและท้องลำน้ำ
ใช้สูตร K = ๐.๔๐+๐.๒๐ It/Io+๐.๒๐ Mt/Mo+๐.๒๐ Ft/Fo
๒.๓ งานเจาะระเบิดหิน หมายถึง งานเจาะระเบิดหินทั่ว ๆ ไป ระยะทางขนย้ายไป-กลับ ประมาณไม่เกิน 2 กิโลเมตร ยกเว้นงานเจาะระเบิดอุโมงค์ซึ่งต้องใช้เทคนิคชั้นสูง
ใช้สูตร K = ๐.๔๕+๐.๑๕ It/Io+๐.๑๐ Mt/Mo+๐.๒๐ Et/Eo+๐.๑๐ Ft/Fo
หมวดที่ ๓ งานทาง
๓.๑ งานผิวทาง PRIME COAT, TACK COAT, SEAL COAT
ใช้สูตร K = ๐.๓๐ + ๐.๔๐ At/Ao + ๐.๒๐ Et/Eo + ๐.๑๐ Ft/Fo
๓.๒ งานผิวทาง SURFACE TREATMENT SLURRY SEAL
ใช้สูตร K = ๐.๓๐ + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๓๐ At/Ao + ๐.๒๐ Et/Eo + ๐.๑๐ Ft/Fo
๓.๓ งานผิวทาง ASPHALTIC CONCRETE, PENETRATION MACADAM
ใช้สูตร K = ๐.๓๐ + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๔๐ Et/Eo + ๐.๑๐ Et/Eo + ๐.๑๐ Ft/Fo
๓.๔ งานผิวถนนคอมกรีตเสริมเหล็ก หมายถึง ผิวถนนคอนกรีตที่ใช้เหล็กเสริมซึ่งประกอบด้วยตะแกรงเหล็กเส้นหรือตะแกรงลวดเหล็กกล้าเชื่อมติด (WELDED STEEL WIRE FABRIC) เหล็กเดือย (DOWEL BAR) เหล็กยึด (DEFORMED TIE BAR) และรอยต่อต่าง ๆ (JOINT) ทั้งนี้ให้หมายความรวมถึงแผ่นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กบริเวณคอสะพาน (R.C BRIDGE APPROACH) ด้วย
ใช้สูตร K = ๐.๓๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๓๕ Ct/Co + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๑๕ St/So
๓.๕ งานท่อระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็กและงานบ่อพัก หมายถึง ท่อคอนกรีตเสริมเหล็กสำหรับงานระบายน้ำ (PRECAST BEINFORCED CONCRETE DRAINAGE PIPE) งานรางระบายน้ำคอนกรีตเสริมเหล็ก งานดาดคอนกรีตเสริมเหล็กรางระบายน้ำ และบริเวณลาดคอสะพาน รวมทั้งงานบ่อพักคอนกรีตเสริมเหล็ก และและงานคอนกรีตเสริมเหล็กอื่นที่มีรูปแบบลักษณะงานคล้ายคลึงกัน เช่น งานบ่อพัก (MANHOLE) ท่อร้อยสายโทรศัพท์ ท่อร้อยสายไฟฟ้า เป็นต้น
ใช้สูตร K = ๐.๓๕ + ๐.๒๐ It/Io + ๐.๑๕ Ct/Co ๐.๑๕ Mt/Mo + ๐.๑๕ St/So
๓.๖ งานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กและงานเขื่อนกันตลิ่ง หมายถึง สะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก โครงสร้างฐานรากคอนกรีตเสริมเหล็กคอสะพาน (R.C BEARING UNIT) ท่อเหลี่ยมคอนกรีตเสริมเหล็ก (R.C BOX CULVERT) หอถังน้ำโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เขื่อนกันตลิ่งคอนกรีตเสริมเหล็กท่าเทียบเรือคอนกรีตเสริมเหล็กและสิ่งขุดแต่งอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน
