อธิบดีกรมศิลปากรส่งผู้เชี่ยวชาญสำรวจและบูรณะซ่อมแซมกำแพงวัดยางกวง จ.เชียงใหม่

          นายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของกำแพงวัดยางกวง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งพังถล่มลงมาหลังจากเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ ๒ พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า กำแพงวัดด้านทิศตะวันออกซึ่งเป็นกำแพงก่ออิฐเดิมสูงประมาณ ๑.๕๐ เมตร หนา ๐.๔๐ เมตร มีอายุการสร้างประมาณ ๘๐ – ๑๐๐ ปี อยู่ในเขตประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานวัดยางกวง ได้พังเสียหายลงมาเป็นระยะทางยาวประมาณ ๑๕ เมตร จากการตรวจสอบและวิเคราะห์ความเสียหายเบื้องต้นพบว่า บริเวณด้านในของกำแพงที่พังเสียหาย มีการก่อสร้างศาลาบาตรและลานประทักษิณรอบ ๆ องค์เจดีย์วัดยางกวง (ก่อสร้างมาประมาณสิบปีแล้ว) มีการถมดินปนเศษอิฐหักรองพื้น และยกพื้นสูงกว่าพื้นถนนด้านนอก เมื่อมีปริมาณน้ำฝนที่มากทำให้น้ำฝนซึมลงสู่ชั้นดินด้านล่าง ด้วยความสูงของการถมดินพื้นด้านในกำแพงมากกว่า ๑.๕๐ เมตร โดยอาศัยกำแพงก่ออิฐเดิมเป็นผนังที่รับแรงดันด้านข้าง ประกอบกับอายุการก่อสร้างกำแพง ซึ่งชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลาอยู่แล้ว กำแพงก่ออิฐจึงไม่สามารถรับแรงดันดินด้านข้างจากภายในนี้ได้ทำให้เกิดเหตุดังกล่าว







          อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เบื้องต้นทางสำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ ได้ประสานกับหน่วยงานใน ท้องถิ่นในการขนย้ายเศษอิฐกำแพงที่พังทลายออก และขอความอนุเคราะห์องค์การบริหารส่วนจังหวัด, เทศบาลนครเชียงใหม่ ใช้กระสอบทรายปิดกั้นแนวกำแพงและใช้เป็นผนังรับแรงดันดินด้านข้างเป็นการชั่วคราวก่อน จากนี้จะส่งผู้เชี่ยวชาญจากกลุ่มวิศวกรรม สำนักสถาปัตยกรรม มาดำเนินการสำรวจและแนะนำแนวทางการบูรณะซ่อมแซมพร้อมทั้งมอบให้สำนักศิลปากรที่ ๗ เชียงใหม่ เร่งทำรูปแบบเพื่อบูรณะคืนสภาพเดิม ทั้งนี้ เจ้าอาวาสวัดยางกวงได้รับทราบและยินดีจัดหางบประมาณในการบูรณะซ่อมแซมวัดยางกวงภายใต้การกำกับดูแลและคำแนะนำของกรมศิลปากร

(จำนวนผู้เข้าชม 769 ครั้ง)

Messenger