เชิญชวนประชาชนสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย ครั้งแรกในไทย

           นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาล โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับรัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดยสถานเอกอัครราชฑูตอินเดียประจำประเทศไทย สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินโครงการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ โดยการดำเนินการในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากโครงการธรรมยาตราจากมหานทีคงคาสู่ลุ่มน้ำโขง : สักการะพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ โดยมีการจัดงานระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – 19 มีนาคม 2567 ซึ่งรัฐบาลได้จัดพิธีอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 และเปิดให้ประชาชนเข้าสักการบูชา ถึง วันที่ 3 มีนาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นอัญเชิญไปประดิษฐานในส่วนภูมิภาคใน 3 จังหวัด ให้ประชาชนได้เข้าสักการบูชาได้แก่ ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 5 - 8 มีนาคม 2567 ที่หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 10 - 13 มีนาคม 2567 ที่วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) จังหวัดอุบลราชธานี  และภาคใต้ ระหว่างวันที่ 15 - 18 มีนาคม 2567  ที่วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) จังหวัดกระบี่ หลังจากนั้นรัฐบาลอินเดียจะอัญเชิญต่อไปยังราชอาณาจักรกัมพูชาต่อไป 
           รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอินเดีย ณ กรุงนิวเดลี พร้อมพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ จากสถูปโบราณปิปราห์วา เมืองสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ ประเทศไทย เป็นความร่วมมือดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐอินเดีย กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย เป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมสถาบันศาสนาให้เป็นกลไกสำคัญสร้างคุณธรรมจริยธรรมในการดำเนินชีวิต พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เสริมสร้างเศรษฐกิจชุมชน ก่อให้เกิดรายได้ของประเทศชาติในภาพรวม รวมทั้งยกระดับประเทศไทยให้เป็นสถานที่สำคัญในการจัดเทศกาลงานที่สำคัญในระดับภูมิภาคและระดับโลก และเป็นการสร้างสัมพันธไมตรีอันดีระหว่างประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา 
           การจัดงานในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่จะหล่อหลอมพลังความศรัทธาของพุทธศาสนิกชน  จึงขอเชิญชวนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในอาเซียน ในเข้าร่วมสักการบูชาพระบรมสารีกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ อันเป็นการเสริมสร้างสันติธรรมให้เกิดขึ้นทั้งในระดับประเทศ และระดับนานาชาติ โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความร่วมมือ และสามารถพัฒนาไปสู่การเป็นศตวรรษแห่งธรรม (Dharma Centuries) ด้วยการนำหลักธรรม ความเชื่อของศาสนาเป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือด้านศาสนาและส่งเสริมคุณธรรมของประชาคมโลกเพื่อสร้างความสงบสุขแก่มวลมนุษยชาติสืบไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สายด่วนวัฒนธรรม 1765

(จำนวนผู้เข้าชม 554 ครั้ง)

Messenger