เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่เป็นสถาปัตยกรรมในสมัยสุโขทัย
สวัสดีค่ะ #พี่โข่ทัยมีเรื๋องเล๋า วันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่เป็นสถาปัตยกรรมในสมัยสุโขทัย และเหลือหลักฐานให้เราพบเห็นในเมืองสรลวงสองแคว หรือ ปัจจุบันคือจังหวัดพิษณุโลกนั้นเองค่ะ ซึ่งในขณะนี้สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย กำลังดำเนินการตามโครงการขุดค้นขุดแต่งวัดเจดีย์ยอดทองอยู่ค่ะ มาค่ะ เรามาล้อมวงฟังเรื่องราวของวัดเจดีย์ยอดทองกันดีกว่าค่ะ ว่าวัดนี้มีความเป็นมาอย่างไรค่ะ
-----------------------------------------------------------------------
วัดเจดีย์ยอดทอง หรือวัดยอดทอง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก นอกกำแพงเมืองพิษณุโลก ในเขตพื้นที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก โบราณสถานแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 19 - 20 โดยมีหลักฐานสำคัญ คือ เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์หรือเจดีย์ทรงยอดดอกบัวตูม อันเป็นเอกลักษณ์ของเจดีย์ในศิลปะสุโขทัย ด้านหน้าเป็นวิหาร และมีคูน้ำล้อมรอบ
.
ปัจจุบันวัดเจดีย์ยอดทอง นับว่าเป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวในจังหวัดพิษณุโลกที่ยังปรากฏหลักฐานรูปแบบศิลปกรรมในสมัยสุโขทัยให้เห็นอย่างชัดเจน แต่ยังไม่ได้รับการขุดค้นขุดแต่งทางโบราณคดีอย่างเป็นระบบ
.
ปัจจุบันคูน้ำบางส่วนได้ถูกถม และวิหารด้านหน้าเจดีย์ประธานเป็นที่จอดรถของผู้มาติดต่อวัด ดังนั้นจึงควรเร่งดำเนินการขุดค้นขุดแต่งทางโบราณคดีอย่างเร่งด่วน ในปีงบประมาณพ.ศ. 2563 สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย จึงได้เสนอโครงการขุดค้นขุดแต่งทางโบราณคดีวัดเจดีย์ยอดทอง เพื่อศึกษาหลักฐานสำคัญในสมัยสุโขทัยของเมืองพิษณุโลก
.
กรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานครั้งแรก ในพ.ศ. 2479 ในชื่อว่า วัดยอดทอง ต่อมาได้ประกาศขอบเขตที่ดินโบราณสถานวัดยอดทองในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 118 ตอนพิเศษ 124 ง ประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2544 รวมเนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 90 ตารางวา
.
วัดเจดีย์ยอดทองได้รับการบูรณะประมาณปี พ.ศ. 2533 – 2534 โดยดำเนินการบูรณะเฉพาะเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ส่วนฐานวิหารด้านทิศตะวันออกอยู่ด้านใต้อาคารไม้ของวัด
.
ก่อนหนังสือพิษณุโลกของเราจะได้เขียนถึงวัดเจดีย์ยอดทองนั้น หนังสือนำเที่ยวเมืองสองแควหรือเมืองพิษณุโลก เขียนโดยนายบุญชด แสงต่าย (2477 : 227-228) เขียนถึงวัดเจดีย์ยอดทองเอาไว้ว่า ".....นอกจากวัดนี้ ก็มีวัดเจดีย์ยอดทอง เป็นพระเจดีย์สูงลิ่วคล้ายพระปรางค์ บนยอดที่เสมาทำด้วยทองคำแท้ แต่พวกพะม่าเอาปืนใหญ่ยิงต้องเสมาทองคำหักและเก็บไปเสียแล้วเมื่อครั้งกระโน้น คงเหลือแต่ยอดด้วนให้อยู่ทางฝังรถไฟสายเหนือ ด้านตะวันออกตรงข้ามเยื้องประตูผีออก หรือตอนหลังโรงเรียนผดุงราษฎร์ออกไปเล็กน้อย ส่วนตัววิหารโบสถ์ทรุดโทรมหมดเหลือแต่ฐานและทรากป่าหญ้าขึ้นรกร้าง...."