ใช้สูตร K = ๐.๓๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๕ Ct/Co + ๐.๒๐ Mt/Mo + ๐.๒๕ St/So
๓.๗ งานโครงสร้างเหล็ก หมายถึง สะพานเหล็กสำหรับคนเดินข้ามถนน โครงเหล็กสำหรับติดตั้งป้ายจราจรชนิดแขวนสูง เสาไฟฟ้าแรงสูง เสาวิทยุ เสาโทรทัศน์ หรืองานโครงเหล็กอื่นที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่รวมถึงงานติดตั้งเสาโครงเหล็กสายส่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ใช้สูตร K = ๐.๒๕ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๐๕ Ct/Co + ๐.๒๐ Mt/Mo + ๐.๔๐ St/So
หมวดที่ ๔งานชลประทาน
๔.๑ งานอาคารชลประทานไม่รวมบานเหล็ก หมายถึง อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชนิดต่าง ๆ ที่ขุดแต่งในแนวคลองส่งน้ำ หรือคลองระบายน้ำ เพื่อควบคุมระดับและหรือปริมาณน้ำ ได้แก่ ท่อระบายน้ำ น้ำตก รางเท สะพานน้ำ ท่อลอด ไซฟอน และอาคารชลประทานชนิดอื่น ๆ ที่ไม่มีบานระบายเหล็ก แต่ไม่รวมถึงงานอาคารชลประทานขนาดใหญ่ เช่น ฝาย ทางระบายน้ำล้น หรืออาคารชลประทานประกอบของเขื่อน เป็นต้น
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๒๐ It/Io + ๐.๑๐ Ct/Co + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๒๐ St/So
๔.๒ งานอาคารชลประทานรวมบานเหล็ก หมายถึง อาคารคอนกรีตเสริมเหล็กชนิดต่าง ๆ ที่ขุดแต่งในแนวคลองส่งน้ำหรือคลองระบายน้ำ เพื่อควบคุมระดับและหรือปริมาณน้ำ ได้แก่ ท่อส่งน้ำเข้านา ท่อระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ อาคารอัดน้ำ ท่อลอดและอาคารชลประทานชนิดอื่น ๆ ที่มีบานระบายน้ำ แต่ไม่รวมถึงงานอาคารชลประทานขนาดใหญ่ เช่น ฝาย ทางระบายน้ำล้น หรืออาคารชลประทานประกอบของเขื่อน เป็นต้น
ใช้สูตร K = ๐.๓๕ + ๐.๒๐ It/Io + ๐.๑๐ Ct/Co + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๒๕ St/So
๔.๓ งานบานระบาย TRASHRACK และ STEEL LINER หมายถึง บานระบายเหล็กเครื่องกว้านและโครงยก รวมทั้ง BULK HEAD GATE และงานท่อเหล็ก
ใช้สูตร K ๐.๓๕ + ๐.๒๐ It/Io + ๐.๔๕ St/So
๔.๔ งานเหล็กเสริมคอนกรีต และ ANCHOR BAR หมายถึง เหล็กเส้นที่ใช้เสริมในงานคอนกรีตและเหล็ก ANCHOR BAR ของงานฝาย ทางระบายน้ำล้น หรืออาคารชลประทานประกอบของเขื่อน ซึ่งมีสัญญาแยกจ่ายเฉพาะงานเหล็กดังกล่าวเท่านั้น
ใช้สูตร K = ๐.๒๕ + ๐.๑๕ It/Io + ๐.๖๐ St/So
๔.๕ งานคอนกรีตไม่รวมเหล็กและคอนกรีตดาดคลอง หมายถึง งานคอนกรีตเสริมเหล็กที่หักส่วนของเหล็กออกมาแยกคำนวณต่างหากของงานฝาย ทางระบายน้ำล้นหรืออาคารชลประทานประกอบของเขื่อน ซึ่งมีสัญญาแยกจ่ายเฉพาะงานคอนกรีตดังกล่าวเท่านั้น
