เว็บท่ากรมศิลปากร
Thai
English
กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
หน้าหลัก
เกี่ยวกับหน่วยงาน
วิสัยทัศน์และพันธกิจ
ประวัติและบทบาทหน้าที่
โครงสร้างและบุคลากร
หน่วยงานในสังกัด
ข่าวและกิจกรรม
ข่าวกิจกรรม
ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง
ข่าวรับสมัครงาน
คลังภาพกิจกรรม
ข่าวประชาสัมพันธ์
ปฏิทินกิจกรรม
คลังวิชาการ
ความรู้ทั่วไป
คลังภาพทรงคุณค่า
แผ่นพับกิจกรรม
วีดีทัศน์
นิทรรศการ
ประชาชนควรรู้
กฎหมายและระเบียบ
เรื่องน่ารู้
บริการ
เอกสารดาวน์โหลด
แบบสอบถาม
สอบถามบ่อย
ติดต่อเรา
หน้าแรก
คลังวิชาการ
ความรู้ทั่วไป
ฤกษ์ยาม ลาง นิมิต และ พลายพุทรากระทืบ
สำหรับฤกษ์ยาม ลาง และนิมิต ถือเป็นความเชื่อและอุบายสร้างขวัญกำลังใจคู่กับมนุษย์มาตั้งแต่อดีต ยามศึกสงครามก็เช่นกัน เอกสารและวรรณกรรมโบราณหลายฉบับที่กล่าวถึงเหตุการณ์ครั้งกระทำสงครามยุทธหัตถีปรากฏข้อความที่สะท้อนถึงการสร้างขวัญและกำลังใจผ่านสัญลักษณ์ที่เชื่อกันว่าเป็นศุภนิมิต ศุภนิมิตหนึ่งที่เป็นที่รู้จักดีของชนรุ่นหลัง ถูกกล่าวขานไว้ใน “ลิลิตตะเลงพ่าย” วรรณคดียุคหลัง ประพันธ์โดยสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส และพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูบาลบริรักษ์ ดังนี้
๏ พระกรายกรย่างเยื้อง จรลี
ลุยมหาวารี เรี่ยวกว้าง
พอพานพะกุมภีล์ หนึ่งใหญ่ ไสร้นา
โถมปะทะเจ้าช้าง จักเคี้ยวขบองค์
๏ พระทรงแสงดาบแก้ว กับกร
โจมประจักฟันฟอน เฟื่องน้ำ
ต่างฤทธิ์ต่างรบรอบ ราญชีพ กันแฮ
สระท้านทุกถิ่นท่าถ้ำ ท่งท้องชลธี
๏ นฤบดีโถมถีบสู้ ศึกธาร
ฟอนฟาดสุงสุมาร มอดม้วย
สายสินธุ์ซึ่งนองพนานต์ หายเหือด แห้งแฮ
พระเร่งปรีดาด้วย เผด็จเสี้ยนเศิกกษัย
สมเด็จพระนเรศวรเสด็จเตรียมทัพ ณ ตำบลปากโมก เมื่อบรรทมจึงสุบินว่า เห็นนำ้ไหลบ่าท่วมป่าทางตะวันตก ขณะที่พระองค์ทรงลุยน้ำอันเชี่ยวนั้น จระเข้ตัวใหญ่ก็โถมปะทะจะกัดพระองค์ พระองค์จุงต่อสู้โดยใช้พระแสงดาบฟันจนจระเข้ตาย ทันใดนั้นสายน้ำก็เหือดหายไป โหรจึงทำนายว่าพระองค์จะได้ชัยในการสงคราม โดยในการศึกครั้งนั้นพระองค์ทรงนำทัพและกระทำยุทธหัตถีได้รับชัยชนะ โดยทรงช้างนามว่า เจ้าพระยาไชยานุภาพ
เจ้าพระยาไชยานุภาพ เป็นช้างที่สมเด็จพระนเรศวรทรงช้างชนะศึกยุทธหัตถีกับพระมหาอุปราชา เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 ในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ระบุเหตุการณ์ครั้งนั้นว่า "เสด็จทรงช้างต้นพระยาไชยานุภาพ เสด็จออกรบมหาอุปราชาตำบลหนองสาหร่าย... ...ครั้งนั้นมหาอุปราชาขาดคอช้างตายในที่นั้น แลช้างต้นพระยาไชยานุภาพ ซึ่งทรงแลได้ชนด้วยมหาอุปราชาแลมีไชยชำนะนั้น พระราชทานให้ชื่อเจ้าพระยาปราบหงสา..."
ในคำให้การชาวกรุงเก่า มีการระบุเหตุการณ์ยุทธหัตถีเพิ่มเติมจากพงศาวดารกรุงเก่าฯ ความว่า "ช้างพระนเรศวรถอยหลังไปถึงจอมปลวกแห่ง ๑ ในป่าพุทรายันได้ถนัด ก็เอาเท้าทั้ง ๒ ยันกับจอมปลวกขยับแทงถูกโคนงาช้างพระมหาอุปราช ช้างพระมหาอุปราชเบนท้ายจะหนี พระนเรศวรเห็นได้ทีก็เอาพระแสงง้าวฟันพระมหาอุปราชาขาดสะพายแล่ง สิ้นพระชนม์อยู่กับคอช้าง ที่ช้างพระนเรศวรยันนั้นก็มีนามปรากฎว่าพุทรากะแทก"
แม้จะมีข้อสันนิษฐานที่ว่า สมเด็จพระนเรศวรโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกต้นพุทราในพระราชวังหลวงเพื่อระลึกถึงเหตุการยุทธหัตถี แต่ผลจากการศึกษาอายุต้นพุทราโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าต้นพุทราที่เก่าที่สุดในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา อายุไม่เกิน 140 ปี
--------------------------------------------------------
เรียบเรียงข้อมูลโดย นางสาวชญาดา สุวรัชชุพันธุ์ นายวีระศักดิ์ แสนสะอาด นักโบราณคดีชำนาญการ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
--------------------------------------------------------
(จำนวนผู้เข้าชม 22716 ครั้ง)
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 กรมศิลปากร. กระทรวงวัฒนธรรม -
นโยบายเว็บไซต์
|
มาตรฐาน