อธิบดีกรมศิลปากรเผยความคืบหน้าโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน
          นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้ดำเนินโครงการจัดสร้าง พิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ตำบลละหาร อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส ตามแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้มีความคืบหน้าไปมาก โดยแผนงาน ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ จะแบ่งการดำเนินงานเป็นส่วนของานอาคารต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาและงานจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ คาดว่าจะดำเนินโครงการแล้วเสร็จในปีงบประมาณ ๒๕๖๕
          กรมศิลปากรได้เล็งเห็นความสำคัญของการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์ การเรียนรู้อัลกุรอาน เพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน และให้เป็นแหล่งศึกษา วิจัยการเรียนรู้ด้านธรรมนูญชีวิตของชาวมุสลิม โดยเริ่มต้นดำเนินงานในโครงการดังกล่าวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ และดำเนินงานต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ผ่านมามีการจัดประชุมสัมมนาการเสริมสร้างองค์ความรู้และระดมแนวคิดในการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอาน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการออกแบบและจัดทำแบบอาคารและจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ รวมทั้งงานอนุรักษ์คัมภีร์อัลกุรอาน และศิลปวัตถุ ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับงานก่อสร้างตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ฯ ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๙
          อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวต่อไปว่า ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ จะดำเนินงานด้านอาคารต่อจากปีงบประมาณ ที่ผ่านมา และการจัดแสดงนิทรรศการภายในอาคาร ประกอบด้วย ห้องที่ ๑ ห้องบรรยายเกริ่นนำ ห้องที่ ๒ วิถีมุสลิม แสดงเนื้อหาเกี่ยวกับมุสลิมทั่วโลกดำเนินชีวิตตามแนวทางที่ศาสนาอิสลามบัญญัติไว้ ซึ่งในศูนย์การเรียนรู้ฯ แห่งนี้ จะนำเสนอวิถีชีวิต และประเพณีสำคัญของพี่น้องมุสลิมที่ปรากฏแพร่หลายในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เป็นหลัก วิธีคิดและหลักปฏิบัติตนของมุสลิม แนะนำสถานที่สำคัญ สถานที่น่าสนใจเกี่ยวเนื่องกับมุสลิมในจังหวัดนราธิวาส เนื้อหาเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ ๙ และเนื้อหาเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ ๑๐ และห้องที่ ๓ คัมภีร์อัลกุรอาน จัดแสดงเนื้อหาศาสนาอิสลาม เส้นทางการเผยแผ่ศาสนาอิสลามสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศไทย คัมภีร์อัลกุรอานธรรมนูญสำหรับชีวิต คัมภีร์อัลกุรอานคัดเลือกจัดแสดงชิ้นหลักและชิ้นรอง โดยจัดทำเนื้อหาจัดแสดง ๓ ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และภาษายาวี ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมของชาติ ในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอาน และมรดกวัฒนธรรมอิสลาม และเสริมสร้างจิตสำนึกให้คนในท้องที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นคุณค่าความสำคัญ เกิดความรู้สึกรัก หวงแหน ภาคภูมิใจในมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอิสลามที่มีอยู่ในท้องถิ่นของตน รวมทั้งทำให้เกิดผลดีทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่















(จำนวนผู้เข้าชม 1602 ครั้ง)

Messenger