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๑๕ It/Io + ๐.๒๕ Ct/Co + ๐.๒๐ Mt/Mo
๔.๖ งานเจาะ หมายถึง การเจาะพร้อมทั้งฝังท่อกรุขนาดรูในไม่น้อยกว่า ๔๘ มิลลิเมตร ในชั้นดิน หินผุหรือหินที่แตกหัก เพื่ออัดฉีดน้ำปูน และให้รวมถึงงานซ่อมแซมฐานรากอาคารชลประทาน ถนนและอาคารต่าง ๆ โดยการอัดฉีดน้ำปูน
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๒๐ It/Io + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๒๐ Et/Eo + ๐.๑๐ Ft/Fo
๔.๗ งานอัดฉีดน้ำปูน ค่าอัดฉีดน้ำปูนจะเพิ่มหรือลด ให้เฉพาะราคาซีเมนต์ที่เปลี่ยนแปลงตามดัชนีราคาของซีเมนต์ ที่กระทรวงพาณิชย์จัดทำขึ้นในเดือนที่ส่งงานแต่ละงวดกับเดือนที่เปิดซองสอบราคา
หมวดที่ ๕ งานระบบสาธารณูปโภค
๕.๑ งานวางท่อ AC และ PVC
๕.๑.๑ ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดหาท่อและหรืออุปกรณ์ให้
ใช้สูตร K = ๐.๕๐ + ๐.๒๕ It/Io + ๐.๒๕ Mt/Mo
๕.๑.๒ ในกรณีที่ผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาท่อ AC และหรืออุปกรณ์
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๔๐ ACt/ACo
๕.๑.๓ ในกรณีที่ผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาท่อ PVC และหรืออุปกรณ์
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๔๐ PVCt/PVCo
๕.๒ งานวางท่อเหล็กเหนียวและท่อ HYDENSITY POLYETHYLENE
๕.๒.๑ ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดหาท่อและหรืออุปกรณ์ให้
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๕ Mt/Mo + ๐.๒๐ Et/Eo + ๐.๑๕ Ft/Fo
๕.๒.๒ ในกรณีที่ผู้รับจ้าง เป็นผู้จัดหาท่อเหล็กเหนียว และหรืออุปกรณ์ และให้รวมถึง งาน RANSMISSION CONDUIT
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๑๐ Et/Eo + ๐.๓๐ GIPt/GIPo
๕.๒.๓ ในกรณีที่ผู้รับจ้างเป็นผู้จัดหาท่อ HYDENSITY POLYETHYLENE และหรืออุปกรณ์
ใช้สูตร K = ๐.๕๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๐ Mt/Mo + ๐.๓๐ PEt/PEo
๕.๓ งานปรับปรุงระบบอุโมงค์ส่งน้ำและงาน SECONDARY LINING
ใช้สูตร K = ๐.๔๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๑๕ Et/Eo + ๐.๓๕ GIPt/GIPo
๕.๔ งานวางท่อ PVC หุ้นด้วยคอนกรีต
ใช้สูตร K = ๐.๓๐ + ๐.๑๐ It/Io + ๐.๒๐ Ct/Co + ๐.๐๕ Mt/Mo - ๐.๐๕ St/So + ๐.๓๐ PVCt/PVCo
๕.๕ งานวางท่อ PVC กลบทราย
ใช้สูตร K = ๐.๒๕ + ๐.๐๕ It/Io + ๐.๐๕ Mt/Mo + ๐.๖๕ PVCt/PVCo
๕.๖ งานวางท่อเหล็กอาบสังกะสี
ใช้สูตร K = ๐.๒๕ + ๐.๒๕ It/Io + ๐.๕๐ GIPt/GIPo
วิธีการคำนวณที่ใช้กับสัญญาแบบปรับราคาได้ค.
