คาถาโอม มณี ปัทเม ฮัม (Om Mani Padme Hum)
มนตราบทหนึ่งของชาวธิเบตที่นับถือพุทธศาสนา ซึ่งแปลความได้ว่า ‘โอม อัญมณีในดอกบัว’
บทสวดนี้เป็นบทสวดที่ใช้ในการสวดอ้อนวอนต่อเชนเรสี (Chenrezi, พระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร)
หรือเทพเจ้าที่ปกปักษ์รักษาชาวธิเบต และมักจะพบบทสวดนี้ได้ตามหินผา
การอ่านมนตรานี้ซ้ำๆ จะเป็นการเพิ่มพูนกุศลบุญ และลดบาปอันเกิดจากการกระทำ
ส่วนการเจริญสมาธิ เชื่อว่าเป็นการชำระล้างใจและกายให้สะอาดบริสุทธิ์ ช่วยให้พวกเขา
ไม่ต้องตกนรกหมกไหม้ และได้บรรลุธรรมเช่นเดียวกับพระพุทธองค์ เชื่อกันว่าการหมุนกงล้อ
อธิษฐานนั้นให้ผลเช่นเดียวกับการสวดมนตรานี้พร้อมไปกับการใช้นิ้วมือหมุนสร้อยลูกประคำ
ไปทีละเม็ด
มีการสันนิษฐานว่าบทสวดนี้น่าจะแปลความหมายได้ว่า มนุษย์นั้นสามารถเปลี่ยน
แปลงกายเนื้อ คำพูด และจิตใจที่แปดเปื้อนมีมลทินไปเป็นกายเนื้อ คำพูด และจิตใจอัน
บริสุทธิ์ได้ เหมือนดังพระพุทธองค์ที่ครั้งหนึ่งเคยต้องมัวหมองทั้งกาย ใจ และคำพูดมาก่อน
แต่สุดท้ายพระองค์ก็ทรงสามารถตัดกิเลสและตรัสรู้ได้เอง การเดินตามรอยพระพุทธองค์ด้วย
วิธีการเดียวกันนั้น จะทำให้วิธีคิดและปัญญาไม่แยกออกจากกัน
คำว่า โอม (om) นั้นเป็นตัวแทนของมนุษย์ที่มีร่างกาย คำพูด และจิตใจที่มัวหมอง
มณี (Mani) หมายถึง อัญมณี เป็นตัวแทนขององค์ประกอบของความเมตตา กรุณา
และความรักความห่วงใย
ปัทเม (padme) แปลว่า ดอกบัว และเป็นเครื่องหมายของปัญญา การที่ดอกบัวมี
กำเนิดมาจากโคลนตม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ดอกบัวต้องมัวหมองด้วยโคลนตม ด้วยเหตุนี้ดอกบัว
จึงถูกนำพาไปเปรียบเทียบกับปัญญาที่นำมนุษย์ให้พ้นจากความมัวหมองทั้งปวง
ฮัม (hum) แปลว่า สิ่งที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เป็นตัวแทนของความบริสุทธิ์
และสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยการรวมเอาวิธีการและปัญญาไว้ด้วยกัน
จากหนังสือนัยแห่งสัญลักษณ์ ภาพประกอบ http://board.palungjit.com