...

พัดพระราชาคณะราชสกุล พัดยศพระองค์เจ้าพระราชาคณะฝ่ายคามวาสี

 

      สมัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. ๒๔๒๔

      สูง ๑๒๓ เซนติเมตร

     พัดแฉกทรงพุ่มข้าวบิณฑ์พื้นพัดเป็นตาดเหลือง สลับลูกคั่นตาดขาว ปักดิ้น เลื่อม และเงินแล่ง ใจกลางพัดปักรูป พระมหามงกุฎ พระบรมราชสัญลักษณ์ในรัชกาลที่ ๔ ยอดงาเป็นบัวกลุ่มห้าชั้น ด้ามไม้

     ตามทะเบียนของพิพิธภัณฑ์ไม่ได้ระบุประวัติพัดแฉกเล่มนี้  ระบุแต่เพียงว่า “พัดพระราชาคณะราชสกุล พัดยศพระองค์เจ้าพระราชาคณะฝ่ายคามวาสี” โดยระบุชัดเจนว่าภิกษุผู้รับพระราชทานพัดนี้ต้องดำรงพระอิสริยยศที่ “พระองค์เจ้า” โดยใจกลางพัดปักพระบรมราชสัญลักษณ์ในรัชกาลที่ ๔ ที่เน้นลงไปอีกว่า ต้องเป็นพระราชโอรสในรัชกาลที่ ๔ อีกด้วย หากเป็นพัดยศอื่น ใจกลางจะปักลายช่อใบเทศ  ตามประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ พระราชโอรสในรัชกาลที่ ๔ ที่ผนวชจนได้เป็นพระราชาคณะนั้น  มีพระองค์เดียว คือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ ๑๐

      ใน พ.ศ. ๒๔๒๔ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ขณะดำงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าพระมนุษยนาคมานพ ทรงผนวชได้ ๓ พรรษา แล้วทรงเข้าแปลพระปริยัติธรรมได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรง สถาปนาพระอิสสริยยศเป็นกรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๒๔  ในการพระราชพิธี รัชกาลที่ ๕ ทรงประเคนถวาย “...พัดแฉกพื้นตาดขาวสลับเหลือง มีตราพระมหามงกุฎเป็นใจกลาง หมายรัชกาล เทียบหีบหมากเสวยลงยาราชาวดีเครื่องยศเจ้านาย ยอดเป็นพระเกี้ยวยอด...”

     ต่อมาเมื่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๘ สิ้นพระชนม์ โปรดให้เลื่อนสมณศักดิ์พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นวชิรญาณวโรรส เป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุติกนิกาย เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๖ ในคราวนั้นพระราชทานพัดยศแฉกตาด แทนพัดยศเดิมเมื่อครั้งทรงกรมเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๔

โดยที่ตำหนักเดิม ของวัดบวรนิเวศวิหาร เก็บรักษาพัดยศเล่มหนึ่งมีประวัติระบุว่าเป็นพัดยศ ของสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรสเมื่อครั้งทรงเป็นกรมหมื่น เป็นพัดแฉกตาดขาวสลับเหลือง ใจกลางพัดปักรูปพระมหามงกุฎบนพื้นแดง คล้ายคลึงกับพัดแฉกตาดในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  แต่ที่ต่างกันคือ พัดแฉกตาดของวัดบวรนิเวศวิหาร จะมีลูกคั่นเส้นไข่ปลาคั่นระหว่างพื้นขาวกับพื้นแดงที่ปักรูปพระมหามงกุฎ อีกชั้นหนึ่ง 

     จึงทำให้สันนิษฐานได้ว่า พัดแฉกตาดในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร  คือพัดยศพระองค์เจ้าพระราชาคณะฝ่ายคามวาสี  ที่รัชกาลที่ ๕ พระราชทานเมื่อพ.ศ. ๒๔๒๔ ส่วนพัดแฉกตาดในตำหนักเดิม วัดบวรนิเวศวิหาร  คือพัดยศที่พระราชทานคราวเลื่อนสมณศักดิ์เป็นเจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุติกนิกาย ในพ.ศ. ๒๔๓๖ นั่นเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจากเพจ เล่าเรื่อง..วัดบวรฯ

(จำนวนผู้เข้าชม 954 ครั้ง)