.
ต่อมา หนังสือ “พิษณุโลกของเรา” เขียนโดยนายหวน พินธุพันธ์ (2514 : 97-98) กล่าวถึงวัดเจดีย์ยอดทองไว้ว่า “วัดเจดีย์ยอดทองนี้ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลในเมือง ใกล้กับถนนพญาเสือ ซึ่งเป็นถนนที่แยกจากถนนเอกาทศรถ ทางขวามือตรงเหนือวัดพระศรีรัตนมหาธาตุขึ้นไปไม่มากนัก และถนนพญาเสือนี้เป็นถนนที่ไปถึงวัดอรัญญิกนั่นเอง ก่อนจะถึงวัดอรัญญิก (เลยโรงเรียนผดุงราษฎร์ไปไม่มากนัก) จะมีถนนเล็กๆ ทางขวามือซึ่งรถยนต์แล่นเข้าถึงตัววัดเจดีย์ยอดทองได้ จะสังเกตเห็นเจดีย์แบบสุโขทัยแท้หรือแบบดอกบัวตูมสูงตระหง่านอยู่
.
โบราณสถานที่น่าสนใจของวัดนี้ก็คือ เจดีย์แบบสุโขทัยแท้ หรือแบบดอกบัวตูม ซึ่งมีอยู่องค์เดียวที่หาดูได้ยากในจังหวัดพิษณุโลก คือเป็นเจดีย์ที่มีองค์เจดีย์หรือองค์สถูป มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ส่วนยอดแหลมและฐานซ้อนกัน 3 ชั้น เป็นทรงสี่เหลี่ยม สำหรับองค์เจดีย์ใช้อิฐก่อโดยใช้ดินสอรอยต่อของอิสระก้อน มิใช่ใช้ปูนสอ ซึ่งยังสังเกตเห็นได้ชัด เจดีย์แบบนี้สันนิษฐานกันว่าสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัยนั้น และคงมิได้นำแบบอย่างมาจากที่ใด ช่างในสมัยนั้นคิดแบบขึ้นเองจึงเรียกกันว่าแบบสุโขทัยแท้ จะพบเจดีย์แบบนี้ได้มากที่สุโขทัยและศรีสัชนาลัย ที่จังหวัดอื่นๆ ก็มีที่ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก สำหรับที่พิษณุโลกนี้ก็มีเพียงแห่งเดียวเท่านั้น คือที่วัดเจดีย์ยอดทองนี่เอง ดังนั้นชาวพิษณุโลกควรจะภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และควรช่วยกันรักษาไว้แต่น่าเสียดายที่ปรักหักพังไปเสียมาก ซ้ำยังมีคนร้ายไปลักขุดหาของมีค่าจนองค์เจดีย์ และฐานของเจดีย์เป็นโพรงลึก เกรงว่าในไม่ช้าอาจจะพังลงมาได้ ถ้าหากทางกรมศิลปากรไม่รีบซ่อมแซมเสียแต่บัดนี้และถ้าหากเจดีย์องค์นี้พังลงมาก็นับว่าน่าเสียดายอย่างยิ่ง เพราะเราจะหาดูเจดีย์แบบนี้ได้ไม่มากนักในเมืองไทย
.
นอกจากองค์เจดีย์แล้วยังมีเนินดินอยู่หลายเนินด้วยกัน เข้าใจว่าเป็นฐานโบสถ์หรือวิหาร หรือฐานเจดีย์องค์เล็กๆ ก็ได้ และยังมีสระน้ำอีกหลายสระ บางสระก็ถูกชาวบ้านเอาดินถมเสียแล้ว จึงน่าเชื่อได้อย่างหนึ่งว่าวัดนี้คงจะสร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย และที่ชื่อว่าวัดเจดีย์ยอดทองนั้น ที่ยอดของเจดีย์อาจจะเป็นทองหรือหุ้มทองมาก่อนก็ได้ ดังที่คุณบุญชด แสงต่าย เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า “...วัดเจดีย์ยอดทองเป็นพระเจดีย์สูงลิ่วคล้ายพระปรางค์ บนยอดที่เสมาทำด้วยทองคำแท้ แต่พวกพม่าเอาปืนใหญ่ยิงต้องเสมาทองคำหักและเก็บไปเสียแล้วเมื่อครั้งกระโน้น คงเหลือแต่ยอดด้วนให้อยู่ทางฝั่งทางรถไฟสายเหนือ ด้านตะวันออกตรงข้าม เยื้องประตูผีออกหรือตอนหลังโรงเรียนผดุงราษฎร์ออกไปเล็กน้อย ส่วนตัววิหารโบสถ์ทรุดโทรมหมด เหลือแต่ฐานและซาก”
.
