หลักฐานไวษณพนิกายที่พบในฝั่งอันดามัน : พระวิษณุมัธยมโยคสถานะมูรติ

พระวิษณุมัธยมโยคสถานะมูรติ
อายุประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๔
ศิลปะอินเดีย แบบปัลลวะ ประกอบด้วย

๑. พระวิษณุ
วัสดุ : หินทรายที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟ (Tuffacous Sandstone)
ขนาด : สูง ๒๓๕ เซนติเมตร กว้าง ๘๕ เซนติเมตร หนา ๒๕ เซนติเมตร
ประวัติ/สถานที่พบ :  พระวิษณุเป็นรูปเคารพในกลุ่มมัธยมโยคสถานกะมูรติ พบพร้อมฤษีมารกัณเฑยะ และนางภูเทวีที่โคนต้นตะแบก (ชาวบ้านเรียกว่า “ที่พระนารายณ์”) ริมฝั่งคลองตะกั่วป่าตรงข้ามกับเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง) โดยมีข้อมูลว่าเดิมน่าจะประดิษฐานอยู่บนเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง) วันที่ ๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๐๙ เจ้าหน้าที่จากหน่วยศิลปากรที่ ๘ นครศรีธรรมราช ได้นำเทวรูป พระวิษณุ ฤษีมารกัณเฑยะ และแผ่นหินจารึกภาษาทมิฬจากที่พระนารายณ์ มาเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช
           ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง จังหวัดภูเก็ต


๒. ฤษีมารกัณเฑยะ
วัสดุ : หินทรายที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟ (Tuffacous Sandstone)
ขนาด : ขนาดสูง ๑๒๕ เซนติเมตร กว้าง ๗๗ เซนติเมตร หนา ๒๕ เซนติเมตร
ประวัติ/สถานที่พบ :  ฤษีมารกัญเฑยะ เป็นรูปเคารพในกลุ่มพระวิษณุมัธยมโยคสถานกะมูรติ พบพร้อมพระวิษณุ และนางภูเทวี ที่โคนต้นตะแบก (ชาวบ้านเรียกว่า “ที่พระนารายณ์”) ริมฝั่งคลองตะกั่วป่าตรงข้ามกับเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง) โดยมีข้อมูลว่าเดิมน่าจะประดิษฐานอยู่บนเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง) พ.ศ.๒๕๐๙ (เดือนมีนาคม-เมษายน) ถูกคนร้ายลักลอบสกัดพระพักตร์ออกไป (ปัจจุบันยังไม่พบส่วนพระพักตร์)
          ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง จังหวัดภูเก็ต
          ฤษีมารกัญเฑยะ ตามลำดับวงศ์ที่กล่าวไว้ในปุราณะนั้น มีศักดิ์เป็นเหลนของฤษีภฤคุกล่าวคือ เป็นลูกของ มฤกัณฑุซึ่งเป็นหลานปู่ของฤษีภฤคุ การปรากฏกายของฤษีมารกัณเฑยะพร้อมนางภูเทวีโดยมีพระวิษณุอยู่ตรงกลางนั้น เรียกว่า พระวิษณุมัธยมโยคสถานะมูรติ


