พระบารมีปกเกล้าฯชาวอุบลฯ ๔
พระบารมีปกเกล้าฯชาวอุบลฯ ๔
ตามรอยเสด็จเมืองอุบล ครั้งที่ ๓
ในวันพุธที่ ๑๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๐ เวลา ๑๒.๒๕ น. พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
พร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จพระราชดำเนินโดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง จากภูพานราชนิเวศน์ ไปทรงเยี่ยมราษฎร์ ณ วัดปากแซงพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้านจังหวัดอุบลราชธานีและทรงเยี่ยมหมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒๓
เวลา ๑๓.๓๐ น. เสด็จพระราชดำเนินถึงหมวดตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๓๒๓ บ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอเขมราฐ แล้วประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินต่อไปยังวัดปากแซง แล้วเสด็จเข้าวิหาร ทรงนมัสการและทรงปิดทองพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ จากนั้นทรงมีพระราชดำรัสกับพระภิกษุ ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงถวายปัจจัย และยาชุดแก่เจ้าเอาวาสเสร็จแล้วเสด็จออกจากวิหารทรงเยี่ยมราษฎรที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่เป็นจำนวนมากภายในบริเวณวัด ทรงพระราชปฏิสันถารและพระปฏิสันถารกับราษฎรเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด สมควรแก่เวลาจึงเสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งต่อไปยังค่ายลูกเสืออำเภอเขมราฐ บ้านนาดง ตำบลพะลาน อำเภอเขมราฐ ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง ทรงวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อจากนั้นเสด็จเข้าพลับพลาพิธีลูกเสือชาวบ้านนายประมูล จันทรจำนง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีกราบบังคมทูลถวายรายงานกิจการลูกเสือชาวบ้านจังหวัดอุบลราชธานี ต่อจากนั้นได้พระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จำนวน ๓๙ รุ่น เสร็จแล้วลูกเสือชาวบ้านกล่าวคำปฏิญาณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราโชวาท ความว่า “ การฝึกลูกเสือชาวบ้านแม้จะใช้ระยะเวลาสั้นเพียงห้าวัน แต่เมื่อฝึกแล้วก็ทำให้มีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนมีกำลังใจเข้มแข็ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อตนเองและส่วนรวม….”
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพถ่ายตามรอยเสด็จฯจังหวัดอุบลราชธานี
อ.ปัญญา แพงเหล่า
(จำนวนผู้เข้าชม 318 ครั้ง)