สิ่งสำคัญภายในวัด
ข้อมูลจากการสำรวจขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ในปีพุทธศักราช 2544 ปรากฏหลักฐานภายในวัด ดังนี้
1. เจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ฐานเขียงรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างด้านละ 12.25 เมตร สูง 22.70 เมตร มีแนวกำแพงล้อมรอบขนาดกว้าง 14.50 เมตร ยาว 14.50 เมตร ฐานกำแพงกว้าง 50 ซม. ก่ออิฐถือปูน มีทางเข้าทางทิศเหนือและทิศใต้ ขนาดกว้าง 1 เมตร ปรากฏซุ้มจระนำทั้งสี่ทิศ ซุ้มจระนำประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืน ส่วนพระเศียร พระวรกายและพระกรหักหายไป
2. วิหาร พบฐานอาคารก่อด้วยอิฐ ขนาดยาว 25 เมตร กว้าง 10 เมตร ฐานสูงประมาณ 30 ซม. แนวฐานส่วนใหญ่อยู่ใต้อาคารมุงสังกะสีของวัด
3. คูน้ำรอบวัด กว้างประมาณ 90 เมตร ยาว 100 เมตร บริเวณด้านทิศเหนือค่อนข้างตื้นเขิน เพราะไม่ได้ดำเนินการขุดลอกชั้น ทิศใต้ถูกปรับเพื่อเป็นบ่อเลี้ยงปลาของวัด ส่วนทิศตะวันออกและทิศตะวันตกถูกถมไประหว่างการปรับปรุงสภาพวัด
.
การดำเนินงานทางโบราณคดี
สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีพุทธศักราช 2564 จำนวนเงิน 2,000,000.- บาท (สองล้านบาทถ้วน) ถึงแม้ว่าเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ในปัจจุบันจะได้รับการบูรณะแล้ว แต่ยังไม่เคยมีการขุดค้นทางโบราณคดี อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากแผนผังที่ประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดเจดีย์ยอดทอง จะพบว่า มีคูน้ำอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศใต้ของโบราณสถาน ซึ่งสันนิษฐานว่า เป็นคูน้ำโบราณที่ล้อมรอบวัดตามแบบแผนผังวัดในสมัยสุโขทัย (ปัจจุบันคูน้ำด้านทิศเหนือถูกถมเพื่อก่อสร้างอาคารไปแล้ว) ดังนั้น พื้นที่ด้านหน้าเจดีย์ประธานจึงควรเป็นพื้นที่ของวิหาร แม้ว่าในปัจจุบันวิหารด้านหน้าไม่ปรากฏสภาพให้เห็นบนพื้นผิวดิน แต่สันนิษฐานว่า ใต้ดินยังมีหลักฐานของวิหารเหลืออยู่ ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ส่วนที่เป็นวิหารพบว่า เป็นลานจอดรถของผู้มาติดต่อที่วัด และมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานดังนี้
1. เพื่อศึกษาข้อมูลทางด้านโบราณคดีอันจะนำไปสู่แผนการบูรณะและปรับภูมิทัศน์วัดเจดีย์ยอดทอง
2. เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของชาติ
3. เพื่อเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดีสู่สาธารณชน
.
จากการศึกษาและฐานข้อมูลของกรมศิลปากร พบเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ที่มีการสร้างซุ้มจระนำทั้ง 4 ทิศคล้ายกับวัดเจดีย์ยอดทอง 2 แห่ง คือ วัดตระพังเงินและวัดอ้อมรอบซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
(จำนวนผู้เข้าชม 33383 ครั้ง)