๓. นางภูเทวี
วัสดุ : หินทรายที่เกิดจากเถ้าภูเขาไฟ (Tuffacous Sandstone)
ขนาด : สูง ๑๑๕ เซนติเมตร กว้าง ๗๕ เซนติเมตร หนา ๒๕ เซนติเมตร
ประวัติ/สถานที่พบ :  นางภูเทวี เป็นรูปเคารพในกลุ่มพระวิษณุมัธยมโยคสถานกะมูรติ พบพร้อมพระวิษณุและฤษีมารกัณเฑยะที่โคนต้นตะแบก (ชาวบ้านเรียกว่า “ที่พระนารายณ์”) ริมฝั่งคลองตะกั่วป่าตรงข้ามกับเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง) โดยมีข้อมูลว่าเดิมน่าจะประดิษฐานอยู่บนเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง)
           พ.ศ.๒๕๐๙ (เดือนมีนาคม-เมษายน) คนร้ายได้สกัดเอาพระพักตร์นางภูเทวีไปและนำส่วนองค์ไปทิ้งไว้ที่คลองบางปิด
           พ.ศ.๒๕๑๐ ชาวบ้านพบส่วนองค์ของนางภูเทวีในคลองดังกล่าวจึงนำไปไว้ที่วัดนารายณิการาม ต.เหล อ.กะปง จ.พังงา
ต่อมาเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๖ กรมศิลปากรได้รับส่วนพระพักตร์นางภูเทวี จากบริษัทค้าของเก่าสปิงค์แลนด์ซัน จำกัด คืนจากประเทศอังกฤษ จึงนำมาเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช
           ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ถลาง จังหวัดภูเก็ต (เฉพาะส่วนเศียร)
           นางภูเทวี เดิมปรากฏในคัมภีร์พระเวทในชื่อ ปฤถิวี เทพีแห่งปฐพี คู่กับทโยส เทพแห่งท้องฟ้า ทรงเป็นผู้ให้กำเนิดเทพและเทพีทั้งหลาย ในยุคหลังปฤถิวีและทโยสถูกลืมเลือนไป แม้ปฤถิวีจะยังมีคนนับถืออยู่แต่เป็นเพียงเทพเล็กๆ ต่อมาเมือเข้าสู่ยุคของศาสนาฮินดู ปฤถิวีอยู่ในฐานะของชายาของพระวิษณุอีกองค์หนึ่ง เรียกว่า ภูเทวี เนื่องจากพระวิษณุทรงปราบอสูรผู้ขโมยแผ่นดินและยกแผ่นดินขึ้นเหนือน้ำในปางวราหาวตาร นอกจากนั้นในเทวีภาควตะกล่าวว่า เมื่อพระพรหมเกิดจากดอกบัวที่ผุดจากพระนาภีของพระวิษณุ มีของเหลวไหลออกมาจากพระกรรณ (หู) ทั้งสองข้างของพระวิษณุ ของเหลวนี้เกิดเป็นรากษก ๒ ตน ชื่อ มธุ และไกฏกะ รบกวนพระพรหม พระวิษณุตื่นขึ้น จึงฆ่ามธุและไกฏกะ ไขมันของแข็งของ ๒ รากษกได้ผนึกเข้ากับแผ่นดินปรากฏเป็นเทพสตรีหรือ ภูมิเทวี หรือ ภูเทวี ในปุราณะถือว่าภูมิเทวีเป็นชายของพระวิษณุหรือเป็นศักติของพระวิษณุเช่นเดียวกับมหามายาหรือมายาเทวี





การปรากฏของพระวิษณุมัธยมโยคสถานะมูรติ
          การปรากฏกายของพระวิษณุที่ประดิษฐานในเทวสถาน มักมี ๓ ท่า คือ ท่ายืน เรียกว่า สถานกะมูรติ (Sthanaka-murti) ท่านั่งเรียกว่า อาสนมูรติ (Asana- murti) และท่านอน เรียกว่า ศยนะมูรติ (Sayana- murti)
          ท่าประทับยืน มี ๔ แบบ คือ โยคสถานกะมูรติ (Yogasthanaka-murti) โภคสถานกะมูรติ (Bhogasthanaka-murti) วีรสถานกะมูรติ (Virasthanaka-murti) และอาภิจาริกสถานกะมูรติ (Abhicharikasthanaka-murti)  โดยโยคสถานกะมูรติจะประกอบด้วยฤษี ๒ องค์ คือ ภฤคุ (Bhrigu) และมารกัณเฑยะ (Markandeya) นั่งคุกเข่าอยู่ทางขวาและซ้ายของพระวิษณุ หรืออาจเป็นนางภูเทวี และมารกัณเฑยะ อยู่ทางขวาและซ้ายของพระวิษณุตามลำดับ ในเทวสถานที่ประดิษฐานพระวิษณุในท่านี้จะต้องมีพระศิวะ ๔ กร สลักบนกำแพงด้านเหนือ (หันหน้าไปทางใต้) มีพระพรหมประทับยืน ๔ กร บนกำแพงด้านใต้ (หันหน้าไปทิศใต้) โดยถ้าพระวิษณุห้อมล้อมด้วยเทพ เทพี และฤาษี คือ พระศิวะ พระพรหม นางภูเทวี ภฤคุ มารกัณเฑยะ จัดเป็นโยคสถานกะมูรติชั้นสูงสุด (Uttama Class) ถ้าไม่มีพระพรหมและพระศิวะ จัดเป็นโยคสถานกะมูรติชั้นกลาง (Madhyama Class) และถ้าไม่มีฤษีจัดเป็นโยคสถานกะมูรติชั้นต่ำสุด (Adhana Class)
          ดังนั้น การพบพระวิษณุพร้อมฤษีมารกัณเฑยะและพระนางภูเทวีที่แหล่งโบราณคดีเขาพระนารายณ์ (เขาเวียง) จึงจัดเป็นพระวิษณุมัธยมโยคสถานะมูรติ (ชั้นกลาง)


