การไถนาเป็นการเตรียมที่นาให้พร้อม ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกสุดของการปลูกข้าว ก่อนที่ชาวนาจะลงมือทำนาด้วยวิธีการปักดำต้นกล้าหรือหว่านเมล็ดข้าวลงในที่นา  การไถนาเป็นการพรวนดิน ทำให้ดินร่วนซุยขึ้น ช่วยกำจัดวัชพืช เช่น ต้นหญ้าต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการให้ออกไปจากที่นา และปรับพื้นดินให้ราบเรียบเสมอกัน  ชาวนาเริ่มลงมือไถนาประมาณปลายเดือนเมษายน ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูฝน
 
          ก่อนลงมือหว่านเมล็ดข้าวหรือปักดำต้นกล้า ชาวนาจะไถนาอย่างน้อย 2 ครั้ง ไถครั้งแรก เรียกว่า “ไถดะ” ไถครั้งที่สอง เรียกว่า “ไถแปร”
 
          เครื่องมือที่ใช้ในการไถนาหรือพรวนดินในที่นา เรียกกันว่า “คันไถ” ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ตัวคันไถ หางยาม (หางไถ) และหัวหมู ทำด้วยไม้เนื้อแข็งและประกอบเข้าด้วยกันโดยการต่อเข้าลิ่ม 
 
          ส่วนประกอบสำคัญของคันไถ มีดังนี้
         - คันไถ คือส่วนที่ยื่นออกไปด้านหน้า เพื่อเชื่อมต่อกับส่วนที่ผูกควาย เป็นไม้อีกท่อนหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบของตัวไถ ส่วนที่ต่อเข้ากับหางไถจะทำเป็นเดือยตัวผู้เพื่อใช้ต่อเข้ากับรูเดือยตัวเมียที่ส่วนหางไถ ทำให้แน่นโดยใช้ลิ่มตอกยึด  ส่วนปลายคันไถยื่นออกไปข้างหน้า โค้งทำมุมต่ำลง มีปลายจะงอยขึ้นมา 
         - หางยาม หรือหางไถ คือ ส่วนที่ชาวนาใช้จับขณะไถนา เป็นไม้ชิ้นเดียวที่มีลักษณะเอียงจากหัวหมูประมาณ ๑๕ องศา ยาวมาจนถึงส่วนที่ต่อเข้ากับคันไถ และเจาะรูสี่เหลี่ยมผืนผ้าทะลุชิ้นไม้เพื่อใส่ลิ่มต่อเข้ากับคันไถ เหนือส่วนนี้ขึ้นไปทำเป็นรูปโค้งเพื่อสะดวกต่อการจับ เวลาประกอบเข้าเป็นตัวไถแล้ว ส่วนนี้จะตั้งขึ้นและส่วนโค้งก็จะยื่นไปด้านหลังตั้งอยู่ระดับสะเอว
         - หัวหมู คือ ส่วนที่ใช้ไถดิน ประกอบด้วยไม้หนึ่งชิ้นบากปลายให้แหลมและมีลักษณะบาน เจาะรูเดือยตัวเมียสี่เหลี่ยมสำหรับต่อเข้ากับหางไถ ส่วนท้ายจะทำเป็นรูปท่อนกลมยาว
          - ผาล ทำด้วยเหล็ก ใช้สำหรับพลิกหรือไถพรวนดิน สวมต่ออยู่กับส่วนหัวหมูและหางไถโดยการตอกเข้าลิ่ม
          ในสมัยโบราณชาวนาใช้แรงงานวัวควายในการลากไถนา แต่ปัจจุบันนิยมใช้รถแทรกเตอร์หรือที่เรียกกันว่าควายเหล็กไถนาแทนวัวควาย เพราะสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลา และแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตร อย่างไรก็ตาม การใช้เครื่องจักรกลเข้ามาแทนแรงงานวัวควายในการไถนา ทำให้ชาวนาปัจจุบันประสบปัญหาต้นทุนจากค่าใช้จ่ายเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น






ชิ้นส่วนภาชนะดินเผาเนื้อแกร่งไม่เคลือบ ผลิตจากแหล่งเตาบ้านบางปูน ตำบลพิหารแดง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี  ส่วนบนตกแต่งลายกดประทับในกรอบสามเหลี่ยม คล้ายลายเฟื่องอุบะและกรวยเชิงที่ประดับบนศาสนสถานในวัฒนธรรมเขมร  ส่วนล่างตกแต่งลายกดประทับรูปบุคคล คันไถและวัวคู่ อาจหมายถึงพิธีแรกนาขวัญ แสดงถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการปลูกข้าวหรือเกษตรกรรมของผู้ปกครองรัฐสุพรรณภูมิ เมื่อพุทธศตวรรษที่ 19-20 หรือประมาณ 600-700 ปีมาแล้ว
ปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย จังหวัดสุพรรณบุรี  
 
ภาพลายเส้นบนภาชนะดินเผา พบที่บ้านบางปูน ตำบลพิหารแดง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี ตกแต่งลายกดประทับรูปบุคคล คันไถและวัวคู่ อาจหมายถึงพิธีแรกนาขวัญ แสดงถึงการให้ความสำคัญในเรื่องการปลูกข้าวหรือเกษตรกรรมของผู้ปกครองรัฐสุพรรณภูมิ เมื่อพุทธศตวรรษที่ 19-20 หรือประมาณ 600-700 ปีมาแล้ว
 
-------------------------------------------------------------
อ้างอิง
- จารึก วิไลแก้ว. แหล่งเตาเผาบ้านบางปูน. กรุงเทพฯ : กรมศิลปากร, 2531.
- คันไถโบราณ ตำนานและความเชื่อของชาวนา. เข้าถึงได้จาก https://e-shann.com/คันไถโบราณตํานานและคว/ สืบค้นเมื่อ 15 เมษายน 2565.
- สุวัฒน์ อัศวไชยชาญ. ข้าวไทย. กรุงเทพฯ : ปลาตะเพียน, 2555.
-------------------------------------------------------------
ที่มาของข้อมูล : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชาวนาไทย
www.facebook.com
 

(จำนวนผู้เข้าชม 20278 ครั้ง)

Messenger