ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้นกลับคืนสู่ประเทศไทย



ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้นกลับคืนสู่ประเทศไทย
The Return of the Lintels from Prasat Nong Hong and Prasat Khao Lon in Thailand
------------------------------------------------------------------------------------------------------
ระยะเวลา  : ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน จนถึง 30 กันยายน 2564
สถานที่     : พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
                   เวลา 09.00 16.00 น. (ปิดวันจันทร์ อังคาร)
เรื่องย่อ    
ทับหลังของปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว ได้สูญหายไปจากที่ตั้ง ในช่วงพุทธศักราช
                2509 - 2511 ซึ่งไม่ปรากฏรายงานหรือบันทึกเกี่ยวกับการสูญหาย ต่อมาทับหลังทั้งสองรายการได้ปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลโบราณวัตถุ
                ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
               
                การติดตามทับหลังทั้ง 2 รายการเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการจากมติที่ประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศ
                กลับคืนสู่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2560 ให้จัดทำข้อมูลโบราณวัตถุ 2 รายการ คือ ทับหลังจากปราสาทเขาโล้น จังหวัด
                สระแก้ว และทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เก็บรักษาอยู่ใน
Asian Art Museum เมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งมีหลักฐาน
                ชัดเจนว่าเคยอยู่ในประเทศไทย เพื่อนำเสนอต่อสหรัฐอเมริกา ผ่านทางกระทรวงการต่างประเทศ โดยมอบหมายให้คณะอนุกรรมการ
                ด้านวิชาการเพื่อติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทยเป็นผู้จัดทำข้อมูลเพิ่มเติมจากที่นักวิชาการอิสระและ
                ประชาชนได้เคยนำเสนอไว้
               
                จนกระทั่งในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 กรมศิลปากรดำเนินการส่งข้อมูล ผ่านกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
                ถึงสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เป็นผู้ดำเนินการประสานกับหน่วยงาน
                ในสหรัฐอเมริกา
               
                หน่วยงานในสหรัฐอเมริกาที่รับผิดชอบในคดีนี้ คือ สำนักงานสืบสวนความมั่นคงมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา (
HSI) โดยเจ้าหน้าที่
                เดวิด เคลเลอร์ ได้ดำเนินการสีบสวนจากหลักฐานที่ฝ่ายไทยได้ส่งไป และได้ลงพื้นที่สืบสวนเก็บข้อมูลในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย
                พร้อมทั้งได้ประสานงานขอข้อมูลตัวอย่างใบอนุญาตการนำโบราณวัตถุออกนอกราชอาณาจักรก่อนและหลังทับหลังทั้งสองรายการ
                จะสูญหายไป เพื่อเป็นหลักฐานว่า ทางการไทยมีกฎหมายและมาตรการที่เคร่งครัดในการนำโบราณวัตถุออกนอกประเทศ 
               
                รวมทั้งสำเนาจดหมายที่อธิบดีกรมศิลปากร นายธนิต อยู่โพธิ์ ได้ส่งถึง
Avery Brundage ผู้บริจาคทับหลังทั้ง 2 รายการนี้ให้กับ
                พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เพื่อทวงคืนโบราณวัตถุทับหลังจากปราสาทกู่สวนแตง เมื่อ พ.ศ. 2510 เพื่อเป็นหลักฐานว่า
Avery Brundage
                เคยมีประวัติในการรับซื้อโบราณวัตถุที่ถูกลักลอบออกจากประเทศไทยมาก่อนแล้ว ซึ่งเอกสารทั้งหมดนี้ เก็บรักษาอยู่ใน
                หอจดหมายเหตุแห่งชาติ กรมศิลปากร
               
                ต่อมา ทับหลังทั้ง 2 รายการ ได้ถูกนำขึ้นพิจารณาในชั้นศาล จนในที่สุดพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย
(Asian Art Museum) ได้ยอมรับว่า
                ทับหลังทั้งสองรายการเป็นกรรมสิทธิ์ของไทย และยินยอมให้สำนักงานสืบสวนความมั่นคงมาตุภูมิ (
HSI) ยึดทับหลังทั้งสองรายการเพื่อ
                ส่งคืนประเทศไทย โดยได้มีพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการ ณ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 256
4

                กรมศิลปากรจึงได้จัดนิทรรศการพิเศษ เรื่อง ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้น กลับคืนสู่ประเทศไทย
                ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยนิทรรศการนำเสนอข้อมูลทางประวัติศาสตร์ของทับหลังทั้ง 2 รายการ
                หลักฐานต่าง ๆ ที่ได้สืบค้น รวมถึงขั้นตอนการดำเนินงานในการติดตาม เพื่อให้ประชาชนเข้าใจถึงขั้นตอนและกระบวนการกว่าจะได้มา
                ซึ่งโบราณวัตถุที่ต้องใช้ระยะเวลา ความพยายาม และความร่วมมือจากหลายฝ่าย อีกทั้งยังเป็นการสร้างจิตสำนึกและหวงแหน
                มรดกศิลปวัฒนธรรมของไทย และร่วมกันปกป้องคุ้มครองดูแลรักษาโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ อันเป็นสมบัติของชาติให้สืบทอด
                ไปยังคนรุ่นหลังต่อไป

 

(จำนวนผู้เข้าชม 2942 ครั้ง)

Messenger