เขาพระนารายณ์ (เขาเวียง)
          เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ตั้งอยู่ตรงจุดที่คลองเหลและคลองรมณีย์ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำตะกั่วป่า บนยอดเขามีเทวสถานเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปพระวิษณุและเทพบริวาร (ฤษีมารกัณเฑยะ และพระนางภูเทวี)
           ก่อนการขุดค้นทางโบราณคดีพบเศษอิฐและเศษหินกระจายอยู่ทั่วไป ต่อมามีการขุดค้นและขุดแต่งในโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งโบราณคดีเขาพระนารายณ์ ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา ของสำนักศิลปากรที่ ๑๕ ภูเก็ต ใน พ.ศ.๒๕๕๒ พบโบราณสถาน ๒ แห่ง คือ
           โบราณสถานหมายเลข ๑ เป็นที่ประดิษฐานเทวรูป พระวิษณุและเทพบริวาร เป็นอาคารก่ออิฐ มีแผนผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง ๕ เมตร ยาว ๕.๒๐ เมตร มีฐานเขียงก่อซ้อนกัน ๒ ชั้น สภาพถูกขุดทำลายอย่างมาก จากการขุดแต่งไม่พบรอยเสาอาคารและกระเบื้องหลังคา
           โบราณสถานหมายเลข ๒ เป็นฐานอาคารก่ออิฐไม่ทราบประโยชน์ใช้งาน พบเพียงแนวอิฐในผังสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้าง ๒ เมตร ยาว ๒ เมตร สภาพชำรุดมาก






----------------------------------------------------------
ค้นคว้า/เรียบเรียงข้อมูล : น.ส.สุขกมล วงศ์สวรรค์ ภัณฑารักษ์ชำนาญการพิเศษ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช
----------------------------------------------------------
อ้างอิง
- บุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ และเรไร นัยวัฒน์. ทุ่งตึก เมืองท่าการค้าโบราณ. ภูเก็ต : สำนักศิลปากรที่ ๑๕ ภูเก็ต, ๒๕๕๐.
- ผาสุข อินทราวุธ, รูปเคารพในศาสนาฮินดู. นครปฐม : มหาวิทยาลัยศิลปากร พระราชวังสนามจันทร์, ๒๕๒๒.
- พิริยะ ไกรฤกษ์, “พระวิษณุ : ประติมากรรมที่พบในภาคใต้,” สารานุกรมวัฒนธรรม ภาคใต้ พ.ศ.๒๕๒๙ เล่ม ๖.กรุงเทพฯ:สถาบันทักษิณคดีศึกษา, ๒๕๒๙.
- รายงานเบื้องต้นการขุดค้น-ขุดแต่งโบราณสถานเขาพระนารายณ์ ตามโครงการโครงการอนุรักษ์และพัฒนาแหล่งโบราณคดีเขาพระนารายณ์ ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา พ.ศ.๒๕๕๒.
- อมรา ศรีสุชาติ, ดร.“โยคะนิทรา,” พิพิธวิทยาการ รวมบทความวิชาการด้านโบราณคดี ประวัติศาสตร์ศิลปะ และพิพิธภัณฑสถานวิทยา ๒๕๕๕. กรุงเทพฯ: สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร, ๒๕๕๖), หน้า ๑๑.

(จำนวนผู้เข้าชม 2714 ครั้ง)

Messenger