๑. การคำนวณค่า K จากสูตรตามลักษณะงานนั้น ๆ ให้ใช้ตัวเลขดัชนีราคาวัสดุขุดแต่งของกระทรวงพาณิชย์ โดยใช้ฐานของปี ๒๕๓๐ เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ
๒. การคำนวณค่า K สำหรับกรณีที่มีงานขุดแต่งหลายประเภทรวมอยู่ในสัญญาเดียวกัน จะต้องแยกค่างานขุดแต่งแต่ละประเภทให้ชัดเจนตามลักษณะของงานนั้น และให้สอดคล้องกับสูตรที่ได้กำหนดไว้
๓. การคำนวณหาค่า K กำหนดให้ใช้เลขทศนิยม ๓ ตำแหน่งทุกขั้นตอนโดยไม่มีการปัดเศษและกำหนดให้ทำเลขสัมพันธ์ (เปรียบเทียบ) ให้เป็นผลสำเร็จก่อนแล้วจึงนำผลลัพท์ไปคูณกับตัวเลขคงที่หน้าเลขสัมพันธ์ นั้น
๔. ให้พิจารณาเงินเพิ่มหรือลดราคาค่างานจากราคาที่ผู้รับจ้างทำสัญญาตกลงกับผู้ว่าจ้าง เมื่อค่าK ตามสูตรสำหรับงานขุดแต่งนั้น ๆ ในเดือนที่ส่งมอบงานมีค่าเปลี่ยนแปลงไปจากค่า K ในเดือนเปิดซองราคามากกว่า ๔% ขึ้นไป โดยนำเฉพาะส่วนที่เกิน ๔% มาคำนวณปรับเพิ่มหรือลดค่างานแล้วแต่กรณี (โดยไม่คิด ๔% แรกให้)
๕. ในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่สามารถทำการขุดแต่งให้แล้วเสร็จตามระยะเวลาในสัญญาโดยเป็นความผิดของผู้รับจ้าง ค่า K ตามสูตรต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ในการคำนวณค่างานให้ใช้กับค่า K ของเดือน สุดท้ายตามอายุสัญญา หรือค่า K ของเดือนที่ส่งมอบงานจริงแล้วแต่ว่าค่า K ตัวใดจะมีค่าน้อยกว่า
๖. การจ่ายเงินแต่ละงวด ให้จ่ายค่าจ้างงานที่ผู้รับจ้างทำได้แต่ละงวดตามสัญญาไปก่อนส่วนงานเพิ่มหรือค่างานลดลงคำนวณได้ต่อเมื่อทราบดัชนีราคาวัสดุขุดแต่ง ซึ่งนำมาคำนวณหาค่า K ของเดือนที่ส่งมอบงานงวดนั้น ๆ เป็นที่แน่นอนแล้ว เมื่อคำนวณเงินเพิ่มได้ให้ขอทำความตกลงเรื่องการเงินกับสำนักงบประมาณ
สูตรการปรับราคา (สูตรค่า K) จะต้องคงที่ที่ระดับที่กำหนดไว้ในวันแล้วเสร็จตามที่กำหนดไว้ในสัญญาหรือภายในระยะเวลาที่สำนักฯได้ขยายออกไปโดยจะใช้สูตรของทางราชการที่ได้ระบุในข้อ ๑.๖
๑๒. มาตรฐานฝีมือช่าง
เมื่อสำนักฯ ได้คัดเลือกผู้เสนอราคารายใดให้เป็นผู้รับจ้าง และได้ตกลงจ้างขุดแต่ง ตามประกาศนี้แล้ว ผู้เสนอราคาจะต้องตกลงว่าในการปฏิบัติงานขุดแต่งดังกล่าว ผู้เสนอราคาจะต้องมีและใช้ ผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือช่างจากคณะกรรมการกำหนดมาตรฐาน และทดสอบฝีมือแรงงานหน่วยงานของทางราชการ หรือหน่วยงานเอกชนที่ทางราชการรับรอง หรือผู้มีวุฒิบัตรระดับ ปวช. ปวส. ปวท. หรือเทียบเท่าจากสถาบันการศึกษาที่ ก.พ. รับรอง ให้เข้ารับราชการได้ในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๕ ของแต่ละสาขาช่างแต่จะต้องมีช่างจำนวนอย่างน้อย ๑ คน ในแต่ละสาขาช่างดังต่อไปนี้
๑๒.๑ ช่างโยธา
๑๒.๒ ช่างสำรวจ
๑๒.๓ ช่างศิลปกรรม
และผู้เสนอราคาต้องมีบุคลากรร่วมปฏิบัติงาน ดังนี้
(๑) วิศวกร
(๒) นักโบราณคดี
(๓) สถาปนิก
๑๓. ผู้รับจ้างจะต้องทำป้ายโครงการแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของงานขุดแต่งฯ ติดตั้งบริเวณที่จะดำเนินการฯ ให้ชัดเจน
๑๔. ในระหว่างระยะเวลาการดำเนินการขุดแต่งฯ ผู้รับจ้างพึงปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้โดยเคร่งครัด
๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
สำนักศิลปากรที่ ๑๒ นครราชสีมา
(จำนวนผู้เข้าชม 593 ครั้ง)