กรมศิลปากรเตรียมความพร้อมรับมือน้ำท่วมโบราณสถาน จ.พระนครศรีอยุธยา
นายสถาพร เที่ยงธรรม รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ฝนตกหนักทั่วประเทศจึงได้สั่งการให้สำนักศิลปากรทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถาน และรายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยสำนักศิลปากรที่ ๓ พระนครศรีอยุธยา ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๖๕ ว่าจากอิทธิพลของพายุโนรูทำให้เกิดฝนตกหนัก เขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักระบายน้ำในปริมาณสูงขึ้นจนทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาสูงขึ้นมากกว่า ๑ เมตร และทางกรมชลประทานยังแจ้งเตือนว่าระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณพื้นที่อุทยานฯ จะสูงขึ้นอีกประมาณ ๓๐ - ๖๐ เซนติเมตร จึงเตรียมการรับมือดังนี้
๑. ในพื้นที่เกาะเมืองขณะนี้ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาได้ทำคันป้องกันน้ำ ซึ่งจะสามารถ
ป้องกันโบราณสถานในเกาะเมืองได้เกือบทั้งหมด จะมีเพียงป้อมเพชรและรหัสวิดน้ำในพระราชวังโบราณเท่านั้นที่ถูกน้ำท่วม
๒. พื้นที่นอกเกาะเมือง
- วัดไชยวัฒนารามระดับน้ำต่ำกว่าแผงกันน้ำ ๓๕ เซนติเมตร อุทยานฯ จึงได้ทำการต่อแผงกันน้ำและเสริมกระสอบทรายบนกำแพงด้านทิศใต้ของวัดซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้เพิ่มอีก ๔๐ เซนติเมตร รวมแล้วสามารถป้องกันน้ำได้อีก ๗๕ เซนติเมตร ซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้มากกว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดใน พ.ศ.๒๕๕๔
- วัดธรรมาราม ระดับน้ำต่ำกว่าแผงกันน้ำ ๓๐ เซนติเมตร อุทยานฯ จึงทำการเสริมกระสอบทรายบนแผงกันน้ำซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้เพิ่มอีก ๓๐ เซนติเมตร รวมแล้วสามารถป้องกันน้ำได้อีก ๖๐ เซนติเมตร ซึ่งจะสามารถป้องกันน้ำได้เท่ากับระดับน้ำท่วมสูงสุดใน พ.ศ. ๒๕๕๔
- โบราณสถานสำคัญอื่นๆ โดยเฉพาะโบราณสถานที่เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาและวัดที่อยู่กลาง
ชุมชม อุทยานฯ ได้ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันน้ำท่วมไว้แล้ว ซึ่งจะมีการเสริมความสูงของแนวป้องกันน้ำตามระดับน้ำที่สูงขึ้น
๓. ขณะนี้ภายในพื้นที่อุทยานฯ มีโบราณสถานที่ได้ถูกน้ำท่วมแล้วกว่า ๔๐ แห่ง ส่วนใหญ่อยู่นอกเกาะเมืองด้านที่เหนือซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่โบราณสถานเหล่านั้นส่วนใหญ่จะได้รับการบูรณะเสริมความมั่นคงแล้ว ซึ่งจะไม่ได้รับความเสียหายมาก ส่วนโบราณสถานที่ยังไม่ได้มีการบูรณะเสริมความมั่นคง อุทยานฯ ได้มีการตั้งนั่งร้านค้ำยันเสริมความมั่นคงไว้แล้ว
ทั้งนี้ ได้เตรียมความพร้อมสูงสุดในการรับมือ โดยในพื้นที่เกาะเมืองได้ประสานกับทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาทำคันดินป้องกันน้ำเข้าเกาะเมือง ซึ่งจะสามารถป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโบราณสถานได้เกือบทั้งหมด ส่วนพื้นที่นอกเกาะเมือง ในส่วนของวัดไชยวัฒนารามและวัดธรรมาราม ได้เสริมแนวป้องกันให้สามารถรับน้ำได้มากกว่าระดับน้ำท่วมใน พ.ศ. ๒๕๕๔ ส่วนโบราณสถานอื่นๆ ได้ประสานความร่วมมือกับทางวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการป้องกันโบราณสถานแล้ว
(จำนวนผู้เข้าชม 4077 ครั้ง)
สงวนลิขสิทธิ์ © 2563 กรมศิลปากร. กระทรวงวัฒนธรรม
-
นโยบายเว็บไซต์ |
มาตรฐาน